[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => สมถภาวนา - อภิญญาจิต => ข้อความที่เริ่มโดย: เงาฝัน ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553 10:11:55



หัวข้อ: “ความต่างระหว่างผู้ประมาท กับ ไม่ประมาท”
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553 10:11:55


(http://picdb.thaimisc.com/d/dokgaew/11927-1.jpg?n)

“ความต่างระหว่างผู้ประมาท กับ ไม่ประมาท”

พระผู้มีพระภาคเจ้า...  ตรัสพระคาถานี้ว่า...

“ความประมาท    เป็นทางแห่งมัจจุ     (ความตาย),
ผู้ไม่ประมาทแล้ว      ชื่อว่าย่อมไม่ตาย,
   
ผู้ใดประมาทแล้วผู้นั้น     ย่อมเป็นเหมือนคนตายแล้ว,       
บัณฑิตรู้ความนั่น     โดยความต่างกันแล้ว             

พึงตั้งอยู่ในความไม่ประมาท     บันเทิงอยู่ในความไม่ประมาท”


(จาก ... พระสุตตันตปิฎก  ขุททกนิกาย  คาถาธรรมบท)


ขณะใดที่ประมาท  ขณะนั้นเป็นอกุศล  ขณะใดที่ไม่ประมาท    ขณะนั้นเป็นกุศล

เพราะความไม่ประมาท คือ การไม่อยู่ปราศจากสติ  (สติ เป็นธรรมที่เกิดร่วมกับจิตฝ่ายดีทุกประเภท) 

และที่สำคัญ พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงว่า

กุศลธรรมทั้งปวง รวมลงอยู่ในความไม่ประมาท     มีความไม่ประมาทเป็นรากเหง้า




หัวข้อ: Re: “ความต่างระหว่างผู้ประมาท กับ ไม่ประมาท”
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553 10:21:36


(http://www.zuxzix.com/images/imageArticle/1228798421._x_rS3ykWkLyAQw.jpg)

เป็นความจริงที่ว่า บุคคลผู้ประมาทอยู่  แม้จะมีชีวิตยืนยาวเป็นร้อยปี   
ก็เหมือนกับคนที่ตายแล้ว    เพราะคนที่ตายแล้วไม่สามารถอบรมเจริญปัญญาได้
   

ไม่สามารถทำกุศลได้  เช่นเดียวกันกับผู้ประมาท  แม้มีชีวิตอยู่  ก็ไม่ได้ทำกุศล 
ไม่ได้ทำความดีอะไร ๆ เลย  ผู้ประมาทจึงไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายแล้ว,     

ในทางตรงกันข้าม    ผู้ไม่ประมาท     โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 
ไม่ประมาทในการอบรมเจริญปัญญา 
ถึงแม้ว่าจะมีการเกิด  การตาย จากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่งอยู่ 

แต่โอกาสของการดับกิเลสได้อย่างเด็ดขาด  ไม่มีการเกิดการตายอีกเลยนั้น ย่อมมีได้   
สังสารวัฏฏ์ มีโอกาสจบสิ้นได้ 
 
เพราะฉะนั้น  ผู้ไม่ประมาท   จึงได้ชื่อว่า  ย่อมไม่ตาย




หัวข้อ: Re: “ความต่างระหว่างผู้ประมาท กับ ไม่ประมาท”
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553 10:49:25


(http://www.palungdham.com/images4/landscape1073.jpg)

ไม่เหมือนกับผู้ที่ประมาท  ซึ่งโอกาสของการหลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง ไม่มีเลย 
 ไม่สามารถพ้นไปจากสังสารวัฏฏ์ ได้เลย



            เมื่อเป็นเช่นนี้  จึงควรอย่างยิ่งที่จะเป็นผู้ตั้งอยู่ในไม่ประมาทที่จะศึกษาพระธรรม
ฟังพระธรรม อบรมเจริญปัญญาต่อไป   

ความตาย ไม่รู้จะเกิดขึ้นวันไหน เวลาใด     สาระสำคัญที่สุดของชีวิต
คือการเข้าใจพระธรรมในหนทางที่ถูก 

เพราะไม่มีสิ่งใด  จะติดตามตัวไปได้   นอกจากบุญและบาป 
 
และควรที่จะสะสมแต่ความดี (บุญ, กุศล) เท่านั้น.



  **ท่านที่สนใจสามารถติดต่อสอบถาม สนทนาธรรมเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องยิ่งขึ้น
ได้ที่ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา เลขที่ ๑๗๔/๑ ซอยเจริญนคร ๗๘ 
แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี  กรุงเทพมหานคร  ๑๐๖๐๐ โทรศัพท์ ๐๒๔๖๘ ๐๒๓๙ 
และที่ www.dhammahome.com (http://www.dhammahome.com)  **


Pics by : Google
  Credit by : http://www.our-teacher.com/our-teacher/article/4%20admonishment/189-how_different.htm (http://www.our-teacher.com/our-teacher/article/4%20admonishment/189-how_different.htm)

ขอบพระคุณที่มาทั้งหมดมากมาย
อนุโมทนาสาธุธรรมค่ะ