[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => เกร็ดศาสนา => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 12 เมษายน 2558 09:47:12



หัวข้อ: ตำนาน เทพเจ้าแห่งไฟ
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 12 เมษายน 2558 09:47:12
.
(https://encrypted-tbn2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcT4bpPqxqGF5GLMmoG0SZfbWZulAU3QVcfe0Q5EgPmXJBoDqmur)

ตำนาน เทพเจ้าแห่งไฟ

ชาวจีนสมัยโบราณ เมื่อผจญปัญหาสารพันจากสภาพดินฟ้าอากาศ ก็มักหันไปพึ่งเทพเจ้า หรือเซียนผู้วิเศษ แต่ละเทพหรือเซียนที่นับถือและเล่าขานกันต่อๆ มานั้น ทั้งเรื่องราวและรูปร่างค่อนไปทางพิสดาร

หนังสือ ๑๐๐ เทพ และเซียนจีน (อู่ลี่ว์ซิง เขียน ส.สิริวิทย์ แปล สำนักพิมพ์อมรินทร์) เขียนว่า ๑ ใน ๑๐๐ เทพหรือเซียนจีนนั้น คือจู้หรง เทพเจ้าผู้ควบคุมไฟ

จู้หรง มีอีกชื่อ ราชันอัคคีแห่งทิศทักษิณ เดิมทีมีนามจ้งหลี ต่อมาย้ายไปอยู่เมืองจู้หรง จึงมีอีกชื่อตามที่อยู่ใหม่

เล่ากันว่า จู้หรงใบหน้าเป็นมนุษย์ แต่ร่างกายเป็นสัตว์ แต่ไม่ได้ระบุว่าสัตว์อะไร เมื่อยี่ว์หวงต้าตี้ ส่งมาดูแลเรื่องฟืนไฟในโลกมนุษย์แล้ว ภารกิจประจำที่จู้หรงทำทุกวัน คือการขี่มังกรสองตัว ออกตรวจตราอยู่บนท้องฟ้า  แต่ก็มีเรื่องต่อว่า ต่อมาจู้หรงก็เบื่องานขี่มังกรบนท้องฟ้า หันมาใช้ชีวมนุษย์ธรรมดา นั่งบำเพ็ญภาวนาบูชาเตาไฟอยู่ในบ้าน หวังชีวิตเป็นอมตะ ไม่อยากเกี่ยวข้องกับเรื่องราวในโลก แต่ก็หนีไม่พ้น

ครั้งหนึ่งเกิดอุทกภัยใหญ่ จู้หรงพาเหอจ้ง เหอซู สองบุตรชาย และเจียนเคิงหลานชาย หนีน้ำท่วมไปอยู่เมืองไท่หยวน จักรพรรดิตี้เหยา (หนึ่งในสามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิ) ทราบเรื่อง ก็สร้างที่พำนักให้อยู่สุขสบาย  ทั้งให้โอกาสเข้าเฝ้าได้ทุกสิบวัน ไม่นานนัก จักรพรรดิเหยา ก็มีปัญหา กุ่น ขุนนางที่ทรงส่งไปแก้ปัญหาน้ำท่วม ทำงานล้มเหลวติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้ทรงผิดหวัง มิหนำซ้ำ ทรงจับได้ว่ากุ่นขโมยถุงปรานดินที่เจริญเติบโตได้เอง ของวิเศษของพระองค์ไป

จักรพรรดิสั่งให้จู้หรงไปสังหารกุ่น จู้หรงรับคำสั่งแล้วก็กลับบ้าน เล่าเรื่องให้หวังป๋อภรรยาฟัง

หวังป๋อทักท้วง “ท่านบำเพ็ญเพียรมาหลายสิบปี จะไปสังหารมนุษย์ได้อย่างไร”

“เราบูชาเตาไฟอยู่ทุกวัน เตาไฟเป็นสถานที่อำมหิต เผาสัตว์ วัว แพะ ไก่ สุนัข ปลา ตะพาบ ฯลฯ ที่ไร้ความผิด หรือแม้แต่สัตว์เล็กสัตว์น้อย เช่นกุ้งปูไปมากมาย” จู้หรงบอกภรรยา “จะตื่นกลัวไปไย กับการฆ่าคนคนเดียว”  ร่ำลาเมียแล้ว จู้หรงก็หยิบดาบวิเศษติดตัว ออกเดินทางพร้อมเจียนเคิง หลานชาย ติดตาม “กุ่น” ไปจนถึงเขาหยี่ว์ซาน แดนนรกเวิ้งว้างสุดขั้วของแดนเหนือ ตลอดทั้งปีไม่มีแสงอาทิตย์   ที่นี่ จู้หรงไม่พบ “กุ่น” พบแต่ “ต้าจาง” ขุนนางใหญ่ ผู้ติดตามกุ่น...กำลังนั่งร้องไห้

“กุ่นกระโดดน้ำฆ่าตัวตายไปแล้ว” ต้าจางบอก จู้หรงยังไม่เชื่อ ต้าจางก็เล่าต่อว่า เมื่อเขางมศพกุ่นขึ้นมา ก็พบหมีเหลืองตัวหนึ่งคลานออกจากแขนเสื้อศพ จู้หรงถามว่า หมีเหลืองอยู่ที่ไหน ต้าจางชี้ให้ดูในน้ำ

ในน้ำมีหมีอยู่จริงๆ แต่เมื่อมันรู้ตัวว่า จู้หรงกำลังมอง มันก็ดำน้ำหนี

จู้หรงหาโลงศพอย่างดีมาบรรจุศพกุ่น แล้วเลือกสถานที่...จัดพิธีฝังให้อย่างสมเกียรติ

เรื่องราวของจู้หรง เล่ากันปากต่อปากในสมัยตำนาน...มาปรากฏอีกครั้ง ในสมัย ๒๑๐๐-๑๖๐๐ ปีก่อนคริสตกาล ทังหวังยกทัพไปปราบราชวงศ์เซี่ย ระหว่างนำทหารปิดล้อมเมืองเซี่ย เทพเจ้าองค์หนึ่งได้มาบอกกับทังหวังว่า ยี่ว์หวงต้าตี้สั่งให้มาช่วยปราบข้าศึก เมื่อใดที่เห็นไฟลุกท่วมด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง ก็ให้ระดมทัพเข้าไปโจมตี  บอกแล้วเทพองค์นั้นก็หายไป ทังหวังตั้งสติ พยายามทบทวน ก็นึกได้ว่าเทพองค์นั้นหน้าเป็นมนุษย์ แต่ร่างเป็นสัตว์ จึงเชื่อว่าเป็นเทพจู้หรง ก็ปีติยินดี รอจนกระทั่งเห็นไฟลุกท่วมเมืองเซี่ย ไฟลุกไหม้ย้อมราตรีให้เป็นสีเพลิงแดงฉาน

จู้หรงจึงสั่งให้ทหารบุกเข้าโจมตี และก็ยึดเมืองหลวงของเซี่ยได้โดยง่าย

เรื่องของจู้หรง เทพแห่งไฟ ยังเล่ากันต่อไปอีกว่า ครั้งหนึ่งท่านเดินทางมายังดินแดนใต้ พำนักอยู่บนเขาเหิงซาน ใช้ชีวิตสั่งสอนคนทางใต้ให้รู้จักการใช้ไฟ ระหว่างนั้นผู้คนทางใต้หวาดกลัวปีศาจกันมาก

จู้หรงตัดไม้ไผ่มาหนึ่งกอง ตัดลำไม้เป็นกระบอกสั้นๆ แล้วปิดปากกระบอก  รอจนกระทั่งกลางคืน ปีศาจออกมาในหมู่บ้าน จู้หรงจุดไฟที่กระบอกไม้ไผ่ แล้วขว้างออกไปทุกทิศทุกทาง กระบอกไม้ไผ่ไหม้ไฟ ก็ระเบิดเสียงโป้งป้าง ปึงปัง จนปีศาจหวาดกลัว หนีหายไป ไม่กลับมาอีกเลย

นับแต่นั้น จู้หรงผู้ซึ่งถูกยกให้เป็นเทพเจ้าแห่งไฟ ก็ได้รับการยกย่องอีกตำแหน่ง เป็นปรมาจารย์แห่งการทำประทัด  และผู้สืบทอดวิชาการทำประทัด..ได้ดีมีชื่อเสียงเลื่องลือ วันนี้ ก็ยังอยู่ที่เมืองหลิวหยาง และเมืองหลี่หลิง มณฑลหูหนาน..เล่ากันว่า ผู้คนแถวนี้ล้วนเป็นศิษย์สืบทอดวิชาทำประทัดมาจากเทพจู้หรง
...ข้อมูล-นสพ.ไทยรัฐ