[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 16:26:26



หัวข้อ: พระนางยโสธราพิมพา รักต้นแบบของยอดนารี
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 16:26:26
.


(https://encrypted-tbn2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcStJgmeLtRaCrM6mFCSivC8pe6qeTAbegDiISviwQJNz6vQHkhH)
ภาพวาด ครูเหม เวชกร

พระนางยโสธราพิมพา
รักต้นแบบของยอดนารี


ในอดีต มี ‘สตรี’ อยู่ผู้หนึ่ง ปรารถนาจะคอยช่วยเหลือ ดูแล และสนับสนุน ‘มหาบุรุษ’  ผู้สร้างบารมีมาอย่างช้านาน ด้วยตั้งมโนปณิธานอันยิ่งใหญ่ และตลอดเวลาอันยาวนานจากการเวียนว่ายตายเกิดนับชาติได้ไม่ถ้วน ได้พิสูจน์แล้วว่า สตรีนางนี้ได้เกื้อกูล เสียสละทุกอย่าง เคียงคู่ไม่เคยห่าง ไม่ว่าจะเกิดมายากดีมีจน จะสุขหรือทุกข์ขนาดไหนก็ไม่เคยทอดทิ้ง แม้มหาบุรุษจะบริจาคทรัพย์สินสมบัติจนหมดสิ้นไม่มีเหลือ  สตรีนางนี้ก็ไม่ปริปากว่าบ่น กลับมีน้ำใจยินดีในทานนั้น แม้บุตรและธิดารวมถึงตัวนางเองก็ถูกบริจาคเป็นทาน นางก็ไม่เคยโกรธ น้ำใจรักภักดีและเสียสละของสตรีนางนี้ช่างยิ่งใหญ่เหลือประมาณจนสะเทือนแผ่นดิน

นับตั้งแต่เมื่อสี่อสงไขยกับอีกแสนมหากัปที่ผ่านมา ต่อเบื้องพระพักตร์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า “ทีปังกรสัมมาสัมพุทธะ” ซึ่งพระองค์เพิ่งจะพยากรณ์ “สุเมธดาบส” ว่าจะได้ตรัสรู้สืบต่อไปในเบื้องหน้า จนเป็นที่ศรัทธาสาธุการของเหล่ามนุษย์และเทวดาทั้งหลาย สาวน้อยผู้หนึ่งที่มีกำลังใจยิ่งใหญ่เหลือประมาณ ได้ก้มกราบกรานถวายดอกบัวอันงดงามในกำมือ แล้วเปล่งวาจาอธิษฐาน ณ เบื้องหน้าพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นว่า

“ข้าแต่พระพระองค์ผู้เจริญ ข้าพระบาทได้แลเห็นท่านดาบสเหาะลงมาจากนภากาศ ข้าพระบาทนี้มีความศรัทธาในท่านดาบส เห็นท่านดาบสสร้างทางและทอดกายเป็นสะพาน ข้าพระบาทมีปีติและศรัทธายิ่งขึ้น และเมื่อพระพุทธองค์ทรงพยากรณ์ท่านดาบสว่า จักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล ข้าพระบาทศรัทธาปีติยินดียิ่งนัก มีใจรัก และปรารถนาจะเป็นคู่สุข คู่ทุกข์ คู่ยาก ช่วยท่านดาบสนี้สร้างสมบารมีให้สมบูรณ์”

นับแต่บัดนั้นเป็นเวลายาวนานถึงสี่อสงไขกำไรแสนมหากัป หรือ การเกิดตายจนนับชาติได้ไม่ถ้วน กลับไม่ได้ทำให้น้ำใจรักและศรัทธาของนางนั้นพร่องลง ยังยิ่งเพิ่มพูนคูณทวี เกิดร่วมชีวิตกับพระโพธิสัตว์ไม่ได้ห่าง คอยดูแลพระองค์อยู่เสมอ เสียสละให้พระองค์ได้ทุกอย่าง บางชาติสละทรัพย์ บางชาติสละเลือด บางชาติสละชีวิต เพื่อให้พระโพธิสัตว์ได้สำเร็จซึ่งความปรารถนาในสัมมาสัมโพธิญาณ

จนชาติสุดท้ายของพระโพธิสัตว์ผู้จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า และก็เป็นชาติสุดท้ายของนางเฉกเช่นกัน แม้ชาตินั้นนางก็ยังคงมีความเสียสละให้กับพระสวามี ทันทีที่รู้ว่าพระสวามีออกมหาภิเนษกรม ก็ยังคงเฝ้ารักเฝ้าห่วงหาอาลัยไม่ได้ขาด คราวใดเมื่อทราบว่าเจ้าชายสิทธัตถะนุ่งห่มผ้าย้อมฝาดเนื้อหยาบกร้าน นางก็เปลี่ยนชุดทรงมานุ่งห่มด้วย เมื่อทราบว่าพระองค์บรรทมบนพื้นไม้นางก็บรรทมบนพื้นไม้ด้วย เมื่อนางได้ยินว่าพระสวามีของตนอดพระกระยาหาร นางก็ทรงอดด้วยจนผ่ายผอมแทบสิ้นแรง

หลังการตรัสรู้ พระพุทธองค์ทรงกลับมาโปรดพระประยูรญาติและนาง ซึ่งทันทีที่นางได้พบประสบพักตร์ ก็ไม่อาจอดกลั้นน้ำใจรักความอาลัยที่มากล้น จึงรีบปรี่เข้ามาซบพระบาทแห่งพระพุทธองค์ด้วยน้ำตาที่นองหน้า ซึ่งพระองค์ก็ทรงทราบว่า ถ้าห้ามนางในขณะนั้น นางจะเสียพระทัยจนอกแตกตาย จึงได้ตรัสบอกแก่พระอัครสาวกไว้ก่อนแล้วว่า อย่าได้ห้ามปรามนาง พระพ่อเจ้า คือ พระสุทโธทนะ ก็ได้พรรณาความรัก ความอาลัย ความซื่อสัตย์ที่ไม่หวั่นไหว ไม่ปรวนแปร ของนางให้กับพระพุทธองค์ฟัง ซึ่งพระองค์ก็ทรงทราบในพระทัย จึงตรัสบอกไปว่า “มิใช่เพียงแค่บัดนี้ หากแต่พระนางนี้ มีความรัก มีความซื่อสัตย์ ในเราตถาคตมาอย่างยาวนาน” แล้วในครั้งนั้นพระองค์ก็ประทานอริยทรัพย์อันหาใดเสมอเหมือนด้วยมิได้ให้กับนาง จนถึงซึ่งความเป็นอริยบุคคลผู้ประเสริฐ

นางอันเป็นยอดนารีผู้ซื่อสัตย์ ภักดีมั่นคง และเสียสละนางนี้ หาใช่ใครอื่น ก็คือ พระนางยโสธราพิมพา คู่บารมีแห่งพระโพธิสัตว์เจ้าพระองค์นี้ อันเป็นต้นแบบแห่งความดี ในความซื่อสัตย์ต่อชีวิตของตน มีความมั่นคงไม่หวั่นไหว จนตำนานรักใดก็มิอาจเทียบเทียม

ได้นำเรื่องราว “รักต้นแบบ ของยอดนารี” อย่างพระนางพิมพา นางแก้วคู่บารมีพระโพธิสัตว์มาเล่าสู่กันในแง่มุมแห่งรักที่บริสุทธิ์หมดจดและงดงาม ที่ทั้งคู่มีความซื่อสัตย์ อยู่เคียงข้างดูแลกัน และพร้อมจะเสียสละให้แก่กันได้ทุกอย่าง อันจะเป็นแบบอย่างให้ทุกคนที่ปรารถนาความสุขในชีวิตคู่ ได้รักษาความดีในคู่ครองของตนไปจนตราบเท่าลมหายใจสุดท้ายของชีวิต  เพราะมีแต่ความรักที่ประกอบด้วยธรรมเท่านั้น จึงนับว่าล้ำค่าและจะสามารถผูกพันกันอย่างยั่งยืนที่สุด ซาบซึ้งที่สุด เหนียวแน่นที่สุด ไปจนถึงจุดมุ่งหมายสูงสุด คือ การพ้นทุกข์ไปด้วยกัน


พระเฉลิมชาติ ชาติวโร
พระธรรมทูตเชิงลึกแดนพุทธภูมิ สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย ๙๘๐