[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => เอกสารธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558 12:25:45



หัวข้อ: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558 12:25:45
.


(https://scontent.fbkk12-2.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/18664544_216166332232388_5303338622900713171_n.jpg?oh=57ce8b2b4aa66499030c132b5ec62d60&oe=59A8D4C9)
ภาพจาก : ดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่

มีผู้ใดบ้างในโลกนี้ ที่ขึ้นไปสู่ที่สูงได้ โดยไม่เหยียบบันไดขั้นต่ำก่อน

'พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร' พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

ธรรมะจากพระอาจารย์

หัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา คือ การละทิ้งกิเลสเพื่อดับทุกข์และเข้าสู่พระนิพพาน ขณะที่สิ่งที่ถูกบิดเบือนมากที่สุดของพุทธศาสนา คือคำว่า "บุญ"

คำว่า บุญ มีความหมายว่า การชำระจิตใจให้สะอาด เช่น การใส่บาตรพระตอนเช้า คือ การชำระใจให้รู้จักให้ และแบ่งปัน เป็นการชำระใจเพื่อขจัดความโลภ

แต่ปัจจุบัน วัดจงใจบิดเบือนความหมายของคำว่า บุญ เพื่อสนองผลประโยชน์ของวัดต่างๆ ทั้งนี้เห็นว่าสิ่งที่ทุกวัดควรมี คือ พระต้องมีสมณะสัญญา ว่า เมื่อรับปัจจัยแล้ว จะเป็นของใคร ซึ่งในทางที่ถูกคือควรเป็นของพุทธศาสนาไม่ใช่เป็นของส่วนตัว ประชาชนที่ทำบุญควรเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของการถวายปัจจัยว่าถวายเพื่อพระศาสนา ไม่ใช่ถวายเป็นการส่วนตัว ส่วนปัญหาสำคัญอีกอย่างของการบิดเบือนพุทธศาสนา คือ ประชาชนชาวพุทธขาดวิจารณญาณในการทำบุญ ทำให้วัดต่างๆ หาวิธีจูงใจในการทำบุญเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ ทั้งนี้ถ้าชาวพุทธเข้าใจหลักศาสนาพุทธที่แท้จริง ปัญหาการบิดเบือนจะไม่เกิดขึ้น


พระราชธรรมนิเทศ วัดสวนแก้ว นนทบุรี



(http://www.sookjaipic.com/images_upload/81024204567074_194446207_b20be3feb6_1_.jpg)  

“มงกุฎประดับเพชร ก็มีค่าเท่ากับหมวกฟาง
พระคฑาอันมีลวดลายวิจิตร ก็เป็นเสมือนท่อนไม้ที่ไร้ค่า
เมื่อความตายมาถึงเข้า พระราชาก็ต้องถอดมงกุฎเพชรลงวาง ทิ้งคฑาไว้
... แล้วเดินเคียงคู่ไปกับชาวนาหรือขอทาน...
ผู้ได้ทิ้งจอบเสียม หมวกฟาง และคันไถ หรือภาชนะขอทานไว้ให้ทายาทของตน
ใครเล่าจะต่อกรกับพญามัจจุราชได้

ดูก่อนอานนท์
ธรรมและวินัยที่เราได้แสดงแล้ว และบัญญัติแล้วแก่เธอทั้งหลาย
ธรรมและวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย โดยกาลที่เราล่วงลับไป”

(https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQUZlrq20TRkfKUWb6ASC41piEfnhXiOSKILTzXxWT159Z7cUkRMA)

“ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ตถาคตขอเตือนพวกเธอทั้งหลายว่า
สิ่งทั้งปวงมีความเสื่อมและความสิ้นไปเป็นธรรมดา
ท่านทั้งหลายจงรักษาตนให้สมบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด”


พุทธภาษิต ปัจฉิมวัจนะแห่งพระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้า


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/44943528374036_nnn_1_1_.jpg)
พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต (ธมฺมวิตกฺโก ภิกฺขุ)
วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร
  
"ถ้าอาตมาขาดทำวัตรเมื่อใด นั้นก็หมายความว่าอาตมาสิ้นลมหายใจแล้ว"

"สำหรับอาตมานั้นต้องการให้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย อาตมาไม่อยากเกิดอีก
อาตมามั่นใจว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย
"
แล้วท่านก็พูดเป็นภาษาอังกฤษว่า
"This Life is the last"


.

(http://2.bp.blogspot.com/-uy9qVfh_-e4/T8oETXv3QdI/AAAAAAAAASY/_orGz2IW5Rc/s320/020612-1110.jpg)

..."ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การครองเรือนเป็นเรื่องยาก
เรือนที่ครองไม่ดี ย่อมก่อทุกข์ให้มากหลาย
การอยู่ร่วมกับคนพาลเป็นความทุกข์อย่างยิ่ง"...

ภิกษุทั้งหลาย เครื่องจองจำที่ทำด้วยเชือก เหล็ก หรือโซ่ตรวนใดๆ
เราไม่กล่าวว่าเป็นเครื่องจองจำที่แข็งแรงทนทานเลย
 
แต่เครื่องจองจำคือ บุตร ภรรยา ทรัพย์สมบัติ
นี่แลตรึงรัดมัดผูกสัตว์ทั้งหลายให้ติดอยู่ในภพอันไม่มีที่สิ้นสุด

เครื่องผูกที่หย่อนๆ แต่แก้ได้ยาก คือ บุตร ภรรยา สามี และทรัพย์สมบัตินี่เอง
รูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะ นั้นเป็นเหยื่อของโลก
 
เมื่อบุคคลยังติดอยู่ในรูป เป็นต้นนั้น เขาจะพ้นจากโลกมิได้เลย
ไม่มีรูปใดที่จะรัดรึงใจบุรุษได้มากเท่ารูปสตรี
"

พุทธวัจนะ แห่งพระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้า



(http://www.sookjaipic.com/images_upload/79722346820765_original_p021_1_.jpg)

เอถ  ปสฺสถิมํ  โลกํ  จิตฺตํ  ราชรถูปมํ
ยตฺถ  พาลา  วิสีทนฺติ  นตฺถิ  สงฺโค  วิชานตํ ฯ
สูทั้งหลาย จงมาดูโลกนี้อันตระการตาดุจราชรถ
ที่พวกคนเขลาหมกอยู่ แต่พวกผู้รู้หาข้องอยู่ไม่ฯ

พระคาถาพุทธศาสนสุภาษิต
ปรากฏอยู่ในพระธรรมวิจารณ์
ใน พระนิพนธ์ของสมเด็จพระมหาสมณะเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส


(https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQ6nSoKhd95UoOY9hvqDT5ZBMoEK43vd5V9NYtu7B5d638s6yWd)

คนที่ทูนของหนักไว้บนศีรษะตลอดเวลา ต้องลำบากด้วยภาระ ฉันใด
ภาระที่เราแบกอยู่ก็ฉันนั้น เราถูกไฟ ๓ กอง เผาอยู่ เป็นผู้แบกภาระคือภพ
เหมือนยกภูเขาพระสุเมรุมาวางไว้บนศีรษะ ท่องเที่ยวไปในภพ
คนผู้มีใจต่ำเกียจคร้าน ทิ้งความเพียรมีสุตะน้อย ไม่มีมรรยาท
อย่าได้สมาคมกับเราในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อ
ส่วนคนผู้มีสุตะมาก มีปัญญาตั้งมั่นในศีลเป็นผู้ประกอบด้วยความสงบใจ
ขอจงตั้งอยู่บนกระหม่อมของเราตลอดเวลา
ข้าพระองค์จะย่ำยีพวกเดียรถีย์ ประกาศศาสนาของพระชินเจ้า
จะเป็นธรรมเสนาบดีในศาสนา ของพระศากยบุตรตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ธรรมวาทะ พระสารีบุตร


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/51678937632176_sp007_1_1_.jpg)

เบื้องต้นพระองค์ได้ยกส่วนผิด ๒ อย่าง ซึ่งให้พวกเราละเลิก
ผู้มุ่งหวังโมกขธรรมเพื่อพ้นทุกข์
คือ กามสุขัลลิกานุโยค และ อัตตกิลมถานุโยค
 
ทั้ง กามอัตต์ทั้ง ๒ สั้นที่สุด กามคือความรัก อัตต์คือความชัง
ถ้าจิตใจของเรายังเอียงมาข้างรักบ้าง เอียงข้างชังบ้างก็ไม่ถูก

มัชฌิมาปฏิปทา ทางสายกลาง ความไม่รู้โทษแห่งความรัก
และความชังนี้ท่านเรียกว่า โมหะ หรือ อวิชชา

เมื่อพระองค์ชี้โทษทั้ง ๒ คือทางทั้ง ๒ นี้เสร็จสิ้นแล้ว
จึงชี้มัชฌิมาปฏิปทาทางสายกลางที่พระองค์ตรัสรู้  


หลวงปู่จวน กุลเชฏฺโฐ
วัดเจติยาคิรีวิหาร จังหวัดหนองคาย


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/30112138638893__3588_3641_3603_.gif)

สังขารตามที่ประชุมปรุงแต่งทั้งหลาย
ล้วนมีความเสื่อมและความสิ้นไปเป็นธรรมดา ไม่มีผู้ใดจะล่วงพ้นมันไปได้
ดังนั้น การจากไปของพระเดชพระคุณท่านหลวงปู่คูณ ปริสุทโธ จึงเป็นไปตามกฎธรรมดา  
ประการสำคัญ ขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านได้บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ เกื้อกูลแก่สังคมส่วนรวม
ทั้งประเทศชาติและพระศาสนา ไว้เป็นอเนกประการ
ทิ้งไว้ให้เราท่านทั้งหลายคอยระลึกนึกถึงท่านอยู่เสมอ เสมือนหนึ่งว่าท่านมิได้จากเราไป


ขอไว้อาลัยการจากไปของพระเดชพระคุณท่าน...
"มรณนฺตํ หิ ชีวิตํ" - ชีวิตมีความตายเป็นที่สุด
www.sookjai.com (http://www.sookjai.com)


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/49418546838892_DSC01649.JPG)
สถานที่ : โตเกียว ญี่ปุ่น

ที่ไหนๆ ในโลก ไม่ว่าประเทศไทยหรือในต่างประเทศ
จะพบว่ามีบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ทีหรูหราใหญ่โตสวยงามให้เห็นกันอยู่มากมาย
และถ้าจะถามว่า จิตใจของบุคคลที่อยู่ที่อาศัยในบ้านเรือนที่สวยงามเหล่านั้น
จะมีความเยือกเย็นเป็นสุขกว่าใจของคนอื่นๆ ที่มีฐานะต่ำกว่าเขาหรือไม่
ก็คงจะตอบได้ว่า ไม่แน่เสมอไป...
...ทั้งนี้ก็คงเพราะว่าเรื่องของวัตถุนั้น ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะก่อให้เกิดความสงบที่แท้จริงให้กับคนเราได้
วัตถุไม่ใช่สิ่งที่จะมาชำระล้างจิตใจของมนุษย์ได้ บ้านเรือนที่หรูหราจึงไม่ใช่เครื่องหมาย
ที่จะบอกได้ว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นมีจิตใจสงบมากน้อยเพียงไร


พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
วัดป่าแก้วบ้านชุมพล จ.สกลนคร

p.28-28


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 10 มิถุนายน 2558 19:44:48
.

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/18230149191286_IMG_6883.JPG)
พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถระ - ๑ มิถุนายน ๒๕๕๘

บูชาด้วย ดอกไม้ และธูปเทียน
กลับวนเวียน พาให้หลง เข้าดงได้
บูชาด้วย ปฏิบัติธรรม นำส่องใจ
ย่อมผ่องใส ถึงวิมุต สูงสุดเอย


ข้อคิดเชิงธรรมะ
จาก พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถร (ชา  สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง  อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
(ข้อคิดเชิงธรรมะ ความดังกล่าวข้างต้น ปรากฏที่แผ่นป้ายสีน้ำตาลตัวอักษรสีขาว ใต้โต๊ะหมู่บูชา)


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/13869260955187_IMG_6750.JPG)

ดูท่อนไม้นี้ซิ...สั้นหรือยาว?
สมมติว่า คุณอยากได้ไม้ที่ยาวกว่านี้ ไม้ท่อนนี้มันก็สั้น
แต่ถ้าคุณอยากได้ไม้สั้นกว่านี้ ไม้ท่อนนี้มันก็ยาว
หมายความว่า ‘ตัณหา’ ของคุณต่างหาก
ที่ทำให้มีสั้น มียาว มีดี มีชั่ว มีทุกข์ มีสุข ขึ้นมา.

หลวงพ่อชา

ธรรมะใต้เงาไม้
โดย พระโพธิญาณเถร (ชา  สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง  อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
๑ มิถุนายน ๒๕๕๘

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/21065537010629_IMG_6735.JPG)

พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า...
อานนท์ ปฏิบัติให้มาก ทำให้มาก แล้วจะสิ้นสงสัย
ความสงสัยจะไม่มีวันสิ้นไปได้ด้วยการคิด ด้วยทฤษฎี ด้วยการคาดคะเน
หรือด้วยการถกเถียงกัน หรือจะอยู่เฉยๆ ไม่ปฏิบัติภาวนาเลย
ความสงสัยก็หายไปไม่ได้อีกเหมือนกัน  
กิเลส...จะหายสิ้นไปได้ก็ด้วยการพัฒนาทางจิต...
ซึ่งจะเกิดได้ก็ด้วยการปฏิบัติที่ถูกต้องเท่านั้น...

หลวงพ่อชา

ธรรมะใต้เงาไม้
โดย พระโพธิญาณเถร (ชา  สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง  อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
๑ มิถุนายน ๒๕๕๘

.

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/51674218103289_b.JPG)
ที่ปักกลดครั้งแรกของพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) ในวัดหนองป่าพง

ปฏิบัตินี่อย่าว่าขยันอย่าว่าขี้เกียจ ธรรมดาคนเรานั้นขยันถึงจะทำ
ถ้าขี้เกียจแล้วไม่ทำ...แต่พระท่านไม่เอาอย่างนั้น ขยันก็ทำ...ขี้เกียจก็ทำ
...ไม่สนใจร้อน ไม่สนใจหนาว ละไปหัดไป ฝึกไปเรื่อยๆ เป็นสัมมาปฏิปทา

หลวงพ่อชา

ธรรมะใต้เงาไม้
โดย พระโพธิญาณเถร (ชา  สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง  อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
๑ มิถุนายน ๒๕๕๘

35-35 pot.12


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: เรือใบ ที่ 23 มิถุนายน 2558 19:26:03
สาธุ สาธุ สาธุ (:5:)


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 06 กรกฎาคม 2558 15:39:16
.

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/84221198906501_SAM_8963.JPG)
สถานที่ : วัดป่านานาชาติ (watpahnanachat)
ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
 
มันเป็นสมบัติของโลก
เราอยู่นี่ชั่วคราว...เมื่อเราไปก็เป็นสมบัติของโลก

หลวงพ่อชา

ธรรมะใต้เงาไม้
โดย พระโพธิญาณเถร (ชา  สุภทฺโท)
วัดป่านานาชาติ ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
๒ มิถุนายน ๒๕๕๘


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/94474247097969__3649_3585_3657_3623_.gif)

การทำความเข้าใจให้รู้ชัดว่า สิ่งทุกสิ่งมีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
ไม่ควรยึดมั่นถือมั่นในอะไรเลย นี้คือความรู้ตามความเป็นจริง

หลวงพ่อชา

ธรรมะใต้เงาไม้
โดย พระโพธิญาณเถร (ชา  สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
๑ มิถุนายน ๒๕๕๘
30-30 pot.11


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/95526708414157_SAM_8768.JPG)
 
ปลาเป็นจะลอยทวนกระแสน้ำ ปลาตายจะลอยตามกระแสน้ำ
เพราะฉะนั้น "เรา" ต้องสร้างความอดทน
บางครั้งต้องทวนกระแส...เหมือนปลาเป็นที่ลอยทวนกระแสน้ำ  

หลวงพ่อเลี่ยม

ธรรมะใต้เงาไม้
โดย พระราชภาวนาวิกรม (เลี่ยม ฐิตธมฺโม)
เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง ถัดจากพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
๑ มิถุนายน ๒๕๕๘
30-30 pot.11


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/97291625001364_SAM_8892.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/75578201231029_SAM_9306.JPG)
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง วิหารพระพุทธชินราช
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก
 
ยาวชีวมฺปิ เจ พาโล  ปณฺฑิตํ ปฏิรุปาสติ
น โส ธมฺมํ วิชานาติ ทพฺพิ สูปรสํ ยถา
ถึงจะอยู่ใกล้บัณฑิต    เป็นเวลานานชั่วชีวิต  
คนโง่ก็หารู้พระธรรมไม่   เหมือนจวักไม่รู้รสแกง

Though through all his life  
A fool associates with a wise man,
He yet understands not the Dhamma,
As the spoon the flavour of soup.


ธรรมะใต้เงาไม้
วัดดอนธาตุ ต.ทรายมูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
๓ มิถุนายน ๒๕๕๘
30-30 pot.11


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/73399290897779_e0b8a5e0b8b9e0b881e0b8aae0b8b2.jpg)
หยาดน้ำไม่ติดใบบัว วารีไม่ติดปทุม ฉันใด
มุนีย่อมไม่ติดในรูปที่เห็น ในเสียงที่ได้ยิน และในอารมณ์ที่ได้รับรู้ ฉันนั้น

(ขุ.สุ.๒๕/๔๑๓/๔๙๓)  

Just as a drop of water does not cleave to the lotus leaf,
or water to the lotus flower, a sage does not cleave to sights seen
sounds heard or experiences cognized.



(http://www.kidsdee.org/biography/19biography-of-Lord-Buddha.jpg)
เมื่อใด
ปัญญาเครื่องรู้เห็นตามที่เป็นจริง มีปริวัฏฏสาม
มีอาการสิบสอง ในอริยสัจทั้งสี่เหล่านี้ เป็นของบริสุทธิ์หมดจดด้วยดีแก่เรา
เมื่อนั้น เราปฏิญญาว่า เราได้ตรัสรู้พร้อมเฉพาะแล้วซึ่งอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ความหลุดพ้นของเราไม่กำเริบ ความเกิดนี้เป็นความเกิดคร้้งสุดท้าย
บัดนี้ ความเกิดอีกย่อมไม่มีแก่เรา


พุทธวัจนะ แห่งพระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้า


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/86300448783569_DSC01683.JPG)

"น หิ เวเรน เวรานิ สมฺมนฺตีธ กุทาจนํ อเวเรน จ สมฺมนฺติ เอส ธมฺโม สนนฺตโน"
"ในกาลไหนๆ ก็ดี ขึ้นชื่อว่าเวรกรรมแล้ว
บุคคลจะมาทำให้ระงับเสียด้วยก่อเวรก่อกรรมนั้นเป็นอันไม่ได้โดยแท้
ในกาลไหนๆ ก็ดี
โบราณกบัณฑิตท่านย่อมระงับเวรระงับกรรมให้สงบสงัดเสียได้
ด้วยความไม่ก่อเวรก่อกรรมแก่กันและกันต่อไปโดยอย่างเดียว


พระธรรมเทศนา
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท)



(http://www.sookjaipic.com/images_upload/54450949198669_SAM_1866.jpg)
จิตรกรรมฝาผนัง วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม อ.เมือง จ.ลำปาง

"๕ พอ"
๑.ให้มีศีลธรรมพอดี
๒.ให้มีวิชาพออาศัย
๓.ให้มีปัจจัยพอใช้
๔.ให้มีอนามัยพออยู่
๕.ให้มีบุญกุศลพอเพียง


'ธรรมะใต้เงาไม้'
วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๘



(http://www.sookjaipic.com/images_upload/54612082656886_17.JPG)
สถานที่ : วัดอุโมงค์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

จุดมุ่งหมายของการภาวนาแท้
คือการพิจารณาเห็นอัตภาพขันธ์อันนี้เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
มีสภาวะเกิดดับอยู่อย่างนั้น จนจิตสลดสังเวชเบื่อหน่าย
คลายความกำหนัดยินดีในรูปนาม ปล่อยวางอุปาทานเสียได้
ด้วยอำนาจวิปัสสนา นั่นจึงจะเรียกว่า ภาวนา


ธรรมิกถา...โดย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
๒๘ กรกฎาคม ๒๕๐๖

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/42376554881532_buddha04_1_.jpg)
ภาพวาดผลงาน ครูเหม เวชกร :
 
พรหมจรรย์
ภิกษุทั้งหลาย
พรหมจรรย์นี้ เราประพฤติเพื่อมิใช่หลอกลวงคน
พรหมจรรย์นี้ เราประพฤติเพื่อมิใช่ให้คนเคารพ กราบไหว้บูชา
พรหมจรรย์นี้ เราประพฤติเพื่อมิใช่หวังลาภยศ เกียรติ สรรเสริญ เพื่อมิใช่เป็นศาสดาเจ้าลัทธิ เพื่อล้มล้างลัทธิอื่น
แต่พรหมจรรย์นี้ เราประพฤติเพื่อ สำรวม สังวร ระวัง และในที่สุดเพื่อ นิโรธะ คือความดับสิ้นไปแห่งทุกข์เท่านั้นแล

หลวงปู่บุดดา ถาวโร
วัดกลางชูศรีเจริญสุข อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: เรือใบ ที่ 06 ธันวาคม 2558 20:30:22
สาธุ สาธุ สาธุครับ (:5:)


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 07 มีนาคม 2559 14:23:09

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/65077753985921_SAM_9312.JPG)

คาเม วา ยทิ วารญฺเญ     นินฺเน วา ยทิ วา ถเล
ยตฺถ อรหนฺโต วิหรนฺติ     ตํ ภูมิรามเณยฺยกํ
ไม่ว่าบ้าน ไม่ว่าป่า     ไม่ว่าที่ลุ่ม หรือที่ดอน
ท่านผู้ไกลกิเลส อยู่ที่ไหน     ที่นั้นไซร้คือสถานอันรื่นรมย์


ขุ.ธ.๒๕/๑๘/๒๘


.

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/91776286727852_SAM_7686.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/25790492031309_SAM_7677.JPG)
ภาพจาก: วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี

มารยาทชาวพุทธ
การนุ่งน้อย ห่มน้อย เข้ามาวัด
แต่งรูปรัด เอวองค์ ทรงจิ๊กกี๋
ไม่เหมาะ เข้าสถาน ลานเจดีย์
เสื่อมราศี ผิดทำนอง ของคนไทย


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/69350865152147__MG_6058_stitch_1.jpg)
ดอยอินทนนท์ - 9 เมษายน 2559
ภาพโดย : Mckaforce

มนุษย์เป็นประเภทสัตว์เมือง
เป็นสัตว์ประหลาดกว่าสัตว์จำพวกอื่น คือการสร้างกรรม
สามารถทำความชั่วและความดีได้ถึงที่สุดได้  

พระอุดมสังวรวิสุทธิเถร (พระอาจารย์วัน  อุตฺตโม)


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/85141519912415_k1.gif)

ทำบุญกันโว๊ย ตายก็เอาไปไม่ได้
หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท


หมายเหตุ
ข้อความข้างต้นมีปรากฏที่ป้ายไวนิล หน้าวัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม (๑๖ มี.ค.๕๙)
ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี  


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/60690668887562__3614_3619_3632_.jpg)

ผู้ถึงธรรม ไม่เศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงแล้ว ไม่พร่ำเพ้อถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง
ดำรงอยู่ด้วยสิ่งที่เป็นปัจจุบัน ฉะนั้นผิวพรรณจึงผ่องใส
ส่วนชนทั้งหลายผู้ยังอ่อนปัญญา เฝ้าแต่ฝันเพ้อถึงสิ่งที่ยังไม่มาถึง
และหวนละห้อยถึงความหลังอันล่วงแล้ว จึงซูบซีดหม่นหมอง
เสมือนต้นอ้อสด ที่เขาถอนทึ้งขึ้นทิ้งไว้ที่ในกลางแดด


สํ.ส.๑๕/๒๒/๗


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/40022565879755_4.jpg)

ภิกษุผู้ถอนภวตัณหาได้แล้ว มีจิตสงบแล้ว
สิ้นความเวียนเกิดแล้ว ย่อมไม่มีภพอีก

อุจฺฉินฺนภวตณฺหสฺส   สนฺตจิตฺตสฺส ภิกฺขโน
วิกฺขีโณ ชาติสํสาโร    นตฺถิ ตสฺส ปุนพฺภโว
ขุ.อุ.๒๕/๑๔๓


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/43282427390416__3623_.gif)
ภาพวาดลายเส้นปากกาลูกลื่นสีดำ ... kimleng

...ร่างกายนั้นไม่เหมือนอย่างจิตใจ จิตใจทำกิเลสที่บังเกิดขึ้นให้หมดสิ้นไปได้
แต่ว่าร่างกายนั้น ต้องมีความรู้สึกเย็น ร้อน เป็นต้น ที่เรียกว่า เวทนา มีสุขเวทนาบ้าง
ทุกขเวทนาบ้าง อทุกขมสุขเวทนาบ้าง  ท่านแสดงว่ากายของพระอริยบุคคล
หรือกายของปุถุชนต้องมีเวทนา เพราะว่ายังมีเบญจขันธ์อยู่...

พระธรรมเทศนา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 26 มกราคม 2560 09:00:55

อย่างเราๆ นับถือศาสนาพุทธ เพราะเหตุว่าพ่อแม่ปู่ย่าตายายนับถือกันมา
ก็เลยนับถือต่อจนเป็นประเพณี สักแต่ว่าเกิดมาในศาสนาพุทธ แล้วก็นับถือศาสนาพุทธไปจนตาย
เห็นพระพุทธรูปก็กราบ เห็นพระก็ยกมือไหว้ ทำบุญสุนทานกันเป็นประเพณีเรื่อยๆ ไป
โดยไม่คำนึงถึงการนับถือศาสนาพุทธนั้นหมายความว่าอย่างไรกันแน่
...นี่เป็นเรื่องน่าคิดอย่างยิ่ง...

ที่มา : "พระพุทธศาสนากับคึกฤทธิ์"
หม่อมราชวงศ์ คึกฤทธิ์ ปราโมช เขียน
------------------------------------
ภาพประกอบ : "มหาบพิตร นี่คือองคุลิมาล"
วาดประกอบการคัดลอกวรรณกรรมเรื่อง "กามนิต-วาสิฏฐี"
เผยแพร่เมื่อปี พ.ศ.๒๕๕๘


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/65094921530948__3585_3636_3617_3648_3621_3657.gif)

เรามองศาสนาแต่เพียงผิวเผิน มองศาสนาด้วยความห่างไกล
จึงต่างพากันเห็นศาสนาเป็นดินแดนแห่งความลึกลับ
เต็มไปด้วยของขลังและศักดิ์สิทธิ์ ซึ่ง นั่น! เป็นเปลือก เป็นกระพี้
และทั้งมิใช่เปลือกและกระพี้ของพระพุทธศาสนาด้วย หากเราใช้
วิจารณญาณให้ซึ้งด้วยดวงจิตอันสะอาด เราจะพบสิ่งซึ่งซ่อนเร้น
ล้นด้วยค่ายิ่งนัก สิ่งนั้นคือ “พระธรรม” คำสอนที่ให้ความเย็นใจ.


เจ้าคุณพระราชสุธี “เมื่อเราบวช” พิมพ์เผยแพร่เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๕



(http://www.sookjaipic.com/images_upload/82849022125204_5.JPG)
ภาพ : ตักบาตรเช้า ที่นครเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

การทำบุญ หรือใส่บาตร หรือบริจาคทาน ...เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ง่ายๆ นี้ เรียกว่า “บุญกิริยา“
เป็นการอบรมศาสนาพุทธให้แก่เด็กได้เกิดความคิด ความสนใจ ว่า “บุญ“ นั้นคืออะไร?


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 04 กุมภาพันธ์ 2560 19:56:23
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/22941301721665_IMG_3327.jpg)
พระพุทธชินราช (ปางมารวิชัย) วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
อำเภอเมือง  จังหวัดพิษณุโลก

พระพุทธรูปที่เราบูชากันอยู่ทุกวันนี้มีอยู่หลายปาง
คนโบราณสร้างพระพุทธรูปปางต่างๆ ขึ้นนั้น แต่ละปางแสดงถึงอภินิหารแต่ละครั้ง
ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงกระทำ ปางมารวิชัยหมายถึงตอนตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
ได้ชนะมารแล้วก็ได้ตรัสรู้ เมื่อเรานึกได้อย่างนี้แล้ว หากเรามีพระพุทธรูปปางมารวิชัยไว้ในบ้าน
ในขณะที่เราบูชาพระพุทธรูปนั้นก็เท่ากับว่าเราได้เห็นอภินิหารของพระพุทธเจ้า
หรือเราได้ร่วมอยู่ในการที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงอภินิหารครั้งนั้น .


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/94802730778853_6.JPG)
พลแบก : ภาพจาก วัดใหญ่อินทาราม อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/23881215188238_SAM_9026.jpg)
พลแบก : ภาพจาก วัดมหาธาตุ จังหวัดสุโขทัย

ปัญฺญา โลกสฺมิ ปชฺโชโต – ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก
"จิตที่มีสมาธิมั่นคงย่อมเป็นจิตที่แข็งแรงและมีพลังมาก พร้อมที่จะเป็นที่เกิดแห่งปัญญา"
ธรรมดาจิตมนุษย์ไม่สงบนิ่งคิดถึงเรื่องราวต่างๆ อยู่ตลอดเวลาไม่หยุดหย่อน
แต่ถ้าปฏิบัติสมาธิให้ถูกวิธีก็จะทำให้จิตหยุดนิ่งไม่คิดฟุ้งซ่านไปต่างๆ เมื่อจิตหยุดนิ่ง
ไม่หลุกหลิกซัดส่าย จิตก็จะเริ่มพิจารณาและเห็นทุกอย่างตามความเป็นจริงของมัน

รูปลิงหรือกระบี่แบก จึงเป็นปริศนาธรรมในทางพุทธศาสนา
สื่อความหมายถึง "สมาธิ" หนึ่งใน "ไตรสิกขา" ทื่ประกอบด้วย ศีล สมาธิ และปัญญา  

--------------------------------
*พลแบก มักหมายถึง ไพร่พล เช่น ยักษ์ ลิง อยู่ในท่าแบกฐานอาคารสิ่งก่อสร้าง
มักพบทั่วไปในงานช่างสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น.


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/83769608744316_SAM_7076.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/33368187604678_SAM_7072.jpg)
ภาพ : หอพระแก้ว สถานที่เคยประดิษฐานพระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร
นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ปัจจุบันเหลือเพียงพระแท่นที่ประดิษฐาน
เพราะพระแก้วมรกตองค์ปัจจุบัน สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้อัญเชิญลงมาประทับที่กรุงเทพมหานคร
ในคราวไปตีนครเวียงจันทน์ สมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี  

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/56017247504658_IMG_7470.jpg)
ผู้ที่นับถือพุทธศาสนานิกายมหายาน ถือว่า "บัว" หมายถึงพระพุทธคุณ
ภาพจาก : วัดป่านานาชาติ (สาขาวัดหนองป่าพง) จังหวัดอุบลราชธานี
ปัจจุบัน พระอธิการเฮนนิ่ง เกวลี ชาวเยอรมัน เป็นเจ้าอาวาส

...คนโง่ถึงมียศ ก็กลายเป็นทาสของคนมีปัญญา
เมื่อมีเรื่องราวต่างๆ เกิดขึ้น...

ศาสตราจารย์พิเศษ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
-------------------------

มีคนไม่มากนักที่เข้าใจในหลักธรรมของศาสนาพุทธ  เมื่อไม่เข้าใจในหลักศาสนาพุทธแล้ว
ศีลธรรมของศาสนาพุทธก็เสื่อมโทรม หรือคนเราห่างศีลธรรมลงไป



(http://www.sookjaipic.com/images_upload/16581945493817__3617_3627_3634_3605_3632_3617.gif)
ภาพ : ภาพวาดฝีมือครูเหม เวชกร

อจิรํ วตยํ กาโย ปฐวี อธิเสสฺสติ
ฉุฑฺโฑ อเปตวิญญาโณ นิรตฺถํว กลิงฺครํ

ไม่นานหนอ ร่างกายนี้ จักปราศจากวิญญาณ
นอนทับถมแผ่นดิน ดุจท่อนไม้ที่เขาทิ้งไว้ในป่า หาประโยชน์มิได้ฉะนั้น

พุทธศาสนสุภาษิต


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 30 มีนาคม 2560 19:47:45

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/91150394330422__3612_3641_3657_3626_3621_3632.gif)

...หากว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น มีอำนาจมีอิทธิพล
ที่จะดลบันดาลให้กับผู้ที่ไปอ้อนวอน
ได้สำเร็จตามที่อธิษฐานสมปรารถนาแล้วละก็...
"ในโลกนี้จะไม่มีคนจน"


เสียงธรรม : หลวงปู่ดูลย์ อตุโล  วัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/55116537089149__3609_3634_3591_.jpg)

พระรัตนตรัยเป็นสิ่งที่ฝากชีวิตได้จริง นึกถึงเมื่อไหร่ย่อมมีความอบอุ่นใจในทุกเวลา
ขอเพียงมีศรัทธา พยายามรักษาศีลให้บริสุทธิ์และทรงไว้ซึ่งความเคารพในพระรัตนตรัย
นั่นย่อมได้ชื่อว่า "เป็นผู้มีบุญ" ที่จะไม่หวั่นไหวกับภัยใดๆ ในโลกนี้อีก

ยิ่งถ้าต้องการความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม ขอให้ก้าวข้ามความกลัวโดยใช้ความเป็นผู้มีบุญ
อันสะสมไว้ดีแล้วเป็นปัจจัย ตั้งหน้าตั้งตาทำทุกอย่างด้วยความมุ่งมั่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญ
ขนาดไหนก็ตาม จะร้อยคนพลาด หมื่นคนไม่สำเร็จ ก็มิได้หมายความว่าเราจะต้องพลอยกระทำ
ไม่สำเร็จตามไปด้วย ขอเพียงมีกำลังใจเข้มแข็ง เดินลุยไปข้างหน้าอย่างไม่หวั่นเกรง มั่นใจในความดีของตนเอง
ก้าวข้ามความกลัวให้พ้น แล้วทำสิ่งที่มั่นใจนั้นให้ถึงที่สุด...ขอให้เชื่อเถิดว่า แม้แต่มรรคผล ความพ้นทุกข์
ถึงพระนิพพาน ก็ยังสามารถทำให้ถึงได้แม้ในชาติปัจจุบัน
พระเฉลิมชาติ ชาติวโร
พระธรรมทูตเชิงลึกแดนพุทธภูมิ
สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย ๙๘๐


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/32208751142024_1.jpg)
จิตรกรรมผนังพระอุโบสถ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร บางกอกใหญ่ กทม
(๑๕ มีนาคม ๒๕๖๐)

"ภิกษุทั้งหลาย ครั้งก่อนแต่การตรัสรู้ เมื่อเรายังไม่ได้ตรัสรู้ ยังเป็นโพธิสัตว์อยู่
ได้เกิดความรู้สึกอันนี้ขึ้นว่า สัตว์โลกนี้หนอถึงทั่วแล้วซึ่งความทุกข์ ย่อมเกิด
แก่ ตาย จุติ บังเกิดอีก   เมื่อสัตว์โลกไม่จักอุบายเรื่องออกไปให้พ้นจากทุกข์
คือ ชรามรณะ แล้ว การออกจากทุกข์จักปรากฏขึ้นได้อย่างไร"


พระพุทธภาษิต เรื่อง กำเนิดของปฏิจจสมุปบาท
พระบาลี สูตรที่ ๑๐ แห่งพุทธวรรค อภิสมยสํยุต นิทานวรรค สํยุตฺตนิกาย


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/62320657653941_17016825_1432743603443078_5838.jpg)

มิตรแท้-มิตรเทียม : True friends and false friends
การคบเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญ มีผลต่อความเจริญก้าวหน้าและความเสื่อมของชีวิตอย่างมาก  
Our association with friends is important,
having a great influence on our advancement and regression in life.


ศาสตราจารย์พิเศษ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต)
บรูส อีแวนส์ แปลเป็นภาษาอังกฤษ
Translated by Bruce Evans


(https://scontent.fbkk2-4.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/18222577_207720023077019_4565622964431520091_n.jpg?oh=5788d2a764565b4c29acaa9297053756&oe=59778FBC)
พระประธาน พระอุโบสถวัดมเหยงคณ์ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

ธมฺโม รหโท อกทฺทโม
ธรรมเหมือนห้วง น้ำ ไม่มีตม

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/59793282134665_DSC_0112.JPG)
รูปปั้นเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา

เตสํ วูปสโม สุโข ฯ
ความสงบแห่งสังขารทั้งหลายนั้น เป็นสุข



(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/49216168953312__MG_6143.JPG)

ความกังวลนั้นเป็นสังขารขันธ์อยู่ในกองทุกข์ และทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องทนทรมานเป็นความจริง
ความกังวลเกิดขึ้นในใจผู้ใด ผู้นั้นย่อมทราบดีแล้วว่ามันกลุ้มกล้ำอึดอัดปานไร ถ้าไม่มีกังวลเสียได้
ความกลุ้มกล้ำอึดอัดจะบรรเทาเบาบางลง เมื่อทุกข์เบาบางลงก็นับว่าเป็นสุข

ในเมื่อความกังวลเป็นทุกข์ประการหนึ่งในกองทุกข์ หากสงบได้ ยังเบาใจเป็นสุขตามส่วน
ถ้าว่ากองทุกข์ไม่มีเลย จะเป็นสุขปานใดก็เหลือที่จะพรรณา และเพราะความกังวลเป็นสังขารขันธ์
อยู่ในกองทุกข์ ตัวสังขารเป็นทุกข์ เพราะฉะน้้น

เตสํ วูปสโม สุโข ความสงบแห่งสังขารทั้งหลายนั้น เป็นสุข

คดีธรรม เรื่อง "ความสุข"
โดย พระสารประเสริฐ (ตรี นาคะประทีป)


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/45206444917453__MG_9908.JPG)
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาพจากวัดภูทอก (เจติยาคีรีวิหาร) พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ จังหวัดบึงกาฬ

'อริยสัจจ์'
ความจริงสี่ประการที่พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาเป็นครั้งแรก
บางทีเรียก พระธัมมจักกัปปวัตตนสูตร หรือ จตุราริยสัจจ์
ได้แก่ความทุกข์ (มีความเกิด แก่ เจ็บ ตาย การประสบสิ่งที่ไม่ชอบใจฯลฯ)
สมุทัย (บ่อเกิดแห่งทุกข์) นิโรธ (ความดับแห่งทุกข์) มรรค (ทางที่จะนำไปสู่ความดับทุกข์)
แปลความว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นนั้นย่อมจะมีที่เกิด เมื่อมีที่เกิดแล้วก็ต้องดับสูญไปได้ และย่อมมีทางที่จะทำให้ทุกข์ดับสูญไปได้


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/11356655094358__MG_9379.JPG)
ภาพจาก : วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร

พระพุทธองค์ตรัสไว้ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๑ ข้อที่ ๗ ว่า
"ดูก่อนพ่อบ้านและแม่บ้าน ถ้าภรรยาและสามีหวังจะพบกันทั้งในชาตินี้และชาติหน้า
ทั้งสองจงมีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน และมีปัญญาเสมอกัน แล้วจะได้พบกันทุกชาติ"

หมายความว่า ทั้งคู่จะต้องครองชีวิตคู่ให้เป็น "คู่สร้างคู่สม" ให้สมกันทั้งในด้านศรัทธา (ความเชื่อ)
ศีล (ความประพฤติ) จาคะ (น้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่) และปัญญา (ความรู้ความเข้าใจ) และอธิษฐานจิต
ขอให้พบกันในชาติหน้า อย่างนี้มีหวังได้พบแน่ๆ พระพุทธองค์ตรัสไว้อย่างนั้น

แต่ถ้าใครคนหนึ่งคนใดเข็ดเขี้ยวอีกฝ่ายหนึ่งแล้วไม่ขอพบด้วยก็เห็นจะลำบาก


ศาสตราจารย์ เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ราชบัณฑิตสาขาศาสนศาสตร์


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/84611106746726_1.jpg)
หลังฉากอุปรากรจีนปากน้ำโพ เทศกาลตรุษจีน ปีพุทธศักราช ๒๕๖๐
(Mckaforce แอ็ดมินเว็บไซต์ sookjai.com ถ่ายภาพ)

"ร่างกายนี้ธรรมชาติสร้างให้เป็นเมืองกระดูก
ฉาบด้วยเนื้อและโลหิต เป็นที่สถิตแห่งชราและมรณะฯ
"

พุทธวจนะ เรื่อง ไตรลักษณ์-กฎธรรมดาของสิ่งทั้งปวง


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/17504840923680__MG_6105.jpg)
ภาพ : พระพุทธรูปในพระอุโบสถ วัดไชโยวรวิหาร อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง

ความแตกต่างระหว่างปุถุชนกับอริยชน
คือ ปุถุชน ตัดสินเรื่องต่างๆ ด้วยความ "ถูกต้อง" ในขณะที่พระอริยบุคคล
ตัดสินทุกเรื่องราวด้วยความ "เข้าใจ" ซึ่งความเข้าใจนี้ คือ ความเข้าใจในกฎแห่งกรรม  

ครั้งที่พระพุทธเจ้าตรัสกับวัสสการพราหมณ์ในคราวที่พ่อพราหมณ์นี้ตั้งใจอวดภูมิรู้
กับพระพุทธเจ้าว่า "เมื่อข้าพเจ้าเห็นอย่างไร ได้ยินอย่างไร ได้กลิ่นอย่างไร ลิ้มรสอย่างไร
กระทบสัมผัสอย่างไร มีความนึกคิดอย่างไร การพูดสิ่งนั้นออกมา (คือ พูดตรง) ย่อมไม่มีโทษ"

พระพุทธเจ้าได้ตอบกลับจนตาพราหมณ์แกแทบหงายหลังและต้องยอมชูธงก้มหัว
ให้กับพระองค์ท่านว่า "ไม่ควรพูดทุกอย่างที่ได้เห็น ที่ได้ยิน ที่ได้กลิ่น ที่ได้ลิ้มรส
ที่ได้กระทบสัมผัส ที่ได้นึกคิด อันเป็นเหตุให้อกุศลธรรมเจริญ อันเป็นเหตุให้กุศลธรรมเสื่อม"
จึงสรุปได้ว่า พระพุทธเจ้าถือหลักของกุศลเป็นที่ตั้งในการรับหรือให้เรื่องราวข้อมูล
ข่าวสารต่างๆ เพราะมีเพียงบุญกุศลเท่านั้นที่ถือเป็นมิตรที่ให้คุณประโยชน์
แก่ตัวเองอย่างแท้จริงทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
พระเฉลิมชาติ ชาติวโร
พระธรรมทูตเชิงลึกแดนพุทธภูมิ
สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย ๙๘๐



(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/59161396200458__MG_6089.jpg)
ภาพจาก : วัดไชโยวรวิหาร อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง

ใจของผู้มีธรรม จะถือความเข้าใจเป็นใหญ่ ไม่ถือความถูกผิดเป็นเกณฑ์
แต่มิใช่ไม่เห็นผิด ไม่รู้ถูก หรือแยกดีชั่วไม่ออก ตรงกันข้าม คือ ย่อมรู้ดีชั่วอย่างชัดเจนยิ่งกว่าใคร
แต่ใจของผู้ปฏิบัติจะเต็มไปด้วยพรหมวิหารธรรม ไม่โกรธเกลียดคนทำผิด ท่านจึงไม่เห็นใครเลว
เพราะทราบชัดว่าทุกเรื่องล้วนดำเนินไปตามกฎแห่งกรรม

พระเฉลิมชาติ ชาติวโร
พระธรรมทูตเชิงลึกแดนพุทธภูมิ
สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย ๙๘๐


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/34437234989470__MG_6093.jpg)
ภาพจาก : วัดไชโยวรวิหาร อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง

ต้องฝึกจิตให้มีกำลังด้วยสมาธิ ฝึกคิดให้เป็นด้วยโยนิโสมนสิการ
ฝึกรู้เท่าทันให้เป็นด้วยการเรียนรู้สภาวะ และฝึกปล่อยวางให้เป็นด้วยปัญญา
ทันทีที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้ลิ้มรส ได้สัมผัส
หรือได้นึกถึง แล้วเกิดความไม่ชอบใจ ก็ปล่อยให้จบลงตรงนั้น กองทิ้งไว้ตรงนั้น
ไม่ต้องหยิบมาปรุงโทษภัยใส่ตัวเองต่อ
---------------------------------

ใครจะชนะผู้อื่นในสงครามได้ถึงพันครั้ง พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า "ยังไม่ถือว่ายอดเยี่ยม"
ส่วนผู้ใดเพียงชนะใจตัวเองได้สักเพียงครั้งเดียว ด้วยการเอาชนะความโกรธในใจได้
นั่นแล ที่พระองค์ทรงเรียกว่า "ยอดเยี่ยม" คนที่ไม่โกรธ ไม่อิจฉาริษยา ไม่ผูกพยาบาท
อาฆาต มองโลกตามความเป็นจริงและยอมรับความจริงของโลกได้ คือ คนที่จะอยู่ในโลกนี้
และโลกไหนๆ ได้อย่างมีความสุขอย่างที่สุด

พระเฉลิมชาติ ชาติวโร
พระธรรมทูตเชิงลึกแดนพุทธภูมิ
สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย ๙๘๐


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 13 ธันวาคม 2560 13:33:35

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/62267316174175_1.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/11281924901736_2.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/36928928850425_3.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/22078354573911_4.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/43088549913631_5.JPG)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/78659119788143_6.JPG)

พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญเพียรสั่งสมบารมีเป็นเวลา ๔ อสงไขยกับหนึ่งแสนมหากัป
กว่าจะมาเป็นพระเวสสันดร ชาติสุดท้ายแล้วก็มาเป็นสิทธัตถกุมาร แล้วออกบวช
สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า

"พระพุทธศาสนา" ถูกสืบทอดต่อมาถึงมือเรา ๒,๖๐๐ กว่าปีนี้ได้ มิใช่ง่ายดาย
และถ้าพุทธธรรมไม่ประเสริฐเป็นเลิศจริงก็คงไม่มีใครเก็บรักษามาถึงปัจจุบัน


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/62299716845154_1516103421491.jpg)
ภาพ : ชาวต่างชาตินั่งสมาธิในพระอุโบสถวัดพันเตา อ.เมือง จ.เชียงใหม่
๑๔ มกราคม ๒๕๖๑

"นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ"
ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบ ไม่มี


อภิณหปัจจเวกขณ์  สิ่งที่ทุกคน ไม่ว่าหญิง ไม่ว่าชาย ควรหัดพิจารณาเนืองๆ มีอยู่ ๕ ประการ คือ
๑.ชราธัมมตา – เรามีความแก่เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความแก่ไปได้
๒.พยาธิธัมมตา – เรามีความเจ็บป่วยไข้เป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความเจ็บไปได้
๓.มรณธัมมตา – เรามีความตายเป็นธรรมดา ไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
๔.ปิยวินาภาวตา – เราจักต้องประสบความพลัดพรากทั้งจากคนและของรักที่ชอบใจไปทั้งสิ้น
๕.กัมมัสสกตา – เรามีกรรมเป็นของตน เราทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จักต้องเป็นทายาทของกรรมนั้น
(องฺปญฺจกฺ ๒๒/๕๗/๘๑


(http://www.dmc.tv/forum/uploads/post-2452-1136190948.jpg)
ภาพพุทธศิลป์ : โดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ
ขอขอบคุณที่มาภาพ : เว็บไซต์ธรรมจักรดอทเน็ต

"แก่นของธรรมแท้อยู่ที่สติ ให้พากันหัดทำสติให้ดี
ให้สำเหนียกให้แก่กล้า ธรรม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์อยู่กับสติอันเดียว"

หลวงปู่ขาว อนาลโย




หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 20 กรกฎาคม 2561 18:58:22


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/38108796833289_3_Copy_Copy_.JPG)

"กิจฺโฉ  พุทฺธานมุปปาโท"
...การอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นสิ่งยากอย่างยิ่ง

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/78004308748576_2_Copy_.JPG)

"อานนท์ สิ่งสวยงามในโลก มิใช่เป็นกามของมนุษย์
ความพอใจในความดำริเล่า เป็นกามของมนุษย์
หากเธอละความพึงพอใจเสียได้ สิ่งสวยงามในโลก ก็อยู่อย่างเก้อๆ"

พุทธพจน์
ภาพจาก : วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/44063310780458_4.jpg)

นตฺถิ กมฺมสมํ พลํ (อ่าน นัดถิ กัมมะสะมัง พะลัง)
ไม่มีแรงใด เสมอด้วยแรงกรรม
ภาพจาก : วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/56496179600556_38_Copy_.jpg)
นตฺถิ อตฺตมํ เปมํ
(อ่าน : นัดถิ อัตตะมัง เปมัง)
ไม่มีความรักใด เสมอด้วยความรักตน
ภาพจาก : วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/11332619686921_50_Copy_.jpg)
สติ เตสํ นิวารณํ
(อ่าน : สะติ เตสัง นิวาระนัง)
มีสติ ป้องกันเหตุร้ายได้
ภาพจาก : อ่างน้ำผุด อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี



(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/43549312692549_17_Copy_.jpg)..
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ มีความเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา
เกิดขึ้นแล้ว ย่อมดับไป การเข้าไปสงบสังขารเหล่านั้น เป็นสุข

ภาพจาก : วัดธาตุน้อย (ท่านพ่อคล้ายวาจาสิทธิ์)
ต.หลักช้าง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช
8/8


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 15 กันยายน 2561 17:03:43

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/39054269467790_17_Copy_.jpg)

สัพพะปาปัสสะ  อะกะระณัง
การไม่กระทำบาปทั้งปวง เป็นหัวใจของพุทธศาสนา

ภาพจาก : วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร



(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/46334461081359__3629_3619_3636_3618_3626_3633.jpg)

พระพุทธศาสนา สอนให้พิจารณาหลักธรรม
ที่มีอยู่ว่า  เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นทุกข์

ภาพจาก : วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.พิษณุโลก



(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/28077265247702_555_Copy_.jpg)

อกุศลธรรม
เป็นสิ่งที่กำหนดขึ้นตามใจคนทั้งนั้น
อะไรที่ชอบก็บอกว่าของนั้นดี  อะไรที่ไม่ชอบก็บอกว่าของนั้นไม่ดี

ภาพจาก : วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร  อำเภอพระพุทธบาท  จังหวัดสระบุรี


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/57742829413877_12_Copy_.jpg)

คำสอนของศาสนาพุทธ ที่สำคัญมีอยู่ว่า
หน้าที่ที่สำคัญของมนุษย์เรา คือ
การกำจัดทุกข์ด้วยวิชา
คือ รู้แจ้งตามความเป็นจริงในสิ่งทั้งปวง

ภาพจาก : วัดมเหยงคณ์ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๑  



(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/25050722890429__MG_6047_Copy_.JPG)

หลักการสำคัญของโลกุตรธรรมนั้น มีวัตถุประสงค์
เพื่อความพ้นทุกข์ด้วยความดับสูญโดยสิ้นเชิง
ในผลแห่งกรรม ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว

ภาพ : พระหัตถ์ขวา สมเด็จนางพญาเรือนแก้ว  พระประธานพระอุโบสถวัดนางพญา
วัดนางพญา อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก  



(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/90796779799792_45_Copy_.jpg)

เมื่อจิตของเราสงบภายในแล้ว อุปมาเหมือนน้ำสงบ
น้ำสงบแล้วก็ใส ใสแล้วก็มองเห็นเหตุ มองเห็นผล
มองเห็นบุญกุศล มองเห็นสุข มองเห็นทุกข์ มองเห็นดี มองเห็นชั่ว

ธรรมะบางตอน โดย หลวงปู่ฝั้น  อาจาโร

ภาพจาก : วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร

๗๕๐


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 05 มกราคม 2562 17:02:38
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/95083943754434_20120908_062655_Copy_.jpg)

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย
สัมมาทิฐิที่ยังเป็นสาสวะ เป็นส่วนแห่งบุญ ให้ผลแก่ขันธ์เป็นไฉน
คือความเห็นดังนี้ว่า ทานที่ให้แล้วมีผล ยัญที่บูชาแล้วมีผล
สังเวยที่บวงสรวงแล้วมีผล ผลวิบากแห่งกรรมที่ทำดีทำชั่วแล้วมีอยู่
โลกนี้มีโลกหน้ามี มารดามี บิดามี สัตว์ที่เป็นอุปปาติกะมี
สมณพราหมณ์ทั้งหลายที่ดำเนินชอบ ปฏิบัติชอบ ซึ่งประกาศ
โลกนี้โลกหน้าให้แจ่มแจ้ง เพราะรู้ยิ่งด้วยตนเองในโลกนี้มีอยู่
นี้สัมมาทิฐิที่ยังเป็นสาสวะ เป็นส่วนแห่งบุญให้ผลแก่ขันธ์ฯ
"มหาจัตตารีสกสูตร มัชฌิมนิกายอุปริปันณาสก์"
ภาพจาก : นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/84120812805162_g._Copy_.jpg)

เอโก มคฺโค
การทำสมาธิและการอบรมปัญญาในทางพระพุทธศาสนา
เป็นทางอันเดียวที่จะดับความทุกข์ร้อนของใจได้


ภาพจาก : วัดมเหยงคณ์ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/81339154599441_133_320x200_.jpg)

มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายในจักรวาลนี้ ล้วนเกิดจากการประชุมกันของสภาวธรรม ๓ ประการ คือ จิต เจตสิก และรูป
ที่มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ไม่มีส่วนไหนเลยที่เป็นตัวตนของเรา มีแต่การเกิดดับของ
นามธรรม (จิต + เจตสิก) และการเกิดดับของรูปธรรม (รูป) ที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เกิดขึ้นใหม่แล้วก็ดับไปอีก
มีสภาพเกิดดับอยู่เช่นนี้ตลอดเวลานานแสนนานไม่รู้กี่แสนชาติกี่ล้านชาติมาแล้วที่สืบต่อกันอยู่เช่นนี้โดยไม่รู้จักจบสิ้น
แม้ใครจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม สภาวธรรมทั้ง ๓ นี้ก็ทำงานอยู่เช่นนี้โดยไม่มีเวลาหยุดพัก

สภาวธรรมหรือธรรมชาติเหล่านี้มิใช่เกิดจากพระผู้เป็นเจ้า พระพรหม พระอินทร์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ เป็นผู้บันดาล
หรือเป็นผู้สร้างทั้งสิ้น แต่สภาวธรรมเหล่านี้เป็นผลอันเกิดมาจากเหตุ คือกิเลสนั่นเอง ที่่เป็นผู้สร้าง   


คัดจาก"สาระน่าเกี่ยวกับพระอภิธรรม"  หนังสือที่ระลึกในงานทอดกฐิน ณ วัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๒


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 28 มกราคม 2562 20:05:26

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/78292525435487_40_Copy_.jpg)

วิมุตติ คือความหลุดพ้นจากความยึดถือ
หลุดพ้นจากอุปาทานความยึดมั่นถือมั่น พ้นจากภพจากชาติ ตั้งใจทำเอา


คติธรรม หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู (เดิม จ.อุดรธานี)


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/75472308695316__MG_6114_Copy_.JPG)
ภาพจาก : วัดนางพญา อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก

ปญฺญาย ปริสุชฺฌติ
คนย่อมบริสุทธิ์ด้วยปัญญา

พุทธศาสนสุภาษิต

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/15786202376087__Copy_.jpg)

ที่เรียก กิเลส ว่าเป็นมาร เพราะมันเป็นศัตรูบ่อนทำลายจิตที่ผ่องใสให้เศร้าหมอง
จิตที่เศร้าหมองไม่มีแสงสว่าง ย่อมมองเห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวไม่ได้

หลักธรรมของ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
ภาพประกอบจาก : วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/75882718339562_156_Copy_.jpg)

อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ เธอทั้งหลายจงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด
โก ชญฺญา มรณํ สุเว ใครเล่าพึงรู้ว่าพรุ่งนี้จะตาย  

ภาพจาก : วัดมเหยงคณ์ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/26279645123415_P_20170504_171911_Copy_.jpg)
ภาพ : สมเด็จพระมณีรัตนพุทธรังษี พระประธานพระอุโบสถวัดมเหยงคณ์ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

อจิรํ วตยํ กาโย
ไม่นานหนอ กายนี้จักปราศจากวิญญาณ ถูกทิ้งให้นอนถมทับแผ่นดินเหมือนท่อนไม้ไม่มีประโยชน์

พระธรรมโอวาท แห่งสมเด็จพระบรมศาสดา ประทานแก่ พระปูติคัตตะ
ในคราวเสด็จไปทรงพยาบาลไข้ พระปูติคัตตะ ผู้เป็นแผลเน่าเปื่อยไปทั้งกาย
พระปูติคัตตะ ฟังพระธรรมบทนี้บรรลุผลที่สุดแล้วก็ปรินิพพาน


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/18375050938791_1550914406498_Copy_.jpg)
พระภาวนาเขมคุณ วิ. (พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรังสี)
วัดมเหยงคณ์ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
(ภาพถ่ายวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๑)

ให้หมั่นมีสติระลึกรู้เท่าทันในปัจจุบันอารมณ์เหล่านั้น ด้วยความปล่อยวางอยู่เสมอ
คติธรรม พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรังสี


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/79262401329146_IMG_0765_Copy_.JPG)

เราเป็นผู้ก่อกรรม ก่อเวร ก่อภัย ไม่มีใครก่อให้
ไม่ใช่เทวดาบุตรเทวดาสร้างให้ พี่น้องสร้างให้ เราสร้างเอาเอง

วาทะธรรม หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
พระป่ากรรมฐานศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 พฤษภาคม 2562 19:14:40

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/91250194071067_22_Copy_.jpg)
ภาพจาก : วัดเจดีย์หลวง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

"สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง"
เมื่อใดบุคคลเห็นแจ้งด้วยปัญญาดังนี้
เมื่อนั้นเขาย่อมหน่ายในทุกข์
นี้เป็นทางแห่งความบริสุทธิ์
พระพุทธพจน์

"สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์"
เมื่อใดบุคคลเห็นแจ้งด้วยปัญญาดังนี้
เมื่อนั้นเขาย่อมหน่ายในทุกข์
นี้เป็นทางแห่งความบริสุทธิ์
พระพุทธพจน์

"ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา"
เมื่อใดบุคคลเห็นแจ้งด้วยปัญญาดังนี้
เมื่อนั้นเขาย่อมหน่ายในทุกข์
นี้เป็นทางแห่งความบริสุทธิ์
พระพุทธพจน์
คัดจาก : หนังสือหลักการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน ตามแนว "สติปัฎฐาน ๔"
โดย พระภาวนาเขมคุณ (สุรศักดิ์ เขมรํสี) วัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/17702477383944__5110296_Copy_.JPG)
ภาพ : พิธีหล่อพระพุทธชินราชจำลอง วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก
เมื่อเดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒

"สัพเพ เภทปริยันตัง เอวัง มัจจาน ชิวิตัง"
ชีวิตของหมู่สัตว์เหมือนภาชนะดิน ล้วนมีความแตกสลายเป็นที่สุด

พระพุทธพจน์



(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/50268996962242__0205_Copy_.jpg)
ภาพจาก : วัดขนอน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

"นตฺถิ เม สรณํ อญฺญํ"
ที่พึ่งอย่างอื่นของข้าพเจ้าไม่มี  “พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์” เป็นที่พึ่งอันประเสริฐของข้าพเจ้า  

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาของปัญญา จึงเป็นที่พึ่งอันประเสริฐของคนในการช่วยพิจารณาว่าอะไรควร อะไรไม่ควร

750



หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 29 กันยายน 2562 18:57:02

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/62123465827769__Copy_.jpg)
ภาพ : วัดถ้ำพุหว้า จ.กาญจนบุรี

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! เธอทั้งหลายผู้มีปัญญา มีสติตั้งมั่น
จงยังสมาธิอันไม่มีประมาณให้เจริญขึ้นเถิด

ที่มา สมาธิสูตร
750


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 15 ตุลาคม 2562 16:40:21

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/50227677987681__0092_320x200_.jpg)

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ลาภยศนั้นเป็นเหยื่อของโลก ที่น้อยคนนักจะสละละวางได้ จึงแย่งลาภแย่งยศกันอยู่เสมอ
เหมือนปลาที่แย่งเหยื่อกันกิน แต่หารู้ไม่ว่าเหยื่อนั้นมีเบ็ดเกี่ยวอยู่ด้วย หรือเหมือนไก่ที่แย่งไส้เดือนกันจิกตีกัน
ทำลายกันจนพินาศกันไปทั้งสองฝ่าย น่าสลดสังเวชจิตยิ่งนัก ถ้ามนุษย์ในโลกนี้ลดความโลภลง มีการเผื่อแผ่
เจือจานโอบอ้อมอารี ถ้าเขาลดโทสะลง มีความเห็นอกเห็นใจกัน มีเมตตากรุณาต่อกัน และลดโมหะลง ไม่หลง
งมงาย ใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหาและดำรงชีวิต โลกนี้จะน่าอยู่อีกมาก แต่ช่างเขาเถิด หน้าที่โดยตรงและ
เร่งด่วนของเธอคือลดความโลภ ความโกรธ และความหลงของเธอเองให้น้อยลง แล้วจะประสบความสุขความ
เยือกเย็นขึ้นมาก เหมือนคนลดไข้ได้มากเท่าใด ความสบายกายก็มีมากขึ้นเท่านั้น"


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2563 16:58:47

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/58632843361960_line_540050346536226_Copy_.jpg)
ภาพ : พระอัจนะ วัดศรีชุม จังหวัดสุโขทัย - ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓

ยสฺส ปาปํ กมฺมํ  กุสเลน ปิถียติ
กรรมชั่วที่บุคคลทำแล้ว ย่อมละเสียได้ด้วยกรรมดี

พระพุทธพจน์ (ธรรมบท ๒๕/๓๒)


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/54530807087818__._Copy_.jpg)
พระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโตวัดพนัญเชิง) วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


800


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 05 มิถุนายน 2563 19:31:36
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/19649533016814_2f068d2d3e7d5c5b3f6210e39306d3.jpg)

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย! ธรรมชาติของจิตเป็นสิ่งดิ้นรนกลับกลอกง่าย
บางคราวปรากฏเหมือนช้างตกมัน   ภิกษุทั้งหลาย! พวกเธอจงเอาสติ
เป็นขอสำหรับเหนี่ยวรั้งช้าง คือ จิตที่ดิ้นรนนี้ให้อยู่ในอำนาจบุคคลผู้มี
อำนาจมากที่สุด และควรแก่การสรรเสริญนั้น   คือผู้ที่สามารถเอาตน
ของตนเองไว้ในอำนาจได้  สามารถชนะตนเองได้    ผู้ชนะตนได้ชื่อว่า
เป็นยอดนักรบในสงคราม เธอทั้งหลายจงเป็นยอดนักรบในสงครามเถิด
อย่าเป็นผู้แพ้เลย"


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 21 มิถุนายน 2563 19:46:45
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/80940731821788_p68_1_Copy_.jpg)

"ดูกรอานนท์ เธออย่ากล่าวว่า กุสินาราเป็นเมืองน้อย เมืองดอน เมืองกิ่ง ดังนี้เลย
ในอดีตกาล กุสินาราเป็นนครอันมั่งคั่ง เป็นที่ประทับของพระเจ้าจักรพรรดิ นามว่า
มหาสุทัสสนะมาแล้ว ไปเถิดอานนท์ เธอจงเข้าไปในเมืองกุสินารา แจ้งข่าวให้พวก
มัลลกษัตริย์ทราบ พระตถาคตจะปรินิพพานในยามสุดสุดท้ายแห่งราตรีนี้ จะได้ไม่
เสียใจในภายหลัง  ขอให้ท่านทั้งหลายจงรีบไป คนเหล่านี้ควรจักได้เห็นตถาคตเป็น
คร้้งสุดท้าย ก่อนที่ตถาคตจะปรินิพพาน..."

พระพุทธพจน์ จากที่ประทับระหว่างจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน



หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 31 กรกฎาคม 2563 18:33:31
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/99751500950919_a94972_1170d81badcc4de6b501a6d.png)
ขอขอบคุณเว็บไซต์ พุทธสถานลพบุรีศรีสุวรรณภูมิ (ที่มาภาพ)

"...การเกิดของเราครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ภพใหม่ต่อไปไม่มี"


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/61943421471450_04_1_Copy_.jpg)
ภาพวาด ครูเหม เวชกร

พระนางเจ้ามายาเทวี เสด็จดำเนินไปถึงร่มไม้สาละพฤกษ์ ทรงยกพระหัตถ์ขวาเหนี่ยวกิ่งสาละ ซึ่งอ่อนค้อมลงมา  
ขณะนั้นลมกัมมัชวาตหวั่นไหว  ในกาลอันเป็นมหามงคลหุติฤกษ์ พระบรมโพธิสัตว์เจ้าประสูติจากมาตุคัพโภทร
พระกุมารก็บ่ายพระพัตร์ไปทางทิศอุตตรทิศ  เสด็จย่างพระบาทไปบนพื้นแผ่นทอง  อันท้าวจตุโลกบาลถือรองรับ
ไว้ได้ ๗ ก้าว  แล้วทรงหยุดประทับยืนบนทิพยปทุมบุปผาชาติ อันมีกลีบได้ ๑๐๐ กลีบ ทรงเปล่งพระสุรเสียงอัน
ไพเราะ ดำรัสอาภิสวาจาด้วยพระคาถาว่า

อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส         เชฏฺโฐ เสฏฺโฐ หมสฺมิ
อยนฺติมา เม ชาติ             นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว ฯ

แปลว่า ในโลกนี้ เราเป็นยอด เป็นผู้เจริญที่สุด เป็นผู้ประเสริฐที่สุด
การเกิดของเรานี้เป็นครั้งสุดท้าย ภพใหม่ต่อไปไม่มี.


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 05 ตุลาคม 2563 16:12:57
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/88619580657945_1.JPG)

ชีรนฺติ เว ราชรถา สุจิตฺตา . อโถ สรีรมฺปิ ชรํ อุเปติ
สตญฺจ ธมฺโม น ชรํ อุเปติ      สนฺโต หเว สพฺภิ ปเวทยนฺติ ฯ
ราชรถ อันวิจิตรงดงาม ยังเก่าได้  . แม้ร่างกายของเรา ก็ไม่พ้นชราภาพ
แต่ธรรมของสัตบุรุษหาแก่ไม่ สัตบุรุษทั้งหลาย ย่อมกล่าวสอนกันเช่นนี้แล.


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 15 พฤษภาคม 2564 19:30:53
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/82280330649680_739dee4b16b9de4533c8c731db55f5.jpg)
ขอขอบคุณที่มา : ภาพพุทธประวัติ วัดสวนแก้ว (พระอาจารย์พยอม กัลยาโณ) จ.นนทบุรี

มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฐา มโนมยา
มนสา เจ ปทุฏฺเฐน ภาสติ วา กโรติ 
วา ตโต นํ ทุกฺขมนฺเวติ จกฺกํ ว วหโต ปทํ

ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จด้วยใจ  เหมือนล้อหมุนตาม
รอยเท้าโคที่ลากเกวียนไป ฉะนั้น  ถ้าคนมีใจชั่ว ก็พูดชั่วหรือทำชั่วตามไปด้วย
เพราะความชั่วนั้น ทุกข์ย่อมติดตามเขาไป ในทางตรงกันข้ามก็ทรงสอนให้เห็น
ผลของการมีความคิดดีว่า

มโน ปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฏฺฐา มโนมยา
มนสา เจ ปสนฺเนน ภาสติ วา กโรติ
วา ตโต นํ สุขมนฺเวติ ฉายา ว อนุปายินี

ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จด้วยใจ ถ้าคนมีใจดี ก็จะพูดดี
หรือทำดีตามไปด้วย เพราะความดีนั้น สุขย่อมติดตามเขาไป เหมือนเงาติดตาม
ตัวเขาไป ฉะนั้น   ทรงสอนให้รู้จักเปรียบเทียบระหว่างผลของความดีกับผลของ
ความชั่ว แล้วเลือกปฏิบัติตามธรรมที่คิดว่าจะทำให้ได้รับผลดีที่สุด


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 26 พฤษภาคม 2564 20:04:11
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/99155693501234_1_Copy_.png)

อะไรคือสิ่งที่ทำได้ยากในพระพุทธศาสนา?

อะไรคือสิ่งที่ทำได้ยากในพระพุทธศาสนา?
พระสารีบุตรตอบอริพพาชกชื่อ ชัมพุขาทกะ “ท่านผู้มีอายุ การบรรพชาเป็นสิ่งที่ทำได้ยากในธรรมวินัยนี้”
ชัมพุขาทกะ “ท่านผู้มีอายุ ก็อะไรอันบุคคลผู้บวชแล้วกระทำได้โดยยาก”
พระสารีบุตร “ความยินดียิ่งในการบวช ท่านผู้มีอายุ”
ชัมพุขาทกะ “ท่านผู้มีอายุ อะไรที่ผู้ยินดียิ่งแล้วกระทำได้โดยยาก”
พระสารีบุตร “ท่านผู้มีอายุ การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม”
ชัมพุขาทกะ “ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ก็ภิกษุผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมแล้ว จะถึงเป็นพระอรหันต์ได้ในเวลาช้านานเพียงไร”
พระสารีบุตร “ไม่นานนัก ผู้มีอายุ”

บางครั้งบางคราว คนเราจำต้องทำความชั่ว เพราะความจำเป็น เช่น กระทำเพราะเห็นแก่มารดาบิดาผู้มีอุปการคุณ เป็นต้น ในกรณีเช่นนั้น จะจัดว่าเป็นบาปหรือไม่?

พระสารีบุตรตอบ “ดูก่อนธนัญชานิ ท่านจะเข้าใจความข้อนั้นเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นผู้ประพฤติไม่ชอบธรรม ประพฤติผิดธรรม เพราะเหตุแห่งบิดามารดา นายนิริยบาลจะพึงฉุดคร่าเขาผู้นั้นไปยังนรก เพราะเหตุแห่งการประพฤติไม่ชอบธรรมและประพฤติผิดธรรม เขาจะพึงได้ตามความปรารถนาหรือว่า เราเป็นผู้ประพฤติไม่ชอบธรรมประพฤติผิดธรรม เพราะเหตุแห่งบิดามารดา ขอนายนิริยบาลอย่าพึงฉุดคร่าเราไปสู่นรกเลย หรือมารดาบิดาของผู้นั้นจะพึงได้ตามปรารถนาหรือว่าผู้นี้เป็นผู้ประพฤติไม่ชอบธรรมประพฤติผิดธรรม เพราะเหตุแห่งการทั้งหลาย ขอนายนิริยบาลอย่าพึงฉุดคร่าเขาไปนรกเลย

“ดูก่อนธนัญชานิ ท่านจะเข้าใจความข้อนั้นเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ประพฤติไม่ชอบธรรม ประพฤติผิดธรรม เพราะเหตุแห่งบุตรและภริยา เพราะเหตุแห่งทาสกรรมกร และคนรับใช้ เพราะเหตุแห่งมิตรและอำมาตย์ เพราะเหตุแห่งญาติสาโลหิต เพราะเหตุแห่งแขก เพราะเหตุแห่งปุพพเปตชน เพราะเหตุแห่งเทวดา เพราะเหตุแห่งพระราชา เพราะเหตุแห่งการเลี้ยงกาย เพราะเหตุทำนุบำรุงกาย

นายนิริยบาลจะพึงฉุดคร่าเขาผู้นั้นไปยังนรก เขาจะพึงได้ตามความปรารถนาหรือว่าเราประพฤติไม่ชอบธรรมเพราะเหตุแห่งการเลี้ยงกาย ขอนายนิริยบาลอย่าพึงฉุดคร่าเราไปสู่นรกเลย หรือมารดาบิดาของผู้นั้นจะพึงได้ตามปรารถนาหรือว่าผู้นี้เป็นผู้ประพฤติไม่ชอบธรรม เพราะเหตุแห่งการเลี้ยงกาย ขอนายนิริยบาลอย่าพึงฉุดคร่าเขาไปนรกเลย

“ดูก่อนธนัญชานิ ท่านจะเข้าใจความข้อนั้นเป็นไฉน บุคคลผู้ประพฤติไม่ชอบธรรม เพราะเหตุแห่งบิดามารดา กับบุคคลผู้ประพฤติชอบธรรม ประพฤติถูกธรรม เพราะเหตุแห่งมารดาบิดา ไหนจะประเสริฐกว่ากัน

“ดูก่อนธนัญชานิ การงานอย่างอื่นที่มีเหตุประกอบด้วยธรรม เป็นเครื่องให้บุคคลอาจเลี้ยงมารดาบิดาได้ ไม่ต้องทำกรรมอันลามก และให้ปฏิบัติปฏิปทาอันเป็นบุญได้ มีอยู่ฯ”


กราบขอบคุณที่มา : วัดโพรงจระเข้ จ.ตรัง




หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 03 มิถุนายน 2564 19:30:17
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/60542402375075_189238850_2266700686797165_175.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/18323915617333_189489752_2266700816797152_220.jpg)
ขอขอบคุณ เพจถ้ำอชันตา พุทธสถานเมืองออรังกาบาด (ที่มาภาพประกอบ)

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย...
เราพ้นแล้วจากบ่วงทั้งปวง ทั้งที่เป็นของทิพย์ ทั้งที่เป็นของมนุษย์   แม้พวกเธอก็พ้นแล้วจากบ่วงทั้งปวง
ทั้งที่เป็นของทิพย์ ทั้งที่เป็นของมนุษย์ พวกเธอจงเที่ยวจาริกไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่ชนหมู่มาก
เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์เกื้อกูล และความสุขแก่ทวยเทพและมนุษย์ทั้งหลาย"
พุทธวจนะ


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 27 ตุลาคม 2564 19:41:59

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/49715495357910_21_Copy_.jpg)


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 10 พฤศจิกายน 2564 20:58:51


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/55381823082764_1_Copy_.jpg)
ภาพ : พระสารีบุตร วัดบางกระจะ ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

มาวมญฺเญถ ปุญฺญสฺส     
น มตฺตํ อาคมิสฺสติ อุทพินฺทุนิปาเตน     
อุทกุมฺโภปิ ปูรติ อาปูรติ ธีโร บุญฺญสฺส         
โถกํ โถกํปิ อาจินํ
ไม่ควรดูหมิ่นต่อบุญว่ามีประมาณน้อยจักไม่มีมาถึง
แม้หม้อน้ำย่อมเต็มได้ด้วยหยาดน้ำที่ตกลงมาฉันใด
ผู้มีปัญญาสั่งสมบุญแม้ทีละน้อยๆ
ย่อมเต็มได้ด้วยบุญ ฉันนั้น


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 13 มกราคม 2565 16:24:45
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/19882581093244_14_Copy_.jpg)

ดูกรมานพ  สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม
มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรม
ย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้ฯ"

พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ หน้า ๒๘๗ ข้อ ๕๘๑



หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 15 มกราคม 2565 13:18:23
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/90129636683397_45_Copy_.jpg)

"วิเวก เป็นสุขของผู้ยินดี มีธรรมอันสดับแล้ว พิจารณาเห็นอยู่ความไม่เบียดเบียน
คือ ความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย เป็นสุขในโลก ความเป็นผู้มีราคะไปปราศแล้ว คือ
ความก้าวล่วงซึ่งกามทั้งหลายเสียได้ เป็นสุขในโลก ความนำซึ่งอัสมิมานะเสียได้
นี้แลเป็นสุขอย่างยิ่ง ฯ"

"มุจจลินทสูตร"
พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๕


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 27 มกราคม 2565 15:37:39

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/53310805352197_111_Copy_.jpg)

สพฺพญฺเจ ปฐวิง ทชฺชา เนว นํ อภิราธเย
ถึงแม้ให้แผ่นดินทั้งหมด ก็ยังคนอกตัญญูให้จงรักภักดีไม่ได้

750


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 25 มีนาคม 2565 13:55:30
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/56069060208068_10628052_762598630449118_46068.jpg)

เทวดาทูลถาม "อะไรหนอเป็นธรรมเครื่องตื่นอยู่ในโลก"
พระพุทธองค์ตรัสตอบ "สติเป็นธรรมเครื่องตื่นอยู่ในโลก"
(๑๕/๒๑๗)


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 10 พฤษภาคม 2565 20:15:10

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/89607974928286_22_Copy_.jpg)

นตฺถิ อตฺตสมํ เปมํ
ความรัก (อื่น) เสมอด้วยตนไม่มี

สํ. ส. ๑๕/๙

800


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 26 พฤษภาคม 2565 15:42:37
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/44539056097467_984061_467128730040554_1425176.jpg)

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อุบลก็ดี ปทุมก็ดี บุณฑริกก็ดี เกิดแล้วในน้ำ
เจริญแล้วในน้ำ ขึ้นพ้นจากน้ำตั้งอยู่ แต่น้ำไม่ติด แม้ฉันใด 
พระตถาคตเกิดแล้วในโลก เจริญแล้วในโลก ย่อมครอบงำโลกอยู่
แต่โลกฉาบทาไม่ได้ ฉันนั้นเหมือนกันแล
ฉบับหลวง(ภาษาไทย)๑๗/๑๓๓/๒๓๙.


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 16 มิถุนายน 2565 15:31:41

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/33133053862386_7_Copy_.jpg)





800/20


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 13 กันยายน 2565 17:33:31
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/28679811623361_305316662_1464595307389478_178.jpg)

"สิ่งใดเกิดแล้ว มีแล้ว ปัจจัยปรุงแต่งแล้ว มีความทำลายเป็นธรรมดา
การปรารถนาว่า ขอสิ่งนั้นอย่าทำลายไปเลย ดังนี้ มิใช่ฐานะจะมีได้"

มหาปรินิพพานสูตร


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 29 ตุลาคม 2565 20:15:07

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/12584962861405_50908_Copy_.jpg)
พระพุทธสิหิงค์  วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่

พระพุทธองค์ ตรัสสั่ง ให้บูชาบุคคลที่ควรบูชา, ยกย่องคนที่ควรยกย่อง, ให้เกียรติคนที่ควรให้เกียรติ,
หาได้สั่งให้บูชายกย่อง, ให้เกียรติ, แก่บุคคลที่ไม่ควรไม่เหมาะสมไม่   และไม่ใช่แบบหลับหูหลับตา
บูชาเป็นฝักถั่วไปหมด รับสั่งให้เลือกบูชา
"มงคลภาษิต" จากหนังสือ เขมจารีนิพนธ์ (หน้า ๒๗)
สมเด็จพระวันรัต (เฮง ป.๙) เขมจารีมหาเถระ  วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ - นิพนธ์



หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 17 พฤศจิกายน 2565 21:29:13

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/37213827421267_313438878_1511010536081288_471.jpg)

“...ดูกร อัคคิเวสนะ เรานั้นหรือ จำเดิมแต่เริ่มแสดง กระทั่งคำสุดท้ายแห่งการกล่าวเรื่องนั้นๆ
ย่อมตั้งไว้ซึ่งจิตในสมาธินิมิตอันเป็นภายในโดยแท้ ให้จิตดำรงอยู่ ให้จิตตั้งมั่นอยู่ กระทำให้มี
จิตเป็นเอก ดังเช่นที่คนทั้งหลายได้ยินว่าเรากระทำอยู่เป็นประจำ ดังนี้”


หัวข้อ: Re: เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี - พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 15 ธันวาคม 2565 19:31:47

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/35172005577219__1_Copy_Copy_.jpg)


หัวข้อ: Re: จิตฺเต อสงฺ กิลิฏฺเฐ สุคติ ปาฏิกงฺขา - พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 26 ธันวาคม 2565 16:31:08
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/31628768435782_11_Copy_.jpg)

จิตฺเต อสงฺ กิลิฏฺเฐ สุคติ ปาฏิกงฺขา
เมื่อจิตไม่เศร้าหมอง คือบริสุทธิ์จำปรารถนาคติอันชอบ ฯ

พระพุทธภาษิต

การละบาปบำเพ็ญบุญนี้ เป็นที่สนใจของบัณฑิต และเป็นกิจที่จะพึงปฏิบัติได้ไม่เหลือวิสัย
เพราะจิตใจมีความเกิดและดับเป็นสภาพ  ก็เพียรพยายามอดทนปราบปรามมิให้เกิดขึ้น
ส่วนที่เป็นบุญก็พยายามเพิ่มพูนให้เกิดขึ้นและรักษาให้คงที่ นี้เป็นวิธิปฏิบัติของบัณฑิตชน
คติธรรม สมเด็จพระวันรัต (เฮง ป.๙) เขมจารีมหาเถระ
วัดมหาธาตุ พระนคร
๓๐ มกราคม ๒๔๘๕


800/20


หัวข้อ: Re: องคุลิมาลทูลขอบรรพชา : พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 07 มีนาคม 2566 19:39:01
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/30533319546116_334977499_196602209657912_2666.jpg)

ฐิโต อหํ องฺคุลิมาล สพฺพทา
สพฺเพสุ ภูเตสุ นิธาย ทณฺฑํ
ตฺวญฺจ ปาเณสุ อสญฺญโตสิ
ตสฺมา ฐิโตหํ ตุวมฏฺฐิโตสิ

ดูก่อนองคุลิมาล!
เราวางอาชญาในหมู่สัตว์ทุกจำพวกอยู่ทุกเมื่อ
ส่วนตัวเจ้าเว้นความสำรวม คือเมตตากรุณาในหมู่สัตว์
เพราะฉะนั้น เราจึงชื่อว่าหยุด เจ้าชื่อว่าไม่หยุดฯ
อธิบายว่า จิตของพระองค์หยุดจากบาปแล้ว แม้ยังเดินอยู่บัดนี้ก็จะไม่ท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏ ดังนี้ ชื่อว่าพระองค์หยุดแล้ว ส่วนจิตของโจรยังหมกหมุ่นอยู่ในบาป แม้ตัวหยุดอยู่ในบัดนี้ ก็จักท่องเที่ยวเสวยผลแห่งบาปต่อไป  เหตุฉะน้้น ชื่อว่าไม่ยุด  

องคุลิมาลได้สดับพระธรรมเทศนาเพียงเท่านี้ มีจิตยินดีรู้สึกพระมหากรุณาธิคุณด้วยเห็นว่า พระองค์เสด็จมาครั้งนี้เพื่อสงเคราะห์ตน จึงกราบทูลโดยนิพนธ์คาถาว่าดังนี้


          จิรสฺสํ วต เม มหิโต มเหสี
           มหาวนํ สมโณยํ ปจฺจุปาทิ
พระมหาสมณะนี้ ผู้แสวงหาซึ่งคุณใหญ่ อันเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายบูชาแล้ว ปรากฏแก่ข้าพเจ้าในป่าใหญ่ สิ้นกาลนานหนอฯ

          โสหํ จริสฺสามิ ปชหิสฺส ปาปํ
           สุตฺวาน คาถํ ตว ธมฺมยุตฺตํ
ข้าพเจ้าได้สดับถาคาอันเกี่ยวกับธรรมของท่านแล้ว จักละความชั่ว ประพฤติความดีต่อไปฯ

ครั้นกราบทูลดังนี้แล้ว ทิ้งดาบและอาวุธไว้ในป่านั้น ถวายบังคมพระบาทยุคลแล้ว ทูลขอบรรพชาในสถานที่นั้นฯ

นิพนธ์ ของ สมเด็จพระวันรัต (เฮง ป.๙) เขมจารีมหาเถระ
วัดมหาธาตุ พระนคร


หัวข้อ: Re: หญ้าคา อันบุคคลจับไม่ดี ย่อมบาดมือนั่นเอง - พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 15 ตุลาคม 2566 18:00:38


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/24733935586280_1...JPG)

"...หญ้าคา อันบุคคลจับไม่ดี ย่อมบาดมือนั่นเอง ฉันใดฯ
ความเป็น สมณะ อันบุคคลปฏิบัติไม่ดี ย่อมฉุดเข้าไปในนรก ฉันนั้น ฯ..."


ตายนสูตร
พระไตรปิฎก ฉบับสยามรัฐ (บาลี) เล่ม ๑๕ หน้า ๖๘ ข้อ ๒๔๐



หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 20 ตุลาคม 2566 16:40:34

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/31383781466219_5_Copy_.jpg)


800


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 28 ตุลาคม 2566 19:05:38

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/77690349933173_555_Copy_.jpg)

800


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 02 พฤศจิกายน 2566 19:06:44


(http://www.sookjaipic.com/images_upload/68352855700585_7_Copy_.jpg)


หัวข้อ: Re: พุทธธรรมเพื่อชีวิตและสังคม
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 28 มีนาคม 2567 15:22:54

(https://i.pinimg.com/236x/1e/12/c4/1e12c4f49730611048635b3b128ec217.jpg)
i.pinimg.com (ที่มาภาพประกอบ)

อคุณํ ธนุ ญาติกุเล จ ภริยา  ปารํ นาวา อกฺขภคฺคญฺจ ยานํ
ทูเร มิตฺโต ปาปสหายโก จ       กิจฺเจ ชาเต อนตฺถจารินี ภวนฺติฯ

ความแห่งคาถา ว่า
ธนูไม่มีสาย ๑   ภริยาอยู่ในตระกูลญาติ ๑   เรืออยู่ฝั่งโน้น ๑  
รถเพลาหัก ๑   มิตรอยู่ไกล ๑   สหายลามก ๑

ทั้ง ๖ นี้ เมื่อเกิดธุระขึ้นแล้ว ใช้ประโยชน์ไม่ได้

ดูก่อนสหาย หญิงย่อมดูหมิ่นสามีด้วยฐานะ ๘ อย่าง
ดูหมิ่นเพราะความจน ๑ เพราะความเจ็บกระเสาะกระแสะ ๑ เพราะความชรา ๑ เพราะเป็นนักเลงสุรา ๑
เพราะโง่เซอะ ๑ เพราะเมา ๑ เพราะอนุวัตตามการงานไม่ทัน ๑ เพราะทำให้ทรัพย์เกิดขึ้นไม่ได้ ๑

ต่อไปนี้เป็นคาถาอีกส่วนหนึ่งแสดงเหตุผลแห่งวัตถุทั้งแปด ว่า

ทลิทฺทํ อาตุรญฺจาปิ  ชิณฺณกํ สุราโสณฺฑกํ
ปมตฺตํ มุทฺธปตฺตญฺจ     ทตฺตํ กิจฺเจสุ หาปนํ
สพฺพกามาปณิธาเนน    อวชานนฺติ สามิกํ ฯ

(ความแห่งคาถานี้เหมือนกับข้างบน)

ที่มา นิบาตชาดก (กุณาลชาดก)