หัวข้อ: ต่อ ธนญชัย ศรศรีวิชัย ผู้กำกับหนังโฆษณาอันดับหนึ่งของโลก กับมุมมอง และ ไอเดีย เริ่มหัวข้อโดย: ▄︻┻┳═一 ที่ 03 มกราคม 2554 18:03:17 รู้จักกับ ต่อ ธนญชัย ศรศรีวิชัย ผู้กำกับหนังโฆษณาอันดับหนึ่งของโลก
Profile Name - ธนญชัย ศรศรีวิชัย Age - 37 ปี Education - ประถมศึกษา-มัธยมศึกษา โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ - ปริญญาตรีสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเจ้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง Career Highlights : - 2537-ปัจจุบัน ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณา บริษัท ฟีโนมีนา จำกัด - 2534-2537 กราฟิกดีไซเนอร์ บริษัท สามหน่อ จำกัด Major Award Winnings 2549 (โดยสังเขป) : - Cannes Lion Gold สมูทอี เบบี้ เฟซ โฟม - Gold กรุงเทพประกันภัย - One Show Silver กรุงเทพประกันภัย - Clio Gold แคมเปญกรุงเทพประกันภัย - Gold กรุงเทพประกันภัย ชุด พายุ - Silver สมูทอี เบบี้ เฟซ โฟม - Bronze ไทยประกันชีวิต 2548 Awarded Director 2005 จาก The Gunn Report Read more: http://www.positioningmag.com/magazine/details.aspx?id=50228#ixzz19wNDiz33 (http://www.positioningmag.com/magazine/details.aspx?id=50228#ixzz19wNDiz33) Under Creative Commons License: Attribution Non-Commercial No Derivatives
หัวข้อ: Re: ต่อ ธนญชัย ศรศรีวิชัย ผู้กำกับหนังโฆษณาอันดับหนึ่งของโลก กับมุมมอง และ ไอเดีย เริ่มหัวข้อโดย: ▄︻┻┳═一 ที่ 03 มกราคม 2554 18:03:55 มนุษย์ขยะทองคำ ‘ธนญชัย ศรศรีวิชัย’
‘ความคิดแบบไทยเป็นแบบไหน มันเป็น very very very blue ocean เลย มันอยู่ในตลกคาเฟ่ อยู่ในละครหลังข่าว เราทำงานเอาใจผู้บริโภคไม่ใช่เจ้าของสินค้า ถึงแม้เขาจะเป็นเจ้าของเงินก็ตาม’ มุกตลกแบบไทยๆ ที่ถูกมองเป็นขยะในสายตาครีเอทีฟร่วมชาติ แต่สำหรับ "ธนญชัย ศรศรีวิชัย" มันคือ "ขุมทอง" ที่ขุดมาใช้เท่าไรก็ไม่มีวันหมด เพราะภูมิปัญญาไทยนี่เองที่สามารถต่อยอดเป็นหนังโฆษณาสุดครีเอทที่ทั่วโลกยอมรับ ...มุกตลกแบบไทย กับบรรดาผีสางนางฟ้า หรือมุกตลก แนวประชดประชัน ที่ครีเอทีฟหัวอินเตอร์หลายคนมักมองข้าม แต่สำหรับ ‘ธนญชัย ศรศรีวิชัย’ มันคือ "ขุมทรัพย์" ที่สามารถนำมาเล่าใหม่แล้วถูกใจคนไทยทั้ง 60 ล้านคน หากจะยก ‘ธนญชัย ศรศรีวิชัย’ ฟิล์ม ไดเร็คเตอร์ แห่งฟีโนมีน่า (Phenomena) เป็นมือหนึ่งครีเอทีฟของไทยในนาทีนี้คงไม่มีใครเถียง เพราะเขาคือหนึ่งในแนวหน้าที่ทำให้สปอตไลต์จากทั่วโลกส่งมามองเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทย จนเกิดเป็นปรากฏการณ์ที่นานาประเทศวันนี้มองไทยเป็นเสมือน ‘ห้องคิงของเอเชีย’ ด้านงานโฆษณาไปแล้ว ...เดิมอาชีพครีเอทีฟของไทยกระจุกอยู่ในกลุ่มคนไทยที่ร่ำเรียนมาจากเมืองนอก งานที่คิดออกมาส่วนใหญ่จึงอยู่ภายใต้กรอบคิดแบบฝรั่ง ๆ ทำให้งานโฆษณาของไทยมีปัญหาเรื่องการขายสินค้า เพราะคนไทยไม่ ‘เก็ต’ นั่นคือมุมมองของเขา ซึ่งนำไปสู่การมองหาทางออกของคำตอบที่ว่า "การจะพูดกับคนไทย ก็ต้องพูดภาษาเดียวกัน" และก็เป็นที่มาของ จุดเปลี่ยน ธนญชัย กับ มุกตลกแบบไทยที่ถูกครีเอทีฟหัวอินเตอร์มองข้าม ‘ผมมานั่งคิดว่าความคิดแบบไทยเป็นแบบไหน มันเป็น very very very blue ocean เลย มันอยู่ในตลกคาเฟ่ อยู่ในละครหลังข่าว เราทำงานเอาใจผู้บริโภคไม่ใช่เจ้าของสินค้า ถึงแม้เขาจะเป็นเจ้าของเงินก็ตาม’ แต่สิ่งที่ท้าทายสำหรับการคิดงานแบบไทย มุกแบบไทย ไม่ใช่อยู่ที่การคิดงานออกมาจากครีเอทีฟเพียงอย่างเดียว แต่เจ้าของสินค้าต้องเปิดใจ ธนญชัย บอกว่า เขาค่อนข้างโชคดีที่เจ้าของสินค้าหลาย ๆ ราย ค่อนข้างเปิดใจ และกล้าแหกกฎร่วมไปกับเขา ล่าสุดกับหนังโฆษณาหลอดไฟซิลวาเนียกับการเอาบรรดาผีไทยต่าง ๆ มายำรวมกัน ‘ผีไทยเป็นอะไรที่ไม่มีใครเอามาทำโฆษณาแล้ว ส่วนใหญ่หันไปเน้นผีต่างชาติกัน ถ้าเราเอาเด็กผีญี่ปุ่น จะเวิร์คหรือเปล่า แต่โชคดีที่ลูกค้าโอเพ่นมายด์ เพราะ Globalization ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป ในขณะที่เด็กรุ่นใหม่บ้านเราอาจไม่รู้จักกระหัง กระสือแล้วก็ได้’ ...ความแรง คือ ความหมายที่ซ่อนอยู่ในหนังที่คุยกับผู้ชมคนไทยทั้งประเทศรู้เรื่อง http://www.youtube.com/watch?v=cuoq5Tn4Wg0 โฆษณา ซีลวาเนีย ชุด ปิคนิค นอกจาก ‘ผีไทย’ ที่ไม่ใครเอามาใส่ในหนัง เขายังเอา ‘ขี้’ เข้าไปใส่ด้วย หากใครยังจำภาพยนตร์โฆษณาบัตรสมาร์ท เพิร์ท "เวลาของคนปวดขี้กับเวลาของคนไม่ปวดนี่มันต่างกันเยอะนะ เมื่อก่อนหนังโฆษณาจะไม่เอาการปวดขี้ไปอยู่ในหนัง เพราะนักการตลาดหรือเจ้าของสินค้ามองว่าภาพลักษณ์จะเสีย แต่หากจะพูดเรื่องความไวเรื่องการจ่ายเงินนี่ จะพูดกับเขาต้องให้เขาเข้าใจ ต้องให้เขาเห็นภาพ" เพราะสำหรับ ธนญชัย แล้วความงามของหนังโฆษณาอยู่ที่เนื้อหาที่หยิบยื่นให้กับสังคม ‘คนชอบว่า ผมใช้ตัวแสดงหน้าตาไม่ดี หรือใช้มุกแบบไทยมาก ๆ แต่ผมว่ามันเป็นส่วนประกอบ จริง ๆ มันอยู่ที่คอนเทนท์ที่นำเสนอต่างหาก’ http://www.youtube.com/watch?v=bbVFNpdoh9E โฆษณา smart purse ชุด ทิชชู เขายกตัวอย่างกาแฟกระป๋อง Back up ที่ออกมาสักพักใหญ่ที่ผ่านมา กาแฟกระป๋องโดยทั่วไปจะพูดถึงการตื่น ดื่มแล้วตื่น หรือตื่นตัวตลอดเวลา หากทำแบบนั้นก็เหมือนคนอื่น หรือหากไปใช้การออกกำลังกาย ก็ไม่ผ่านกองเซ็นเซอร์ เราจึงหันไปเล่นกับคนขยันแทน ตัวแบรนด์ได้ความดูดี ในขณะที่หนังโฆษณาก็ยื่นทัศนคติที่ดีให้กับสังคม และจะทำให้ต่อไปต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย ในส่วนของโฆษณาอาจรับใช้ทุนนิยมบริโภคนิยมเป็นใหญ่ แต่ถ้าอะไรที่โฆษณาช่วยสังคมได้ คิดดีต่อสังคมได้ คุณค่าของหนังจะเพิ่มขึ้นอีก นอกจากนี้ ยังมีหนังโฆษณาหมากฝรั่งคิดคิด ก็เสนอออกมาใช้เชิงบวก ทำให้หนังมีคุณค่ามากกว่าแค่หนังโฆษณาขายหมากฝรั่ง ซึ่งเจ้าของสินค้าก็เห็นด้วยกับแนวคิดหนังโฆษณาชุดนั้น เพราะช่วยกระตุ้นให้คนใช้ความคิด คิดจากสังคมรอบข้างมากขึ้น หรือจะเป็นภาพยนตร์โฆษณาลูกอมฮอลล์ชุดพจมาน ที่ล้อเลียนละครไทย ว่ายังไงก็ตบตี แย่งสมบัติกัน ยังไงต้องมีตัวอิจฉา ซึ่งคนดูละครก็คงมีเบื่อบ้าง ซึ่งเมื่อกินฮอลล์แล้วก็ไม่มีเหตุการณ์ตบตีกัน "สำหรับฮอลล์แล้วไม่ใช่สินค้าที่อิงกับแบรนด์อิมเมจ แต่เราจะทำยังไงให้คนจดจำสินค้าได้ เวลายืนอยู่หน้าเชลฟ์จะได้หยิบฮอลล์" http://www.youtube.com/watch?v=SdUaJnuFDrk โฆษณา ฮอลล์ตะไคร้ซีตรัส ชุด บ้านทรายทอง นอกจากนี้แล้ว ยังมีหนังโฆษณาที่ ปฏิเสธความเชื่อทางด้านการตลาดเรื่องความงาม นักการตลาดเชื่อว่าผู้บริโภคต้องการเห็นสิ่งที่ดีกว่าในหนัง เห็นคนที่สวยกว่า หล่อกว่า แต่ ธนญชัย กลับมองว่าคนสวยคนหล่อ พบแค่สามคนในร้อยคน แล้วจะมัวไปพูดกับคนสามคนทำไม อีก 97 คนต่างหากที่ครีเอทีฟควรไปพูดด้วย และโฟมล้างหน้าสมูธอีกับน้องจุ๋ม ก็สามารถตอบโจทย์ว่าที่เขาคิดนั้นถูกต้อง โดยเขา ให้มุมมองว่า ทำไมคนในโฆษณาต้องเน้นสวยงามขนาดนั้น เราต้องต่อสู้กับทฤษฎีการตลาดความเชื่อแบบเดิมๆ จากคนร้อยคนมีคนหน้าตาดีมาก 3 คน เราจะเสียเวลาไปพูดกับคน 3 คนทำไม พูดกับคนหน้าตาธรรมดาน่าจะดีกว่า ด้วยเหตุนี้ในหนังโฆษณาสมูธอี เราจึงทำในสิ่งที่ไม่เคยเห็นในหนังโฆษณาโฟมล้างหน้ามาก่อน ใช้ตัวแสดงคนไทย ไม่ใช้ฝรั่ง พระเอกชื่อไทย ๆ ว่าเอก ไม่ใช่มาร์ค พระเอกเล่นตะกร้าไม่เล่นเบสบอล หรืออะไรก็แล้วแต่ถูกจับกลับด้านหมดเลย เน้นขายของแบบตรงๆ ตัวละครกำลังเศร้าพี่อ้อยตัวแสดงก็ยกโฟมมาขายเลย ขายกันซึ่ง ๆ หน้า ยังไม่จุใจ ทำลูกศรชี้ไปที่โฟมด้วย ซึ่งวิธีคิดที่ต่างออกไปนี่เองที่ทำให้ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ได้รับรางวัลโกลด์ จากเมืองคานส์ในปี 2548 กรณีของกรุงเทพประกันภัย ที่เอาเซลส์ขายประกันมาเป็นแมลงสาบ พร้อมกับโดนสมาคมเกี่ยวกับประกันออกมาต่อว่าต่าง ๆ นานา ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียคิดแปลกที่ ธนญชัย สร้างชื่อเอาไว้ "มันบอกผมว่าการยอมรับความจริงเป็นสิ่งที่ยากมาก ต้องใช้ความกล้าเยอะ แต่การทำหนังชุดนี้ออกไป ก็ทำให้เกิดการปรับตัวเรื่องของเซลส์ขายประกันที่จะทำตัวเหมือนแมลงสาบไม่ได้ กรุงเทพประกันภัยนี่ยิ่งต้องปรับตัวกว่ารายอื่น ซึ่งถ้าใครมาว่า ผมก็พร้อมปรับปรุง" หนึ่งในหลายไอเดียที่สะท้อนผ่านผลงาน ธนญชัย ย้ำว่า สำหรับหนังโฆษณาการสร้างสิ่งใหม่ ๆ มัก มาพร้อมความเสี่ยง แต่นั่นก็ทำให้ครีเอทีฟรู้จักผู้บริโภคมากขึ้น สำหรับตัวเขาแล้ว การทำงานจะยึดหลักเดินทางสายกลาง ไม่ใช่ทำงานมากไปแล้วหยุด หากแต่เป็นการทำงานอย่างเต็มที่ พร้อม ๆ กับบาลานซ์งานออกมาให้ดีกับทุกฝ่าย "ดีกับลูกค้า ดีกับสังคม ลูกค้าขายสินค้าได้ เราเองก็ได้ตังค์" แม้จะเป็นหลักคิดง่าย ๆ แต่ก็ต้องอาศัยความลุ่มลึกก่อนจะกลั่นออกมาเป็นเนื้องานอย่างที่เห็น แต่สำหรับชายคนนี้แล้ว...เป็นความต่างที่ยากจะเลียนแบบ! ที่มา www.bangkokbizweek.com (http://www.bangkokbizweek.com) |