หัวข้อ: โน๊ตประกอบทำนองร้องและทำนองดนตรีไทย : เพลงชมแสงจันทร์ เถา (ชุดพระจันทร์ ๑๑.) เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 20 เมษายน 2556 11:11:39 .
ถ้อยแถลง..เพลงชุดพระจันทร์ พระจันทร์ เป็นสิ่งที่ประดับความงามให้กับราตรี และความเย็นยะเยือกของพระจันทร์ยังช่วยกล่อมอารมณ์ของมนุษย์ให้สงบลงได้ พระจันทร์จึงมีอิทธิพลต่อความเชื่อและความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ ทำให้เกิดประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพระจันทร์ขึ้นมามากมาย ทางด้านวรรณกรรม นำความงามของพระจันทร์สร้างฉาก สร้างอารมณ์ทั้งสุขและทุกข์ของตัวละคร ทางด้านเพลงก็ไม่ใช่น้อยที่เกี่ยวข้องกับพระจันทร์ โดยเฉพาะในเพลงไทยที่มีพระจันทร์มาเกี่ยวข้อง โดยใช้เป็นชื่อเพลงบ้าง แฝงไว้ในบทร้องบ้าง และรวมทั้งชื่อเพลงกับบทร้องบ้าง ในบางครั้งการบรรเลงดนตรีไทยในคืนที่มีพระจันทร์ นึกจะบรรเลงเล่นตามบรรยากาศ ก็นึกชื่อเพลงที่เหมาะสมไม่ได้ เท่าที่นึกกันได้บางเพลง มีบทร้องไม่ตรงความหมายของชื่อเพลง เช่น เพลงไส้พระจันทร์ เพลงชมแสงจันทร์ เป็นต้น เมื่อมีโอกาสที่ได้บรรเลงเช่นกันในคืนที่มีพระจันทร์ ผู้เขียนได้พยายามรวบรวมเพลงไทยที่จะเสริมอารมณ์ทั้งผู้ฟังและผู้บรรเลงในบรรยากาศเช่นนี้ เป็นเพลงเถาและต่อด้วยเพลงสองชั้นเพื่อให้สมบูรณ์แบบตามลักษณะของการบรรเลงดนตรีไทย ...สมพล อนุตตรังกูร เพลงชมแสงจันทร์ (เถา) เพลงชมแสงจันทร์ (เถา) ทำนองเดิมชื่อเพลงต้นบรเทศ เป็นเพลงอัตราสองชั้นและชั้นเดียว เมื่อมีผู้แต่งสามชั้นครบเป็นเพลงเถา ชื่อว่า ต้นบรเทศ เถา หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) แต่งทำนองสามชั้นขึ้นอีกทางหนึ่งจากเพลงต้นบรเทศ เป็นทางกรอ ให้ชื่อว่าเพลงชมแสงจันทร์ (เถา) ใช้บทร้องเรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ ตอนอิเหนาพาบุษบามาอยู่ในถ้ำและจำต้องกลับไปแก้สงสัย ทำให้ห่วงหน้าพะวงหลัง ซึ่งบทร้องนี้มิได้ตรงกับชื่อเพลงเลย เมื่อได้พบเพลงนี้โดยศาสตราจารย์ ดร.อุทิศ นาคสวัสดิ์ แต่งเป็นเนื้อเต็มไว้ตลอดทั้งเถา และมีความหมายตรงกับชื่อเพลง ร้องคลอกับดนตรีแบบเพลงไทยสากล จึงขอนำมารวมไว้ในเพลงชุดนี้ด้วย...สมพล อนุตตรังกูร บทร้องเพลงชมแสงจันทร์ เถา (เนื้อเต็ม) สามชั้น แสงจันทร์นวลผ่อง มองแล้วยิ่งเพลินตา งามระยับจับนภา แสงจันทราชื่นหทัย แสงนั้นงามเด่น เย็นระรื่นชื่นใจ ทอแสงเป็นประกาย ช่างเพริศพรายนภาคราเพ็ญ เมฆน้อย สีเงินยวงหยดย้อยลอยเด่น ต้องสายลมชวนชมเล่น เหมือนดังปุยฝ้ายกระเซ็นทั่วนภา เรื่อยลมรำเพย สายลมเชยโบกประทินกลิ่นผกา รวยรื่นชื่นนาสา โอ้สุดจักหาไหนมาเทียมทัน เสียงเรไรคลอเคล้า เร้าให้ใจชื่นบาน (ร้องประสาน) ดุจดังเสียงเพลง วังเวงกันวาน (ร้องประสาน) เสียงลมพัดฉิว พลิ้วเป็นเสียงประสาน (ร้องประสาน) เหมือนอยู่เมืองพิมาน ในแดนสวรรค์สำราญรื่นรมย์ ธรรมชาติยามนี้ ถ้ามียอดชู้คู่ชม (ร้องประสาน) สองรักสองภิรมย์ ชื่นชมอารมณ์สมปอง (ร้องประสาน) คงเคล้าคลอเคียงคู่ ดูแสงจันทร์งามผ่องต้องสายลมพัดเย็น โอ้สุขใจได้เห็น น้องนภางามเด่นแสงจันทร์เพ็ญงามตา สองชั้น กระนี้หนอกระต่ายน้อยชะม้อยชม ใฝ่นิยมเฝ้าชะแง้แลหา โอ้เมื่อไรจึงจะได้ดวงจันทรา จะระทมตรมอุราอยู่เดียวดาย อกข้อนสะท้อนหาตาชะม้อย เฝ้าแต่คอย คอยชมไม่สมหมาย หนาวน้ำค้างพร่างพรมเมื่อลมชาย แทบจะตายเสียเพราะรักหนักอุรา ชั้นเดียว หะหายกระต่ายเต้นชมจันทร์ ช่างมุ่งมาดหมายมั่นจนเกินหน้า สิเป็นเราแล้วมิเฝ้าชะเง้อตา ถึงสูงศักดิ์นักหนาช่างปะไร ไม่วิงวอนงอนง้อเฝ้ารอรัก ถึงอกหักก็พอยังประทังได้ นึกว่าสูงเกินฟ้าก็แล้วไป เรามิใช่กระต่ายที่หมายจันทร์. (http://www.sookjaipic.com/images_upload/15676859849029_a1.gif) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/51264913587106_a2.gif) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/66440736792153_a3.gif) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/81305960772765_5.png) อาจารย์สมพล อนุตตรังกูร ปัจจุบันอายุ ๘๔ ปี (เมษายน ๒๕๕๖) และทุกวันนี้ท่านยังคงสอนดนตรีไทยเป็นวิทยาทานแก่บุคคลทั่วไป (ระนาด ซอด้วง ซออู้ ซอสามสาย ขิม จะเข้ ขลุ่ย ฯลฯ) ..ขอกราบขอบพระคุณ ท่านอาจารย์สมพล อนุตตรังกูร ครูผู้ประสิทธิ์ประสาทความรู้ด้านดนตรีไทย ที่อนุญาตให้นำทำนองดนตรีไทย ซึ่งท่านเป็นผู้ประพันธ์และเขียนด้วยลายมือของท่านเอง เผยแพร่เป็นวิทยาทานใน www.sookjai.com (http://www.sookjai.com) โดยวัตถุประสงค์ เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงคุณค่า และช่วยกันอนุรักษ์ศิลปะการดนตรีไทย ให้สืบทอดยาวนานตลอดไป มา ณ ที่นี้ ด้วยความเคารพสูงยิ่ง. |