หัวข้อ: "ปลาหมอเทศ" พ่อแม่ลูก รักและผูกพันซะขนาดนี้ จะกินลงเข้าไปได้อย่างไร? เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 16 กรกฎาคม 2556 13:14:22 .
(http://2.bp.blogspot.com/_YS6U88DlTNk/TCl5rRfxOSI/AAAAAAAAABg/nNBxgt4MA8Q/s1600/264_1.jpg) ปลาหมอเทศ ปลาหมอเทศ เป็นปลาในที่ราบลุ่มรอยต่อสามน้ำ น้ำจืด น้ำเค็ม น้ำกร่อย ชายฝั่งทะเล ต่างจากปลาเลี้ยงทั่วไป คือกินแพลงก์ตอนพืช แพลงก์ตอนสัตว์ ทั้งที่จมอยู่พื้นหน้าดิน และที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำ รูปร่างคล้ายปลานิล ขนาดเล็กกว่า ต่างกันที่สีสันลวดลาย ปลานิลเลี้ยงได้ในบ่อทั่วไป แต่ปลาหมอเทศเลี้ยงได้ในพื้นที่จำกัดสามน้ำ พื้นที่เดิมๆ ของนากุ้ง ที่ถูกทิ้งร้าง วันนี้กลายเป็นพื้นที่ของปลาหมอเทศที่เลี้ยงกันแบบผสมผสานกับการเลี้ยงกุ้งทะเล เลี้ยงกันแบบธรรมชาติ กุ้งหรือปลาที่เติบโตตามธรรมชาติ รสชาติดีกว่ากุ้งหรือปลาที่เติบโตด้วยอาหารสำเร็จรูป ชาวตำบลแพรกหนามแดง ตำบลยี่สาร อัมพวา มีทุนน้อย ผลผลิตน้อย อยู่แบบพอเพียง จึงเลี้ยงปลาหมอเทศ ให้มีความสุข ใช้แดดส่องตามธรรมชาติ ให้ลมพัดเติมออกซิเจน ในพื้นที่กว้าง ปลาจึงอยู่กันแบบหลวมๆ สบายๆ ไม่แออัด คนเลี้ยงปลาแม้จะเลี้ยงเป็นอาชีพแต่ก็รักปลา จึงเริ่มสังเกตเห็นว่า ปลาหมอเทศเป็นปลาที่มีความรัก ปลาพ่อปลาแม่ รักครอบครัว เมื่อมันวางแผนสร้างครอบครัว ก่อนผสมพันธุ์ มันจะช่วยกันกัดแอ่งเป็นท้องกระทะ กว้างราว ๕๐ เซนติเมตร ลึกราว ๑ ฟุต เมื่อปลาแม่วางไข่ มันจะเก็บไข่ไว้ในปาก ราว ๓-๕ วัน หลังจากนั้นไข่ก็จะกลายเป็นตัว ออกมาเวียนว่ายนอกปากแม่ และทันทีที่มีสัญญาณอันตรายจากภายนอก ลูกปลาน้อยทั้งฝูงก็จะว่ายเข้าไปหลบภัยในปากแม่ คนที่เลี้ยงเฝ้าดูจนรู้ว่า ระหว่างที่ไข่และลูกปลาน้อยอยู่ในปาก ปลาแม่จะกินอาหารไม่ได้ เพราะมันอาจเผลอกลืนลูกๆ ลงท้องไปด้วย ช่วงเวลานี้ ปลาแม่ทุกตัวจึงผ่ายยอมลงไปมาก แต่มันทำด้วยสัญชาตญาณของแม่ แม่ปลารักลูก พ่อปลาดูแลแม่ปลา ครอบครัวปลามีความสุข ปลาหมอเทศจึงหลั่งสารแห่งความสุขออกมา เมื่อเป็นอาหารของคนจึงมีรสชาติดีกว่าปลาที่ถูกเลี้ยงอย่างแออัดเกิดและเติบโตด้วยความเครียด ชาวบ้านนำมาแปรรูป แล่เอาแต่เนื้อปลา เอาไปทำอาหารอร่อยได้มาก ปลาหมอเทศลวกจิ้ม ผัดฉ่า ต้มยำ ห่อหมก ทอดมัน ชุบแป้งทอด ผัดผักกุยช่าย ผัดผักหวาน ฯลฯ หรือปลาหมอเทศยำ สรุปความจาก คอลัมน์ ชักธงรบ “หมอเทศแดดเดียว” หน้า ๓ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับประจำวันพุธที่ ๑๗ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ |