หัวข้อ: Wake - up Sermon เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 16 มกราคม 2553 15:18:32 (http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/nirux/1857dc4f.jpg)
http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma Bodoinhama monk Chapter 1 (:SLE:)ปรากฏการณ์ทั้งหลายล้วนเป็นมายาจงอย่ายึดติดในปรากฏการณ์ใด ๆ เลย แล้วจิตเธอจะเป็นหนึ่งเดียวกับพุทธะ แต่เมื่อเธอเข้าใจ ความผิด ความผิดก็ไม่ใช่ความผิดเพราะว่าความผิดมิได้มีอยู่จริง พระสูตรกล่าวว่าไม่มีสิ่งใดที่มีธรรมชาติเฉพาะของมันเองจงกระทำโดยไม่ต้องลังเล - สงสัยความผิดเป็นผลของความสงสัย เมื่อเธอเข้าใจเช่นนั้น (:QS:)การกระทำที่ผิดพลาด ของเธอในอดีตก็ถูกลบล้างไปหมด เมื่อเธอหลงความรู้สึกสัมผัสทั้ง 6 และขันธุ์ทั้ง 5 ก็ประกอบไปด้วยความทุกข์และความตาย ต่อเมื่อเธอตื่นแจ้งขึ้นความรู้สึกสัมผัสทั้ง 6 และขันธุ์ 5 ก็ประกอบไปด้วยนิพพานและความไม่ตาย (:DY:) บุคคลที่กำลังหาทางจะไม่มองข้ามตนเองเขารู้ว่า จิต นั่นแหละคือทาง ๆ นั้นแต่เมื่อเขาพบ จิต เขากลับไม่ได้พบอะไรเลยและเมื่อเขาพบทางเขากลับไม่ได้พบอะไรเลยเช่นกัน หากเธอคิดว่าเธอสามารถใช้จิตค้นหาทางได้เธอกำลังหลงแม้แต่.......เธอกำลังหลงความเป็นพุทธภาวะก็ยังคงมีอยู่กับเธอ แต่เมื่อเธอตื่นรู้พุทธะภาวะกลับมิได้จำเป็นต้องมีอยู่นี่ก็เพราะว่าความตื่นรู้คือพุทธะภาวะภายในตัวมันเอง ถ้าเธอมองหาทาง ๆ นั้นจะไม่ปรากฏจนกว่ารูปกายของเธอจะหายไปมันคล้ายกับการปลอกเปลือกต้นไม้นั่นเอง รูปกายแห่งกรรมนี้อยู่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลามันมิได้มีความจริงแท้แน่นอน การปฏิบัติอยู่ตรงความคิดเห็นอันหลายหลากของเธอนั่นเอง (:SLE:) จงอย่าได้เกลียดชีวิตและความตายหรือรักในชีวิตและความตายรักษาทุก ๆ ความคิดของเธอให้ปราศจากความหลงและในชีวิตของเธอจะประจักษ์แจ้งต่อนิพพานและในความตายเธอจะประสบความมั่นใจต่อความไม่เกิดอีก............... (:LOVE:) หัวข้อ: Re: Wake - up Sermon เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 16 มกราคม 2553 15:19:43 (http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/nirux/1857dc4f.jpg)
(:SL:)การได้เห็นรูปแต่ไม่แปดเปื้อนด้วยรูป การได้ยินเสียงแต่ไม่แปดเปื้อด้วยการได้ยินเสียง คือ ความหลุดพ้น ตาที่ไม่ยึดติดในรูปคือประตูแห่ง Zen หูที่ไม่ยึดติดในเสียงก็คือประตูแห่ง Zen ว่าโดยสรุป ผู้ที่รับรู้ในการมีอยู่และเข้าใจปรากฏการณ์โดยไม่ยึดติดกับมันคือผู้หลุดพ้นบุคคลที่รับรู้ปรากฏการณ์แต่เพียงภายนอก โดยมิได้เข้าใจถึงธรรมชาติที่แท้ของมันก็จะหลงเข้าไปจมแช่อยู่ในปรากฏการณ์นั้นการไม่ยึดติดจมอยู่ในปรากฏการณ์แห่งทุกข์คือความหมายของการหลุดพ้น มันมิได้มีความหลุดพ้นอื่นอีก................................... (:SLE:) เมื่อเธอรู้ว่าจะรับรู้รูปอย่างไร รูปก็จะไม่ปรุงจิต จิตก็จะไม่ปรุงรูป รูปและจิตก็ยังคงความบริสุทธิ์อยู่เช่นเดิม เมื่อความหลงหายไป จิตคือ ดินแดนแห่งพุทธะเมื่อความหลงปรากฏขึ้นอีก พลันจิตก็กลายเป็นแดนนรก ปุถุชนมักสร้างความหลงโดยการใช้ จิต ทำให้จิตเกิดเขาก็จะพบตัวเองอยู่ในแดนนรก โพธิสัตว์ทั้งหลายเห็นแจ้งในความหลงและไม่ใช้จิต ทำให้จิตเกิดเขาก็จะพบตัวเองอยู่ในดินแดนพุทธะเสมอถ้าหากเธอไม่ใช้ จิต สร้างจิต ทุก ๆ สภาวะก็ล้วนว่างเปล่าและทุก ๆ ความคิดก็จะสงบนิ่ง เธอก็จะไม่เคลื่อนจากแดนพุทธะหนึ่งไปสู่อีกแดนหนึ่ง แต่ถ้าหากเธอใช้จิตของเธอสร้างจิตทุก ๆ สภาวะจิตก็จะถูกรบกวนและทุก ๆ ความคิดจะเคลื่อนไหววุ่นวายเธอก็จะเคลื่อนจากแดนนรกหนึ่งไปสู่อีกแดนนรกหนึ่ง เมื่อความคิดเกิดขึ้นมันก็.................................. (:LOVE:) หัวข้อ: Re: Wake - up Sermon เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 16 มกราคม 2553 15:20:28 (http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/nirux/1857dc4f.jpg)
(:LOVE:)มีกรรมดี และ กรรมชั่ว มีสวรรค์ และ มีนรกต่อเมื่อไม่มีความคิดเกิดขึ้นมันก็ไม่มีกรรมดีและกรรมชั่วไม่มีนรกและสวรรค์ ร่างกายไม่ใช่เป็นสิ่งมีอยู่หรือไม่มีอยู่ ดังนั้นการมีอยู่เหมือนกับปุถุชนและการไม่มีอยู่เหมือนเช่นปราชญ์คือบทสรุปที่ว่าผู้รู้ทั้งหลายย่อมมิต้องกระทำอะไร (o0!)ใจของเขาว่างเปล่าและกว้างขวางดุจท้องฟ้านั่นคือบุคคลที่อยู่ในพุทธมรรคอย่างสมบูรณ์ ย่อมอยู่นอกเหนือความเป็นอรหันต์หรือปุถุชน เมื่อจิตถึงนิพพานเธอจะไม่เห็นนิพพานเพราะจิตนั่นคือนิพพาน (:QS:)หากเธอเห็นนิพพานในที่ใดที่หนึ่งนอกจิต เธอกำลังหลอกตัวเอง ทุก ๆ ความทุกข์คือเมล็ดพันธุ์แห่งพุทธะเพราะว่าความทุกช่วยผลักดันให้ปุถุชนเกิดปัญญา แต่เธอสามารถกล่าวได้เพียงว่าความทุกข์ให้กำเนิดพุทธภาวะเธอไม่สามารถกล่าวว่าความทุกข์คือคือพุทธภาวะ กายและจิตของเธอคือผืนดิน ความทุกข์คือเมล็ดพันธุ์ ปัญญาคือลำต้นและพุทธภาวะคือหมากผล พุทธะในจิตคล้ายกับกลิ่นหอมของต้นไม้พุทธะมาจากจิตที่ปราศจากความทุกข์ เฉกเช่นกลิ่นหอมของต้นไม้ที่ปราศจากโคลนตม มันไม่มีกลิ่นหอมที่ปราศจากต้นไม้และไม่มีพุทธะที่ปราศจาก จิต ถ้าหากว่ามันมีกลิ่นหอมที่ปราศจากต้นไม้ มันก็เป็นกลิ่นหอมที่แตกต่างกันออกไปถ้าหากมันมีพุทธะที่ปราศจากจิตมันก็เป็นพุทธะที่แตกต่างกันออกไปเมื่อพิษทั้ง 3 เกิดขึ้นในจิตใจของเธอ เธอกำลังอาศัยอยู่ในดนแดนสกปรก เมื่อพิษทั้ง 3 อันตรธานไป (:SLE:) หัวข้อ: Re: Wake - up Sermon เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 16 มกราคม 2553 15:21:12 (http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/nirux/1857dc4f.jpg)
(:BYE:)จากจิตของเธอเธอกำลังอาศัยอยู่ในดินแดนบริสุทธิ์ พระสูตรกล่าวไว้ว่าถมแผ่นดินด้วยสิ่งสกปรกและขยะหมายถึงโลภ โกรธ หลง พุทธะหมายถึงความบริสุทธิ์และจิตผู้ตื่นรู้มันไม่มีภาษาที่ไม่ใช่ธรรมการพูดตลอดทั้งวันโดยมิกล่าวอะไรคือทาง ๆ นั้นการอยู่เงียบ ๆ ตลอดทั้งวันแต่ยังคงกล่าวหลายสิ่งหลายอย่างย่อมไม่ใช่ทาง ดังนั้นมันมิใช่คำพูดของตถาคตขึ้นอยู่กับความเงียบหรือความเงียบของท่านขึ้นอยู่กับคำพูดหรือว่ามีอยู่หากจากความเงียบของท่านบุคคลที่เข้าใจแจ้งชัดทั้งคำพูดและความเงียบคือผู้อยู่ในสมาธิถ้าเธอพูดโดยเธอรู้อยู่คำพูดของเธอนั้นเป็นอิสระ ถ้าเธอเงียบเฉย โดยเธอไม่รู้ความเงียบของเธอได้ถูกมัดตรึง ถ้าคำพูดกับปรากฏการณ์มันเป็นอิสระถ้าความเงียบเฉยยึดติดกับปรากฏการณ์ มันก็ถูกยึดตรึงไว้ ภาษา โดยเนื้อแท้แล้วมันเป็นอิสระมันไม่มีอะไรต้องทำเกี่ยวกับการยึดติดและการยึดติดก็ไม่มีอะไรต้องทำเกี่ยวกับภาษา สัจจะความจริงไม่มีสูงและไม่มีต่ำหากเห็นว่ามันสูงมันต่ำมันก็มิใช่ความจริง (:RL:)แพนั้นไม่ใช่สิ่งจริงแต่ผู้โดยสารตะหากเป็นสิ่งจริงบุคคลที่โดยสารแพสามารถข้าสิ่งไม่จริงนั่นคือสาเหตุว่ามันจริง ในโลกมีทั้งผู้หญิง - ผู้ชาย เศรษฐีและคนยากจนแต่ในทาง ๆ นี้มันมิได้มีผู้หญิง - ผู้ชาย มิได้มีเศรษฐีหรือคนยากจนแม้นเมื่อเทพธิดาได้เห็นประจักษ์ในทางเธอไม่ได้เปลี่ยเพศของเธอเมื่อเด็กชายธรรมดาตื่นแจ้งต่อความจริงเขามิได้เปลี่ยนสถานะความ (:-_-:) หัวข้อ: Re: Wake - up Sermon เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 16 มกราคม 2553 15:22:42 (http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/nirux/1857dc4f.jpg)
(:LOVE:)เป็นเด็กของเขา เมื่ออิสระจากเพศและสถานะเขาทั้งหลายก็มีพื้นฐานลักษณะเดียวกัน เทพธิดาน้อยใช้เวลา 12 ปีเพื่อค้นหาความเป็นผู้ใหญ่แต่มิได้ผลสำเร็จการใช้เวลาค้นหาถึง 12 ปีสำหรับผู้ชายก็มิได้มิผลสำเร็จเช่นกัน 12 ปีนี้หมายถึงการเข้าถึง 12 ทาง (อายตะนะภายนอกและภายใน) เมื่อปราศจากจิตก็ไม่มีพุทธะเมื่อปราศจากพุทธะก็ไม่มีจิตเช่นเดียวกันเมื่อปราศจากน้ำก็ไม่มีน้ำแข็งเมื่อปราศจากน้ำแข็งก็ไม่มีน้ำเช่นเดียวกัน ใครก็ตามที่ยังบอกให้หนีหรือกำจัดสภาวะของจิต เขาก็ยังไปไม่ถึงไหน จงอย่ายึดติดกับปรากฏการณ์ใด ๆ ของ...............จิต (:LOVE:)วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2553 วันครู (:LOVE:) การฟังธรรมด้วยความตั้งใจเป็นการเคารพพระธรรม การฟังธรรมเสมอ ๆ ความเข้าใจย่อมสะสมไปในภพหน้า ความถือตัว คือ มานะ ขณะมีมานะ ขาดความเมตตา (:FR:) ความเมตตาเจริญขึ้นเท่าไรความโกรธยิ่งน้อยลง (:FR:) เราต้องกรุณา (:UU:)แม้ความเห็นผิดของผู้อื่น...................................... (:4:)[/color] |