[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 06:19:55



หัวข้อ: ตัวกู - ของกูมีมั๊ย ?
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 06:19:55
(http://seesod.com/storage36/EqwpV8XeyM1298672700/l.jpg)

http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma



......................................มัชฌิมประภาสปุญสถาน.........................

ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ................................



(http://uyfz9q.bay.livefilestore.com/y1puwwLyY1hQGevKbPEFyCjgBoQn3NSNeo-y8gjotl_lxJ--glH5i3PgMx-t56j5hxrXEdhp0j_jvxReSFv7ti_moNX3z_jaCAr/hyooneunhye.gif?psid=1)

เครื่องหมายการค้าตรา{บางครั้ง}ตัวจริง - เสียงจริง ตัวไม่สวย พ่อก็ไม่รวยแต่ที่แน่ ๆ วันนี้ต้องกินแกลบ



http://forums.212cafe.com/boxser/board-13/topic-100.html (http://forums.212cafe.com/boxser/board-13/topic-100.html)




คุณจะสวยเลอเลิศดุจนางงาม{จักรยาน}ไม่ใช่จักรวาล - หรือว่าสุดหล่อลากดินท้ายที่สุดแล้วก็เหลือเพียงเท่านี้

คุณจะมาจากไหน ? ที่แห่งใดท้ายที่สุดคุณต้องเหลือเท่านี้

คุณจะมียศศักดิ์ยิ่งใหญ่ - บารมี - อำนาจมากแค่ไหน ? ท้ายที่สุดคุณก็เหลือเท่านี้

คุณจะร่ำรวยล้นฟ้ามีเงินหลาย 100,000,000,000,000,000,000 $ ท้ายที่สุดคุณก็เหลือเท่านี้

คุณจะเก่งมีมันสมองเป็นเลิศมีวิชาความรู้มากมายและท้ายที่สุดคุณก็เหลือเท่านี้เอง

คุณจะเกิดในตระกูลอันสูงส่งเต็มไปด้วยข้าทาส - บริวาร - ลูก - หลาน - เหลน - โหลน - มากมาย

ท้ายที่สุดคุณก็เหลือแค่เถ้าธุรีเพียงเท่านี้



ภาพนี้้ได้มากจากในวัดแห่งหนึ่ง(ขอไม่บอกชื่อวัดแห่งนั้น)อันตัวข้าพเจ้า{บางครั้ง}ชอบเดินดูตามวัดที่กำแพงบรรจุกระดูกเอาไว้

เดินอ่านชื่อและ ชาตะ - มรณะ ดูไปเรื่อย ๆ บางคนเป็นดังภาพนี้ในวัยเด็ก บางคนเป็นดังภาพนี้ในวัยรุ่นหนุ่ม - สาวสมัยนี้เรียกว่าวัยทำงาน - บาง

คนเป็นดังภาพนี้ในวัยกลางคนคือตั้งแต่ 30 ขวบ - 45 ขวบ บางคนเป็นดังภาพนี้ในวัยชรา 60 ขวบ - 80 ขวบ โดยเฉลี่ยแล้วไม่เกินนี้ดูจากภาพ

ถ่ายโอ้.....สวยจัง - โอ้.....หล่อจังแต่เหตุใดเล่าจึงมาอยู่ที่ตรงนี้



ส่วนภาพที่เห็นอยู่นี้ไม่มีชื่อบอกว่าเป็นใคร - มาจากแห่งหน - ตำบลใด ตอนมีชีวิตอยู่หน้าตาเป็นอย่างไร - ผู้หญิง - หรือผู้ชาย -

อายุเท่าไรอ้วนหรือผอม - รวยหรือจน - ชาตะเมื่อไร - มรณะเมื่อไร มีญาติสนิท - มิตรสหายหรือไม่ สรุปว่า.................

จากธุรี - กลับคืนสู่ธุรี แล้ว{ตัวกู - ของกู}มีมั๊ย ?

มันคือ ดิน - น้ำ - ลม - ไฟ แล้วจะมาบอกว่าโน่นของกู - นี่ของกูได้งัยในเมื่อท้ายที่สุดคุณก็เหลือเท่านี้เป็นภาพที่สวย - สด - งดงามมากเลย



ภาพเพียงภาพเดียวบอกอะไรเราได้หลาย ๆ อย่างแต่คนบางคนอาจจะหาคำตอบไม่เจอ{ทวีทเตอร์}เลยดิ



ไม่นานหนอ

กายนี้จักนอนทับแผ่นดิน  

กายนี้มีวิญญาณไปปราศ  

อันบุคคลทิ้งแล้ว ราวกับท่อนไม้
        
ไม่มีประโยชน์ฉะนั้น


ผู้ใดเมื่อก่อนประมาท - ภายหลังผู้นั้นไม่ประมาท

เขาย่อมยังโลกนี้ให้สว่างดังพระจันทร์ซึ่งพ้นแล้วจากเมฆ.....ฉะนั้น

ผู้ใดทำกรรมอันเป็นบาปแล้วย่อมปิดเสียได้ด้วยกุศล

ผู้นั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง ดุจพระจันทร์ซึ่งพ้นแล้วจากเมฆ......ฉะนั้น

ภิกษุใดแล ยังเป็นหนุ่ม ย่อมขวนขวายในพระพุทธศาสนา

ภิกษุนั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง

ดุจพระจันทร์ซึงพ้นแล้วจากเมฆฉะนั้น

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์ เล่ม 2 ภาค 2 - หน้าที่ 150



สัตว์อันเขามิได้เชื้อเชิญ ก็มาจากที่นั้น

เขามิได้อนุญาต ก็ไปจากที่นี้ เขามาจากที่ไหนกันแน่หนอ

อยู่ได้  2 - 3 วัน ก็ไปแล้วสู่ทางอื่นจากที่นี้ก็มี

กำลังไปสู่ทางอื่นจากที่นั้นก็มี

เขาละ{ตาย}ไปแล้ว

ท่องเที่ยวอยู่โดยรูปของมนุษย์จักไปก็มี

เขามาอย่างใดก็ไปอย่างนั้น

จะคร่ำครวญเพราะเหตุนั้นไปทำไม

....................ธรรมเตือนใจวันที่.........เดือน.............ปี.....................

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรีคาถาเล่ม 2 ภาค 4 - หน้าที่ 208 ปัญจสตาปฏาจาราเถรีคาถา



เป็นภาพที่สวยสด - งดงามที่สุดตั้งแต่ได้ถ่ายภาพมานับไม่ถ้วน...ป....ลไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับภาพ ๆ นี้



.....................ชื่อภาพ"ดอกไม้แห่งพระอริยะ"..................



หมายเหตุ.......ไม่เคยเขียนบทความประกอบภาพได้ห่วยขนาดนี้เลยว่ะต้องเอาไปใส่ไว้ใน Blog หุ หุ หุ ภาพเดียวก็เกินพอ



http://www.facebook.com/itsariyathanakorn (http://www.facebook.com/itsariyathanakorn)

http://twitter.com/soka45 (http://twitter.com/soka45)

http://forums.212cafe.com/boxser/ (http://forums.212cafe.com/boxser/)



ผลบุญที่ได้เผยแพร่ภาพปริศนาธรรมนี้ขออุทิศแด่ผู้ที่เป็นเจ้าของเถ้ากระดูกกองนี้ซึ่งไม่ทราบชื่อ - ที่อยู่ - อายุ - เพศ

ไม่ว่าดวงจิต - ของท่านจะอยู่ภพใดขอจงโปรดรับทราบด้วยญาณวิถีของท่านขอจงได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ท่านได้เป็นครู - อาจารย์

สั่งสอนผู้คนตราบจนท่านเป็นเถ้าธุรี......สาธุ.....สาธุ.....สาธุ


หัวข้อ: Re: ตัวกู - ของกูมีมั๊ย ?
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 10:42:25
สาธุ อนุโมทนา อ.บางครั้ง ด้วยครับ

ชอบภาพครับ ปลง ๆ ดี น่าจะมีผีติดภาพมาด้วย 555+


หัวข้อ: Re: ตัวกู - ของกูมีมั๊ย ?
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 14:49:09


(http://i41.tinypic.com/s3j2q8.gif)

บทปลงสังขาร
      
สังขารร่างกายต้องตายเป็นผี        อยู่ในโลกนี้ไม่มีแก่นสาร
ทรัพย์สินเงินทองเป็นของสาธารณ์   ไม่ใช่ของท่านลูกหลานต้องลา

อย่ามัวประมาทโอกาสยังมี         อย่าหลงโลกีย์จะมีปัญหา
โลกนี้แท้จริงเป็นสิ่งมายา          เป็นสิ่งลวงตาใช่ว่าจีรัง

สังขารร่างกายอยู่ไม่กี่ปี           ก็ตายเป็นผีไม่มีความหวัง
เกิดแก่เจ็บตายร่างกายผุพัง        ทุกวันเดินทางสู่ยังกองฟอน

จะห้ามไม่ฟังจะรั้งไม่หยุด          เป็นสิ่งสมมุติตามพุทธะสอน
อำนาจใดๆอย่าไปวิงวอน          ให้ช่วยเราตอนที่วันสิ้นใจ


สังขารเรานี้เป็นสิ่งที่สังเวช        มันเป็นสาเหตุสังเกตเอาไว้
เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวปวดร้าวอาลัย    หิวอิ่มเกินไปก็อยู่ไม่นาน

หนาวก็จะตายร้อนไปก็จะแย่       ลำบากแท้ๆนี่แลสังขาร
ต้องกินต้องถ่ายทนไปทุกวัน       ดูน่าสงสารคิดกันให้ดี

สังขารร่างกายทั่วไปเน่าเหม็น       มีของกากเดนมองเห็นทุกที
ไหลเข้าไหลออกย้อนยอกมากมี     ล้วนเป็นสิ่งที่มีอยู่ทั่วกัน

น้ำเลือดน้ำหนองล้วนของปฏิกูล    ไหลมาเป็นมูลพอกพูนหลายชั้น
ข้างนอกเน่าเหม็นมองเห็นทุกวัน   อีกข้างในนั้นล้วนขั้นไม่งาม

สังขารร่างกายไม่ใช่ตัวตน       เกิดมาเป็นคนไม่พ้นโดนหาม
ต้องนอนเปลือยกายให้ไฟลุกลาม   เมื่อเจ้าโดนหามสู่เชิงตะกอน

ผู้ดีเข็ญใจก็ตายเหมือนกัน       อย่าหลงสังขารปลงกันไว้ก่อน
ลูกหลานหญิงชายส่งได้แน่นอน   ก็แค่กองฟอนแล้วย้อนกลับมา

สังขารร่างกายล้วนตายเป็นศพ    ถูกแผ่นดินกลบอยู่ในป่าช้า
หมู่หนอนชอนไชตามไต่กายา     เป็นเหยื่อนกกาหมูหมาในดง

กระดูกเกลื่อนกลาดเรี่ยราดทั่วไป   เอ็นเล็กเอ็นใหญ่ไร้จุดประสงค์
ต้องถูกทอดทิ้งนอนกลิ้งในดง    เป็นป่ารกพงเฝ้าดงกันดาร

กระทำให้แจ้งเจาะแทงตลอด     ให้จิตนี้ปลอดหลุดรอดสังขาร
หยุดความกระหายมุ่งไปนิพพาน    ไม่หลงสังขารทั่วกันด้วยเถิด

จะได้หยุดเกิดมันไม่ประเสริฐ       ตราบใดยังเกิดอยู่ในสงสาร
รีบภาวนาเพื่อละอัตตา          ข้ามพ้นมายาทั่วหน้ากันเทอญฯ


(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcS3e8b7p-S_ZN_qQRO3qblMwnbxU-cGWnzYCbonyHd3Ke14VWPOdw)



หัวข้อ: Re: ตัวกู - ของกูมีมั๊ย ?
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 14:54:39


(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/671/3671/images/IMG_0508.jpg)

มนุษย์เราเอ๋ย เกิดมาทำไม นิพานมีสุข
อยู่ไยมิไป ตัณหาหน่วงหนัก หน่วงชักหน่วงไว้
ฉันไปมิได้ ตัณหาผูกพัน ห่วงนั้นพันผูก
ห่วงลูกห่วงหลาน ห่วงทรัพย์สินศฤงคาร จงสละเสียเถิด

จะได้ไปนิพพาน ข้ามพ้นภพสาม ยามหนุ่มสาวน้อย
หน้าตาแช่มช้อย งามแล้วทุกประการ แก่เฒ่าหนังยาน
แต่ล้วนเครื่องเหม็น เอ็นใหญ่เข้าร้อย เอ็นน้อยเข้าพัน
มันมาทำเข็ญใจ ให้ร้อนให้เย็น เมื่อยขบทั้งตัว

ขนคิ้วก็ขาว นัยน์ตาก็มัว เส้นผมบนหัว
ดำแล้วกลับหงอก หน้าตาเว้าวอก ดูหน้าบัดสี
จะลุกก็โอย จะนั่งก็โอย เหมือนดอกไม้โรย
ไม่มีเกสร จะเข้าที่นอน พึงสอนภาวนา

พระอนิจจัง พระอนัตตา เราท่านเกิดมา
รังแต่จะตาย ผู้ดีเข็ญใจ ก็ตายเหมือนกัน
เงินทองทั้งนั้น มิติดตัวเรา ตายไปเป็นผี
ลูกเมียผัวรัก เขาชักหน้าหนี เขาเหม็นซากผี

เปื่อยเน่าพุพอง หมู่ญาติพี่น้อง เขาหามเอาไป
เขาวางลงไว้ เขานั่งร้องไห้ แล้วกลับคืนมา
อยู่แต่ผู้เดียว ป่าไม้ชายเขียว เหลียวไม่เห็นใคร
เห็นแต่ฝูงแร้ง เห็นแต่ฝูงกา เห็นแต่ฝูงหมา

ยื้อแย่งกันกิน ดูน่าสมเพช กระดูกกูเอ๋ย
เรี่ยรายแผ่นดิน แร้งกาหมากิน เอาเป็นอาหาร
เที่ยงคืนสงัด ตื่นขึ้นมินาน ไม่เห็นลูกหลาน
พี่น้องเผ่าพันธุ์ เห็นแต่นกเค้า จับเจ้าเรียงกัน

เห็นแต่นกแสก ร้องแรกแหกขวัญ เห็นแต่ฝูงผี
ร้องไห้หากัน มนุษย์เราเอ๋ย อย่าหลงกันเลย
ไม่มีแก่นสาร อุตส่าห์ทำบุญ ค้ำจุนเอาไว้
จะได้ไปสวรรค์ จะได้ทันพระเจ้า จะได้เข้าพระนิพพาน

อะหัง วันทามิ สัพพะโส อะหัง วันทามิ นิพพานะปัจจะโย โหตุฯ

(http://t1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRdJ-xew5HF2gFSK_dGPis0khABcP2cIcXv885soxf6RUJfk5xeCA)



หัวข้อ: Re: ตัวกู - ของกูมีมั๊ย ?
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 15:30:20
สาธุ อนุโมทนา อ.บางครั้ง ด้วยครับ

ชอบภาพครับ ปลง ๆ ดี น่าจะมีผีติดภาพมาด้วย 555+



(http://seesod.com/storage36/Qm6h5V4D4n1298726120/o.jpg)

(http://i41.tinypic.com/s3j2q8.gif)

ในโลกนี้ไม่มีผี(ตามหลักพระพุทธศาสนา)แต่คำว่า"ผี"ในนิยามของท่าน พุทธทาส ก็คือ ผีพนัน - ผีโลภะ - ผีโมหะ - ผีราคะ - ผีโทสะ




หัวข้อ: Re: ตัวกู - ของกูมีมั๊ย ?
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 15:32:17

มนุษย์เราเอ๋ย เกิดมาทำไม นิพานมีสุข
อยู่ไยมิไป ตัณหาหน่วงหนัก หน่วงชักหน่วงไว้
ฉันไปมิได้ ตัณหาผูกพัน ห่วงนั้นพันผูก
ห่วงลูกห่วงหลาน ห่วงทรัพย์สินศฤงคาร จงสละเสียเถิด

จะได้ไปนิพพาน ข้ามพ้นภพสาม ยามหนุ่มสาวน้อย
หน้าตาแช่มช้อย งามแล้วทุกประการ แก่เฒ่าหนังยาน
แต่ล้วนเครื่องเหม็น เอ็นใหญ่เข้าร้อย เอ็นน้อยเข้าพัน
มันมาทำเข็ญใจ ให้ร้อนให้เย็น เมื่อยขบทั้งตัว

ขนคิ้วก็ขาว นัยน์ตาก็มัว เส้นผมบนหัว
ดำแล้วกลับหงอก หน้าตาเว้าวอก ดูหน้าบัดสี
จะลุกก็โอย จะนั่งก็โอย เหมือนดอกไม้โรย
ไม่มีเกสร จะเข้าที่นอน พึงสอนภาวนา

พระอนิจจัง พระอนัตตา เราท่านเกิดมา
รังแต่จะตาย ผู้ดีเข็ญใจ ก็ตายเหมือนกัน
เงินทองทั้งนั้น มิติดตัวเรา ตายไปเป็นผี
ลูกเมียผัวรัก เขาชักหน้าหนี เขาเหม็นซากผี

เปื่อยเน่าพุพอง หมู่ญาติพี่น้อง เขาหามเอาไป
เขาวางลงไว้ เขานั่งร้องไห้ แล้วกลับคืนมา
อยู่แต่ผู้เดียว ป่าไม้ชายเขียว เหลียวไม่เห็นใคร
เห็นแต่ฝูงแร้ง เห็นแต่ฝูงกา เห็นแต่ฝูงหมา

ยื้อแย่งกันกิน ดูน่าสมเพช กระดูกกูเอ๋ย
เรี่ยรายแผ่นดิน แร้งกาหมากิน เอาเป็นอาหาร
เที่ยงคืนสงัด ตื่นขึ้นมินาน ไม่เห็นลูกหลาน
พี่น้องเผ่าพันธุ์ เห็นแต่นกเค้า จับเจ้าเรียงกัน

เห็นแต่นกแสก ร้องแรกแหกขวัญ เห็นแต่ฝูงผี
ร้องไห้หากัน มนุษย์เราเอ๋ย อย่าหลงกันเลย
ไม่มีแก่นสาร อุตส่าห์ทำบุญ ค้ำจุนเอาไว้
จะได้ไปสวรรค์ จะได้ทันพระเจ้า จะได้เข้าพระนิพพาน

อะหัง วันทามิ สัพพะโส อะหัง วันทามิ นิพพานะปัจจะโย โหตุฯ



(http://i41.tinypic.com/s3j2q8.gif)

ภาพของ ป้าแป๋ม สุดอลังการจริง ๆ ช๊อบ ชอบ

(:LOVE:) (:LOVE:) (:LOVE:)


หัวข้อ: Re: ตัวกู - ของกูมีมั๊ย ?
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 15:34:44

(http://img15.dreamies.de/img/167/b/fmlb9wn4h5o.gif)

รำพึงตน

ยามเมื่อ ชราร่าง อ้างว้างจิต
คนึงนิจ ใฝ่หา ที่อาศัย
พอเป็นที่ พักผ่อน หย่อนกายใจ
หลังจากได้ ตรำงาน มานานปี

ที่พักกาย หาได้ ไม่ยากนัก
แต่ที่พักใจ สิลำบาก แม้อยากหนี
กิเลสล้น พ้นท่วม ทับทวี
อยากจะคลี่ คลายปลด ลดจำนวน

จะเข้าวัด ลัดทาง สงบสุข
แต่ตัวทุกข์ ตามหรือไม่ ใคร่สอบสวน
พบมนุษย์ ก็ต้องพบ สิ่งรบกวน
มีมากมวล โลภโมห์ โทโสร้าย

สู้สำรวม กายใจ ใฝ่ธรรมะ
หมั่นชำระ จิตสะอาด สมมาดหมาย
เลิกหลงโลก โศกรัก จักสบาย
เหตุทั้งหลายแหล่ แท้ เกิดแต่ใจ


(http://cdn.stumble-upon.com/mthumb/773/48664773.jpg)

ใดใดในโลก ล้วน อนิจจัง
คงแต่บาปบุญ ยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตัว ตรัง ตรึงแน่น
ตามแต่บาปบุญ แล ก่อเกื้อรักษา

ชีวิตเรา จะเอา อะไรแน่
ย่อมแปรผัน เปลี่ยนจิต และนิสัย
ชั่วอาจดี มีอาจจน วนเวียนไป
เอาอะไร ได้แน่ แก่ตัวตน

บุญกุศลเร่งสร้างกันได้
วาสนาเร่งสร้างกันไม่ได้
เราทำความถูกต้องดีที่สุดแล้วหรือยัง
มีธรรมะวันละนิดชีวิตจะเป็นสุข


(http://www.spiritoribelle.com/images/java/BlueMoon3.gif)


อ้างอิงจาก : หนังสือธรรมะ
http://www.baanjomyut.com/10000sword/resigned_to_death/index.html (http://www.baanjomyut.com/10000sword/resigned_to_death/index.html)
Pics by : Google
ใต้ร่มธรรมดอทเน็ต * อกาลิโกโฮม  
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ



หัวข้อ: Re: ตัวกู - ของกูมีมั๊ย ?
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 16:25:04
(http://seesod.com/storage36/Qm6h5V4D4n1298726120/o.jpg)

 บุคคลมีบุตร - ย่อมเศร้าโศกเพราะบุตร

ทั้งหลาย บุคคลมีโค ย่อมเศร้าโศก
  
เพราะโคทั้งหลายเหมือนกันฉะนั้น  

เพราะอุปธิเป็นความเศร้าโศกของคน

บุคคลใดไม่มี{อุปธิ}บุคคลนั้นไม่เศร้าโศกเลย



พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรคเล่ม  1 ภาค 1 - หน้าที่ 75




หัวข้อ: Re: ตัวกู - ของกูมีมั๊ย ?
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 18:20:43


(http://www.larnbuddhism.com/asupa/K21.jpg)

เกษาผมหงอก 

เกศาผมหงอก  บอกว่าตัวเฒ่า  ฟันฟางผมเผ้า
แก่แล้วทุกประการ  ตามืดหูหนัก  ร้ายนักสาธารณ์
บ่มิเป็นแก่นสาร  ใช่ตัวตนของเรา  แผ่พื้นเปื่อยเน่า
เครื่องประดับกายเรา  โสโครกทั้งตัว  แข้งขามือสั่น

เส้นสายพันพัว  เห็นน่าเกลียดกลัว  อยู่ในตัวของเรา
ให้มึนให้เมื่อย  ให้เจ็บให้เหนื่อย  ไปทั่วขุมขน
แก่แล้วโรคา  เข้ามาหาตน  ได้ความทุกข์ทน
โศกาอาวรณ์  จะนั่งก็โอย  จะลุกก็โอย

เหมือนดอกไม้โรย  ไม่มีเกสร  แก่แล้วโรคา
เข้ามาวิงวอน  ได้ความทุกข์ร้อน  ทั่วกายอินทรีย์
ครั้นสิ้นลมปาก  กลับกลายหายจาก  เรียกกันว่าผี
ลูกผัวเมียรัก  เขาชักหน้าหนี  เขาว่าซากผี

เปื่อยเน่าพุพอง  เขาเสียไม่ได้  เขาไปเยี่ยมมอง
เขาไม่แตะต้อง  ร่างกายเราหนา  เขาผูกคอรัด
มือเท้าเขามัด  รัดรึงตรึงตรา  เขาหามเอาไป
ทิ้งไว้ป่าช้า  เขากลับคืนมา  สู่เหย้าเรือนพลัน

ตนอยู่เอกา  ขาดคนคบหา  ดังเช่นทุกวัน
ทรัพย์สินของตน  เขาแบ่งปันกัน  ข้าวของทั้งนั้น
ไม่ใช่ของเรา  เมื่อมีชีวิต  ครอบครองยึดติด
เดี๋ยวนี้เป็นของเขา  แต่เงินใส่ปา  ก็ไม่ติดตามเรา

ไปแต่ตัวเปล่า  เน่าทั่วร่างกาย  อยู่ในป่ารก
ได้ยินเสียงนก  กึกก้องดงยาง  ได้ยินหมาไน
ร้องไห้ครวญคราง  จิตใจอ้างว้าง  วิเวกวังเวง
ยังมีชีวิต  มีมิตรมากมาย  รอบกายของตน

เมื่อยามเป็นคน  เป็นอย่างนี้เอง  มีมิตรครื้นเครง
รอบกายของตัว  ตายไปเป็นผี  เขาไม่ใยดี
ทิ้งไว้น่ากลัว  ยิ่งคิดยิ่งพรั่น  กายสั่นระรัว
รำพึงถึงตัว  อยู่ในป่าช้า  ลูกหลานสินทรัพย์

ยิ่งแลยิ่งลับ  ไม่เห็นตามมา  เห็นแต่ศีลทาน
เมตตาภาวนา  ตามเลี้ยงรักษา  อุ่นกายอุ่นใจ
ศีลทานมาช่วย  ได้เป็นเพื่อนม้วย  เมื่อตนตายไป
ตบแต่งสมบัติ  นพรัตน์อำไพ  เลิศล้ำผ่องใส

เพราะทำความดี  ศีลพาไปเกิด  ได้วิมานเลิศ
ประเสริฐโฉมศรี  นางฟ้าแห่ล้อม  ด้วยคุณความดี
ขับกล่อมดีดสี  มีสุขครื้นเครง  เพราะเหตุอย่างนี้
ควรมีศีลทาน  เพื่อเป็นสะพาน  ข้ามพ้นทุกข์เข็ญ

พ้นกรรมพ้นเวร  พ้นมารพ้นภัย  สั่งสมความดี
ให้มากหลากหลาย  เพื่อตนจะได้  มรรคผลนิพพาน
คุณพระทศพล  ให้ฝึกฝนกรรมฐาน  ละห่วงลูกหลาน
สามีภรรยา  ทั้งทรัพย์สมบัติ  เรือกสวนไร่นา

สิ่งนี้นำพา  เกิดแก่เจ็บตาย  เร่งบำเพ็ญเถิด
ประเสริฐมากมาย  สุขใจสุขกาย  ตามพระพุทธองค์
พระองค์ทรงชี้  ตถาคตมี  สมบัติสูงส่ง
ในรั้วในวัง  ในศากยวงศ์  สมบัติสูงส่ง

ละไม่ไยดี  เพราะเป็นเหตุทุกข์  ผูกพันมากมี
สุขไม่กี่ปี ต้องพรากจากไป  ตายแล้วเกิดอีก
ไม่มีทางหลีก  เพราะอนุสัย  กิเลสเหตุพา
เกิดแก่เจ็บตาย  ไม่วางไม่วาย  ไม่สิ้นเสียที

สิ่งนี้เป็นเหตุ  พระองค์ทรงเทศน์  กิเลสร้ายหนี
ละบ่วงโลกีย์  มุ่งสู่นิพพาน  นิพพานเป็นสุข
ทุกข์ไม่เผาผลาญ  พ้นจากบ่วงมาร  พ้นบ่วงอบาย.

นิพพานนัง สัมปัจจะโยโหตุ

คัดลอกมาจาก หนังสือสวดมนต์-ไหว้พระ-สาธยายธรรม
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=28&t=20838 (http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=28&t=20838)


    (http://www.larnbuddhism.com/asupa/asu12.jpg)


    อันความตาย    ชายนารี     หนีไม่พ้น
    จะมีจน    ก็ต้องวาย    ตายเป็นผี
    ถึงแสนรัก     ก็ต้องร้าง    ห่างทันที
    ไม่วันนี้     ก็วันหน้า    จริงหนาเรา

    อันยศลาภ    หายไป    ไม่ได้แน่
    เว้นเสียแต่     ต้นทุน     บุญกุศล
    ทิ้งสมบัติ    ทั้งหลาย    ให้ปวงชน
    แม้ร่างตน     เขาก็เอา     ไปเผาไฟ

    อย่าแบ่งชั้นวรรณะเลยมนุษย์     ต่างจุดสุดท้ายกลายเป็นผี
    หลุมฝังศพกลบสิ้นซากอินทรีย์    ไพร่ผู้ดีมีหรือจนไม่พ้นตาย

    (http://www.dhammathai.org/kaveedhamma/data/imagefiles/R579-55.gif)

โครงกระดูกนี้คือกายเรา ฉาบทาด้วยเลือดเนื้อ
เมื่อแยกเป็นส่วนๆ ไม่เหลือมนุษย์
ไม่เหลือ ตัวเรา แดนเกิดของ สุข - ทุกข์
ว่างเปล่า.. รอวัน.. แตกดับ...


    http://www.larnbuddhism.com/asupa/asupa4.htm (http://www.larnbuddhism.com/asupa/asupa4.htm)
    Pics by : Google
ใต้ร่มธรรมดอทเน็ต * อกาลิโกโฮม  
อนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ



หัวข้อ: Re: ตัวกู - ของกูมีมั๊ย ?
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2554 23:21:04
ตัวกู ของกู   ไม่เคยตาย

ที่ตายไปนั้นเป็นสิ่งที่กูเคยเข้าไปสิงร่างเท่านั้น  กูจึงหาได้อาลัยอาวรณ์มันไม่
ถ้าตัวกู ของกู ยังไม่เบื่อเล่นเกมส์เป็นมนุษย์ สัตว์ เปรต พรหม ยักษ์ นาค เทวา  กูก็จะให้เสื้อผ้า(วิญญาณ)กับมันได้ใส่ต่อ  เพื่อให้มันได้ค้นหาตัวเองให้เจอต่อไป  จนกระทั่งมันเจอตัวกู ที่เป็นของกู...คือ พุทธะ