[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ อนามัย => ข้อความที่เริ่มโดย: sati ที่ 05 มกราคม 2554 07:58:35



หัวข้อ: ชวนใช้ชีวิตช้าๆ ท้าปีกระต่าย
เริ่มหัวข้อโดย: sati ที่ 05 มกราคม 2554 07:58:35
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/96/50096/images/hny2011-1.jpg)
ปีกระต่ายโคจรมาทัก...ใครๆ ก็รู้ว่าความไวของเจ้ากระต่ายนั้นไม่เคยเป็นสองรองใคร เสมือนชีวิตคนเมืองที่ต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบทุกกระเบียดนิ้ว ทำให้ไลฟ์สไตล์ของทุกคนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง ภายใต้ความวุ่นวายเหล่านี้ จึงนำมาซึ่งความเครียดภายในจิตใจ หลายๆ คนจึงพยายามหันกลับมาใช้ชีวิตแบบช้าๆ ดำเนินไปข้างหน้าด้วยความเรียบง่าย โดยอาศัย "สติ" นำทาง...  


 ว่าแต่การใช้ชีวิตช้าๆ ที่ขัดกับโลกปัจจุบันนั้น จะส่งผลอะไรให้แก่ชีวิตบ้าง เห็นทีต้องมาลองฟังเจ้าพ่อและเจ้าแม่ที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตขัดกับคนเมืองบ้างดีกว่า เริ่มจากเจ้าแม่ธรรมะ "อ้อย" อัจฉราวดี วงศ์สกล ที่ผันตัวเองเข้าสู่โลกธรรมะอย่างเต็มตัว หลังหันหลังให้วงการอัญมณีเมื่อ 2 ปีก่อน จนตอนนี้เธอสามารถพูดได้เต็มปากว่า ได้เจอกับความสุขที่แท้จริงแล้ว นั่นคือคำว่า "พอ" นั่นเอง

 "ตั้งแต่ศึกษาธรรมะทำให้เรารู้ว่า การที่เราดิ้นรนตามหาสิ่งที่เราต้องการมาปรนเปรอความอยากของตัวเองนั้น เป็นความสุขที่ไม่มีจุดจบและไม่มีวันหาจุดจบได้ อ้อยเชื่อว่า สิ่งใดที่หาจุดสูงสุดไม่ได้นั่นไม่ใช่ของจริง การตั้งเป้าหมาย ความทะยานอยาก การวิ่งตามกระแสสังคมเพื่อให้คนอื่นตัดสินเรา คนที่เป็นทุกข์คือตัวของเราเอง จริงอยู่ที่ความสุขของแต่ละคนแตกต่างกันแต่ในความต่าง คือ ความไม่รู้จบตราบเท่าที่ยังไม่เจอความสุขที่แท้จริง เป้าหมายทางธุรกิจแตกต่างจากเป้าหมายทางธรรม เพราะถ้าเราไปถึงเป้าหมายทางธรรมแล้วเราจะหยุดทันที ขณะที่เป้าหมายทางธุรกิจไม่มีคำว่า "พอ" การใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบจะมาพร้อมการขาดสติ อยากบอกทุกคนว่า อย่าแข่งกับพายุ อย่าวิ่งไปหาสิ่งที่ไม่ใช่สาระที่แท้จริง รู้จักที่จะหยุดพักแล้วจะได้พบความสุขเล็กๆ ที่อยู่ในจิตใจของตัวเอง" อ้อยให้ข้อคิด

 ไม่เพียงแต่จะใส่ใจสุขภาพจิตเท่านั้น แต่สุขภาพกายก็ควรให้ความสำคัญควบคู่กัน แม้ภาพลักษณ์ของ "นก" ชลิดา เถาว์ชาลี ตันติพิภพ จะเป็นเวิร์กกิ้ง วูเมน ที่ใช้ชีวิตแข่งกับเวลา หากภายใต้ความเร่งรีบเหล่านั้น เธอไม่ลืมให้ความสำคัญกับอาหารการกิน และการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอเสมอ

 "ทุกวันนี้ใช้ชีวิตแข่งกับเวลาตลอด ทำให้กิจวัตรอื่นๆ ต้องแข่งกับเวลาไปด้วย อย่างเรื่องการรับประทานอาหารเมื่อรับประทานกันเร็ว เคี้ยวเร็ว สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบกับสุขภาพโดยตรง นกมองว่า ถ้าจะทำงานให้ดีต้องมาจากสุขภาพที่แข็งแรง เวลาทำงานทำอย่างเต็มที่จะแข่งกับเวลาหรืออะไรก็แข่งไป แต่เวลารับประทานอาหารและนอนหลับพักผ่อนต้องค่อยๆ ทำ อย่ารีบเร่ง ร่างกายเราไม่ใช่สวิตช์ไฟที่เปิดปุ๊บติดปั๊บ ต้องรู้ว่าช่วงไหนที่ควรจะช้าและช่วงไหนที่ควรเร่งรีบ อย่าคิดแต่จะมุ่งหน้าไปอนาคตอย่างเดียว ลองหันกลับมาอยู่กับปัจจุบันใช้เวลากับสิ่งรอบๆ ตัวบ้าง" สาวรักสุขภาพแจง

 มาถึงนักธุรกิจที่ผันตัวเองมาเป็นนักเขียน พร้อมกับหันมาใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบที่แพวิเวก เขาใหญ่ ท่ามกลางธรรมชาติและอากาศอันบริสุทธิ์ วิกรม กรมดิษฐ์ ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขามาเป็นนักเขียน คือ การประสบความสำเร็จในการทำงาน จึงหันมาหาเป้าหมายที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขในชีวิต นั่นคือการใกล้ชิดกับธรรมชาติและเขียนหนังสือถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตเพื่อเป็นวิทยาทานในการลดต้นทุนของชีวิตที่จะก้าวพลาด

 "ผมมีเวลาที่จะคุยกับตัวเองและรู้จักตัวเองมากขึ้น เมื่อไรที่เราทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้แล้วให้ถามตัวเองว่าพอแล้วหรือยัง ถ้าพอแล้วลองเปลี่ยนเป้าหมายที่เป็นความสุขของตัวเองบ้าง คนรุ่นใหม่ควรจะดำเนินชีวิตเป็นขั้นเป็นตอน วัยเด็กต้องเรียนให้เต็มที่ ไม่มีใครหรอกที่ตายหรือพิการเพราะการเรียน ปิดเทอมก็ไปเที่ยวให้สนุก พอทำงานก็ทำอย่างเต็มที่เพื่อสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจให้มั่นคง วัย 40-60 ปีก็ควรถอยออกจากงานทำครึ่งหยุดครึ่ง สุดท้ายต้องออกมาดูโลกกว้างภายนอกบ้าง นี่คือการใช้ชีวิตแบบสมดุล ซึ่งผมอยากแนะนำให้ทุกคนให้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่ามากที่สุด" วิกรม กล่าว

 ด้านดีไซเนอร์แบรนด์ อิซซู่ "โรจ" ภูภวิศ กฤตพลนารา ที่หลงใหลการเคลื่อนไหวร่างกายแบบช้าๆ ตามจังหวะของการเล่นโยคะ แม้ชีวิตการทำงานจะต้องแข่งกับเวลา แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะให้เวลาตัวเองด้วยความเชื่อที่ว่า ร่างกายจะดีต้องเริ่มจากภายในก่อนเป็นอันดับแรก แล้วสิ่งต่างๆ จะปรากฏออกมาภายนอก ที่สำคัญทุกคนต้องมีสติตื่นตัวในการรับรู้ตลอดเวลา การมีสติคือการอยู่กับปัจจุบันและต้องรักษาปัจจุบันเอาไว้ให้ดี โกรธ เศร้า เสียใจได้ แต่ต้องกลับมาให้ทันปัจจุบัน อย่าปล่อยสติของเราให้ไปไกล ต้องรู้ตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ทุกขณะ เผลอได้แต่ต้องรู้ด้วยว่า ถ้าทำแบบนั้นแล้วจะเกิดผลลัพธ์อะไรตามมา บางคนเผลอจนไม่รู้ผิดถูก แบบนั้นจะทำให้เราไม่ได้พัฒนาตัวเองเลย

 ...อ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้าย...คงต้องลองพิจารณาตัวเองดูแล้วล่ะค่ะว่า การใช้ชีวิตแบบเร่งรีบทุกวันนี้ทำให้เราลืมใส่ใจตัวเองไปบ้างหรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้น ลองหันมาใช้ชีวิตแบบช้าๆ ดูบ้าง น่าจะทำให้เรารู้จักความต้องการและตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมนะคะ

ข้อมูลอ้างอิง บทความจากคมชัดลึก

 



หัวข้อ: Re: ชวนใช้ชีวิตช้าๆ ท้าปีกระต่าย
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 06 มกราคม 2554 23:15:37
ิขอบคุณมากเลยครับ อ.สติ

แต่พูดถึงปีเถาะ แล้วนึกถึงข้าวปุ้น กระต่ายสุดรักที่จากไป

พูดแล้วน้ำตาจะไหล ปีนี้ปีของปุ้น ฮือ ๆ ๆ