[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => เกร็ดศาสนา => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 21 กันยายน 2556 14:12:06



หัวข้อ: ศีล ๘ : การอยู่จำรักษาองค์ ๘ ของอุบาสกอุบาสิกา
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 21 กันยายน 2556 14:12:06
.

(http://www.sookjaipic.com/images/7427642370_6.JPG)

ศีล ๘

การถือศีล ๘ หรือเรียกอุโบสถ คือการอยู่จำรักษาองค์ ๘ ของอุบาสก อุบาสิกา จำแนกได้เป็น ๓ ประเภท คือ
 
๑. ปกติอุโบสถ อุโบสถที่รักษาตามปกติชั่ววันหนึ่งกับคืนหนึ่ง นิยมรักษากันในวันจันทร์เพ็ญคือ ขึ้น ๑๕ ค่ำ และวันจันทร์ดับคือ แรม ๑๕ ค่ำ หรือ ๑๔ ค่ำ (ปกติอุโบสถอย่างเต็มมี ๘ วัน คือ วัน ๕ ค่ำ ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำ และ ๑๕ ค่ำ ของทุกปักษ์ ถ้าเดือนขาดรักษาในวันแรม ๑๓ ค่ำเพิ่มด้วย)

๒. ปฏิชาครอุโบสถ อุโบสถของผู้ตื่นอยู่ (คือผู้กระตือรือร้นขวนขวายในกุศล ไม่หลับใหลด้วยความประมาท) ได้แก่ อุโบสถที่รักษาครั้งหนึ่งๆ ถึง ๓ วัน คือรักษาในวันอุโบสถตามปกติ พร้อมทั้งวันก่อนและวันหลังของวันนั้น ซึ่งเรียกว่าวันรับและวันส่ง เช่น อุโบสถที่รักษาในวัน ๕ ค่ำ มีวัน ๗ ค่ำ เป็นวันรับ วัน ๙ ค่ำ เป็นวันส่ง (เดือนหนึ่งๆ จะมีวันรับและวันส่งรวม ๑๑ วัน, วันที่มิใช่วันอุโบสถ ในเดือนขาดมี ๑๐ วัน เดือนเต็ม ๑๑ วัน)

๓. ปาฏิหาริยอุโบสถ อุโบสถที่พึงนำไปคือให้เป็นไปตรงตามกำหนดเป็นประจำในแต่ละปี หมายความว่าในแต่ละปีมีช่วงเวลาที่กำหนดไว้เฉพาะที่จะรักษาอุโบสถประเภทนี้อย่างสามัญ ได้แก่ อุโบสถที่รักษาเป็นประจำตลอด ๓ เดือน ในพรรษา (อย่างเต็มได้แก่ รักษาตลอด ๔ เดือนแห่งฤดูฝน คือแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ ถึงขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ถ้าไม่สามารถรักษาตลอด ๔ เดือน หรือ ๓ เดือน จะรักษาเพียง ๑ เดือน ระหว่างวันปวารณาทั้ง ๒ คือ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ก็ได้, อย่างต่ำสุดพึงรักษากึ่งเดือน ต่อจากวันปวารณาแรกไปคือ แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๑)

ท่านว่าพอใจอย่างใดก็พึงถือเอาอย่างนั้น เพราะแท้จริงแล้วการรักษาอุโบสถในวันใดๆ ก็ใช้ได้ เป็นประโยชน์ทั้งนั้น แต่ถ้ารักษาได้ในวันตามนิยมก็ย่อมควร

การรักษาอุโบสถนี้ มีข้อพึงปฏิบัติ

๑. พึงตื่นนอนแต่ก่อนอรุณขึ้น เตรียมตัวให้สะอาดเรียบร้อย บูชาพระตั้งแต่รุ่งอรุณ เปล่งวาจาด้วยตนเองก่อนว่า อิมัง อัฏฐังคะสะ มันนาคะตัง พุทธะปัญญัตตัง อุโปสะถัง, อิมัญจะ รัตติง อิมัญจะ ทิวะสัง สัมมะเทวะ อะภิรักขิตุง สะมาทิยามิ
๒. ไปวัด เข้าสู่โบสถ์ หรือวิหาร หรือศาลา เป็นต้น ซึ่งวัดจัดเตรียมไว้ ได้เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ น. พระก็ลงโบสถ์ ทำวัตรเช้าจบแล้ว อุบาสก-อุบาสิกาก็ทำวัตรเช้า ทำวัตรจบแล้ว หัวหน้าอุบาสกนั่งคุกเข่าประนมมือ ประกาศองค์อุโบสถ

ศีล ๘ มีดังนี้

๑. ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ เว้นจากฆ่าสัตว์
๒. อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ เว้นจากลักฉ้อสิ่งที่เจ้าของเขาไม่ให้
๓. อะพรหมะจริยา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ เว้นจากประพฤติกรรมที่เป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์
๔. มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ เว้นจากเจรจาคำเท็จล่อลวงผู้อื่น
๕. สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ เว้นจากดื่มสุราเมรัยอันเป็นเหตุที่ตั้งแห่งความประมาท
๖. วิกาละโภชะนา เวระมะณี สิกขาปทัง สะมาทิยามิ เว้นจากบริโภคอาหารตั้งแต่เวลาพระอาทิตย์เที่ยงแล้วไปจนถึงเวลาอรุณขึ้นมาใหม่
๗. นัจจะคีตะวาทิตะวิสูกะทัสสะนา มาลาคันธะวิเลปะนะธาระณะ มัณฑะนะวิภูสะนัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    เว้นจากฟ้อนรำขับร้องและประโคมเครื่องดนตรีต่างๆ แด่บรรดาที่เป็นข้าศึกแก่บุญกุศลทั้งสิ้น และทัดทรงประดับตกแต่งร่างกาย
    ด้วยดอกไม้ของหอม เครื่องประดับ เครื่องทา เครื่องย้อม ผัดผิวทำกายให้วิจิตรงดงามต่างๆ อันเป็นเหตุที่ตั้งแห่งความกำหนัดยินดี  
๘. อุจจาสะยะนะมะหาสะยะนา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ เว้นจากนั่งนอนเหนือเตียงตั่งม้าที่มีเท้าสูงเกินประมาณ
    และที่นั่งที่นอนใหญ่ ภายในมีนุ่นและสำลี และเครื่องปูลาดที่วิจิตรด้วยเงินและทองต่างๆ

สำหรับแม่ชี ท่านถือศีล ๘ เช่นกัน


ที่มา : หนังสือพิมพ์รายวันข่าวสด