[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => เกร็ดศาสนา => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 04 เมษายน 2557 10:03:27



หัวข้อ: ทำไมต้องยก "ช่อฟ้า"
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 04 เมษายน 2557 10:03:27
.

(http://www.khaosod.co.th/view_resizing_images.php?filename=news-photo/khaosod/2013/01/you02150156p1.jpg&width=360&height=360)
 
ทำไมต้องยกช่อฟ้า

ช่อฟ้า ตีความตามนามหมายถึงช่อหรือกิ่งที่ยื่นขึ้นไปบนท้องฟ้า เป็นนัยแห่งการบูชาพระรัตนตรัยและปวงเทพเจ้าบนสวรรค์ชั้นฟ้าประการหนึ่ง ช่อฟ้าเป็นเครื่องสูงที่อยู่สูงสุดในงานสถาปัตยกรรมไทย ที่ประกอบด้วย ช่อฟ้า รวยระกา ใบระกา นาคสะดุ้ง หรือ งวงไอยรา และ หางหงส์ ซึ่งรวมเรียกว่า "เครื่องลำยอง" เป็นกรอบประดับหน้าบัน อันหมายถึงวิมานแห่งทวยเทพ เนื่องด้วยองค์พระตถาคตสัมมาสัมพุทธเจ้า และองค์พระมหากษัตริยาธิราช ล้วนแล้วแต่ยังมีพระภาคหนึ่งเป็นเทพเจ้าตามคติแต่โบราณ

ช่อฟ้าของสยาม มักพบลักษณะเป็นกิ่งหรือช่อเดียวยื่นขึ้นไปบนฟ้าเหนือสันหลังคา ดูโดยรวมมีลักษณะเป็นหางพญานาคพันกันเหนือตัวอาคาร ก่อนที่จะแยกเป็นตัวนาคเลื้อยลงมาตามชายขอบของหน้าบัน แล้วผงกเศียรนาคตั้งขึ้นบริเวณเชิงชายด้านล่างเรียกว่าหางหงส์ สาเหตุที่ช่างจินตนาการชุดเครื่องลำยองเป็นรูปนาค เนื่องจากคติที่ว่าพญานาคมีความเกี่ยวพันและรับหน้าที่ปกป้องดูแลพระพุทธศาสนา เช่น พญานาคนามมุจลินทร์ที่แผ่พังพานปกป้องพระพุทธเจ้ามิให้ฝนต้องพระกายา จนกลายเป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก จึงนิยมนำรูปนาคมารายล้อมพระอุโบสถและศาสนสถานเพื่อคุ้มครองพระศาสนา

เข้าใจว่าผู้คนในดินแดนอุษาคเนย์นิยมประดับประดาให้มีส่วนยื่นเลยหลังคา เช่น การนำเขาควายบ้าง นำไม้มาไขว้กันบ้าง ในลักษณะที่ทางเหนือเรียกว่า "กาแล" โดยเชื่อว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเก่งกล้าในการล่าสัตว์ หรือมีความเชื่อว่าจะไล่นกแสก กา นกเค้าแมว ที่ถือว่าไม่เป็นมงคลเพราะเป็นพาหนะของยมทูต เมื่อเกาะบ้านใดเท่ากับมียมทูตมารับตัวไป คนโบราณจึงนำปีกไม้ใหญ่ๆ มาไขว้กันให้นกเหล่านี้หลงว่าเป็นเหยี่ยวหรืออินทรีไม่กล้ามาใกล้ อันเป็นความหมายว่าเมื่อนกกาแลเห็นจะเกิดความกลัว นอกจากนี้ยังสันนิษฐานว่า กาแลเป็นสัญลักษณ์ที่รับมาครั้งพม่าครองเมืองเหนือ ว่าเรือนใดที่ติดกาแลจะได้รับการยกเว้นภาษีจากทางพม่า

สำหรับภาคกลาง ไม่นิยมนำเขาสัตว์หรือติดเหนือจั่วแบบกาแล หากแต่จะทำเป็นกิ่งหรือช่อยื่นขึ้นไปอันเดียว ส่วนใหญ่มักจะพบในอาคารสถาปัตยกรรมชั้นสูงที่ได้รับการอุปถัมภ์จากเจ้านายพระบรมวงศานุวงศ์และองค์พระมหากษัตริยาธิราช นิยมเรียกกันโดยทั่วไปว่าช่อฟ้า แต่จะปรากฏในหลายรูปหลายลักษณะ เช่น ช่อฟ้าปากนก ช่อฟ้าหางปลาไหล ช่อฟ้าปากปลา หรือทำเป็นรูปเทวดา นางฟ้าอยู่เหนือจั่วเหนือหน้าบัน ก็เรียกว่าช่อฟ้าเช่นกัน บ้างก็นิยมติดกระดิ่งรูปใบโพธิ์เข้าไปเพื่อให้ได้ประโยชน์ดั้งเดิม คือไล่นกกาที่จะมาถ่ายรดหลังคา หรือไล่นกอัปมงคลก็ได้เช่นกัน

ช่อฟ้าถือเป็นของสูง ด้วยนอกจากจะอยู่สูงสุดเหนือองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมใดๆ แล้ว ยังเป็นเครื่องหมายแห่งการครบองค์ประกอบทางอาคารสำคัญของศาสนา เนื่องจากหากยังทำโครงสร้างอื่นไม่เสร็จก็จะยกช่อฟ้าไม่ได้ นอกจากนั้นด้วยลักษณะแห่งการเป็นหางพญานาคจึงเป็นเครื่องหมายแห่งการปกป้องคุ้มครองและขับไล่หมู่มารของพระศาสนา ดังนั้น คนไทยแต่โบราณจึงถือกันว่าการบุญยกช่อฟ้าเป็นการบุญอันศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่ ถือกันมาแต่อดีตว่าผู้ประกอบด้วยบุญญาธิการสูงส่งเท่านั้นจึงจะยกช่อฟ้าได้ มิฉะนั้นก็จะต้องใช้วิธีร่วมบุญ บรรดาสาธุชนจึงร่วมกันเป็นหมู่เหล่าเพื่อให้บุญนั้นมากพอที่จะยกช่อฟ้าได้ และโดยเฉพาะพระอารามหลวงจะหาโอกาสได้ร่วมบุญยกช่อฟ้าเรียกได้ว่ายากเต็มที    
....ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสด