หัวข้อ: วัดป่าภูก้อน อ.นายูง จ.อุดรธานี เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 14:55:04 .
...เยือนวัดป่าภูก้อน ที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ พุทธศิลป์มิ่งมงคล ที่ทรงคุณค่าในกาลสมัยและต่อไปในอนาคต ของพุทธศาสนิกชนจากจตุรทิศ เป็นสมบัติของแผ่นดิน ที่มีความสง่างาม ในท่ามกลางมหารุกขปาริชาติภูก้อน...ป่าเขาลำเนาไพรอันอุดมสมบูรณ์ (http://www.sookjaipic.com/images_upload/41217143254147_1.JPG) พระวิหารสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์แห่งสมัยรัตนโกสินทร์ มีความกว้าง ๓๙ เมตร ยาว ๔๙ เมตร พร้อมศาลาราย ๕ หลัง อยู่บนลานเขาอาสนะพุทธะ วัดป่าภูก้อน บ้านนาคำใหญ่ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี วัดป่าภูก้อน ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ท้องที่บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี อันเป็นรอยต่อแผ่นดิน ๓ จังหวัด คือ อุดรธานี เลย และหนองคาย กำเนิดขึ้นจากการดำริชอบของพุทธบริษัทสี่ ผู้ตระหนักถึงคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและป่าต้นน้ำลำธาร ซึ่งกำลังถูกทำลาย โดยในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้เมตตาปรากฏในทิพยนิมิต สั่งให้ไปธุดงค์ทางภาคอีสานเป็นเวลา ๑๐ วัน คุณปิยวรรณและคุณโอฬาร วีรวรรณ พร้อมคณะได้เดินทางมาธุดงค์แถบจังหวัดสกลนครและอุดรธานี เกิดความเลื่อมใสในปฏิปทาของพระป่า จึงได้เข้าช่วยเหลือท่านพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก สำนักสงฆ์บ้านนาคำน้อย ในการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจัดตั้งเป็นวัดป่านาคำน้อย และปลูกป่าทดแทนฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมกว่า ๗๕๐ ไร่ อย่างถูกต้องตามระเบียบของกรมป่าไม้ เพื่อใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติธรรมและอยู่อาศัยของพระสงฆ์ จากนั้นท่านพระอาจารย์อินทร์ถวายได้พาไปดูป่าภูก้อนที่กำลังถูกสัมปทานตีตราตัดไม้ คณะศรัทธาจึงได้ตัดสินใจสร้างวัด โดยกราบอาราธนาท่านพระอาจารย์ชาลี ถิรธัมโม (ปัจจุบันเป็นพระครูจิตตภาวนาญาณ) เป็นประธานและขวัญกำลังใจในการก่อสร้าง และได้ทำเรื่องขอใช้ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาตินายูง-น้ำโสม เพื่อสร้างวัดในเนื้อที่ ๑๕ ไร่ จากกรมป่าไม้ จนได้รับอนุญาตเมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๓๐ ต่อมาได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกรมการศาสนา จนได้รับอนุญาตให้สร้างวัดในวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๓๐ และมีประกาศกระทรวงศึกษาธิการตั้งเป็น 'วัดป่าภูก้อน' ขึ้นในพระพุทธศาสนาเมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๓๐ เพื่อรักษาบริเวณวัดให้คงสภาพป่าอย่างสมบูรณ์ คณะศรัทธาจึงพยายามอย่างหนักที่จะขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่อยู่โดยรอบวัดด้วย ด้วยความเมตตากรุณาเป็นที่สุดของผู้ใหญ่ผู้มีพระคุณหลายท่านในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทย อันได้แก่ ท่านปลัดเถลิง ธำรงนาวาสวัสดิ์ ท่านปลัดจุลนภ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ท่านปลัดอนันต์ อนันตกูล ท่านอธิบดีจำนงค์ โพธิเสโร ที่เห็นคุณค่าของป่าและความตั้งใจจริงของคณะศรัทธาที่จะรักษาป่า จึงได้สนับสนุนช่วยเหลือจนเป็นผลสำเร็จ จนในที่สุดในวันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๓๑ ได้รับหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติเพื่อจัดตั้งพุทธอุทยานมีเนื้อที่ ๑,๐๐๐ ไร่ และได้รับขนานนามว่า 'พุทธอุทยานมหารุกขปาริชาติภูก้อน' ภายหลังยังได้รับความสนับสนุนจากอธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมชลประทาน ท่านต่อๆ มา ตลอดจนท่านผู้ใหญ่ในกรมตำรวจ กองทัพบก กองทัพอากาศ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค องค์การโทรศัพท์ อีกหลายท่าน วัดป่าภูก้อนได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ในวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๓๒ คณะศรัทธาจึงได้พร้อมใจกันจัดงานฝังลูกนิมิต โดยได้รับเกียรติจากท่านจุลนภ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ปลัดกระทรวงเกษตรและ สหกรณ์ในขณะนั้น เป็นประธานในพิธีตัดลูกนิมิตและผูกพัทธสีมา ณ วัดป่าภูก้อน เมื่อวันที่ ๑๓-๑๔ มกราคม ๒๕๓๓ และรวบรวมปัจจัยในงานจัดตั้งมูลนิธิ 'ปิยธรรมมูลนิธิ' ขึ้น เพื่อเกื้อกูลพระภิกษุสามเณรในวัดและงานสาธารณประโยชน์ต่างๆ ในท้องถิ่น พุทธอุทยานแห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่ธุดงควัตรของพระนวกะ จากโรงเรียนนายร้อยทั้ง 4 เหล่าทัพ ซึ่งอุปสมบทในภาคฤดูร้อน โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โปรดเกล้าฯ บรรพชาที่วัดบวรนิเวศฯ แล้วประทานอนุญาตให้มาอบรมกรรมฐานที่วัดป่าภูก้อน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 เป็นเวลา 5 ปี ติดต่อกันมา ปัจจุบันนี้วัดมีศาลาอุโบสถ ๒ ชั้น ๑ หลัง ซึ่งเป็นที่ประกอบพิธีสงฆ์ชั้นบนและเป็นที่ฉันชั้นล่าง มีกุฏิพระ ๔๕ หลัง เรือนครัว ๑ หลัง เรือนพักฆราวาส ๖ หลังถังเก็บน้ำคอนกรีต ๒๐ ถัง และห้องน้ำจำนวนมาก โดยใช้ระบบประปาภูเขา จากฝายเก็บน้ำดินขนาดเล็กที่เป็นแหล่งต้นน้ำซับและน้ำตกในวัด ซึ่งต่อมากรมชลประทานได้บูรณะถวายให้แข็งแรงถาวรในปี ๒๕๓๘ และวัดยังได้ต่อระบบประปาไปถึงหมู่บ้านนาคำที่อยู่ห่างจากวัดไป ๔ กม. เพื่อให้ชาวบ้านมีแหล่งน้ำใช้อย่างสะดวกและสะอาด ด้วยความสง่างามและความศักดิ์สิทธิ์ของอาณาเขตพุทธอุทยาน และป่าสงวนแห่งชาติบนเนื้อที่กว่า ๓,๐๐๐ ไร่ ที่กรมป่าไม้ได้ให้วัดป่าภูก้อนช่วยดูแลงานด้านป่าไม้ (เพิ่มขึ้นจากพื้นที่พุทธอุทยานเดิมอีก ๒,๐๐๐ ไร่) เพื่อรักษาป้องกันไฟป่าและการบุกรุกทำลายป่าล่าสัตว์ วัดป่าภูก้อนจึงเป็นที่สงบสัปปายะ วิเวกควรแก่การบำเพ็ญภาวนารักษากายวาจาและจิตใจในกรรมฐานเป็นที่สุด ดังมีผู้ได้พบเห็นหลักฐานความอัศจรรย์ของธรรมชาติแห่งนี้อยู่เสมอ คณะศรัทธา จึงร่วมกันดำริสร้างพระมหาเจดีย์ นามว่า "พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์" โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญคือ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐานในสถานที่อันสมควรเพื่อสักการะบูชา และแสดงกตัญญูกตเวทิตาแด่คุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และบุรพอาจารย์กรรมฐานในแถบอีสาน ทั้งยังเป็นมงคลสถานที่พุทธศาสนิกชน จะได้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของป่าไม้อันให้ประโยชน์ทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นที่ปฏิบัติขัดเกลาจิตใจ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวอีสาน ซึ่งควรร่วมกันส่งเสริมรักษาอย่างจริงจังตลอดไป องค์พระมหาเจดีย์แห่งนี้ เป็น ๑ ใน "โครงการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒" และได้อัญเชิญตราสัญลักษณ์ และพระรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประดิษฐานภายในองค์พระมหาเจดีย์ด้วย ในโอกาสนี้ท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยได้กราบทูลอัญเชิญเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นองค์ประธานประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระเกศ "พระร่วงรุ่งโรจน์ศรีบูรพา" พระประธานหน้าองค์พระมหาเจดีย์ ทรงลงพระนามาภิไธยและปลูกต้นสาละไว้ เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๔ และวัดป่าภูก้อนยังได้รับมอบประกาศนียบัตรจากกรมป่าไม้ เป็นวัดอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรป่าไม้ดีเด่น ระดับจังหวัดประจำปี ๒๕๔๔ ประเภทดูแลรักษาป่าดั้งเดิม ตั้งแต่ ๕๐๑ ไร่ขึ้นไป ในปัจจุบันนี้ วัดป่าภูก้อนดำรงคงอยู่ด้วยความสมดุลของป่าไม้ที่ทวีความอุดมสมบูรณ์ขึ้นทุกคืนวัน โดยบุคคลผู้มีความศรัทธาและระลึกคุณของสรรพสิ่งทั้งหลายของชาติและแผ่นดินอันเป็นที่กำเนิดแห่งชีวิต โดยมีคุณพระพุทธศาสนาเป็นเครื่องสำนึก และมีพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ที่ชาวไทยทุกคนควรทดแทน เป็นกำลังใจส่งเสริม พระสงฆ์ผู้ปฎิบัติดีปฏิบัติชอบให้ดำรงปฏิปทาของพระป่ากรรมฐานเพื่อบูชาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จนถึงที่สุด .....ข้อมูล : เว็บไซท์ watpaphukon. (http://www.sookjaipic.com/images_upload/46247241025169_3.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/62241700084672_4.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/75052196532487_2.JPG) พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี แปลว่า "พระพุทธรูปปางไสยาสน์แห่งพระมหามุนีผู้ทรงเป็นบรมครู ผู้ทรงเป็นที่พึ่งของชาวโลก" แกะสลักจากหินอ่อนขาว จากเมืองคาร์ราร่า ประเทศอิตาลี มีความยาว ๒๐ เมตร โดยใช้หินอ่อนจำนวน ๔๓ ก้อน รวมน้ำหนักทั้งหมดประมาณ ๗๒๐ ตัน (http://www.sookjaipic.com/images_upload/15639692751897_8.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/87893701303336_9.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/51128717139363_10.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/33199727162718_11.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/22417644949422_12.JPG) ฐานพระพุทธไสยาสน์ มีความยาว ๒๐ เมตร กว้าง ๕ เมตร รวมเป็นความยาวโดยรอบ ๖๐ เมตร ตกแต่งเป็นเรื่องราวพุทธประวัติ ก่อนและหลังปรินิพพานของพระมหาปรินิพพานสูตร ในการที่พระพุทธองค์ทรงวางพระพุทธศาสนาไว้ค้ำคูณโลก ด้วยภาพปั้นนูนต่ำหล่อด้วยทองแดง ใช้งบประมาณสร้างพระพุทธไสยาสน์รวมฐานราว ๗๑ ล้านบาท (http://www.sookjaipic.com/images_upload/94334079076846_a.JPG) เสาพระเจ้าอโศกหินแกะสลัก เครื่องหมายรำลึกถึงจักรพรรดิอโศกมหาราช เครื่องหมายเสาหินขนาดใหญ่ มีธรรมจักรยกขึ้นเหนือสิงห์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑.๘๐x๑.๘๐ เมตร ฐานเสามีขนาดกว้าง ๑.๕๐ เมตร สูง ๔.๕๐ เมตร รวมธรรมจักร โดยธรรมจักรแกะสลักจากหินไว้ท์คาร์ราร่าขนาดใหญ่ มีเสาหัวสิงห์ทำด้วยหินแกรนิตแดงอินเดีย ตั้ง ณ บริเวณตรงข้ามพระวิหารที่ประดิษฐานองค์พระพุทธไสยาส์โลกนาถศาสดามหามุนี โดยช่างแกะสลัก อ.นริศ รัตนวิมลและคณะ จากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย (http://www.sookjaipic.com/images_upload/15860662692122_13.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/63743620034721_a.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/73336608169807_6.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/89028076951702_7.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/76020274725225_1.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/92233051856358_2.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/64733139425516_3.JPG) ภายในพระวิหารออกแบบตกแต่งด้วยความวิจิตร เป็นปริศนาธรรม เครื่องเตือนสติ ให้สำนึกในสัจธรรม ยึดมั่นในคุณธรรมความดี เพื่อดำเนินไปสู่ความสิ้นสุดแห่งทุกข์ (http://www.sookjaipic.com/images_upload/90360739578803_4.JPG) (http://www.sookjaipic.com/images_upload/90316552503241_5.JPG) ป่าเขาลำเนาไพรที่แวดล้อมลานเขาอาสนะพุทธะ วัดป่าภูก้อน ตำบลนายูง จังหวัดอุดรธานี (http://www.sookjaipic.com/images_upload/97303382762604_6.JPG) บานประตูพระวิหาร (http://www.sookjaipic.com/images_upload/80860109544462_7.JPG) ...?!... |