[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 05 ธันวาคม 2553 11:50:20



หัวข้อ: การประจักษ์แจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 05 ธันวาคม 2553 11:50:20
(http://www.seesod.com/storage33/P9EdS5tr921272272573/l.jpg)

http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma

(https://8201217188606720352-a-1802744773732722657-s-sites.googlegroups.com/site/boodbrother/7star/chxpingbuy2/216148.gif?attachauth=ANoY7cqbT4N0DgdAc4UYVkUY08QsWpafwvf6P5GrsUcyca5eBoisUNoIf-rf2eJnsZ78M9ee0fK41MMIVTykCr7FKUwz9KSUtFMlq6Sqyf00Or_sRntJhdtd6AGCvuAxb63Khg73q_QsSqOs9vDpCU-pteV50lS0aHNptBkSeLYhhSD74ttQFdRToc_iX3PFt3iTtVcCyNZbQCjIYjXfZ-l_eXj8WpFfew%3D%3D&attredirects=0)

ท่านอาจารย์ค่ะ คือในขณะนี้ ธรรมเป็นสี่งที่มีจริง เป็นปรมัตถสัจจะ แล้วก็พิสูจน์

ลักษณะของสภาพธรรมได้ทุกขณะขึ้นอยู่กับปัญญาที่ได้รับฟัง และมีความเข้าใจมาก

น้อย เช่นในขณะนี้ทางตากำลังเห็น เป็นปกติธรรมดา ปัญญาที่จะรู้ลักษณะ

ของนามธรรมไม่ผิดปกติจากในขณะนี้เลย เพราะฉะนั้นผู้นั้นจึง

เป็นผู้มีปกติ อย่าลืมน่ะค่ะ ปกติจริง ๆ ค่ะ

ในขณะนี้ระลึกได้แล้วก็รู้ว่า ขณะนี้เป็นสภาพรู้ เป็นอาการรู้ ลักษณะรู้อย่างหนึ่ง

ซึ่งแต่ละบุคคลจะเป็นผู้ที่รู้ด้วยตนเองว่า ปัญญาของตนเอง เพี่มขึ้นบ้างไหมจากที่

กำลังเห็นนี้ แล้วก็เป็นปกติอย่างนี้ แล้วก็จะรู้ขึ้น เช่นเดียวกับทางหู ที่กำลังได้ยิน

เป็นลักษณะรู้ เป็นสภาพรู้

ธรรมเป็นเรื่องที่ขั้นฟังเข้าใจว่า ตลอดชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายเป็นนามธรรมและ

รูปธรรมทั้งหมด ความจริงแต่ละข้อความมที่ได้รับฟัง จะต้องถึงการพิสูจน์ หรือการ

ประจักษ์แจ้งโดยที่ว่าจะไม่เปลี่ยนเลยนะคะสภาพธรรมตั้งแต่เกิดจนตาย เป็นเพียง

นามธรรมและรูปธรรมเท่านั้น นี่ขั้นฟังเข้าใจ เพราะฉะนั้น การที่จะรู้ลักษณะของ

นามธรรมและรูปธรรมจึงเป็นในขณะไหนก็ได้ทั้งสี้น เพราะว่าตลอดชีวิตเป็นแต่เพียง

นามธรรมและรูปธรรมเท่านั้นจริง ๆ



http://d1.scribdassets.com/ScribdViewer.swf?document_id=28074439&access_key=key-2klyotl6rq7ve52f8tgs&page=1&viewMode=list


หัวข้อ: Re: การประจักษ์แจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 05 ธันวาคม 2553 11:52:27
(http://www.seesod.com/storage33/P9EdS5tr921272272573/l.jpg)


เพราะฉะนั้นในขณะที่กำลังเห็นแล้วไม่เคยรู้แม้ว่าจะฟังพระธรรมเป็นปี ๆ แต่ว่า

ทางตานี้ก็คงยาก ที่จะรู้จริงๆว่าสภาพรู้ คือขณะที่กำลังเห็นในขณะนี้ แต่ว่าเมี่อฟังไป

แล้วมีสติระลึกบ้างแล้วก็ฟังอีกเข้าใจอีก พิจารณาอีก สติเกิดระลึกอีก

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส บ่อย ๆ เพราะฉะนั้นผู้ที่อบรมเจริญปัญญาว่าสภาพธรรม

มีแต่ไม่คุ้นเคย ไม่เคยชินกับลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมเลย ทั้ง ๆ ที่มีอยู่ตลอด

เวลา ทางเดียวที่จะทำให้รู้ลักษณะของสภาพธรรมได้ถูกต้องก็คือ ระลึก สติเกิดแล้วก็

ค่อยๆเข้าใจขึ้นทีละเล็กทีละน้อย เนือง ๆ บ่อย ๆ การที่จะรู้ว่าเรี่มเข้าใจบ้าง ก็คือว่าไม่

สงสัยในหนทางที่ประพฤติปฏิบัติ คือไม่เข้าใจว่าจะมีทางอื่น ที่จะทำให้รู้เร็วหรือรู้ชัด

เพราะว่าต้องเป็นปัญญาของตนเอง แล้วจะละคลายความกระวนกระวายความต้องการ

ซึ่งอาจจะเกิดจากการที่เคยได้ยินได้ฟังว่า ถ้าปฏิบัติสักเดือนหนึ่งหรือ สามเดือนหรือว่า

อาจจะถึงปีหนึ่งโดยเข้มข้นก็จะทำให้ ปัญญาสามารถที่จะ ประจักษ์แจ้งลักษณะของ

สภาพธรรม และบางท่านก็อาจจะเข้าใจว่าสามารถที่จะหมดกิเลส รู้แจ้งอริยสัจจธรรม

เป็นพระอริยบุคคลขั้นต่าง ๆ ซึ่งบางท่านก็เข้าใจว่า ท่านรู้แจ้งอริยสัจจธรรม เป็นพระ

โสดาบันบ้าง หรือพระสกทาคามีบุคคล บ้าง

นั่นคือความต้องการ แต่ไม่ใช่การรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามปกติตามความเป็น

จริงไม่ต้องมีการเข้มข้น ขณะนี้สภาพธรรมกำลังปรากฏแล้ว ปกติให้รู้ลักษณะที่ต่าง

กันของขณะที่หลงลืมสติกับขณะที่สติเกิด สลับกันอย่างปกติ ให้เข้าใจว่าการสลับกัน

ของสติสัมปชัญญะที่เป็สติปัฏฐานที่ระลึกลักษณะของสภาพธรรมซึ่เกิดแล้วดับจะต้อง

เหมือนกับทางอื่นเช่นทางตาในขณะนี้ เห็นแล้วก็ดับหมดไป ได้ยินชั่วขณะแล้วก็หมด

ไปมีอะไรที่ผิดปกติบ้างในขณะที่เห็นแล้วก็ได้ยิน ไม่มีการผิดปกติเลย ฉันใด เวลาที่


หัวข้อ: Re: การประจักษ์แจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 05 ธันวาคม 2553 11:53:32
(http://www.seesod.com/storage33/P9EdS5tr921272272573/l.jpg)


ความเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมมีมากขึ้นเป็นสัญญาความจำที่มั่นคง เป็นเหตุปัจจัย

ทำให้สติเกิดระลึกลักษณะของสภาพธรรม ก็เหมือนกับทางตากับทางหู ทางตาจิตเกิด

ขึ้นแล้วก้ดับแล้วทางหูก็เกิดขึ้นต่อ ได้ยินแล้วก็ดับ

เพราะฉะนั้นสติปัฏฐานที่จะเกิดก็คือ ทางตาที่เห็น สติก็ระลึกตามปกติ แล้วก็

ดับสลับกัน เสียงสลับกับการได้ยิน สลับกับสภาพธรรมอื่น ๆ เป็นปกติ แตว่าในตอนต้น

สภาพธรรมย่อมไม่ปรากฏตามความเป็นจริง เพราะว่าต้องถึงขั้นวิปัสสนาญาณ จึงเป็น

ขั้นที่ประจักษ์แจ้งลักษณะของสภาพธรรมในขณะนั้น ตามความเป็นจริง ด้วยปัญญาที่

สามารถที่จะรู้ความต่างกันของนามธรรมและรูปธรรม แต่ละทางตามปกติ ตามความ

เป็นจริงได้ ต้องทราบว่าเป็นความปกติ และเป็นเรื่องละความต้องการ ถ้าใครยังมี

ความต้องการที่จะถึงเร็ว ๆ หรือรู้มาก ๆ แสดงว่าผู้นั้น เป็นไปตามกำลังของโลภะ

เพราะว่าไม่ใช่เรื่องความรู้ลักษณะของสภาพธรรมในขณะนี้ตามปกติ ในขณะที่อยากรู้

ชัดกับขณะที่สติระลึกก็ต่างกันใช่ไหมคะ ขณะใดที่สติปัฏฐานเกิดระลึก ขณะนั้นเป็น

ขณะที่จะเรี่มหรือจะเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมนั้นมากน้อยตามกำลังของปัญญา

แต่ขณะที่กำลังอยากแสดงว่า ขณะนั้นสติไม่ได้ระลึกลักษณะของสภาพธรรมอะไรเลย

เพียงแต่อยากแล้วก็หาหนทางที่จะทำให้รู้ แต่ไม่เข้าใจว่าสภาพธรรมมี ทางรู้คือสติ

ระลึกเท่านั้น แต่ถ้าสติไม่ระลึก ก็เป็นแต่เรื่องของความอยาก แล้วก็อาจจะทำให้

ไปแสวงหาทางอื่น มีการเข้าใจผิด และ ยึดมั่นในข้อปฏิบัตินั้น ๆ ด้วย

ความบางตอนจากการสนทนาธรรม มูลนิธิศึกษาอภิธรรม บ้านธรรมะ บุคโล ดาวคะนอง ธนบุรี



http://www.facebook.com/itsariyathanakorn (http://www.facebook.com/itsariyathanakorn)

http://twitter.com/kiss_99 (http://twitter.com/kiss_99)

http://forums.212cafe.com/boxser/ (http://forums.212cafe.com/boxser/)


หัวข้อ: Re: การประจักษ์แจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 05 ธันวาคม 2553 15:12:51
สาธุ อนุโมทนาครับ อ.บางครั้ง

 (^^) (^^) (^^) (^^) (^^)


หัวข้อ: Re: การประจักษ์แจ้ง
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 05 ธันวาคม 2553 15:26:03

(http://i.kapook.com/glitter/2009/th/12/T301109_01S.gif)

อนุโมทนาสาธุธรรมค่ะน้อง"บางครั้ง"
เคยได้อ่านของท่านปยุตแค่บางส่วน ขอบคุณนะคะมากมาย...