[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: phonsak ที่ 25 ธันวาคม 2553 23:30:44



หัวข้อ: ถ้านิพพานเป็นอัตตา ศาสนาพุทธก็คงไม่ต่างอะไรกับศาสนาอื่น จริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 25 ธันวาคม 2553 23:30:44
จริงหรือ....ถ้านิพพานเป็นอัตตา ศาสนาพุทธก็คงไม่ต่างอะไรกับศาสนาอื่น?

ถ้านิพพานเป็นอัตตา ศาสนาพุทธก็คงไม่ต่างอะไรกับศาสนาอื่น ที่ปฏิบัติให้ถึงที่สุดเพื่อไปอยู่กับพระเจ้า..
อย่างนี้การนับถือศาสนาก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเลือก เพราะศาสนาไหนก็สอนธรรมอันเป็นที่สุดไม่ต่างกัน..
ท่านพลศักดิ์ว่าไหม..
ถามมาด้วยความเคารพ!



ตอบ

ศาสนาอื่นๆ เช่น คริสต์ มุสลิม ฮินดู  ฯลฯ  เขาสอนให้คนไปอยู่กับพระเจ้า  ไปพึ่งพาอาศัยพระเจ้า และรับสวรรค์รวมทั้งพรหมโลกต่างๆของพระเจ้าเท่านั้น 

ไม่มีศาสนาใดที่สอนให้คนไปเป็นพระเจ้าเองเลย  ยกเว้นศาสนาพุทธ  เมื่อคุณบรรลุอรหันต์ ก็คือได้ธรรมกาย หรือนิพพานธาตุ  นั่นแหละคือ คุณเข้าสู่ความเป็นพระเจ้า ศาสนาพุทธเรียกพระเจ้าว่า "พุทธะ"  พระอรหันต์สาวกก็คือ "อนุพุทธะ"

ผมจะบอกคุณนะ  นิพพานเป็นอัตตา เพราะนิพพานคือธรรมกายดวงใหญ่สุด  ที่เป็นต้นกำเนิดธรรมกายอื่นๆ  รวมทั้งธรรมกายของพระพุทธเจ้าต่างๆด้วย

พวกเราทุกคนระเบิดตัวเองออกมาจากธรรมกายดวงใหญ่สุด   แยกตัวเองเป็นองค์เล็กๆ  ธรรมกายองค์เล็กๆนี้ก็  เป็นส่วนหนึ่งของธรรมกายดวงใหญ่สุด  ศาสนาพราหมณ์เขาพูดถูกในส่วนนี้ เขาเรียกธรรมกายดวงใหญ่สุดว่า "ปรมาตมัน" และเรียกธรรมกายองค์เล็กๆว่า"อาตมัน"

 นิพพานก็คือ ธรรมกายองค์เล็กๆ"อาตมัน"  เข้าไปอยูกับธรรมกายดวงใหญ่สุด "ปรมาตมัน"

หลวงปู่ดุลย์ อตโล อธิบายว่า:

" โดยปราศจากรูปปรมาณู(หมายถึง ดับวิญญาณธาตุและดับนามรูปแล้ว) ความว่างนั้น จึงบริสุทธิ์และสว่าง รวมเข้ากับความว่าง บริสุทธิ์ สว่าง ของจักรวาลเดิม เข้าเป็นหนึ่งเรียกว่า นิพพาน"

ความว่างที่บริสุทธิ์และสว่างแต่ละดวง รวมเข้ากับ ความว่าง บริสุทธิ์ สว่างของจักรวาลเดิม เข้าเป็นหนึ่งเรียกว่า นิพพาน" = อาตมัน เข้าไปรวมเข้ากับ ปรมาตมัน..... ตามที่ศาสนาพราหมณ์สอนไว้จริงๆ

ศาสนาพราหมณ์เขาพูดผิด คิดผิดตรงที่ เขาคิดว่าขันธ์ 5 เป็นอาตมัน เป็นอัตตา เพราะวิญญาณไม่มีวันตาย  เพียงแต่ออกจากร่างนี้ไปอยู่ร่างอื่น เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า   พระพุทธเจ้าได้ปฏิเสทความคิดท่อนนี้  และสอนให้ชัดเจนว่า "อาตมัน" ที่ไม่มีวันตายนั้นคือ "อรหันต์" = อัตตา   ส่วนสิ่งอื่นที่ไม่ใช่อรหันต์ เช่น มนุษย์ สัตว์ เทวดา พรหม และอรูปพรหม สิ่งเหล่านั้นตายได้ทั้งนั้น

และพระพุทธองค์ยังสอนทางเข้าไปสู่ความเป็น"อาตมัน" ที่ไม่มีวันตาย หรือ "อรหันต์" ซึ่งเป็น อัตตา  นั้นด้วย

  "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความกำจัดราคะ โทสะ ความกำจัดโมหะ นี้เป็นชื่อแห่ง นิพพานธาตุ ความสิ้นราคะ ความสิ้นโทสะ ความสิ้นโมหะ นี้เรียกว่า อมตภาพ"  

นี่เป็นวิธีเดียวเท่านั้น ที่จะนำเรากลับเข้าไปเป็น อัตตา(สิ่งที่เที่ยง ไม่ทุกข์ ไม่แปรปรวนเป็นธรรมดา) ถ้าเรากำจัดราคะ โทสะ โมหะไม่หมด   เราก็ยังเป็นสิ่งที่เป็น อนัตตา อยู่ดี


หัวข้อ: Re: ถ้านิพพานเป็นอัตตา ศาสนาพุทธก็คงไม่ต่างอะไรกับศาสนาอื่น จริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: WangJai ที่ 26 ธันวาคม 2553 01:32:45
 ;D ;D ;D

เอาข้อความอ้างอิงจากคุณ Pure+ จากใต้ร่มธรรมที่ถูก phonsak ตัดออก เอามาให้ดูกันเต็มๆ
เพราะว่าสองเว็บนี้เค้าใจดีจริงๆ ไม่แอบลบกระทู้ ไม่แอบตัดต่อดัดแปลงข้อความเหมือนเว็บลูกสมุน "ใบไม้นอกกำมือ"

ถ้านิพพานเป็นอัตตา ศาสนาพุทธก็คงไม่ต่างอะไรกับศาสนาอื่น ที่ปฏิบัติให้ถึงที่สุดเพื่อไปอยู่กับพระเจ้า..
อย่างนี้การนับถือศาสนาก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเลือก เพราะศาสนาไหนก็สอนธรรมอันเป็นที่สุดไม่ต่างกัน..
ท่านพลศักดิ์ว่าไหม..
ถามมาด้วยความเคารพ!

ถ้าจะตอบก็เอาตามเหตุผลความเข้าใจของท่านมาตอบนะ ไม่ต้องไปยกเอาพระสูตรอะไรมาอิง
หรือถ้าจะใช้พระสูตรอ้าง ก็สรุปเอาใจความของคำตอบมาให้ชัดๆจะๆ ไม่ต้องดีความกันให้วุ่นวายไปอีก
และโปรดอย่าเอาพุทธพจน์มาตีความเข้าข้างความคิดของตัวเอง
ถ้าจะยกพุทธพจน์มาอ้างให้ยกมาแบบเพียวๆ ไม่ต้องไปหมายถึงให้พุทธพจน์นั้น... หรือใช้ทิฏฐิส่วนตัวโดยใช้คำว่า....กล่าวอีกนัยหนึ่ง มาตอบ และโปรดอ้างแหล่งที่มาให้ชัดเจน เพื่อง่ายแก่การตามสืบค้นด้วย..

แฮบปี้ปีใหม่กับท่านพลศักดิ์มา ณ ที่นี้ด้วย..

และนี่คือส่วนที่ Phonsak ไม่กล้านำออกมาเผยแพร่ เพราะกลัวจะแถไม่ลื่นไหล  ;D

ถ้าจะตอบก็เอาตามเหตุผลความเข้าใจของท่านมาตอบนะ ไม่ต้องไปยกเอาพระสูตรอะไรมาอิง
หรือถ้าจะใช้พระสูตรอ้าง ก็สรุปเอาใจความของคำตอบมาให้ชัดๆจะๆ ไม่ต้องดีความกันให้วุ่นวายไปอีก
และโปรดอย่าเอาพุทธพจน์มาตีความเข้าข้างความคิดของตัวเอง
ถ้าจะยกพุทธพจน์มาอ้างให้ยกมาแบบเพียวๆ ไม่ต้องไปหมายถึงให้พุทธพจน์นั้น... หรือใช้ทิฏฐิส่วนตัวโดยใช้คำว่า....กล่าวอีกนัยหนึ่ง มาตอบ และโปรดอ้างแหล่งที่มาให้ชัดเจน เพื่อง่ายแก่การตามสืบค้นด้วย..

http://www.tairomdham.net/index.php/topic,4432.0.html (http://www.tairomdham.net/index.php/topic,4432.0.html)


หัวข้อ: Re: ถ้านิพพานเป็นอัตตา ศาสนาพุทธก็คงไม่ต่างอะไรกับศาสนาอื่น จริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: WangJai ที่ 26 ธันวาคม 2553 01:48:52
มาดูน้องต๊ะติ้งโหน่งมั่งดีกว่า  ;D


นิพพานเริ่มแรกที่พวกเราอยู่  มันมีความสุขบริสุทธิ์สถานเดียว  ไม่มีความสุขแบบอื่นให้เปรียบเทียบ  พวกเราจึงจำเป็นต้องสร้างโลก จักรวาล ขึ้นมา  และอนุญาตให้จิตปภัสสรของเราสามารถเปิดรับกิเลสอวิชชาได้  เพื่อว่าจิตปภัสสร(นิพพานจิต)ใด อยากออกไปอยู่ในภพภูมิอื่น ก็ทำได้ทั้งนั้น

แต่พอเราออกมาจากนิพพานแล้ว  ก็ยิ่งสั่งสมกิเลสอวิชชามากขึ้น  ก่อกรรมดีกรรมชั่วเป็นอนันต์  เราจึงหาทางกลับบ้านเดิม คือ นิพพาน ของเราไม่ได้

ผู้ที่เข้านิพพานครั้งที่ 2 ออกมา  ทุกท่านล้วนดำรงตนอยู่ในฐานะพระโพธิสัตว์อรหันต์ เช่น เจ้าแม่กวนอิม จี้กง ฯลฯ  ยังไม่เห็นผู้ที่ออกมา แล้วยอมป่วยจากโรคกิเลสอวิชชาใหม่สักรายเดียว  ยกเว้นผู้ที่ปฏิญาณตนขอเป็นพระพุทธเจ้า เช่น พระศรีอริยะเมตตรัยเท่านั้น  แต่ความจริงพระศรีอริยะเมตตรัยก็ยังอยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิตเหมือนเดิม  ท่านเพียงแต่ส่งจิตวิญญาณของท่านซึ่งมีมากมายนับไม่ถ้วน ลงมาเกิดแทนท่านเท่านั้น  เรียกว่า  "อวตาร"

ผมเคยสนธนากับพระศรีอริยะเมตตรัยโพธิสัตว์  ท่านยืนยันว่าหลวงปู่ดู่ หลวงพ่อโต และหลวงปู่ทวด  ล้วนเป็นจิตวิญญาณของท่านส่งมาสร้างบารมี เพื่อให้เพียงพอจะเป็นพระพุทธเจ้า

อ่อ เข้าใจแล้วครับ
นิพพานเริ่มแรก ของคุณพี่เจ้าของกระทู้ ก็เต็มไปด้วยกิเลส เต็มไปด้วยอวิชชา
แถมยังอยากแสวงหากิเลสความสุขอย่างอื่นมาเพิ่ม
จะเข้านิพพานของคุณพี่เจ้าของกระทู้ แบบนี้ กี่ครั้งๆ เข้าๆออกๆ กี่ครั้งกี่ครั้ง
มันก็กลับเข้าไปหากิเลส  ออกมาหากิเลสอีก
นิพพานแบบคุณพี่เจ้าของกระทู้แบบนี้ ไม่เอาดีก่า น่ากลัวจัง
 :22:

ผมคิดว่า คุณกำลังแกล้งโง่ และแกล้งตีความผิดอยู่นะครับ    พระพุทธเจ้าตรัสว่า นิพพานเป็นความสุขอย่างยิ่งยวด ไม่มีสุขอื่นที่ยิ่งกว่า  และตรัสว่า นิพพานเป็นความสูญอย่างยิ่ง  "นิพพานัง ปรมัง สุญญัง นิพพานัง ปรมัง สุขขัง"   ความสูญจากกิเลสตัณหา สูญจากความคิดปรุงแต่ง นั้นแหละคือ ความสุขอย่างยิ่งยวด ไม่มีสุขอื่นที่ยิ่งกว่า

 พระสารีบุตรก็เลยเข้าไปดูนิพพาน   พอกลับมาก็บอกว่า นิพพานไม่มีเวทนา    ภิกษุอื่นก็งงว่า  ไม่มีเวทนาแล้วจะมีความสุขได้อย่างไร  พระสารีบุตรจึงตอบว่า นิพพานไม่มีเวทนานั้นแหละเป็นสุขอย่างยิ่งยวด

มนุษย์ทั่วไปรับความสุขได้เวทนา หรือจากความรู้สึกในอายตนะต่างๆ  สูงกว่านั้นก็รับความสุขจากการช่วยเหลือคนอื่น  แต่ความสุขจากการวาง  ไม่เอาอะไรสักอย่าง  เราไม่เคยรับ  จึงไม่เชื่อว่า  นิพพานที่ไม่มีเวทนาเป็นความสุขอย่างยิ่งยวด ไม่มีสุขอื่นที่ยิ่งกว่า

อ่า... คุณพี่เจ้าของกระทู้ครับ

นิพพานที่ปริสุทธิ์ ของพระพุทธเจ้า ....ต่างกับ....  นิพพานแบบมีกิเลสของคุณพี่นะครับ

นิพพานสกปรกของคุณพี่ ... คุณพี่ก็บอกเอง ว่า ...มีความปรุงแต่ง
อยากเปรียบเทียบความสุข ...ก็เลยออกจากนิพพาน

ผมว่า นิพพานของคุณพี่ ...เป็นนิพพานที่สกปรก ...เกลือกกลั้วด้วยกิเลส และความปรุงแต่งมากๆนะครับ...
ที่ยังคิดอยาก จะสร้างโน่นสร้างนี้ขึ้นมา..

ก็ตรงกับคำพูดของคุณพี่..ในกระทู้ข้างบน..อยู่แล้ว...

คุณพี่ท่าทางจะโง่จริงๆ ..ให้คุณพี่ ย้อนกลับขึ้นไปดูข้อความของคุณพี่..ที่กระทู้ข้างบน..
แล้วก็กลืนน้ำลายโสโครก ...นั่นเสียด้วย

ถ้าจำไม่ได้ ว่าพูดอะไรไว้ ..

ก็ยกมาให้ดู...

"ว่า นิพพานเริ่มแรกที่พวกเราอยู่  มันมีความสุขบริสุทธิ์สถานเดียว  ไม่มีความสุขแบบอื่นให้เปรียบเทียบ  พวกเราจึงจำเป็นต้องสร้างโลก จักรวาล ขึ้นมา  และอนุญาตให้จิตปภัสสรของเราสามารถเปิดรับกิเลสอวิชชาได้  เพื่อว่าจิตปภัสสร(นิพพานจิต)ใด อยากออกไปอยู่ในภพภูมิอื่น ก็ทำได้ทั้งนั้น"

คุณพี่จะเป็นบอมเบอร์แมน ระเบิดธรรมกายของคุณพี่ ...
แล้วจะเอาชิ้นส่วน ไปรวมกับใครก็เรื่องของคุณพี่ ..

จะเอาธรรมกายสกปรกของคุณพี่ ...เข้าๆๆออกๆๆ... นิพพานเกลือกกลั้วกิเลสของคุณพี่ ก็ทำไปเถิด
นิพพานโสโครกของคุณพี่.... ผมไม่ไปด้วยหรอกครับ
 :22:

ถ้าจะดูกันแบบเต็มๆ ก็ตามมาที่ใต้ร่มธรรมได้เลย เพราะแอดมินสองเว็บนี้เค้ามีใจเป็นธรรม ไม่แอบลบ ไม่แอบตัดต่อข้อความ เหมือนเว็บลูกสมุน "ใบไม้นอกกำมือ"

http://www.tairomdham.net/index.php/topic,4432.15.html (http://www.tairomdham.net/index.php/topic,4432.15.html)



หัวข้อ: Re: ถ้านิพพานเป็นอัตตา ศาสนาพุทธก็คงไม่ต่างอะไรกับศาสนาอื่น จริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 26 ธันวาคม 2553 09:27:38
 ;D ;D ;D

นิพพานคุณเดียร์ถีย์พลศักดิ์  เป็นของ สกปรก   ดังที่เด็กๆเค้าพยากรณ์ให้  แม่นแล้ว
แถมออกมาจากนิพพานสกปรก มาสร้างแผนสกปรก ตัดต่อความเห็นอีกแน่ะ

 (:VA:) (:VA:) (:VA:)





หัวข้อ: Re: ถ้านิพพานเป็นอัตตา ศาสนาพุทธก็คงไม่ต่างอะไรกับศาสนาอื่น จริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 26 ธันวาคม 2553 16:05:25
คุณWangJai ครับ


ผมเขียนเฉพาะเป็นเรื่องๆไป  เรื่องใดน่าสนใจ  ผมก็จะนำเสนอในเว็บธรรมะต่างๆ  เรื่องทะเลาะเบาะแว้ง   ผมไม่นำเสนอหรอกครับ


หัวข้อ: Re: ถ้านิพพานเป็นอัตตา ศาสนาพุทธก็คงไม่ต่างอะไรกับศาสนาอื่น จริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: WangJai ที่ 26 ธันวาคม 2553 21:04:43
คุณWangJai ครับ


ผมเขียนเฉพาะเป็นเรื่องๆไป  เรื่องใดน่าสนใจ  ผมก็จะนำเสนอในเว็บธรรมะต่างๆ  เรื่องทะเลาะเบาะแว้ง   ผมไม่นำเสนอหรอกครับ

WangJai นำเสนอได้ทุกเรื่องละจ้า ไม่เห็นว่าน่าสนใจหรือไม่น่าสนใจเลยสักเรื่อง  ;D

เมื่อวานได้นำเสนอ "เรื่องไม่น่าสนใจของคุณ phonsak" ไปแล้ว
วันนี้ก็ขอนำเสนอ "เรื่องน่าสนใจของคุณ phonsak" บ้างละ  (:fall:)

ผมชื่อพลศักดิ์ วังวิวัฒน์ครับ  ผมเป็นผู้เขียนหนังสือเรื่องผีอำประตูลับสู่โลกวิญญาณ ทั้งเล่ม 1 และเล่ม 2 เล่ม 1 ผมแจกฟีทั่วประเทศประมาณ39,000 เล่ม  เล่ม 2 ผมทำแจก 41,800 เล่ม ให้สำนักพิมพ์อนิเมตแจกกับหนังสือละคร

อย่าสงสัยเรื่องสวรรค์นรก เลย  ผมไม่เคยเชื่อว่ามันมี  โชคดีผมมีพรสวรรค์หรือจะเรียกว่าพรนรกก็ได้อย่างหนึ่งคือ  ผมสัมผัสวิญญาณได้และ  ผมได้สัมผัสวิญญาณมากว่า 1000 ครั้ง ไม่ใช่แค่ในเมืองไทย แต่ในออสเตรเลีย สิงคโปร์ และในเวียตนาม  โดยการสังเกต และเปรียบเทียบความสุขความทุกข์ที่ออกมาจากร่างกายวิญญาณ  ผมก็จัดลับดับชั้นภูมิต่างๆเอาไว้ ทุกอย่างเป็นไปตามที่พระพุทธเจ้าตรัสสอน

จาก วิญญาณที่ผมสัมผัส  ผมรู้สึกว่า  จากวิญญาณ 120 ดวง  มีวิญญาณในอบายภูมิ คือภูมิเปรตและนรกภูมิมากถึง 70 ดวง คนที่ไปสวรรค์มีเพียง 20 คน เท่านั้น  อีก 30 ดวงกลับไปเกิดใหม่ เพราะทำดีทำชั่วสูสีกัน หรือไม่ก็ตามก่อนวัยอันสมควร  ปัจจุบันผมอายุ 47 ปี   ผมได้เกษียณแล้วเมื่ออายุ  45 ปี  ผมแจกหนังสือฟรีไปทั้ง 2 เล่ม ใช้เงินไปทั้งสิ้น ประมาณ 1 ล้านบาท  เพราะผมรู้แล้วว่า  สวรรค์นรกมีจริงๆ  ผมได้ทำการทดสอบด้วยตัวเองมานับพันครั้ง  แต่ผมจะไม่พูดเรื่องนี้  หนังสือผีอำเล่ม 2 ผมยังพอมีอยู่หลายร้อยเล่ม  ผมยินดีส่งให้ท่านฟรี ถ้าเท่านส่งชื่อที่อยู่ของท่านมาให้ผมที่อีเมล์phonsakw@ksc.th.com

http://www2.manager.co.th/mwebboard/listComment.aspx?QNumber=271&MBrowse=8 (http://www2.manager.co.th/mwebboard/listComment.aspx?QNumber=271&MBrowse=8)

ผีอำ (พลศักดิ์ วังวิวัฒน์)

ทดลองแหย่นิ้วเข้าไปในช่องคลองวิญญาณสาว

     แล้ววันหนิ่งผมได้มีโอกาสทดลองครั้งสำคัญจริงๆ คือ มีวิญญาณสาวดวงหนึ่ง ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เข้ามาหาผมที่ห้องนอน  ตอนนั้นผมหมดความกลัวผีใดๆ แล้ว เจอมาไม่น้อยกว่า 500-600 ครั้ง  และอยู่ในช่วงทดลองสมาธิแผ่เมตตาให้วิญญาณต่างๆ ดวงวิญญาณเหล่านี้ก้อมีวิธีขอบใจแบบแปลกๆ

     วิญญาณสาวดวงนี้มาถึงก้อไม่ฟังเสียงอะไรเลย ไม่รุ้ไปหื่นกามมาจากไหน ทันทีที่รุ้ว่าวิญญาณผมรุ้สึกตัวแล้วเธอก้อเริ่มเล้าโลมผมด้วยปากและมือของ เธอ ไล่ลงมาจากหน้าอกของผม แล้วก้อลงไปเรื่อยๆ บังเอิญผมมีประสบการณ์การถูกผีจับลูกอัณฑะเพื่อขู่ให้ผมกลัว ผมเลยรุ้ว่าที่นั้นเป็นจุดที่คนจะหลุดจากกานอากาผีอำได้ง่าย ผมพยายามเอ่ยปากห้ามเธอ แต่ผมเป็นใบ้ในโลกวิญญาณ จึงพูดอารายไม่ได้ วิญญาณดวงนั้นยังคงเล้าโลมผมต่อไปจนไปถึงจุดสำคัญ แล้วเธอก้อเต็มใจวางอวัยวะเพศของเธอไว้ที่นิ้วมือของผมด้วยก่อนที่การอำจะ หลุด ผมก้อทดลองใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางสอดใส่เข้าไปในอวัยวะเพศของเธอ สัก 4-5 นาที อำนาจการอำก้อหมดไปตามที่ผมคาดคะเนไว้

http://nungreenzasab.spaces.live.com/blog/cns (http://nungreenzasab.spaces.live.com/blog/cns)!49F30BF5887E292B!140.entry


หัวข้อ: Re: ถ้านิพพานเป็นอัตตา ศาสนาพุทธก็คงไม่ต่างอะไรกับศาสนาอื่น จริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: WangJai ที่ 26 ธันวาคม 2553 21:12:15
  (:fall:) (:fall:) (:fall:)

ท่านใดสนใจ "ทดลองแหย่นิ้วเข้าไปในช่องคลอดวิญญาณสาว" ติดต่อคุณ phonsak โดยตรงได้เลย
เรื่องนี้เค้าทุ่มทุนสร้างหมดเนื้อหมดตัวจริงๆ  (:fall:)

WangJai แถมโฆษณาให้ด้วย (:BR:)  ;D


หัวข้อ: Re: ถ้านิพพานเป็นอัตตา ศาสนาพุทธก็คงไม่ต่างอะไรกับศาสนาอื่น จริงหรือ?
เริ่มหัวข้อโดย: armageddon ที่ 26 ธันวาคม 2553 22:25:54
 ;D ;D ;D

เฒ่าหัวงู

 ;D ;D ;D