[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สยาม ในอดีต => ข้อความที่เริ่มโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 23 ธันวาคม 2553 18:26:36



หัวข้อ: การกุดหัว (ตัดหัว) ประหารชีวิต และ เรื่องของเพชฌฆาต
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 23 ธันวาคม 2553 18:26:36

โทษประหารชีวิต เป็นการลงโทษที่รุนแรงที่สุดที่ใช้ต่อผู้กระทำความผิด

ถือว่าเป็น การลงโทษที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน


จุดมุ่งหมายของการประหารชีวิตคือ การกำจัดผู้กระทำผิดให้พ้นไปจากสังคมด้วยวิธีการฆ่า ในสมัยโบราณการลงโทษประหาร เรียกว่า "กุดหัว" โดยใช้ดาบฟันคอ นักโทษเด็ดขาด



(http://munez30.exteen.com/images/lifestory/a013.jpg)

ดาบของนายเหรียญ เพิ่มกำลังเมือง เพชรฆาตดาบคนสุดท้ายของประเทศไทย


ว่าด้วยเรื่องดาบ

“ ดาบ ” ถือเป็นอาวุธประจำตัวนักรบโบราณที่ใช้กันทั่วไปทั่วโลก จะผิดแผกแตกต่างกันก็เฉพาะรูปแบบ สำหรับ “ ดาบไทย ” อันใช้เป็นดาบเพชฌฆาต ได้รับการสร้างขึ้นตามตำนานการสร้างด้วยการหาเหล็กที่เป็นเหล็กเนื้อดีนำมาไล่ขี้ควายออกแล้วหลอมกันเป็นก้อนเจือด้วยเหล็กจากบ่อพระแสง จ.อุตรดิตถ์ ที่เรียกกันว่า“ เหล็กน้ำพี้ ”

เหล็กน้ำพี้นั้นเป็นเหล็กที่มีส่วนผสมโลหะธาตุตามธรรมชาติที่มีคุณสมบัติควบคุมเนื้อเหล็กธรรมดาให้เกิดความคงทนแข็งแกร่งไม่กินตัวเองให้เป็นสนิม ทนทานต่อการฟันของหนาๆที่แข็งคมจนเกิดประกายอันเป็นการข่มขวัญศัตรูด้วย การสร้างดาบเพชฌฆาตต้องถือ “ ฤกษ์เพชฌฆาต ” เป็นสำคัญ ส่วนการตีดาบให้ได้รูปลักษณ์ที่ต้องการและคม ต้องใช้ยามยมขันธ์เป็นหลัก

ลักษณะดาบเพชฌฆาตแยกเป็น ดาบหนึ่ง ดาบสอง

ดาบหนึ่ง จะมีความสั้นกว่าดาบสอง ใบดาบจะกว้างกว่าดาบสอง ทั้งด้ามดาบก็สั้นกว่า สันดาปจะหนาประมาณ ๑ ซ.ม. ส่วนด้ามดาบประกอบด้วยเหล็กรัด ใช้เชือกด้ายดิบถักหุ้มด้วยลวดลายรัดกุมเพื่อให้สาก ถนัดในการกระชับ ทั้งลงรักและยางไม้เพื่อรักษาด้วยให้คงทนต่อการใช้งาน สภาพดาบปลายจะหักลง แล้วงอนขึ้นคล้ายใบง้าวของจีนเพื่อให้เกิดน้ำหนักถ่วงทางโคนดาบให้ได้ดุล

ดาบสอง ใบดาบจะยาวกว่าดาบหนึ่งประมาณ ๘ ซ.ม. ใบดาบเรียวคล้ายดาบที่นักรบไทยโบราณทั่วไปใช้ ปลายดาบเฉียงต่ำรับกับความโค้งของใบดาบด้านล่าง สันดาปบางประมาณ ๐.๗ ซ.ม.

ดาบเพชฌฆาตคู่นี้ได้รับการทิ้งไว้ยัง ห้องพิเศษในคุกหลวง ห้ามผู้ใดแตะต้อง ทุกวันเสาร์จะมีการสังเวยด้วยเหล้าและไก่ต้มเป็นการบวงสรวง จนมีการเล่าขานกันว่า ดาบ ๒ เล่มดังกล่าวจะสั่นได้เองเหมือนถูกคนจับเขย่า และหลังจากดาบทั้งคู่สั่นไม่เกิน ๗ วันก็จะต้องมีพิธีประหารชีวิตนักโทษเกิดขึ้นทุกคราไป

ทั้งดาบหนึ่ง ดาบสองนี้ถูกใช้มาจนถึง รัชกาลที่ ๖ จึงได้ยกเลิก แต่สำหรับชีวิตนักโทษที่สังเวยไปจากดาบคู่นี้ประมาณไม่ต่ำกว่า ๑,๐๐๐ ศพ



(http://munez30.exteen.com/images/lifestory/a012.jpg)


ว่าด้วยเรื่องเพชฌฆาต

สำหรับ “ เพชฌฆาต ” นั้นเป็นตำแหน่งที่โปรดเกล้าพระราชทานให้แก่ผู้มีดวงอันเหมาะสมโดยจะมีบรรดาโหราจารย์นำดวงชะตาไปคำนวณอย่างละเอียดเพื่อประกอบในการคัดเลือก ทั้งนี้ด้วยถือกันว่า การประหารชีวิตคนอันเป็นสัตว์ประเสริฐนับเป็นกรรมหนักรุนแรง จึงต้องเฟ้นหาดวงเพชฌฆาตที่มีดวงคุ้มตัวเองได้ มิฉะนั้นชีวิตจะสั้น !

พอเลือกเฟ้นได้คนที่มีดวงเหมาะสม ยังต้องเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญเพลงดาบอย่างดี ทั้งมีความรู้เกี่ยวกับดาบ มีความแม่นยำในการลงดาบ เพื่อขณะทำการประหารจะได้ไม่เป็นการทรมานนักโทษจนเกินไป และผู้เป็นเพชฌฆาตจะต้องมีความรู้ทางด้านคาถาอาคมเป็นพิเศษด้วยเช่น คาถาสวดวิญญาณผีตายโหง อาคมก่อนหยิบดาบเพชฌฆาต รวมทั้งสามารถแก้อาถรรพณ์หากผู้ถูกประหารมีวิชาด้านคงกระพันชาตรี

ตัวเพชฌฆาตหรือมือประหารเองจะต้องอยู่ประจำ ณ เรือนจำตั้งแต่ได้รับคำสั่งให้เตรียมการ จากนั้นเมื่อได้เวลาเพชฌฆาตจะอัญเชิญดาบออกจากที่ตั้งไปทำการบวงสรวงด้วยเครื่องเส้น เพื่อปลุกดาบให้เข้มขลัง เสร็จพิธีแล้วจึงค่อยเก็บดาบไว้ที่ตั้งเดิมรอเวลาประหาร





หัวข้อ: Re: การกุดหัว (ตัดหัว) ประหารชีวิต และ เรื่องของเพชฌฆาต
เริ่มหัวข้อโดย: wondermay ที่ 23 ธันวาคม 2553 18:36:38
แล้วเพชฌฆาตหน้าหยกล่ะ ฮ่าๆ
 (:BR:) (:BR:)


หัวข้อ: Re: การกุดหัว (ตัดหัว) ประหารชีวิต และ เรื่องของเพชฌฆาต
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 23 ธันวาคม 2553 18:37:32
(http://statics.atcloud.com/files/comments/60/600741/images/1_display.jpg)

ครั้นได้ฤกษ์เพชฌฆาตดาบหนึ่ง ดาบสองค่อยอันเชิญดาบออกจากที่ตั้ง พร้อมแต่งกายด้วยผ้าเตี่ยวสีแดงสด นุ่งหยักรั้งทะมัดทะแมงสวมเสื้อกั๊กสีแดงลงยันต์มหาอำนาจ มหาเดช มีบางรายคาดหัวด้วยผ้าสีแดงลงยันต์ เมื่อออกจากเรือนจำไปกับขบวนนักโทษเพชฌฆาตจะอยู่รั้งท้ายขบวน เมื่อถึงลานประหารที่กำหนดไว้ นักโทษจะถูกผูกตา ช่วงนี้เองที่เพชฌฆาตทั้งดาบหนึ่ง ดาบสองจะเข้าไปขออโหสิกรรม



หัวข้อ: Re: การกุดหัว (ตัดหัว) ประหารชีวิต และ เรื่องของเพชฌฆาต
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 23 ธันวาคม 2553 18:39:32

(http://statics.atcloud.com/files/comments/60/600743/images/1_display.jpg)

บนพื้นที่ลานประหารด้านหลังนักโทษ มีการสร้างประตูป่า ทำด้วยไม้หลัก 3 อัน ผูกติดกันเป็นประตูปักไว้กับดินจนแน่น จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำเอาใบไม้ กิ่งไม้ มาสุมคลุมไว้จนมองไม่เห็นทางเข้า ยกเว้น มือเพชฌฆาตเท่านั้น ที่รู้ ส่วนด้านใน มีอาสนะ ยกพื้นสูง สำหรับพระสงฆ์ นั่งประจำ กับบาตร บรรจุน้ำมนต์ สองบาตร



หัวข้อ: Re: การกุดหัว (ตัดหัว) ประหารชีวิต และ เรื่องของเพชฌฆาต
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 23 ธันวาคม 2553 18:40:49

(http://statics.atcloud.com/files/comments/60/600744/images/1_display.jpg)

น้ำมนต์ดังกล่าวเรียก “ น้ำมนต์ ธรณีสารใหญ่ ” เพื่อล้างเสนียดอัปรีย์ทั้งปวง ทั้งยังไล่เคราะห์ให้กับเพชฌฆาตด้วย ต่อมา เพชฌฆาตดาบหนึ่ง และ ดาบสองจะเข้าไปอยู่หลังประตูป่า พลางภาวนาคาถาอาคม สะกดอาคม หากมีอยู่ในตัวนักโทษ พร้อมสะกดดวงวิญญาณผีตายโหง ส่วนที่ลานประหาร จะมีการพันธนาการนักโทษเข้าสู่หลักประหาร โดยมีพระธำมรงค์เดินไปแจ้งต่อผู้แทนพระองค์ ว่าจะเริ่มพิธีประหาร



หัวข้อ: Re: การกุดหัว (ตัดหัว) ประหารชีวิต และ เรื่องของเพชฌฆาต
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 23 ธันวาคม 2553 18:42:07

(http://statics.atcloud.com/files/comments/60/600748/images/1_display.jpg)

จากนั้น ปี่หลวงทำเพลงไหว้ครูเสียงโหยหวน เพชฌฆาตดาบสอง ออกไปร่ายรำตามจังหวะเพลงโดยรอบตัวนักโทษด้วยการ “ วนซ้าย ” ให้เกิดอัปมงคลแก่ตัวนักโทษ




หัวข้อ: Re: การกุดหัว (ตัดหัว) ประหารชีวิต และ เรื่องของเพชฌฆาต
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 23 ธันวาคม 2553 18:43:22


(http://statics.atcloud.com/files/comments/60/600752/images/1_display.jpg)

จากนั้น ปี่กลองจะทำซ้ำ แล้วเร่งเร็วขึ้นเป็นจังหวะ เมื่อดนตรีเร่งกระชั้นถี่ เพชฌฆาตดาบหนึ่ง จะแหวกประตูป่าดู เมื่อกำหนดจิตมั่น ก็จะย่างสามขุมเข้าไปหานักโทษประหารทีละก้าวอย่างแผ่วเบา ด้านนักโทษประหารจะมัวแต่ระแวงเพชฌฆาตดาบสองที่ร่ายรำอยู่รอบตัว โดยมิได้ระแวงภัยทางด้านหลัง



หัวข้อ: Re: การกุดหัว (ตัดหัว) ประหารชีวิต และ เรื่องของเพชฌฆาต
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 23 ธันวาคม 2553 18:44:26

(http://statics.atcloud.com/files/comments/60/600755/images/1_display.jpg)

พอได้ระยะ เพชฌฆาตดาบหนึ่ง จะเงื้อดาบขึ้นสุดล้าฟันฉับทันควัน คมดาบคมกริบตัดผ่านข้อกระดูกข้อต่อคอ และกล้ามเนื้อออกไปทางด้านหน้า ซึ่งหากเพชฌฆาตมีสติมั่นกับแม่นยำ คมดาบจะตัดข้อต่อระหว่าง กระดูกก้านคอ กับกระดูกสันหลัง อันจะส่งผลให้นักโทษ หัวขาดกระเด็น หลุดจากบ่า ในบัดนั้น




หัวข้อ: Re: การกุดหัว (ตัดหัว) ประหารชีวิต และ เรื่องของเพชฌฆาต
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 23 ธันวาคม 2553 18:45:49

(http://statics.atcloud.com/files/comments/60/600763/images/1_display.jpg)

แต่ถ้าดาบหนึ่งฟันพลาด คมดาบจะตัดกล้ามเนื้อลำคอข้างหน้าไม่ขาด เหลือเอ็นกับเนื้อไว้ ทำให้หัวของนักโทษพับลงมาห้อยจนคางห้อยจรดหน้าอก ความหวาดเสียวอันอาจทำให้ผู้คนที่ชมการประหารถึงเป็นลมก็ตอนที่หัวนักโทษขาด ซึ่งส่งผลให้เลือดที่กำลังวิ่งขึ้นด้านบน จะพุ่งกระฉูดเหมือนน้ำพุ ทั้งหัวนักโทษที่หลุดหล่นตกยังพื้นก็สามารถยักคิ้ว หรือทำตาเหลือกได้อีก นั่นเพราะเส้นเอ็นกระตุก จึงสร้างความสยดสยองพรั่นกลัวแก่ผู้พบเห็นไม่น้อย อนึ่ง หากเพชฌฆาตดาบหนึ่ง ฟันคอไม่ขาดลงทีเดียว จะเป็นหน้าที่ของเพชฌฆาตดาบสอง ต้องเอามือจิกหัวนักโทษขึ้น แล้วใช้ดาบสองเชือดจนเส้นเอ็น กับกล้ามเนื้อขาด จากนั้นจึงค่อยนำไปวางยังปลายเท้านักโทษ



หัวข้อ: Re: การกุดหัว (ตัดหัว) ประหารชีวิต และ เรื่องของเพชฌฆาต
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 23 ธันวาคม 2553 18:46:43

(http://statics.atcloud.com/files/comments/60/600768/images/1_display.jpg)

สำหรับเพชฌฆาตดาบหนึ่ง เมื่อลงดาบแล้วจะกระทืบเท้าครั้งหนึ่ง แล้วยกใบดาบขึ้น เลียเลือดที่ติดปลายดาบกิน เป็นการข่มวิญญาณผีตายโหง จึงค่อยหันหลังกลับวิ่งตรงเข้าประตูป่าทันที ทั้งนี้มีข้อห้าม มิให้เพชฌฆาตหันหลังกลับไปมอง และต้องระวังมิให้หกล้มลงกับพื้นเด็ดขาด ด้วยเชื่อกันว่า ในช่วงนั้นวิญญาณผีตายโหงจะเข้าสิงทันที




หัวข้อ: Re: การกุดหัว (ตัดหัว) ประหารชีวิต และ เรื่องของเพชฌฆาต
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 23 ธันวาคม 2553 18:50:29

(http://statics.atcloud.com/files/comments/60/600776/images/1_display.jpg)

เมื่อผ่านเข้าประตูป่า พระสงฆ์ที่คอยทีอยู่ จะรดน้ำมนต์ธรณีสารใหญ่ทั้งสองบาตร ต่อมาเพชฌฆาตจึงค่อยกลับไปอยู่ในเรือนจำ เหล่านี้เป็นหน้าที่ของเพชฌฆาตสมัยโบราณ แต่หากมีนักโทษบางรายคงกระพันชาตรี ก็ให้นำสิ่งที่เป็นอัปมงคลผสมน้ำราดหัวให้ความคงกระพันเสื่อม ถ้าขั้นดังกล่าวยังไม่สำเร็จโทษได้ ก็ให้ใช้วิธีสวนทวารด้วยไม้รวกปลายแหลม



(http://statics.atcloud.com/files/comments/60/600777/images/1_display.jpg)

ถ้ายังไม่ตายจึงทุบด้วยตะลุมพุก หรือเอาไปต้มในน้ำเดือดให้ตกตายตามโทษานุโทษ




เป็นไงบ้างครับ น่ากลัวไหม


ที่มา : แอทคลาวด์ กรมราชทัณฑ์ พิพิธภัณฑ์กรมราชทัณฑ์