|
หัวข้อ: หลวงปู่โทน กันตสีโล วัดเขาน้อยคีรีวัน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 03 มีนาคม 2559 19:01:58 (http://www.sookjaipic.com/images_upload/67745459162526_6.jpg) หลวงปู่โทน กันตสีโล วัดเขาน้อยคีรีวัน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี "หลวงปู่โทน กันตสีโล" วัดเขาน้อยคีรีวัน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองชลบุรี มีเมตตาธรรมสูง นามขจรขจายทั่วภาคตะวันออก เกิดในสกุล เหลืองอ่อน เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2466 ที่ ต.วัดหลวง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ครอบครัวประกอบอาชีพกสิกรรม ในช่วงวัยเยาว์ เรียนหนังสือที่โรงเรียน วัดเนินสังข์ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำหมู่บ้าน จนจบชั้นประถมปีที่ 4 เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่ม ได้อยู่ช่วยครอบครัวทำนาซึ่งเป็นอาชีพหลักของครอบครัว จนอายุ 21 ปี ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารเป็นเวลา 2 ปี ประจำการที่กองกำลังพลทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อปลดประจำการแล้ว กลับไปช่วยครอบครัวทำนาเลี้ยงชีพตามปกติ กระทั่งอายุ 30 ปี เกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส จึงขออนุญาตบุพการี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.2495 ที่วัดเนินสังข์สฤษฏาราม ต.ไร่หลักทอง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี มีพระครูพิสิฏฐ์ศาสนคุณ (หลวงพ่อ ทองหยิบ) เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ อ.พนัสนิคม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการเอี่ยม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระป้อม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า กันตสีโล แปลว่า ผู้มีศีลเป็นที่น่ายินดี ภายหลังอุปสมบท อยู่จำพรรษาที่วัดเนินสังข์ฯ เป็นเวลา 2 ปี ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยอันเป็นพื้นฐาน จากนั้นได้ย้ายมาอยู่ที่วัดบึงบน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ที่วัดบึงบนนี้ ใช้เวลาฝึกฝนด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาวิทยาคมอีกหลายแขนง ศึกษาทางแพทย์แผนโบราณ คือการเสกน้ำมันมนต์ประสานกระดูก โดยได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงพ่อทับ วัดหัวถนน ซึ่งอยู่ในอำเภอพนัสนิคม ทั้งนี้ หลวงพ่อทับเป็นพระเกจิชื่อดังที่มีวิทยาคมเข้มขลัง จึงได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมทั้งหมด นอกจากนี้ ท่านยังได้ฝากตัวเป็นศิษย์กับ พระครูพินิจสมาจาร หรือที่ชาวชลบุรีในอดีตรู้จักท่านดีในนามว่า หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม อ.พนัสนิคม ได้ศึกษาวิชาทำสีผึ้งจากหลวงพ่อโด่ ต่อมาออกท่องธุดงค์ไปทางภาคเหนือ อาทิ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน เชียงราย และเข้าสู่พม่าเพื่อไปกราบนมัสการพระเจดีย์ชเวดากอง เมื่อออกจากพม่า เดินทางย้อนกลับเข้าสู่เมืองไทย บำเพ็ญเพียรตามป่าตามถ้ำได้ระยะหนึ่ง จากนั้นท่านเดินธุดงค์เข้าประเทศลาว เขมร และกลับเข้าประเทศไทย นับรวมเวลาที่ท่านเดินธุดงค์ทั้งสิ้น 32 ปี หลังจากหยุดธุดงค์ในช่วงเวลาว่างท่านมัก เดินทางไปสนทนาธรรมกับ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง เนื่องจากเป็นสหธรรมิกรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อน เมื่อสนทนากันแล้ว หลวงปู่ทิมแนะนำให้มาสร้างสำนักสงฆ์ขึ้นที่เขาน้อย ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เขาน้อยแห่งนี้มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเนินเขาสูง มีป่าไม้เบญจพรรณลำต้นใหญ่ขึ้นอยู่มากมาย เป็นที่เงียบสงบ โดยหลวงปู่ทิมเห็นว่าที่แห่งนี้เหมาะสมแก่การปฏิบัติธรรมและเจริญกัมมัฏฐานเป็นอย่างมาก มาอยู่ที่เขาน้อย เมื่อวันที่ 23 พ.ค.2512 ตอนแรกอาศัยปักกลดนั่งสมาธิภาวนา ต่อมาชาวบ้านแถบนั้นเกิดความศรัทธาเลื่อมใส ได้ช่วยกันสร้างกุฏิไม้หลังเล็กขึ้นหนึ่งหลัง เพื่อใช้เป็นที่เจริญสมณธรรม จากเริ่มแรกมีเพียงกุฏิไม้หลังเดียว ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้รับการ พัฒนาขึ้น จนกระทั่งคณะสงฆ์โดยมหาเถรสมาคมอนุญาตให้ตั้งเป็นวัด ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ตั้งชื่อว่า "วัดเขาน้อยคีรีวัน" ด้วยความที่เป็นผู้ที่มีชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก จึงได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายรุ่น ทั้งเหรียญพระ พระผง รูปหล่อ พระกริ่ง ฯลฯ เพื่อมอบให้ผู้ที่ ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์และเสนาสนะภายในวัด มรณภาพด้วยอาการอันสงบ เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2551 เวลา 21.20 น. สิริอายุ 85 ปี การจากไปของท่านได้สร้างความเศร้าสลด แก่คณะศิษย์และผู้ที่ศรัทธาเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ คณะศิษย์ได้จัดงานฌาปนกิจศพเมื่อ วันที่ 15 ก.พ. 2552 แม้ท่านจะมรณภาพไปแล้ว แต่นามยังอยู่ในศรัทธาของพุทธศาสนิกชนตลอดไป อริยะโลกที่ 6 |