[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 01 ธันวาคม 2558 19:52:42



หัวข้อ: หลวงพ่อจรูญ จันทสโร พระเกจิเมืองอุตรดิตถ์ วัดดอกไม้ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 01 ธันวาคม 2558 19:52:42
(http://www.sookjaipic.com/images_upload/45683690574434_view_resizing_images_1_.jpg)
หลวงพ่อจรูญ จันทสโร
พระเกจิเมืองอุตรดิตถ์

วัดดอกไม้ ต.ท่ามะเฟือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

"พระครูพิชัยธรรมคุณ" หรือ "หลวงพ่อจรูญ จันทสโร" สิริอายุ 93 ปี พรรษา 73 เจ้าอาวาสวัดดอกไม้ ต.ท่ามะเฟือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

มีนามเดิม จรูญ ภุมราดี เกิดเมื่อวันอังคารที่ 11 เม.ย.2465 ที่บ้านหัวบึง หมู่ 3 ต.ท่ามะเฟือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม

ในช่วงวัยเด็ก ต้องช่วยเหลือครอบครัว ทำงานเลี้ยงวัวควาย ตามความสามารถของเด็กในวัยนี้ที่จะกระทำได้

อายุ 10 ขวบ ศึกษาเล่าเรียนจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนวัดดอกไม้ ต.ท่ามะเฟือง อ.พิชัย หลังเรียนจบการศึกษาอยู่ช่วยพ่อแม่เลี้ยงวัวเลี้ยงควาย ทำไร่ไถนา

วันหนึ่งออกไปเลี้ยงควายกับพี่ชาย ควายตัวที่เลี้ยงเอาไว้เกิดไม่เชื่อฟัง พี่ชายบันดาลโทสะคว้าไม้ไผ่ฟาดตีไปที่หลังควายเต็มแรงทำให้ควายสะดุ้ง จนรู้สึกเจ็บเห็นเช่นนั้นมีอาการโกรธ ต่อว่าพี่ชาย "ไปตีควายทำไม ไม่สงสารมันบ้างหรือ"

จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ท่านเกิดความสงสารและเวทนาต่อสัตว์ที่ถูกกระทำในฐานะสัตว์โลก

เวลาต่อมา บรรพชาที่วัดดอกไม้ โดยมีหลวงพ่อพลับ พรหมสโร เจ้าคณะแขวงอำเภอพิชัย และเจ้าอาวาสวัดดอกไม้ เป็นพระอุปัชฌาย์ (ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุง)

สามเณรจรูญจำพรรษาอยู่วัดแห่งนี้ ด้วยการปรนนิบัติรับใช้พระอุปัชฌาย์อย่างใกล้ชิด พร้อมศึกษาเล่าเรียนภาษาไทย พระธรรมวินัย พระปริยัติธรรม พร้อมฝึกหัดเขียนอ่านภาษาขอม และเรียนวิชาคาถาอาคม ตลอดระยะเวลา 9 ปี

กระทั่งอายุ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2485 ที่วัดดอกไม้ โดยมี พระครูญาณปรีชา (พลับ พรหมสโร) เจ้าอาวาสวัดดอกไม้ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการปลีก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระใบฎีกาแบน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ว่า "จันทสโร" มีความหมายว่า ผู้มีเสียงดุจเสียงแห่งพระจันทร์

หลังอุปสมบท มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2485 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ โดยศึกษาเล่าเรียนหนังสือกับพระครูสุนทรคุณวัฒน์ หรือหลวงพ่อทองเหลือ ปาลิโต วัดท่าไม้เหนือ ศึกษาวิทยาคม สัก-เสกเลขยันต์ ลบผงพุทธคุณ ด้านเมตตามหานิยม

นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาวิชาจากพระอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก พระนครศรีอยุธยา, หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, หลวงพ่อดำ วัดโคกหม้อ นครสวรรค์ รวมถึงฆราวาสที่เคยเป็นเสือเก่ามาก่อน ทั้งในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดใกล้เคียง

พร้อมศึกษาเล่าเรียนวิชาเพิ่มเติมด้วยตนเองจากสมุดข่อยโบราณ ได้ศึกษาวิชาแพทย์แผนไทยและแผนโบราณ ด้วยเครื่องยาสมุนไพร สำหรับรักษาโรคให้กับญาติโยมที่เจ็บไข้หรือเจ็บป่วยมา เนื่องจากสมัยก่อนแพทย์ปัจจุบันยังไม่แพร่หลาย เจ็บไข้ได้ป่วยต้องอาศัยพระเป็นหลักในการรักษา

ท่านใช้ชีวิตอยู่ในสมณเพศด้วยความมุ่งมั่น ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดดอกไม้ พ.ศ.2521 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2546 ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอพิชัย

หลวงพ่อจรูญ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ท่านไม่เคยปฏิเสธ ด้วยถือว่าเป็นกิจของสงฆ์ที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ ในฐานะท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ไม่ขาดตกบกพร่อง ท่านรับหน้าที่ในการบรรพชาอุปสมบทให้กุลบุตรผู้มีความพร้อม เข้าสู่ร่มเงาผ้ากาสาวพัสตร์ อีกทั้งบวชชีพราหมณ์เพื่อสืบทอดและบำรุงพระพุทธศาสนา

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นโท ในราชทินนาม "พระครูพิชัยธรรมคุณ"

พ.ศ.2540 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม

ส่วนวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ที่ท่านสร้างและอธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบ การณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคล ต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัว อาทิ ตะกรุดโทนมหากระดอน, ตะกรุดโทน, เหรียญจอบหล่อโบราณ, เหรียญเสมาเต็มองค์ เนื้ออัลปาก้าและเนื้อทองแดง ฯลฯ

ส่วนเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา จะนำไปพัฒนาวัดและถาวรวัตถุภายในวัด

อริยะโลกที่ 6