[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ใต้เงาไม้ => ข้อความที่เริ่มโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 00:39:02



หัวข้อ: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 00:39:02
สักวาดาวจรเข้

สักวาดาวจรเข้ก็เหหก    
ศีรษะตกหันหางขึ้นกลางหาว
เป็นวันแรมแจ่มแจ้งด้วยแสงดาว    
น้ำค้างพราวปรายโปรยโรยละออง
ลมเรื่อยเรื่อยเฉื่อยฉิวต้องผิวเนื้อ    
ความหนาวเหลือทานทนกมลหมอง
สกุณากาดุเหว่าก็เร่าร้อง    
พอแสงทองส่องฟ้าขอลาเอย...


หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 00:40:26
สักวา

สักวาหวานอื่นมีหมื่นแสน    
ไม่เหมือนแม้นพจมานที่หวานหอม
กลิ่นประเทียบเปรียบดวงพวงพยอม    
อาจจะน้อมจิตโน้มด้วยโลมลม
แม้นล้อลามหยามหยาบไม่ปลาบปลื้ม    
ดังดูดดื่มบอระเพ็ดต้องเข็ดขม
ผู้ดีไพร่ไม่ประกอบชอบอารมณ์    
ใครฟังลมเมินหน้าระอาเอย..




หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 00:42:13
โมกขศักดิ์

บัดนั้น    พระยาพิเภกยักษี
เห็นพระองค์ทรงโศกโศกี    อสุรีกราบลงกับบาทา
ทูลว่าพระลักษณ์สุริยวงศ์    ยังไม่ปลงชีวังสังขาร์
อันโมกขศักดิ์อสุรา       พรหมาประสิทธิ์ประสาทไว้
ทรงอานุภาพฤทธิรุทร       ต้องใครจะฉุดนั้นไม่ไหว
แต่มียาคู่หอกชัย       ให้ไว้สำหรับแก้กัน
แม้นละไว้จนรุ่งราตรี       ต้องแสงพระระวีจะอาสัญ
ขอให้ลูกพระพายเทวัญ    ไปห้ามพระสุริยันในชั้นฟ้า
อย่าเพ่อรีบรถบทจร       ข้ามยุคนธรภูผา
แล้วให้ไปเก็บตรีชวา       ทั้งยาชื่อสังกรณี
ยังเขาสรรพยาบรรพต       ปรากฏอยู่ยอดคีรีศรี
กับปัญจมหานที       สรรพยาทั้งนี้มาให้ทัน
แม้นว่าได้บดชโลมลง       องค์พระอนุชาไม่อาสัญ
จะดำรงคงชีพชีวัน       หอกนั้นก็จะหลุดขึ้นมา




หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 00:47:32
พระอภัยมณี

พระฟังความพราหมณ์น้อยสนองถาม    จึงเล่าความจะแจ้งแถลงไข
อันดนตรีมีคุณทุกอย่างไป    ย่อมใช้ได้ดังจินดาค่าบุรินทร์
ถึงมนุษย์ครุฑาเทวราช    จตุบาทกลางป่าพนาสิน
แม้นปี่เราเป่าไปให้ได้ยิน    ก็สุดสิ้นโทโสที่โกรธา
ให้ใจอ่อนนอนหลับลืมสติ    อันลัทธิดนตรีดีหนักหนา
ซึ่งสงสัยไม่สิ้นในวิญญา    จะนิทราเถิดจะเป่าให้เจ้าฟัง
แล้วหยิบปี่ที่ท่านอาจารย์ให้    เข้าพิงพฤกษาไทรดังใจหวัง
พระเป่าเปิดนิ้วเอกวิเวกดัง    สำเนียงวังเวงแว่วแจ้วจับใจ
ในเพลงปี่ว่าสามพี่พราหมณ์เอ๋ย    ยังไม่เคยชมชิดพิสมัย
ถึงร้อยรสบุปผาสุมาลัย    จะชื่นใจเหมือนสตรีไม่มีเลย
พระจันทร์จรสว่างกลางโพยม    ไม่เทียบโฉมนางงามเจ้าพราหมณ์เอ๋ย
แม้นได้แก้วแล้วจะค่อยประคองเคย    ถนอมเชยชมโฉมประโลมลาน
เจ้าพราหมณ์ฟังวังเวงวะแว่วเสียง    สำเนียงเพียงการเวกกังวาลหวาน
หวาดประหวัดสตรีฤดีดาล    ให้ซาบซ่านเสียวสะดับจนหลับไป
ศรีสุวรรณนั้นนั่งอยู่ข้างพี่    ฟังเสียงปี่วาบวับก็หลับไหล
พระแกล้งเป่าแปลงเพลงวังเวงใจ    เป็นความบวงสรวงพระไทรที่เนินทรายฯ




หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 00:49:58
นรางกุโรวาท(ปรารถนาดีต่อแดนเกิด)

เราเกิดมา หน้าที่ อารีสมาน    ใจเพื่อนบ้าน เพื่อนนิคม สนมสนิท
บ้านแลแขวง ตำแหน่งตน ทุกคนคิด    ช่วยให้เดิน เจริญผิด กว่าเคยมา
คอยหวังดี ถ้าแม้นมี โอกาสไฉน    ควรจะให้ แขวงนั้น สุขหรรษา
ทำไม่ไหว ให้ถวิล จินตนา    จะช่วยเหลือ เกื้อกว่า จะหมดแรง



หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 00:51:19
เมืองไทยใหญ่อุดม

เมืองไทยใหญ่อุดม    ดินดีสมเป็นนาสวน
เพื่อนรักเราชักชวน    ร่วมช่วยกันมุ่งหมั่นทำ

วิชาต้องหาไว้    เป็นหลักได้ใช้ช่วยนำ
ให้รู้ลู่ทางจำ    ค้นคว้าไปให้มากมี

ช่วยกันอย่างขันแข็ง    ด้วยลำแข้งและแรงกาย
ทำไปไม่เสียดาย    แม้อาบเหงื่อเมื่อทำงาน

ดั่งนี้มั่งมีแท้    ร่มเย็นแน่หาไหนปาน
โลกเขาคงเล่าขาน    ถิ่นไทยนี้ดีงามเอย.



หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 00:53:48
พลายงาม(ตอนอาสาไปตีเชียงใหม่)

ครานั้นเพชรกล้าได้ฟังถาม    ก็ชื่นชอบตอบความหาช้าไม่
ซึ่งถามเราจะเล่าให้เข้าใจ    เจ้าชาวใต้ไม่รู้จู่ขึ้นมา
เราเป็นเชื้อเจ้าท้าวคำแมน    มียศถึงแสนตรีเพชรกล้า
เป็นเชื้อชาติทหารชาญศักดา    ในลานนาใครใครไม่ต่อแรง

พระครูผู้บอกวิทยา    ชื่อว่าศรีแก้วฟ้ากล้าแข็ง
สถิตยังเขาคำถ้ำวัวแดง    ทุุกหนแห่งเลื่องลือนับถือจริง
เจ้าหนุ่มน้อยนี่หรือชื่อพลายงาม    ช่างสมรูปสมนามดูงามยิ่ง
ตละแกล้งหล่อเหลาเพราพริ้ง    รูปร่างอย่างผู้หญิงพริ้งพรายตา

จะเปรียบลูกก็อ่อนกว่าลูกเล็ก    จะเปรียบหลานพาลจะเด็กกว่าหลานข้า
ไม่ควรจะรบสู้กับปู่ตา    กลับไปบอกบิดามารอนราญ
จะได้เป็นขวัญตาโยธาทัพ    เป็นฉบับแบบไว้ในทหาร
ยังเด็กอยู่คอยดูวิชาการ    เฮ้ยเจ้าหลานพ่ออยู่ไหนไปบอกมาฯ


ครานั้นพลายงามทรามคะนอง    ร้องตอบต่อคดีตรีเพชรกล้า
แน่เธออย่าเพ่ออหังการ์    เจรจาหมิ่นประมาทเราชาติเชื้อ
ตัวท่านแก่กายอย่างควายเฒ่า    อันตัวเราถึงเด็กเล็กลูกเสือ
ฝีมือใครไพร่ลาวแหลกเป็นเบือ    อย่าหลงเชื่อว่าผู้ใหญ่จะไม่แพ้

ถ้าไม่ดีที่ไหนใครจะมา    จะขอลองวิชากับตาแก่
ให้ปรากฏฤทธีว่าดีแท้    ฤๅเป็นแต่ปากกล้ากว่าฝีมือ
ขออภัยอย่าให้ถึงบิดา    แต่ลูกยาท่านจะชนะหรือ
มาลองดูสักหนให้คนลือ    จะปลกเปลี้ยเสียชื่อดอกกระมัง

ครานั้นแสนตรีเพชรกล้า    โกรธาตาแดงดั่งแสงครั่ง
เหม่อ้ายนี่หนักหนาว่าไม่ฟัง    มาโอหังอวดรู้สู้สงคราม
เท้ากระทืบกระทบโกลนโผนผก    มุ่นหมกขับคว้างมากลางสนาม
ท่วงทีขี่ม้าสง่างาม    รำง้าวก้าวตามกระบวนทวน



หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:00:05
พระอภัยมณี

ถึงม้วยสิ้นดินฟ้ามหาสมุทร   ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
แม้เกิดในใต้ฟ้าสุธาธาร    ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา

แม้เนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ    พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา
แม่เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา    เชยผกาโกสุมประทุมทอง

เจ้าเป็นถ้ำอำไพขอให้พี่    เป็นราชสีห์สิงสู่เป็นคู่สอง
จะติดตามทรามสงวนนวลละออง    เป็นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป




หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:03:04
พระอภัยมณี

พระฟังคำอ้ำอึ้งตะลึงคิด    จะเบือนบิดป้องปัดก็ขัดขวาง
สงสารลูกเจ้าลังกาจึงว่าพลาง    เราเหมือนช้างงางอกไม่หลอกลวง
ถึงเลือดเนื้อเมื่อน้องต้องประสงค์    พี่ก็คงยอมให้มิได้หวง
แต่ลูกเต้าเขาไม่เหมือนคนทั้งปวง    จะได้ช่วงชิงไปให้กระนั้น
พี่ว่าเขาเขาก็ว่ามากระนี้    มิใช่พี่นี้จะแกล้งแสร้งเสกสรรค์
เพราะเหตุเขารักใคร่อาลัยกัน    ค่อยผ่อนผันพูดจาอย่าราคี
แล้วตรัสบอกลูกน้อยกลอยสวาท    เจ้าหน่อเนื้อเชื้อชาติดั่งราชสีห์
อันรักษาศีลสัตย์กัตเวที    ย่อมเป็นที่สรรเสริญเจริญคน
ทรลักษณ์อกตัญญุตาเขา    เทพเจ้าก็จะแช่งทุกแห่งหน
ให้ทุกข์ร้อนงอนหง่อทรพล    พระเวทมนต์เสื่อมคลายทำลายยศ
เพราะบิดามาด้วยอุศเรนนี้    คุณเขามีมากล้นพ้นกำหนด
เจ้าทำผิดก็เหมือนพ่อทรยศ    จงออมอดเอ็นดูพ่อแต่พองาม



หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:04:16
เวนิสวาณิช
พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6

อันว่าความกรุณาปราณี    จะมีใครบังคับก็หาไม่
หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ    จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน
เป็นสิ่งดีสองชั้นพลันปลื้มใจ    แห่งผู้ให้และผู้รับสมถวิล
เป็นกำลังเลิศพลังอื่นทั้งสิ้น    เจ้าแผ่นดินผู้ทรงพระกรุณา
ประดุจทรงวราภรณ์สุนทรสวัสดิ์    เรืองจรัสยิ่งมกุฏสุดสง่า
พระแสงทรงดำรงซึ่งอาชญา    เหนือประชาพสกนิกร
ประดับพระวรเดชวิเศษฤทธิ์    ที่สถิตอานุภาพสโมสร
แต่การุณยธรรมสุนทร    งามงอนกว่าพระแสงอันแรงฤทธิ์
เสถียรในหฤทัยพระราชา    เป็นคุณของเทวาผู้มหิทธ์
และราชาเทียมเทพอมฤต    ยามบพิตรเผยแผ่พระกรุณา




หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:05:26
เสภาเรื่อง ขุนช้างขุนแผน

ยกออกนอกเมืองสวรรคโลก    ข้ามโคกเข้าป่าพนาศรี
เจ้าพลายกระสันพันทวี    รำลึกถึงนารีศรีมาลา
ถ้าแม้นแก้วแววตามาด้วยพี่    จะชวนชี้ชมไม้ไพรพฤกษา
คิดพลางเดินพลางตามทางมา    ข้ามท่าเขินเขาลำเนาธาร
แลเห็นเขาเงาเงื้อมชะง่อนชะโงก    เป็นกรวยโกรกน้ำสาดกระเซ็นซ่าน
ดูโครมครึกกึกก้องท้องพนานต์    พลุ่งพล่านมาแต่ยอดศิขรินทร์
เป็นชะวากวุ้งเวิ้งตะเพิงพัก    แง่ชะงักเงื้อมชะง่อนล้วนก้อนหิน
บ้างใสสดหยดย้อยเหมือนพลอยนิล    บ้างเหมือนกลิ่นภู่ร้อยห้อยเรียงราย
ตรงตระพักเพิงผาศิลาเผิน    ชะงักเงิ่นเงื้อมงอกชะแง้หงาย
ที่หุบห้วยเหวหินบิ่นทลาย    เป็นวุ้งโว้งเพรงพรายดูลายพร้อย
บ้างเป็นยอดกอดก่ายตะเกะตะกะ    ตะขรุตะขระเหี้ยนหักเป็นหินห้อย
ขยุกขยิกหยดหยอดเป็นยอดย้อย    บ้างแหลมลอยเลื่อมสลับระยับยิบ
บ้างงอกเง้าเป็นเงี่ยงบ้างเกลี้ยงกลม    บ้างโปปมเป็นปุ่มกะปุบกะปิบ
บ้างปอดแป้วเป็นพูดูลับลิบ    โล่งตะลิบแลตลอดยอดศิขรินทร์
เหล่ามิ่งไม้ไทรโศกอยู่ริมห้วย    ลมช่วยหล่นลอยกระแสสินธุ์
น้ำใสแลซึ้งถึงพื้นดิน    ฟุ้งกลิ่นสุมามาลย์บานระย้า
สัตตบุษย์บัวแดงขึ้นแฝงฝัก    พรรณผักพาดผ่านก้านบุบผา
แพงพวยพุ่งพาดพันสันตะวา    ลอยคงคาทอดยอดไปตามธาร.




หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:06:45
นิราศภูเขาทอง

ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง    มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา    ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าช่างน่าอาย
ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ    พระสรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย
ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย    ไม่กล้ำกลายแกล้งเมินก็เกินไป
ไม่เมาเหล้าแต่เรายังเมารัก    สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป    แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน



หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:07:45
ปากเป็นเอกเลขเป็นโท

ปากเป็นเอกเหมือนเสกมนต์ใช้คนเชื่อ    ฉลาดเหลือวาจาปรีชาฉาน
จะกล่าวถ้อยร้อยคำไม่รำคาญ    เป็นรากฐานเทิดตนพ้นรำเค็ญ
เลขเป็นโทโบราณท่านสั่งสอน    เร่งสังวรเวี่ยไว้ใช้ว่าเล่น
การคำนวณควรชำนาญคูณหารเป็น    ช่วยให้เด่นดีนักหนารู้ค่าคน
หนังสือเป็นตรีวิชาปัญญาเลิศ    เรียนไปเถิดรู้ไว้ไม่ไร้ผล
ยามยากแค้นแสนคับไม่อับจน    ได้เลี้ยงตนด้วยวิชาหาทรัพย์ทวี
ชั่วดีเป็นตราประทับไว้กับโลก    ยามวิโยคชีพยับ ลับร่างหนี
ที่สูญแท้ก็แต่ตัวก็แต่ตัวส่วนชั่วดี    คงที่เป็นลือทั่วชั่วฟ้าดิน



หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:09:26
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

เราเกิดมาทั้งทีชีวิตหนึ่ง    อย่าหมายพึ่งผู้ใดให้เขาหยัน
ควรคะนึงพึ่งตนทนกัดฟัน    คิดบากบั่นตั้งหน้ามานะนำ
กสิกิจพณิชยการงามมีเกียรติ    อย่าหยามเหยียดพาลหาว่างานต่ำ
หรือจะชอบวิชาอุตสาหกรรม    เชิญเลือกทำตามถนัดอย่าผลัดวัน
เอาดวงใจเป็นทุนหนุนนำหน้า    เอาปัญญาเป็นแรงมุ่งแข่งขัน
เอาความเพียรเป็นยานประสานกัน    ผลจะบรรลุสู่ประตูชัย
เงินและทองกองอยู่ประตูหน้า    คอยเปิดอ้ายิ้มรับไม่ขับไส
ทรัพย์ในดินสินในน้ำออกคล่ำไป    แหลมทองไทยพร้อมจะช่วย อำนวยเอย ฯ




หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:10:36
สังข์ทองตอนตีคลี (บทอาขยาน)

                    เมื่อนั้น    ท้าวสามนต์สรวลสันต์ไม่ผันผาย
เห็นนางมณฑาว่าวุ่นวาย    จึงซังตายดำเนินเดินมา
เข้าไปในทับเห็นลูกเขย    พ่อเจ้าลูกเอ๋ยงามนักหนา
น้อยหรือรูปร่างเหมือนเทวดา    หน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพรา
ผิวเนื้อเรื่อเรืองเหลืองประหลาด    ดั่งทองคำธรรมชาติหล่อเหลา
ฟ้าผี่เกิดเอ๋ยลูกเขยเรา    งามจริงนะเจ้านางมณฑา
ถึงตัวพี่เมื่อครั้งยังหนุ่มแน่น    รูปร่างก็อ้อนแอ้นโอ้อ่า
ไม่แกล้งอวดซวดทรงหน้าตา    ใส่ชฎาเครื่องประดับก็รับรอง
แต่ไม่เหมาะเหมือนลูกเขยเราคนนี้    เป็นต่อพี่อยู่ราวสักสามสอง
แพ้เขาที่เนื้อไม่เป็นทอง    กระนั้นน้องยังรักว่ารูปงาม
ตรัสพลางแย้มยิ้มพริ้มพราย    แล้วภิปรายปราศัยไต่ถาม
ลูกรักจงแถลงแจ้งความ    เจ้านี้มีนามกรใด
วงศ์วานว่านเครือเนื้อหน่อ    พงศ์เผ่าเหล่ากอเป็นไฉน
อยู่ประเทศธานีบุรีไร    ทำไมจึ่งแกล้งแปลงปลอมมา
                    เมื่อนั้น    พระสังข์บังคมก้มหน้า
ยิ้มพลางทางทูลพ่อตา    ตัวข้านี้ชื่อพระสังข์ทอง
เป็นโอรสท้าวยศวิมล    แจ้งความตามต้นที่หม่นหมอง
ที่แปลงมาจะหาคู่ครอง    จงทราบฝ่าละอองบทมาลย์


                    เมื่อนั้น    ท้าวสามนต์ตบพระหัตถ์ฉาดฉาน
ลูกเขยกูผู้ดีมีสันดาน    เป็นเผ่าพงศ์วงศ์วานกษัตรา
สมยศสมศักดิ์น่ารักใคร่    ทีนี้ไม่อับอายขายหน้า
พระลูบหลังลูบไหล่ไปมา    จูบซ้ายจูบขวาลูกข้างาม
อ้ายหกเขยยุพ่อให้ขับเจ้า    แค้นใจยายเฒ่าก็ไม่ห้าม
บิดาโฉดเขลาเบาความ    มิรู้เลยว่าจะงามถึงเพียงนี้
อย่าถือโทษโกรธพ่อเลยหนอลูก    ว่าลบหลู่ดูถูกขับลูกหนี
แม้นเจ้ามีชัยชนะคลี    พ่อจะมอบบุรีให้ครอบครอง




หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:16:27
สังข์ทองตอนเลือกคู่ หาเนื้อหาปลา (บทอาขยาน)

                    เมื่อนั้น    เจ้าเงาะแสนกลคนขยัน
พิศโฉมพระธิดาวิลาวัณย์    ผุดผาดผิวดังดวงเดือน
์งามละม่อมพร้อมสิ้นทั้งอินทรีย์    นางในธรณีไม่มีเหมือน
แสร้งทำแลเลี่ยงเบี่ยงเบือน    ให้ฟั่นเฟือนเตือนจิตคิดปอง
พระจึงตั้งสัตย์อธิษฐาน    แม้นบุญญาธิการเคยสมสอง
ขอให้ทรามสงวนนวลน้อง    เห็นรูปพี่เป็นทองต้องใจรัก

                    เมื่อนั้น    รจนารีมีศักดิ์
เทพไทอุปถัมภ์นำชัก    นงลักษณ์ดูเงาะเจาะจง
นางเห็นรูปสุวรรณอยู่ชั้นใน    รูปเงาะสวนไว้ให้คนหลง
ใคร ใคร ไม่เห็นรูปทรง    พระเป็นทองทั้งองค์อร่ามตา
ชะรอยบุญเราไซร้จึงได้เห็น    ต่อจะเป็นคู่ครองกระมังหนา
คิดพลางนางเสี่ยงมาลา    แม้นว่าเคยสมภิรมย์รัก
ขอให้พวงมาลัยนี้ไปต้อง    เจ้าเงาะรูปทองจงประจักษ์
เสี่ยงแล้วโฉมยงนงลักษณ์    ผินพักตร์ทิ้งพวงมาลัยไป

                   บัดนั้น    พระพี่เลี้ยงหลากจิตคิดสงสัย
อกเอ๋ยนี้เห็นเป็นอย่างไร    มารักใคร่อ้ายเงาะมิเคราะห์กรรม
ทำให้อายขายพักตร์เผ่าพงศ์    ไม่รักองค์เลยนักนิดผิดส่ำ
ไม่ปรึกษาหารือแต่สักคำ    จะมาทำให้พี่นี้พลอยยับ

                    เมื่อนั้น    ท้าวสามนต์เสียใจจนลมจับ
นางมณฑาเข้าประคองรองรับ    ขยำขยับไปสักหน่อยจึงค่อยคลาย
ลุกขึ้นกระทืบบาทตวาดอึง    อีรจนาดูดู๋มึงช่างมักง่าย
ทรลักษณ์อัปรีย์ไม่มีอาย    หน่อกษัตริย์ทั้งหลายไม่เอื้อเฟื้อ
มารักใคร่อ้ายเงาะทรชนคนอุบาทว์    ทุดช่างชั้วชาติประหลาดเหลือ
แค้นนักจักใคร่ให้แล่เนื้อ    แล้วเอาเกลือทาซ้ำให้หนำใจ
ว่าพลางฉวยได้ไม้เรียว    โกรธเกรี้ยวตัวสั่นหมั่นไส้
อีลูกชั่วน่าชังจังไร    เอาไว้ไยตีเสียให้แทบตาย




หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:17:29
รามเกียรติ์ตอนท้าวมาลีวราชว่าความ (บทอาขยาน)

                   เมื่อนั้น    ท้าวมาลีวราชเรืองศรี
ได้ฟังคั่งแค้นแสนทวี    ดั่งหนึ่งเอาตรีมาเสียบกัณฑ์
จึ่งว่าเป็นไฉนทศพักตร    จึงฮึกฮักดื้อดึงดัวยโมหันต์
มาติดใจฝูงเทพเทวัญ    ผูกพันว่านี้ก็ผิดไป
ทำไมกับท้าวโกสีย์    รถของเขามีเขาก็ให้
ว่าเลือกรักมักชังด้วยอันใด    ซ้ำติดใจคนกลางนางสีดา
ครั้นซักไซร้ไต่ถามเอาความจริง    หรือกับติงทุเลาต่อว่า
ตัวกูผู้เป็นอัยกา    พิพากษาลำเอียงหรือว่าไร
เจรจาความสัตย์ก็ไม่มี    ดั่งสตรีเด็กน้อยก็ว่าได้
หรือเทวาสุราลัย    พอใจในจตุราบาย
กูพิจารณาก็ได้ความ    คำพระรามสีดาทั้งสองฝ่าย
ต้องถูกผูกพันเป็นต้นปลาย    ั้ทั้งคำเทพทั้งหลายก็สมกัน
ซึ่งเองกล่าวหาทุกข้อ    ล้วนแกล้งติตต่อให้เหมาะมั่น
สืบสวนก็ไม่ได้เป็นสัทธรรม์    สารพันทรลักษณ์อัปรีย์
เห็นจริงว่าตัวบังอาจ    ไปลอบลักอัคราชมเหสี
ขององค์พระรามจักรี    อสุรีเร่งส่งนางสีดา




หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:18:42
พระอภัยมณีตอนครองเมืองผลึก (บทอาขยาน)

บัดเดี๋ยวดังหง่างเหง่งวังเวงแว่ว    สะดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา
เห็นโยคีขี่รุ้งพุ่งออกมา    ประคองพาขึ้นไปยังบรรพต
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์    มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด    ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
มนุษย์นี้ที่รักอยู่สองสถาน    บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน    เกิดเป็นคนคิดเห็นพึงเจรจา
แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ    ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา    รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
จงคิดตามไปเอาไม้เท้าเถิด    จะประเสริฐสมรักเป็นศักดิ์ศรี
พอเสร็จคำสำแดงแจ้งคดี    รูปโยคีหายวับไปกับตา




หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:19:44
บทอาขยานตอนอุศเรนรบแพ้ถูกจับตัวได้

อุศเรนเอนเอกเขนกขนอง    ตามทำนององอาจไม่ปรารถนา
เราก็รู้ว่าท่านเจ้ามารยา    ที่พามาหมายเชือดเอาเลือดเนื้อ
ไม่สมนึกศึกพลั้งลงครั้งนี้    จะกลับดีด้วยสัตรูอดสูเหลือ
เราก็ชายหมายมาดว่าชาติเชื้อ    ไม่เอื้อเฟื้อฝากตัวไม่กลัวตาย
จงห้ำหั่นบั่นเกล้าเราเสียเถิด    จะไปเกิดมาใหม่ดังใจหมาย
แกล้งจ้วงจาบหยาบช้าพูดท้าทาย    จะใคร่ตายเสียให้ลับอัปประมาณ

 


หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:21:39
ความเอ๋ยความรัก

               ความเอ๋ยความรัก     แรกสมัครชั้นต้น ณ หนไหน
เริ่มจำเพาะเหมาะกลางหว่างหัวใจ    หรือเริ่มในสมองตรองจงดี
แต่แรกเกิดเป็นไฉนใครรู้บ้าง    อย่าอำพรางตอบสำนวนให้ควรที่
ใครถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงรตี    ผู้ใดมีคำตอบขอบใจเอย

               ตอบเอ๋ยตอบถ้อย    เกิดเมื่อเห็นน้องน้อยอย่าสงสัย
ตาประสบตารักสมัครไซร้    เหมือนหนึ่งให้อาหารสำราญครัน
แต่ถ้าแม้สายใจไม่สมัคร    เหมือนฆ่ารักเสียแต่เกิดย่อมอาสัญ
ได้แต่ชวนเพื่อนยามาพร้อมกัน    ร้องรำพันสงสารรักหนักหนาเอย




หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:23:00
นิราศเดือน

โอ้อกเรามีกรรมทำไฉน    จึงจะได้แนบชิดขนิษฐา
ได้แต่ชื่อไว้ชมตรมอุรา    ถึงได้ผ้าไว้ห่มก็ตรมใจ
ถึงได้แหวนไว้ชมก็ตรมจิต    ไม่เหมือนได้มิ่งมิตรพิสมัย
ได้ของอื่นหมื่นแสนในแดนไตร    ไม่เหมือนได้นิ่มน้องประคองนอน

จะว่าโศกโศกอะไรที่ในโลก    ไม่เท่าโศกใจหนักเหมือนรักสมร
จะว่าหนักหนักอะไรในดินดอน    ถึงสิงขรก็ไม่หนักเหมือนรักกัน
จะว่าเจ็บเจ็บแผลพอแก้หาย    ถ้าเจ็บกายแล้วชีวาจะอาสัญ
แต่เจ็บแค้นนี่แลแสนจะเจ็บครัน    สุดจะกลั้นสุดจะกลืนขืนอารมณ์

จะว่าขมขมอะไรในพิภพ    ไม่อาจลบบอระเพ็ดที่เข็ดขม
ถึงดาบคมก็ไม่สู้คารมคม    จะว่าลมลมปากนี้มากแรง
จะว่าเมาเมาอะไรก็ไม่หนัก    อันเมารักเช่นนี้มีทุกแห่ง
เกิดยุ่งยิ่งชิงกันถึงฟันแทง    ใครพลาดแพลงล้มตายวายชีวา



หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:23:55
พลตรี หลวงวิจิตรวาทการ

อันที่จริง   คนเขาอยาก  ให้เราดี    

แต่ถ้าเด่น   ขึ้นทุกที    เขาหมั่นไส้

จงทำดี   แต่อย่าเด่น   จะเป็นภัย    

ไม่มีใคร   เขาอยากเห็น  เราเด่นเกิน



หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:24:51
อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ     

ประเสริฐสุดซ่อนไว้เสียในฝัก

สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก    

จึงค่อยชักเชือดฟันให้บรรลัย


หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 01:25:29
อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก     

แต่ลมปากหวานหูมิรู้หาย

อันเจ็บอื่นหมื่นแสนจะแคลนคลาย    

เจ็บจนตายนั้นให้เหน็บเพราะเจ็บใจ


หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 10:44:42


                         ชอบๆๆ ขอบคุณค่ะ..

                    อยากได้กลอนที่นางทองประศรีจะบวชลูกพลายแก้ว(งาม?)
                          น่ะค่ะ.. ทีี่  ฝ่ายพวกข้าไทไปหาของ...       
                     ...เอิกเิกริกกราวเกรียวด้วยศรัทธา น่ะค่ะ.. นะคะ..  (:Y:)
                        (:QS:)  ขอบคุณไว้ก่อน  (:SY:) ขอบคุณค่ะ...


หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 19 พฤศจิกายน 2553 12:46:04
วันนี้ลองช่วยหาอีกแรง แต่หาไม่เจอเลย

แม้แต่ตัวร้อยกรองแบบเต็ม ๆ ก็หาไม่ได้เลยครับ

แปลกที่ว่า วรรณคดีเรื่องสำคัญ

แต่ไม่เคยมีใครนำฉบับเต็มมาลง



หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: kaewjanaron ที่ 10 ธันวาคม 2553 23:44:57
http://www.reurnthai.com/wiki/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99 (http://www.reurnthai.com/wiki/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99)

ที่เรือนไทยตู้หนังสือครับ เยอะหน่อยครับผม
ผมอาจสับสนนะครับ ขอโทษนะครับหาได้เท่านี้เอง แฮะๆ ^^

ธรรมะอวยพรครับ


หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 10 ธันวาคม 2553 23:46:42

ทองประศรีว่ากรรมเอ๋ยกรรมแล้ว ... พ่อแก้วแก้วตาของแม่เอ๋ย
บวชก่อนเถิดอย่าเพ่อมีเมียเลย ......... แม่จะได้ชมเชยชายจีวร
พ่อเจ้าเขาก็ตายไปนานแล้ว ............... ลูกแก้วจงโปรดแกเสียก่อน
บวชสักสองพรรษาอย่าอาวรณ์ .......... สึกมาแม่จะผ่อนให้มีเมีย ฯ


และมีเนื้อความตอนหนึ่งในเรื่องขุนช้างขุนแผนที่บ่งชี้ให้เห็นการบวชเรียนใน อดีตได้ดีว่า

    * อยากจะเป็นทหารชาญชัย          ให้เหมือนพ่อขุนไกรที่เป็นผี
    * จึงอ้อนวอนมารดาได้ปราณี        ลูกนี้จะใคร่รู้วิชาการ
    * พระสงฆ์องค์ใดวิชาดี                แม่จงพาลูกนี้ไปฝากท่าน
    * ให้เป็นอุปัชฌาย์อาจารย์            อธิษฐานบวชลูกเป็นเณรไว้
    * ครานั้นทองประศรีผู้มารดา          ได้ฟังลูกว่าหาขัดไม่
    * อันสมภารที่ชำนาญในทางใน      ท่านขรัววัดสมใหญ่แลดีครัน
    * เจ้าคิดนี้ดีแล้วแก้วแม่อา             แม่จะพาไปฝากขรัวบุญนั่น
    * จะได้รู้การณรงค์คงกระพัน          ให้เหมือนกันสืบต่อพ่อขุนไกรฯ

http://lanpanya.com/chaiwut28/?p=13 (http://lanpanya.com/chaiwut28/?p=13)
ขอบคุณลิ้งค์ที่มาจาก น้องแก้วจ๋า เวปใต้ร่มธรรมค่ะ


หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 10 ธันวาคม 2553 23:53:33

http://www.reurnthai.com/wiki/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99 (http://www.reurnthai.com/wiki/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99)

ที่เรือนไทยตู้หนังสือครับ เยอะหน่อยครับผม
ผมอาจสับสนนะครับ ขอโทษนะครับหาได้เท่านี้เอง แฮะๆ ^^

ธรรมะอวยพรครับ

  (o0!)  เพียบ!

 (:88:)  (:Y:)  (:88:)

ขอบคุณน้องแก้วจ๋าค่ะ มากมายยยย...


หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 11 ธันวาคม 2553 07:40:52
กาพย์เห่เรือเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์(เจ้าฟ้ากุ้ง) ๑

เห่ชมเรือกระบวน

โคลง

ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย
ทรงรัตนพิมานชัย กิ่งแก้ว
พรั่งพร้อมพวกพลไกร แหนแห่
เรือกระบวนต้นแพร้ว เพริศพริ้งพายทอง

กาพย์

พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย
กิ่งแก้วแพร้วพรรณราย พายอ่อนหยับจับงามงอน
นาวาแน่นเป็นขนัด ล้วนรูปสัตว์แสนยากร
เรือริ้วทิวธงสลอน สาครลั่นครั่นครื้นฟอง

เรือครุฑยุดนาคหิ้ว ลิ้วลอยมาพาผันผยอง
พลพายกรายพายทอง ร้องโห่เห่โอ้เห่มา
สรมุขมุขสี่ด้าน เพียงพิมานผ่านเมฆา
ม่านกรองทองรจนา หลังคาแดงแย่งมังกร

สมรรถชัยไกรกาบแก้ว แสงแวววับจับสาคร
เรียบเรียงเคียงคู่จร ดั่งร่อนฟ้ามาแดนดิน
สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์
เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม

เรือชัยไวว่องวิ่ง รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม
เสียงเส้าเร้าระดม ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน
คชสีห์ที่ผาดเผ่น ดูดังเป็นเห็นขบขัน
ราชสีห์ที่ยืนยัน คั่นสองคู่ดูยิ่งยง

เรือม้าหน้ามุ่งน้ำ แล่นเฉื่อยฉ่ำลำระหง
เพียงม้าอาชาทรง องค์พระพายผายผันผยอง
เรือสิงห์วิ่งเผ่นโผน โจนตามคลื่นฝืนฝ่าฟอง
ดูยิ่งสิงห์ลำพอง เป็นแถวท่องล่องตามกัน

นาคาหน้าดังเป็น ดูเขม้นเห็นขบขัน
มังกรถอนพายพัน ทันแข่งหน้าวาสุกรี
เลียงผาง่าเท้าโผน เพียงโจนไปในวารี
นาวาหน้าอินทรี มีปีกเหมือนเลื่อนลอยโพยม

ดนตรีมี่อึงอล ก้องกาหลพลแห่โหม
โห่ฮึกครึกครื้นโครม โสมนัสชื่นรื่นเริงพล
กรีธาหมู่นาเวศ จากนคเรศโดยสาชล
เหิมหื่นชื่นกระมล ยลมัจฉาสารพันมีฯ

(http://www.yimwhan.com/board/data_user/RFAC/photo/cate_1/r70_31.jpg)

ชอบค่ะ..แล้วจะมาโพสต์..ต่อเรื่อยๆ


หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 18 ธันวาคม 2553 00:27:42
โหย ขอบคุณมาก ๆ ครับ


หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 19 ธันวาคม 2553 12:07:04
กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ๑
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒

เห่ชมเครื่องคาว

โคลง

แกงไก่มัสมั่นเนื้อ นพคุณ พี่เอย
หอมยี่หร่ารสฉุน เฉียบร้อน
ชายใดบริโภคภุญช์ พิศวาส หวังนา
แรงอยากยอหัตถ์ข้อน อกให้หวนแสวง ๚

กาพย์

มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา

ยำใหญ่ใส่สารพัด วางจานจัดหลายเหลือตรา
รสดีด้วยน้ำปลา ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ

ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม เจือน้ำส้มโรยพริกไทย
โอชาจะหาไหน ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง

หมูแนมแหลมเลิศรส พร้อมพริกสดใบทองหลาง
พิศห่อเห็นรางชาง ห่างห่อหวนป่วนใจโหย

ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย
รสทิพย์หยิบมาโปรย ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ

เทโพพื้นเนื้อท้อง เป็นมันย่องล่องลอยมัน
น่าซดรสครามครัน ของสวรรค์เสวยรมย์

ความรักยักเปลี่ยนท่า ทำน้ำยาอย่างแกงขม
กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม ชมไม่วายคล้ายคล้ายเห็น

ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น
ใครหุงปรุงไม่เป็น เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ

เหลือรู้หมูป่าต้ม แกงคั่วส้มใส่ระกำ
รอยแจ้งแห่งความขำ ช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม

ช้าช้าพล่าเนื้อสด ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม
คิดความยามถนอม สนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์

ล่าเตียงคิดเตียงน้อง นอนเตียงทองทำเมืองบน
ลดหลั่นชั้นชอบกล ยลอยากนิทรคิดแนบนอน

เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน
เจ็บไกลในอาวรณ์ ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง

รังนกนึ่งน่าซด โอชารสกว่าทั้งปวง
นกพรากจากรังรวง เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน

ไตปลาเสแสร้งว่า ดุจวาจากระบิดกระบวน
ใบโศกบอกโศกครวญ ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ

ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน
ผักหวานซ่านทรวงใน ใคร่ครวญรักผักหวานนาง ๚

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/810/26810/images/kit.jpg)


หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 19 ธันวาคม 2553 12:11:12
ขอบคุณครับ อ.ขม เคยท่องบางบทตอนเรียนประถม ๕๕๕


หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 19 ธันวาคม 2553 17:14:10



ขอบคุณนะคะ..   (:SY:)


หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: ขม..ค่ะึึ ที่ 20 ธันวาคม 2553 14:59:10
ประเพณีการเห่เรือของไทยมี ๒ ประเภท คือ
๑. เห่เรือหลวง 
เป็นการเห่ในพระราชพิธี ในสมัยโบราณสันนิษฐานว่าใช้ภาษาสันสกฤตของอินเดีย
ซึ่งเป็นมนต์ในตำราไสยศาสตร์ ต่อมาได้นำบทพระราชนิพน์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์มาใช้เห่เรือหลวง

๒. เห่เรือเล่น 
เห่ในเวลาแล่นเรือเที่ยวแตร่ เพื่อความรื่นเริงและให้ฝีพายพายพร้อมๆ กัน
การเห่เรือเล่นใช้ภาษาไทย การพายใช้สองจังหวะคือ จังหวะจ้ำกับจังหวะปกติ

การเห่เรือหลวงมี ๔ อย่าง คือ
เห่โคลงนำกาพย์ หรือเกริ่นโครง
เมื่อพระเจ้าแผ่นดินลงประทับในเรือพระที่นั่ง
ขณะเรือพระที่นั่งแล่นระหว่างทางใช้ทำนอง ช้าละวะเห่
ซึ่งเป็นทำนองเห่ช้าพลพายนกบินจังหวะช้า พอจวนถึงที่ประทับใช้ทำนอง สวะเห่
ระหว่างทางในการเดินทางกลับเป็นทำนอง มูลเห่
เมื่อจบบทพายจ้ำสามทีส่งทุกบท

กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์มี ๒ ตอน

ตอนที่ ๑
ชมพยุหยาตราทางชลมารคตั้งแต “พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย”
ต่อจากชมกระบวนเรือ ว่าด้วยชมปลา ชมไม้ ชมนก เป็นลักษณะนิราศ
กาพย์เห่เรือเรื่องนี้เห็นได้ในสำนวนว่า
เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ทรงนิพนธ์สำหรับเห่เรือของท่านเอง
เวลาตามเสด็จขึ้นพระพุทธบาท ออกจากจังหวัดพระนครศรีอยุทธยาแต่เช้า
พอตกเย็นก็ถึงท่าเจ้าสนุก ตอนที่ ๑ กล่าวชมเรือกระบวน ชมปลา ชมไม้ ชมนก
และแทรกบทครำครวญถึงนางอันเป็นที่รัก

ตอนที่ ๒
คำสังวาส เอาเรื่องพระยาครุฑลักนางกากีมาทำบทขึ้นต้นว่า...
“กางกรโอบอุ้มแก้ว เจ้างามแพร้วสบสรรพพางค์”
แล้วว่าต่อไปเป็นกระบวนสังวาสจนจบ
บทที่ ๒ เป็นบทเห่เรียกว่า เห่กากี เป็นบทคร่ำครวญถึงนางอันเป็นที่รักเพียงอย่างเดียว
ในที่นี้จะยกตัวอย่างให้ศึกษาบางตอนคือ
บทเห่ชมเรือกระบวน บทเห่ชมปลา บทเห่ชมไม้ บทเห่ชมนก และจบลงด้วยบทเห่ครวญ

ลักษณะการแต่ง
ประกอบด้วยโคลงสี่สุภาพ ๑ บท
ใช้เป็นบทนำกระบวนความแต่ละตอน
และต่อด้วยกาพย์ยานี ๑๑
พรรณนาความของเนื้อหาในเนื้อเรื่อง จนจบตอนหนึ่งๆ
โดยไม่จำกัดจำนวนบท

ลักษณะพิเศษของกาพย์เห่เรือ

๑. ลักษณะของสำนวนและความหมาย

ใช้สำนวนกะทัดรัด มีความหมายเด่นชัด
เข้าใจง่ายและมีน้ำหนักอย่างเหมาะสม เช่น

พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย
กิ่งแก้วแพรวพรรณราย พายอ่อนหยับวับงามงอน

๒. ลักษณะถ้อยคำ
ใช้ถ้อยคำเกลี้ยงเกลาสละสลวย
ไพเราะด้วยการสัมผัสและทำให้เกิดภาพพจน์ เช่น

เนื้ออ่อนอ่อนแต่ชื่อ เนื้อน้องหรืออ่อนทั้งกาย
ใครต้องข้องจิตชาย ไม่วายนึกตรึกตรึงทรวง

๓. ลักษณะการพรรณนา
การพรรณนาความรู้สึกลึกซึ้งและแยบคายมาก เช่น

แก้มช้ำช้ำใครต้อง อันแก้มน้องช้ำเพราะชม
ปลาทุกทุกข์อกตรม เหมือนทุกข์ที่พี่จากนาง

๔. ลักษณะอารมณ์
เกิดอารมณ์สะเทือนใจ เช่น

เพรางายวายเสพรส แสนกำสรดอดโอชา
อิ่มทุกข์อิ่มชลนา อิ่มโศกาหน้านองชล

๕. ลักษณะการแต่ง
แต่งถูกต้อง มีการเล่นอักษร
มีสำนวนอุปมาอุปไมย เช่น

รอนรอนสุริยโอ้ อัสดง
เรื่อยเรื่อยลับเมรุลง ค่ำแล้ว
รอนรอนจิตจำนง นุชพี่ เพียงแม่
เรื่อยเรื่อยเรียมคอยแก้ว คลับคล้ายเรียมเหลียว

๖. กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์
ให้ความรู้สึกและอารมณ์คล้อยตาม เพียบพร้อมด้วยคุณค่าด้านวรรณศิลป์
นอกจากนี้บทเห่เรือและท่วงทำนองการเห่
ยังมีความไพเราะทั้งถ้อยคำลีลาและทำนองการเห่
ทำให้เกิดความสุนทรีย์ทางอารมณ์อย่างยิ่ง

ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย
ทรงรัตนพิมานชัย กิ่งแก้ว
พรั่งพร้อมพวกพลไกร แหนแห่
เรือกระบวนต้นแพร้ว เพริศพริ้งพายทอง

๗. ภาพของการเสด็จทางชลมารคของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
เป็นบทที่แสดงบรรยายโวหาร บอกถึงความสง่างามของกระบวนเรือ
กล่าวคือบรรยายถึงเหตุการณ์เมื่อพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศมาถึงแม่น้ำ
ก็มีพลทหารห้อมล้อมมาเป็นขบวน และบรรรยายถึงภาพของเรือ
ที่แสงประกายแพรวพราวเนื่องจากการสะท้อนของแสงจากไม้พายสีทอง

พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย
กิ่งแก้วแพร้วพรรณราย พายอ่อนหยับจับงามงอน

๘. ภาพของเรือพระที่นั่งกิ่ง
เป็นบทที่บรรยายถึงความงดงามงามแพรวพราวของกระบวนเรือ
ความอ่อนช้อยของการพาย ในกาพย์เห่เรือตอนเห่ชมกระบวนเรือ
มีการใช้คำอุปมาเปรียบเรือพระที่นั่งกับสิ่งต่างๆที่อยู่บนสวรรค์

สรมุขมุขสี่ด้าน เพียงพิมานผ่านเมฆา
ม่านกรองทองรจนา หลังคาแดงแย่งมังกร
สมรรถไชยไกรกาบแก้ว แสงแวววับจับสาคร
เรียบเรียงเคียงคู่จร ดั่งร่อนฟ้ามาแดนดิน
สุวรรณหงส์ทรงภู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์
เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลือนเตือนตาชม
เรือไชยไวว่องวิ่ง รวดเร็วจริงยิ่งอย่างลม
เสียงเส้าเร้าระดม ห่มท้ายเยิ่นเดินคู่กัน ฯ
เรือม้าหน้ามุ่งน้ำ แล่นเฉื่อยฉ่ำลำระหง
เพียงม้าอาชาทรง องค์พระพายผายผันผยอง

๙. ในกาพย์เห่เรือตอนเห่ชมกระบวนเรือ
มีการใช้คำที่เน้นสัมผัสการประพันธ์ กาพย์เห่เรือ
จะมีการใช้คำสัมผัสจำนวนมาก
ทำให้เกิดความไพเราะในการอ่านเป็นอย่างมาก

ดนตรีมี่อึงอล ก้องกาหลพลแห่โหม
โห่ฮึกครึกครื้นโครม โสมนัสชื่นรื่นเริงพล
คชสีห์ที่ผาดเผ่น ดูดังเป็นเห็นขบขัน
ราชสีห์ทียืนยัน คั่นสองคู่ดูยิ่งยง

การพิจารณาคุณค่าด้านวรรณศิลป์ เรื่องกาพย์เห่เรือ

๑. เนื้อหา

แบ่งออกเป็น ๕ ตอน คือ
๑.๑ การชมขบวนเรือในเวลาเช้า ได้พรรณนาไว้อย่างละเอียด พิสดาร
๑.๒ การชมฝูงปลาในเวลาสายอุปมาอุปไมยอย่างแจ่มชัดและกินใจอย่างยิ่ง
๑.๓ การชมพรรณนาดอกไม้ในเวลากลางวัน สอดใส่ความรู้สึก และอารมณ์ให้ผู้อ่านคล้อยตาม
๑.๔ การชมฝูงนกในเวลาเย็น อุปมาอุปไมยแจ่มชัด เด่นชัด
๑.๕ การคร่ำครวญถึงนาง ในเวลากลางคืน สร้างบรรยากาศเชิงอรรถรสและวังเวง

๒. รูปแบบ
ลักษณะคำประพันธ์ ใช้กาพย์ห่อโคลง คือ

แต่งโคลงสี่สุภาพแล้วแต่งกาพย์เลียนแบบพรรณนาเพิ่มเติม
ศิลปการประพันธ์ทำให้เกิดภาพพจน์ แบะความรู้สึกทางสุนทรียะอันได้แก่
ความชื่นชมในสิ่งสวยงามตามธรรมชาติ ความไพเราะของดนตรี
ความรู้สึกแยบคายทางอารมณ์สะเทือนใจ

กาพย์เห่เรือ (เห่ชมกระบวนเรือ)
เป็นบทที่บรรยายถึงความงามของกระบวนเรือ
ลักษณะเรือแต่ละชนิด การจัดรูปขบวนเรือ
ซึ่งมีความงามไพเราะเพราะพริ้งเป็นอย่างยิ่ง
มีความเด่นชัดในคุณค่าทางวรรณศิลป์ คือ คำ สัมผัส และโวหาร
ภาพพจน์ชวนจินตนาการถึงความงามสง่าของกระบวนเรือ

การพิจารณาคุณค่าด้านสังคม เรื่องกาพย์เห่เรือ

๑. สะท้อนภาพชีวิตคนไทยด้านการคมนาคม
แสดงการสัญจรทางน้ำให้เห็นว่าเมืองไทยมีแม่น้ำลำคลองมาก

๒. แสดงถึงขนบธรรมเนียมประเพณี เช่น
ประเพณีการแต่งกาย ผู้หญิงห่มผ้าสไบคลุมไหล่ เป็นต้น
การไว้ทรงผม ผู้หญิงนิยมไว้ผมยาวประบ่าแล้วเก็บไรที่ถอนผมออกเป็นวงกลม
การบอกเวลา นิยมใช้กลอง ฆ้องเป็นเครื่องบอกเปลี่ยนเวลา

(http://learners.in.th/file/paramapron/uu7vbch9lvz137226y4q.jpg)


หัวข้อ: Re: เห็นฮิตกันจังห้องกลอนนี่ ฮิตกว่าห้องอื่นอีก เอากลอนเด็ดๆดังๆ มาร่วมแจม
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 20 ธันวาคม 2553 17:22:13
โหสุดยอดครับ อ.ขม นอกจากมีกลอนมาให้แล้ว ยังมีความรู้เกี่ยวกับกลอนอีก

ชอบมากครับ ประดับสมอง อาหารสมองชั้นเลิศเลยครับ