หัวข้อ: ความเอ๋ย...ความรัก เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 01 กุมภาพันธ์ 2553 08:20:49 (http://img389.imageshack.us/img389/9020/mua1496977km1.gif) ความเอ๋ย...ความรัก โดย คนเดินทาง รักเอย..จริงหรือที่ว่าหวาน...? คนเราเกิดมาทุกคน ล้วนแต่แสวงหาความรัก....เราเป็นสัตว์โลกที่ต้องเกี่ยวพันกับความรัก มีเอนกประการ... รักแม่ รักพ่อ รักญาติ รักเพื่อน คนรัก รักสามี รักภรรยา รักบุตรธิดา...ฯลฯ.. ความรักนั้นเป็นดอกไม้แสนสวยทั้งหอมและหวานบนโลกใบนี้ แต่กระนั้น..ความรักกลับฆ่าบุคคลทั้งหลายอย่างเลือดเย็น ทำให้มีคนมากมายเดือดร้อนเป็นทุกข์ เพราะความรัก..... รักที่ไม่ประกอบ "ปัญญา" นั้น ย่อมทำให้คนที่มีรักนั้น หรือแม้แต่คนที่ถูกรัก เป็นทุกข์เดือดร้อน.. จนต้องมีคำถามว่า..รักเอย..จริงหรือที่ว่าหวาน.. ? (http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQBmGEn4-BytjgmO-P99f5i77Fpoh0VX_FYkHoopynO9_ai9nwf) รักมากดีไหม ? รักมาก ก็ทุกข์มาก... แต่เราก็ชอบใจที่เรารักใครมากๆซักคน...ยิ่งถ้าเราถูกใครรักมากๆแล้วเรายิ่งชอบใจใหญ่.... ความรักทำให้เรา "ลืม" ความทุกข์ เพราะความหอมหวาน นั่นแหละ ที่ทำให้เราลืม ว่ารักนั้นจะทำให้เราต้องตรอมใจในเวลาต่อมา หากรักแล้ว...ไม่สมรัก ก็เป็นทุกข์... แม้ว่าสมรักแล้วนั่นแหละ..ใจก็ยังหวั่นไหว ว่าจะสูญเสีย คนที่รักนั้นไป...ใจก็เดือดร้อนเป็นทุกข์โดยไม่รู้ตัว หัวข้อ: Re: ความเอ๋ย...ความรัก เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 01 กุมภาพันธ์ 2553 08:42:21 (:fall:) (:fall:) (:fall:) (:fall:) (:BH:) (:BH:) (:BH:) (:BH:) (:BH:) (:PING:) (:PING:) (:PING:) (:PING:) (:SL:) (:SL:) (:SL:) (:SL:) (:FR:) (:FR:) (:FR:) (:FR:) (:FR:) ความรักมีหลายอารมณื หัวข้อ: Re: ความเอ๋ย...ความรัก เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 01 กุมภาพันธ์ 2553 09:26:14 (http://webboard.mthai.com/upload_images_new/2008-03-21/375169.jpg) พระพุทธองค์ทรงรับสั่งว่า "การประสบสิ่งไม่รัก เป็นทุกข์... ปรารถนาสิ่งใด ไม่สมปรารถนาเป็นทุกข์" งานนี้ทุกข์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องอยู่ในสภาพต้องพบต้องเจออารมณ์ หรือบุคลคล ที่ตนไม่ชอบ ก็เป็นทุกข์ หรือแม้ไม่สมรักก็เป็นทุกข์..เราจึงต้องบริหารความรัก และบริหารใจเรา ด้วยปัญญา จึงจะสามารถพาจิตใจของตนให้พ้นจากความทุกข์ทั้งหลายได้... ผู้ใดมีปัญญา ย่อมมีความสุขทางใจอย่างยิ่ง... เราจะเห็นได้ว่า บางคนมีเงินทองมากมาย รูปสวย รวยทรัพย์ แต่ก็หา ความสุขทางใจไม่ได้ เดือดร้อนทุรนทุรายอยู่มิเว้น... เพราะเราไม่เคยรู้ว่า.....ที่ว่าเรารัก "คนอื่น" น่ะ จริง ๆ แล้วเรารักใคร.. ? พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า "รักอื่นเสมอรักตนนั้นไม่มี" จึงมีบัณฑิตท่านขยายว่า การที่เราเป็นผู้รักตนมากนั่นเอง จึงปรารถนา ให้คนอื่นมารักตัวเองอย่างที่เราอยากจะให้เขามารักตน.. ลองคิดดูว่าจริงไหม.. ? (http://new.goosiam.com/news2/admin/my_documents/my_pictures/235_%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7.jpg) เราทนไม่ได้......ที่เขาไม่รักเรา อย่างที่เราอยากจะให้มารัก ... เราทนไม่ได้......ที่เขาไม่มาใส่ใจเรา เท่าที่เราต้องการ... อะไร ๆ ก็วิ่งกลับมาไม่พ้น รักตน นั่นเอง... ถ้ารักคนอื่นจริง ๆ แล้วละก็ ......... เขาเป็นสุขอย่างไรก็ต้องมีใจมุฑิตา ยินดีในความสุขของเขา ตามแต่ที่เขาจะเป็นมิใช่หรือ? ทำไมต้องดึงให้กลับมาหา..ตัวเอง.. ด้วยเล่า.. ? ก็เพราะเหตุที่เรา "รักตน" ยิ่งกว่าสิ่งใดมิใช่หรือ.. ? นี้เป็นความจริง ที่เราต้องยอมรับ.. เมื่อเห็นความจริงอย่างนี้แล้ว เราควรถามตัวเองอีกว่า ที่เรารักตัวเองนั้น เรารักอย่างมีปัญญา หรือรักแบบคนตาบอด คนมีปัญญาย่อมรักตัวเป็น.... กตัญญูต่อตัวเองเป็น... เมตตาตัวเอง ... ไม่ทำร้ายตัวเองด้วยการใส่ใจในสิ่งที่ไม่ควร... จนจิตใจหมองไหม้ เป็นทุกข์ตลอดเวลา...เพราะว่าวางใจไม่ถูก... (http://www.qflora.com/ProdImages/b%5Cred_rose6.jpg) เรานั้น มักเฝ้าเพรียกหาคนอื่นมาปลอบใจตัวเรา ทั้ง ๆ ที่เราเองไม่คิดจะช่วยเหลือตัวเอง ให้พ้นจาก ทุกข์และโทษเลย... ถ้าเรารักตัวเราเป็นแล้ว ..ใยจึงต้องปล่อยใจตัวเองให้ตกจมไปกับทุกข์ อย่างนั้นด้วย?. ขนาดเรายังไม่รักตัวเองเลย ประสาอะไรจะให้คนอื่นมารักเราเล่า.. ? ถ้าเรารักตัวเราเองจริงๆ แล้วละก็เราจะทำร้ายใจตนเองอยู่ทุกวี่ทุกวัน ได้อย่างไร? เหตุกับผลไม่ตรงกันเลย...หากเราเป็นคนที่รักตัวเอง เมตตาตัวเอง เราต้องทำให้ตัวเองมีค่า .... เมื่อเรารักตัวเองได้แล้ว... เราก็จะไม่ถวิลหาคนอื่นให้มารักเราอย่างที่เป็นอยู่... ทำได้แล้วเราจะเป็นสุข... สุขที่มีตนเป็นที่พึ่งไม่ต้องพึ่งรักจากคนอื่น เลิกทำร้ายตัวเอง หันกลับมารักตัวเองให้เป็น ด้วย "ปัญญา" เถิด แล้วเราจะตระหนักถึงคุณค่าแห่งชีวิตอันประเสริฐของเรา..... (http://www.thaiplumvillage.org/thpv_images/flower/leaf02.jpg) ที่มา http://www.raksa-dhamma.com/topic_35.php (http://www.raksa-dhamma.com/topic_35.php) Credit by : http://www.watkoh.com/forum/index.php?topic=2972.0 (http://www.watkoh.com/forum/index.php?topic=2972.0) Pics by : Google ขอบพระคุณที่มาทั้งหมดมากมาย อนุโมทนาสาธุค่ะ |