[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ในครัว => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 13 มกราคม 2557 15:35:59



หัวข้อ: วิธีทำ ต้มเลือดหมูกับผักจิงจูฉ่าย ผักที่มีสรรพคุณสูงตามตำรายาจีน
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 13 มกราคม 2557 15:35:59
.
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/96999890233079_a1.png)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/32361728780799_a2.png)

ต้มเลือดหมูกับผักจิงจูฉ่าย

• ส่วนผสม
- สันคอหมู 200 กรัม
- เลือดหมู 100 กรัม
- ผักจิงจูฉ่าย 1 ถ้วย (ล้างให้สะอาดเด็ดยอดและใบ ผึ่งตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ)
- กระเทียมไทยสับหยาบ ½ หัว
- น้ำมันเจียวจากมันหมู 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุปกระดูกหมู 2 ถ้วย
- น้ำปลา
- พริกไทยป่น
- ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ


• วิธีทำ
1. ล้างเนื้อหมูให้สะอาด หั่นแล้วสับให้ละเอียด
   ขณะสับใส่ซีอิ๊วขาวหรือน้ำปลาดี ½ ช้อนโต๊ะ และพริกไทยป่นสับรวมไปด้วย
2. เจียวกระเทียมกับน้ำมันหมูให้เหลืองหอม
3. ต้มน้ำให้เดือด นำเลือดหมูหั่นชิ้นสี่เหลี่ยมลงไปต้มพอสุกตักขึ้นพักไว้
4. นำกระเทียมเจียว พริกไทยป่น ต้นหอมซอย และน้ำปลาเล็กน้อย ใส่ชามเสิร์ฟ
   ใส่ผักจูจิงฉ่าย (ดิบ) ตามด้วยเลือดหมู พักไว้
5. ต้มน้ำซุปให้เดือด ใส่หมูสับปั้นก้อนลงไปต้มพอสุก ตักใส่ชามในข้อ 4
6. เร่งไฟให้น้ำซุปเดือดจัด ตักราดในชามเสิร์ฟที่มีส่วนผสมของเครื่องปรุง
    รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/80089580557412_a3.png)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/95507840853598_a1.png)
ตักน้ำซุปเดือด ราดในชามส่วนผสม
(ถ้านำผักจิงจูฉ่ายลงไปต้ม ผักจะเหนียวและมีสีดำ
จึงควรตักราดในชามเสิร์ฟแล้วรับประทานขณะยังร้อนๆ)


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/72727803265054_a3.png)
ผักจิงจูฉ่าย ถือเป็นสมุนไพรจีน ส่วนมากนิยมนำไปใส่ในเกาเหลาเลือดหมูเพราะช่วยดับกลิ่นคาวเลือดได้
การแพทย์แผนจีนโบราณถือว่าผักชนิดนี้มีคุณสมบัติเป็นยาเย็นมีสรรพคุณช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต
จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องความดัน แถมยังช่วยขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ด้วย
ส่วนต้นสด และเมล็ดของ "จิงจูฉ่าย" มีโซเดียมต่ำ จึงดีต่อผู้ป่วยโรคไต

ในทางการแพทย์เชื่อว่า "จิงจูฉ่าย" เป็นยาเย็น ช่วยบำรุงปอด
ช่วยฟอกเลือด ช่วยให้เลือดลมหมุนเวียนได้สะดวก คนจีนจึงนิยมนำผักชนิดนี้
มาปรุงเป็นอาหารรับประทานในหน้าหนาว เพื่อช่วยในเรื่องการไหลเวียนของโลหิต
และปรับสมดุลให้ร่างกาย


หมายเหตุ ภาพที่โพสท์ครั้งแรก เป็นภาพขนาดใหญ่ มีความแจ่มชัด
แต่ปรากฏว่าภาพหายไปจากระบบโดยไม่ทราบสาเหตุ
ผู้โพสท์ (เป็นผู้ลงมือทำอาหาร คาว-หวาน) ต้องตามเก็บจาก https://encrypted-tbn2.gstatic.com
ได้แต่ภาพขนาดเล็กเป็นบางภาพ และภาพค่อนข้างมัวๆ มาลงซ่อมใหม่ทั้งหมดไปพลางก่อน
รวมรายการอาหารที่โพสท์และหายไปกว่า 100 รายการ
ต้องใช้เวลาในการทำอาหารคาว/หวาน อีกครั้ง
เพื่อซ่อมกระทู้นับร้อยกระทู้ของเว็บไซต์สุขใจดอทคอม. ค่ะ
Kimleng. 1 กันยายน 2558

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/54049189057615__3629_.gif)
ติดตามสูตรอาหารและเคล็ดลับการประกอบอาหารคาว-หวาน มายมายกว่า 200 สูตร
ได้ที่  "สุขใจในครัว" สุขใจดอทคอม
www.sookjai.com (http://www.sookjai.com)