หัวข้อ: ฟักเขียว : ผักริมรั้วที่อุดมสรรพคุณสมุนไพร เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 21 เมษายน 2556 13:55:33 .
(http://www.sookjaipic.com/images/3853023788_1.JPG) ต้นฟัก ฟักเขียว ฟักเขียวเป็นพืชอายุสั้น มีลำต้นสีเขียวมีขนขึ้นปกคลุมอยู่ทั่วลำต้น แตกกิ่งก้านสาขามากมาย ใบมีลักษณะเป็นหยักคล้ายฝ่ามือขอบใบแยกออกเป็น ๕–๗ แฉก ปลายแฉกแหลม ใบหยาบเรียงสลับกันตามข้อต้น ใบกว้างประมาณ ๕–๑๕ เซนติเมตร มีขนปกคลุม ก้านใบยาวประมาณ ๑๐ เซนติเมตร มีดอกเดี่ยว (Solitary Flower) สีเหลือง ดอกเพศผู้มีลักษณะเป็นหลอดยาว ๕–๑๐ เซนติเมตร ปลายดอกแยกออกเป็น ๕ กลีบ มีกลีบเลี้ยง ๕ กลีบ ส่วนดอกเพศเมียก้านดอกจะสั้นกว่าดอกเพศผู้ ปลายดอกแยกออกเป็น ๓ แฉก มีรังไข่อยู่ภายในดอก ผลมีลักษณะเป็นรูปกลมยาวกว้างประมาณ ๒๐–๓๐ เซนติเมตร ยาว ๓๐–๖๐ เซนติเมตร เปลือกแข็งสีเขียวเนื้อในสีขาว เนื้อแน่น ฉ่ำน้ำ มีเมล็ดอยู่ภายในจำนวนมากสีขาวออกเหลือง ฟักเขียวขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด ปลูกได้ดีในดินร่วนปนทรายโดยการนำเมล็ดที่เตรียมไว้หยอดลงหลุมลึกประมาณ ๓–๕ เซนติเมตร ประมาณ ๒–๓ เมล็ด กลบหลุมและรดน้ำสม่ำเสมอทุกวันโดยเฉพาะช่วงติดดอกและผลมิฉะนั้นอาจทำให้ดอกและผลที่ติดหลุดร่วงได้ ในช่วงเวลา ๑๕ วัน ก่อนการเก็บเกี่ยวควรหยุดการให้น้ำเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในช่วง ๓๕–๖๐ วัน (http://www.sookjaipic.com/images/3244763943_2.JPG) คนไทยมักนำผลฟักเขียวมาประกอบอาหารในประเภท ต้ม ผัด แกงหรือนำมาทำขนมหวานในเทศกาล เมนูยอดนิยมของฟักเขียวที่รู้จักกันดี คือ แกงจืดฟักต้มกับไก่ แกงเขียวหวานไก่ฟักเขียว แกงเลียง ฟักเขียวผัดกับหมูใส่ไข่ ฟักเชื่อม และยอดอ่อนลวกหรือต้มกะทิรับประทานทานคู่กับน้ำพริก ทั่วโลกนิยมนำผลฟักเขียวมาบริโภคทั้งแบบดิบและสุก เช่น ฟักเขียวดอง แกงเผ็ด หรือกวนแยม ฟักเขียวสามารถบริโภคได้ทั้งผลอ่อนและผลแก่ โดยผลอ่อนรสชาติจะเข้มกว่าผลแก่ มีน้ำมาก ใบอ่อนและตาดอก นำไปนึ่งหรือใส่ในแกงจืดเพิ่มรสชาติ ส่วนเมล็ดอุดมไปด้วยน้ำมันและโปรตีนโดยทำให้สุกสามารถกินได้ แต่มีข้อควรระวังสำหรับคนที่มีปัญหาทางด้านการขับถ่าย และมีอาการแน่นหน้าอก ไม่ควรรับประทาน สรรพคุณทางยา ใบ – แก้ฟกช้ำ แก้พิษผึ้งต่อย ช่วยรักษาบาดแผล แก้โรคบิด แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้บวมอักเสบมีหนอง ผล – ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไอ แก้ธาตุพิการ แก้โลหิตเป็นพิษ บวมน้ำ หลอดลมอักเสบ เมล็ด – ลดไข้ แก้ริดสีดวงทวาร แก้โรคทางเดินปัสสาวะ แก้ไตอักเสบ บำรุงผิว ละลายเสมหะ ราก – แก้ไข้ แก้กระหายน้ำ ถอนพิษ เถาสด – รสขมเย็น ใช้รักษาริดสีดวงทวาร มีไข้สูง เปลือก – บำบัดอาการบวมน้ำ ขับปัสสาวะ แก้ท้องเสีย แผลบวมอักเสบมีหนอง ข้อมูล : วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี (http://www.sookjaipic.com/images/1213732705_3.JPG) ชาวบ้านตามชนบท นิยมปลูกพืชผักไว้กินตามริมข้างรั้ว และปล่อยให้เลื้อยพันรั้วไปตามธรรมชาติ ประโยชน์จากฟักเขียว ฟักเขียวเป็นผักสวนครัวที่ปลูกง่าย เป็นไม้เถาเลื้อยตระกูลแตง ใบมีสีเขียวเป็นหยัก ใบหยาบ ดอกมีสีเหลือง ผลเป็นรูปกลมยาวขนาดปานกลางถึงขนาดใหญ่ เปลือกสีเขียวมีขนอ่อนเล็กน้อย เนื้อในจะมีสีขาว เนื้อแน่น ฉ่ำน้ำ ตรงกลางมีเมล็ด ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด ปลูกได้ในดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี เป็นผักที่มีอายุการปลูกสั้น ปลูกเพียง ๓ เดือนก็สามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว ทั่วโลก ใช้ผลฟักเขียวกินทั้งดิบและสุก ทั้งผลอ่อนและผลแก่ ทางยาแผนไทยฟักเขียวมีมากมาย ใช้ใบแก้ฟกช้ำ แก้พิษผึ้งต่อย ช่วยรักษาบาดแผล แก้โรคบิด แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้บวมอักเสบมีหนอง ผล ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไอ แก้ธาตุพิการ แก้โลหิตเป็นพิษ บวมน้ำ หลอดลมอักเสบ เมล็ด ใช้ลดไข้ แก้ริดสีดวงทวาร แก้โรคทางเดินปัสสาวะ แก้ไตอักเสบ บำรุงผิว ละลายเสมหะ ราก ต้มดื่มแก้ไข้ แก้กระหายน้ำ ถอนพิษ เถาสด รสขมเย็น ใช้รักษาริดสีดวงทวาร มีไข้สูง เปลือก เป็นยาแก้บวม ขับปัสสาวะ แก้ท้องเสีย แผลบวมอักเสบ มีหนอง ทั่วโลก ใช้ประโยชน์จากฟักเขียว โดยนำเปลือกผลกินขับปัสสาวะ เถ้าเปลือกใช้ใส่แผล เมล็ดขับพยาธิ ลดอักเสบ หล่อลื่นอวัยวะ เมือก ลดไข้ ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ ใช้เป็นยาระบาย และเพิ่มกำลังวังชา ในตำรายาอายุรเวทของประเทศอินเดีย ใช้เมล็ดฟักเขียว แก้ไข้ กระหายน้ำ และขับพยาธิ น้ำมันจากเมล็ดใช้ขับพยาธิด้วย ผลมีฤทธิ์เพิ่มกำลังวังชา ใช้รักษาโรคชัก โรคปอด และหอบหืด น้ำคั้นผลฟักใช้รักษาโรคชักและโรคเส้นประสาท ข้อมูล : คอลัมน์ เรื่องน่ารู้ "ประโยชน์จากฟักเขียว" หน้า ๒๘ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ฉบับประจำวันพฤหัสบดีที่ ๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ |