หัวข้อ: 不知識 - 不知道感情 เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 19 กันยายน 2553 09:23:33 (http://lh3.ggpht.com/_AYFPNs1xf64/S_5Cge0TPrI/AAAAAAAAA_s/5XKOKn-K_2w/P525005-1.jpg) http://www.youtube.com/v/km236OeYkcg?fs=1&hl=en_US อา = ทั่ว + รมณ์ = ที่ยินดี - ที่รื่นรมย์ ที่มายินดีทั่วของจิตที่ยึดหน่วงของ{จิต}หมายถึงสิ่งที่จิตรู้จิตกำลังรู้สิ่งใดสิ่ง นั้นเป็นอารมณ์ของจิต และ จิตจะเกิดขึ้นโดยปราศจากอารมณ์ไม่ได้สภาพธรรมทุกอย่าง สามารถเป็นอารมณ์ของจิตได้ไม่ว่าจะเป็นจิตปรมัตถ์ เจตสิกปรมัตถ์ รูปปรมัตถ์ หรือ นิพพานปรมัตถ์ แม้บัญญัติซึ่งไม่ใช่สภาพธรรมเพราะไม่มีจริงโดยปรมัตถ์ก็เป็น อารมณ์ของจิตได้ อารมณ์มี ๖ อย่าง คือ......................................... ๑.รูปารมณ์(วัณณรูป ได้แก่ สีต่าง ๆ) ๒.สัททารมณ์(สัททรูป ได้แก่ สียงต่าง ๆ) ๓.คันธารมณ์(คันธรูป ได้แก่ กลิ่นต่าง ๆ) ๔.รสารมณ์(รสรูป ได้แก่ รสต่าง ๆ) ๕.โผฏฐัพพารมณ์ ปฐวีรูป = (ดิน)เตโชรูป (ไฟ) วาโยรูป(ลม) ๖.ธัมมารมณ์ (อารมณ์ที่รู้ได้ทางใจเท่านั้น ๖ อย่าง ได้แก่ จิต ๘๙ เจตสิก ๕๒ {ปสาทรูป ๕ สุขุมรูป ๑๖ นิพพาน บัญญัติ} ภาวนา คือ การอบรมจิตให้เป็นกุศลยิ่งขึ้น เป็นการอบรมเจริญปัญญาตามลำดับขั้น จิตเป็นสภาพธรรมที่ละเอียดรู้ยาก ทุกคนมีอ{กุศลจิต} แม้ไม่ทำทุจริตกรรมแต่ใจก็เป็น{อกุศล}แล้ว นึกคิดถึงคนอื่นด้วย ความผูกพันติดข้อง หรือนึกถึงด้วยความขุ่นเคืองใจ ถ้าเพียงโกรธไม่พูดคนอื่นก็อาจจะไม่รู้เลย |