[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ => ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: Compatable ที่ 29 เมษายน 2558 09:48:49



หัวข้อ: ปิรามิดใต้น้ำ อนุสาวรีย์โยนากุนิ อารยะแห่งแดนอาทิตย์อุทัย
เริ่มหัวข้อโดย: Compatable ที่ 29 เมษายน 2558 09:48:49
ปิรามิดใต้น้ำ อนุสาวรีย์โยนากุนิ อารยะแห่งแดนอาทิตย์อุทัย

ณ บริเวณชายฝั่งของเกาะเล็กกระจ่อยร่อยในญี่ปุ่นนามว่า โยนากุนิ สิ่งก่อสร้างลักษณะคล้ายอนุสาวรีย์ยักษ์ได้จ่อมจมอยู่ใต้น้ำ มันเป็นวิหารหินขนาดมหึมาที่แม้ปัจจุบันหลายฝ่ายก็ยังถกเถียง และหาคำอธิบายที่ฟังขึ้นเกี่ยวกับมันไม่ได้ ประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันมากที่สุดก็คือว่า อนุสาวรีย์แห่งโยรากุนินี้ เกิดขึ้นจากธรรมชาติหรือเกิดจากผลงานทางอารยธรรมของมนุษย์ ถ้าเป็นฝีมือมนุษย์ เทคโนโลยีขนาดไหนถึงจะรังสรรค์มันออกมาให้เกิดขึ้นได้ในรูปลักษณ์ที่โอ่อ่า อลังการเช่นนี้ หากเกิดจากธรรมชาติ คำอธิบายเกี่ยวกับเหลี่ยมมุมและแนวกำแพงที่ตรงแหนวแม่นยำราวกับเกิดจากการ วัดคำนวณของวิศวกรมือเอกนี่เล่า จะอธิบายอย่างไร?

(http://image.ohozaa.com/i/e27/K9XNcT.jpg)

บรรดานักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ที่ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้ต่างพากันลงความเห็นว่า อนุสาวรีย์ยักษ์นี้เกิดขึ้นจากฝีมือของมนุษย์ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ อนุสาวรีย์หินที่โยนากุนิก็นับเป็นการค้นพบทางโบราณคดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษ โดยเฉพาะในประเด็นของโบราณสถานใต้น้ำ แต่ก็นั่นล่ะครับ อายุอานามของอนุสาวรีย์ (ขอเรียกแบบนี้ไปก่อนละกัน) แห่งนี้ เท่าที่คำนวณคร่าวๆ แล้ว นักวิทยาศาสตร์หลายคนลงความเห็นว่า น่าจะอยู่ในตอนปลายของยุคน้ำแข็ง ซึ่งมันก็หมื่นสองพันกว่าปีมาแล้ว บางท่านว่าน่าจะเก่ากว่านั้นด้วยซ้ำ

เอ...ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ยุคใหม่เราย้อนหลังไปไกลขนาดนั้นหรือครับ แถมถ้าเป็นอารยธรรมโบราณก่อนยุคน้ำแข็งจริง สิ่งก่อสร้างนั้นคือผลงานของอารยธรรมใดกัน? สิ่งก่อสร้างมหึมาเหล่านั้นใครเป็นผู้สร้างมันเอาไว้ให้มีขนาดใหญ่โตเกินเหตุในยุคโบร่ำโบราณที่อารยธรรมของมนุษย์ยังไม่ก่อกำเนิดแบบนี้

(http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-1.jpg)

สถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นข้อสรุปที่ดีสำหรับข้อถกเถียงในวงการโบราณคดีที่ว่าอารยธรรมโบราณก่อนหน้าที่มนุษย์จะรู้จักและยังคงเป็นตำนานอยู่นั้นมีจริง หรือไม่ เพราะจากหลักฐานเท่าที่มีในปัจจุบัน อารยธรรมของมนุษย์ที่พอยอมรับได้ว่าเป็นอารยธรรมมันเริ่มก่อตัวขึ้นมาเมื่อ ประมาณ 6,000 ปีก่อนนี้เท่านั้นเอง แต่น่าประหลาดมากครับ อนุสาวรีย์ที่โยนากุนิ มีลักษณะคล้ายหรือใกล้เคียงกับอนุสรณ์สถานต่างๆในอเมริกาใต้เป็นอย่างมาก บางคนถึงกับเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า "ปิระมิดใต้ทะเลแห่งเอเชีย" เลยทีเดียว





หัวข้อ: Re: ปิรามิดใต้น้ำ อนุสาวรีย์โยนากุนิ อารยะแห่งแดนอาทิตย์อุทัย
เริ่มหัวข้อโดย: Compatable ที่ 29 เมษายน 2558 09:50:22

(http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-2.jpg)
Alleged Colossal Head

โบราณสถานแห่งนี้ อาจเป็นคำอธิบายที่ดี สำหรับอารยธรรมต่างๆในแถบอเมริกากลางและใต้ เช่น แอสเท็ค อินคา มายา นาซก้า ได้ว่า เหตุใดชนชาติเหล่านั้นจึงเจริญขึ้นอย่างไม่มีที่ไปที่มา และรังสรรค์งานสะท้านโลกออกมาให้มนุษย์ยุคใหม่อย่างพวกเราได้พิศวงกันจนถึง ทุกวันนี้ ทฤษฎีที่เสนอแนะว่า บรรพบุรุษหรือผู้รอดตายจากแถบโยนากุนิได้เดินทางข้ามมหาสมุทรไปสู่โลกใหม่นั้น สร้างความเกรียวกราวในวงการอยู่พอสมควร มีหลักฐานจากสิ่งก่อสร้างใต้น้ำมายืนยันว่ามันเป็นลักษณะและไสตล์ที่เหมือนกันราวกับแหล่งเดียว แต่ว่า.. ยังมีแต่อยู่นิดนึงครับ

ปริศนาที่ยังไม่คลี่คลาย...ขอย้อนอดีตไปยังปี ค.ศ. 1985 ที่โยนากุนิ อันเป็นดินแดนที่อยู่ค่อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น ใกล้ๆ กับหมู่เกาะริวกิว โยนากุนิเป็นสถานที่ที่เลื่องชื่อในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยว อาทิ เป็นที่อยู่ของตัวมอธพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีแนวปะการังที่สวยงาม และธุรกิจสอนประดาน้ำกับการดำชมปะการังก็กำลังเฟื่องฟูในตอนนั้น แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายให้ความสนใจไปพักผ่อนกัน นอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว นักวิทยาศาสตร์และนักชีววิทยาทางทะเลจำนวนไม่น้อย ก็แห่กันไปที่นั่น เพื่อศึกษาพฤติกรรมของฉลามหัวฆ้อนอันมีอยู่อย่างชุกชมและถือเป็นแหล่งที่อยู่ของฉลามหัวฆ้อนแหล่งใหญ่อีกแหล่ง ของโลกเลยครับ

... ท่ามกลางความคึกคักของแถบนี้ ยังไม่มีใครรู้เลยว่า ไกลออกไปจากชายฝั่งไม่กี่อึดใจ โยนากุนิได้ซ่อนเอาโบราณสถานใต้น้ำขนาดมหึมาเอาไว้โดยไม่มีใครทราบมาก่อน

(http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-3.jpg) (http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-4.jpg)

(http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-5.jpg)

บุคคลแรกที่ค้นพบโบราณสถานใต้น้ำแห่งโยนากุนิ เป็นนักประดาน้ำท้องถิ่นชื่อ คิฮาชิโระ อาระทาเกะ เขาเป็นครูสอนประดาน้ำ รวมทั้งเจ้าของกิจการโรงแรมเล็กๆที่มีรายได้ไม่เลว เหมือนกัน จกาปากคำของอาระทาเกะ เขาพบโบราณสถานแห่งนี้ในฤดูใบไม้ผลิของปี 1985

ในวันที่ลมสงบและทะเลไร้คลื่น ใช่แล้วครับ บรรยากาศแบบนี้นับว่าหาได้ยากยิ่ง และดูเหมือนเป็นใจให้กับการประดาน้ำอย่างที่สุด อาระทาเกะตัดสินใจที่จะไปดำน้ำสำรวจชายฝั่งด้วยความตั้งใจสองประการคือ หนึ่ง ดำไปตามกิจวัติประจำวันของเขา และสอง สำรวจหาแหล่งประดาน้ำและแนวปะการังใหม่ เพื่อต้อนรับลูกค้าของเขานั่นเอง







หัวข้อ: Re: ปิรามิดใต้น้ำ อนุสาวรีย์โยนากุนิ อารยะแห่งแดนอาทิตย์อุทัย
เริ่มหัวข้อโดย: Compatable ที่ 29 เมษายน 2558 09:51:28

(http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-6.jpg)

เรือของอาระทาเกะเดินทางออกมาทางตอนใต้ของชายฝั่ง และเมื่อถึงจุดที่ต้องการ อาระทาเกะก็กระโจนผลุงลงไปอย่างไม่รอช้า  นักประดาน้ำหนุ่มก็ต้องอ้าปากค้างกับสิ่งที่เขาได้พบ ใครล่ะครับจะคาดดิดว่า บริเวณชายฝั่งของที่ที่ครึกครื้นอย่างโยนากุนิจะซุกซ่อนเอาโบราณสถานขนาดมหึมาที่ยังไม่มีใครค้นพบเอาไว้ แถมยังอยู่ใกล้กับชายฝั่งชนิดจ่อคอหอย ใกล้กันเหมือนตากับคิ้วว่างั้นเหอะ

(http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-7.jpg)

ฤดูใบไม้ผลิของ ปีค.ศ. 1985 “คิฮาชิโระ อาระทาเกะ” ครูสอนประดาน้ำเจ้าของกิจการโรงแรม บริเวณโยนากุนิ แหล่งประดาน้ำสำหรับนักท่องเที่ยว ได้ออกดำน้ำสำรวจชายฝั่งในวันที่ลมสงบเงียบ เพื่อหาแหล่งประดาน้ำใหม่ต้อนรับลูกค้า

(http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-8.JPG)






หัวข้อ: Re: ปิรามิดใต้น้ำ อนุสาวรีย์โยนากุนิ อารยะแห่งแดนอาทิตย์อุทัย
เริ่มหัวข้อโดย: Compatable ที่ 29 เมษายน 2558 09:54:50

เรือของอาระทาเกะเดินทางออกมาทางตอนใต้ของชายฝั่ง และเมื่อถึงจุดที่ต้องการ เขาก็กระโจนลงไปอย่างไม่รอช้า นักประดาน้ำหนุ่มก็ต้องอ้าปากค้างกับสิ่งที่เขาได้พบ โบราณสถานขนาดมหึมาที่ยังไม่มีใครค้นพบอยู่ตรงหน้าเขา และแถมยังอยู่ใกล้กับชายฝั่งชนิดใกล้กันเพียงฝ่ามือคั่นเลยทีเดียว

(http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-9.jpg)

สิ่งที่อาระทาเกะค้นพบมีลักษณะคล้ายกับวิหาร ความยาวมากกว่า 300 สูง 75 กว้าง 100 ฟุต

(http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-10.jpg)(http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-11.jpg)

หลังจากว่ายน้ำวนเวียนสำรวจอยู่ครู่ใหญ่ อาระทาเกะก็ยิ่งทึ่งในโบราณสถานใต้น้ำแห่งนี้หนักเข้าไปอีก มันมีเหลี่ยมที่เที่ยงตรงสมบูรณ์ การตัดเส้น และยังมีบริเวณคล้ายกับระเบียงวิหาร

(http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-12.jpg)

ไม่นานเรื่องราวของโยนากุนิก็ระบาดไปทั่วโลก นักโบราณคดีแห่กันมาดำผุดดำว่าย เพื่อหาข้อสรุปของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหลายๆ ทฤษฎี นักวิทยาศาสตร์ได้ข้อสรุปตรงกันด้านหนึ่งคืออายุของ “อนุสาวรีย์โยนากุนิ” นี้น่าจะอยู่ในช่วงไอซ์เอจหรือตอนปลายยุคน้ำแข็ง ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นอายุของโยนากุนิจะเท่ากับหมื่นสองพันกว่าปี แต่อารยธรรมของมนุษย์เท่าที่มีการศึกษาค้นคว้ากันมาอย่างยาวนาน พบว่าเริ่มต้นเมื่อ 6,000 กว่าปีก่อน ซึ่งเท่ากับว่าโยนากุนิเป็นอารยธรรมที่มีมาก่อนอารยธรรมมนุษย์อย่างนั้นหรือ?

(http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-14.jpg)

ด้วยความใหญ่โตเกินกำลังมนุษย์ยิ่งเป็นยุคโลว์เทคจะสร้างได้ นักวิทยาศาสตร์หลายคนจึงเสนอว่าจริงๆ แล้วมันน่าจะเกิดจากการรังสรรค์ของธรรมชาติเป็นเวลานานจึงให้เหลี่ยมมุมชัดเจน เช่น การเกิดอัญมณีในชั้นหิน แล้วรูปทรงดันมาคล้ายโบราณสถานเท่านั้นเอง





หัวข้อ: Re: ปิรามิดใต้น้ำ อนุสาวรีย์โยนากุนิ อารยะแห่งแดนอาทิตย์อุทัย
เริ่มหัวข้อโดย: Compatable ที่ 29 เมษายน 2558 09:56:09

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในทีมงานสำรวจ “มาซากิ คิมูระ” (Masaaki Kimura) แห่งมหาวิทยาลัยริวกิวได้ลงความเห็นว่า โบราณสถานเหล่านี้เป็นพีระมิด ซึ่งเกิดจากมนุษย์มากกว่า เขาเชื่อมโยงลักษณะของโบราณสถานเข้ากับบรรดาปราสาทหินและสุสานโบราณบนหมู่เกาะน้อยใหญ่ในบริเวณใกล้เคียง และชี้ว่ามันเป็นสถาปัตยกรรมที่ใกล้เคียงกันมาก

(http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-15.jpg)

แม้คิมูระจะลงความเห็นว่าเป็น “พีระมิด” อารยธรรมมนุษย์ แต่นักวิทยาศาสตร์ นักโบราณคดีหัวเก่ากลุ่มอื่นในญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยกับเขาอย่างสิ้นเชิง เพราะมันไปค้านกับวิชาโบราณคดีที่ว่าพีระมิดเก่าที่สุดจะต้องอยู่ในอียิปต์เท่านั้น

(http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-16.jpg)

(http://board.postjung.com/data/533/533319-topic-ix-17.gif)











หัวข้อ: Re: ปิรามิดใต้น้ำ อนุสาวรีย์โยนากุนิ อารยะแห่งแดนอาทิตย์อุทัย
เริ่มหัวข้อโดย: Compatable ที่ 29 เมษายน 2558 09:56:32


Yonaguni - Ancient Underwater City (http://www.youtube.com/watch?v=LDGUn6Nh4oM#)