[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ => เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 07 มีนาคม 2559 19:40:37



หัวข้อ: น้ำเต้ากันไฟเจ้าคุณสังวรา (ชุ่ม) วัดพลับ
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 07 มีนาคม 2559 19:40:37
.

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/98564318484730_view_resizing_images_1_.jpg)

น้ำเต้ากันไฟเจ้าคุณสังวรา (ชุ่ม) วัดพลับ

"น้ำเต้า" หรือภาษาจีนเรียก "หูหลู" นับเป็นหนึ่งในของวิเศษของบรรดาเซียนใหญ่ของจีนหลายองค์

เชื่อกันว่าข้างในบรรจุน้ำทิพย์แห่งความเป็นอมตะไว้ ชาวจีนจึงถือเป็นสัญลักษณ์มงคล ดังนั้น การแขวนน้ำเต้าจึงมีความหมายถึงการเก็บกักความเคราะห์ร้ายไม่ให้มาเยือน ภายหลังนิยมทำเป็นเครื่องรางมงคลแขวนไว้ตามบ้านเรือน ร้านค้า เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายและสิ่งอัปมงคลต่างๆ

ทั้งยังดูดโชคลาภและความเป็นสิริมงคลเข้ามาได้ด้วย นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าถ้าแขวนน้ำเต้าไว้ในตำแหน่งสุขภาพจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บอีกด้วย

สำหรับตำนานเครื่องรางของขลังไทย "น้ำเต้า" ถือเป็นเครื่องรางที่ใช้เรียกโชคลาภและกันภัยกันไฟ ที่พระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายท่านนิยมจัดสร้าง ที่ขึ้นชื่อลือชาสุดๆ ก็คือ น้ำเต้ากันไฟ ของท่านเจ้าคุณพระสังวรานุวงศ์เถร (ชุ่ม) วัดพลับ หรือที่รู้จักมักคุ้นในนาม "เจ้าคุณสังวรา (ชุ่ม)"

เจ้าคุณสังวรา (ชุ่ม) เกิดที่บ้าน ต.เกาะท่าพระ อ.บางกอกใหญ่ จ.ธนบุรี เมื่อวันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2396 เป็นบุตรของนายอ่อนและนางขลิบ

เมื่อเยาว์วัยศึกษาร่ำเรียนอักขรสมัยในสำนักพระอาจารย์ทอง วัดราชสิทธาราม เมื่ออายุได้ 13 ปี บรรพชาในสำนักพระสังวรานุวงศ์เถร (เมฆ)

เล่าเรียนจนอายุครบบวชจึงเข้าพิธีอุปสมบท โดยมีพระสังวรานุวงศ์เถร (เมฆ) เป็นพระอุปัชฌาย์, ท่านปลัดโต และพระสมุห์กลัด เป็นคู่กรรมวาจาจารย์ ได้ศึกษาพระปริยัติธรรม อยู่หลายปีจนแตกฉาน จึงหันมาศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐานกับพระอุปัชฌาย์ โดยเริ่มจากวิชาธรรมกายไปจนถึงถอดรูปได้ ซึ่งท่านได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สุดในบรรดาศิษย์ทั้งหมดทีเดียว

ในปี พ.ศ.2422 เจ้าคุณสังวรา (ชุ่ม) ได้เป็นพระใบฎีกาฐานานุกรม ของ พระสังวรานุวงศ์เถร (เมฆ) และหลังจากที่พระอุปัชฌาย์มรณภาพ ท่านก็รับหน้าที่เป็นพระอาจารย์สอนและบอกกรรมฐานแก่พระภิกษุสามเณร และพุทธศาสนิกชนทั่วไป เมื่อมีโอกาสก็จะออกธุดงควัตรไปตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณพระพุทธบาทห้ารอย จ.เชียงราย ไปจนถึงเมืองหงสาวดีและย่างกุ้งของพม่า

ปี พ.ศ.2431 ได้เลื่อนเป็นพระสมุห์ฐานานุกรม ในพระสังวราฯ (เอี่ยม) ต่อมา ปี พ.ศ.2451 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะที่พระสังวรานุวงศ์เถร ตำแหน่งเจ้าอาวาสรูปที่ 16 ของวัดราชสิทธาราม หรือวัดพลับ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

เจ้าคุณสังวรา (ชุ่ม) เป็นพระมหาเถระที่ถือสมถะและมีพรหมวิหารสี่ครบถ้วน เป็นที่เคารพศรัทธาของบรรดาพุทธศาสนิกชนอย่างกว้างขวาง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย นอกจากนี้ท่านยังเป็นพระอาจารย์ของพระเกจิอาจารย์ชื่อดังหลายรูป อาทิ หลวงปู่นาค วัดระฆัง, หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก และหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นต้น ท่านมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2470 สิริอายุได้ 74 ปี

"น้ำเต้ากันไฟ" นั้น เจ้าคุณสังวรา (ชุ่ม) ได้วิชามาขณะที่ออกธุดงค์ โดยได้ไปพบศาลาพักร้อนกลางป่าหลังหนึ่ง ซึ่งโดยรอบศาลาถูกไฟไหม้เสียหายไปทั้งหมด แต่ตัวศาลากลับไม่ได้รับความเสียหาย เมื่อเดินดูรอบๆ พบบริเวณอกไก่มีน้ำเต้าแขวนไว้ลูกหนึ่ง เมื่อเทออกดูพบคาถากันไฟบทหนึ่งบรรจุอยู่ภายใน จึงได้นำติดตัวกลับมาด้วย

หลังวกกลับไปพบว่าศาลาดังกล่าวถูกไฟป่าไหม้เสียหายหมดเป็นที่อัศจรรย์ เมื่อประจักษ์ในอภินิหารเช่นนั้น ท่านจึงได้สร้าง "น้ำเต้า" บรรจุคาถาแจกจ่ายแก่ศิษยานุศิษย์จนเป็นที่เลื่องลือ

"น้ำเต้า" ที่ท่านเลือก จะเลือกเอาแต่ผลที่มีลักษณะตรงตามตำราบ่งบอกไว้ และต้องแก่จัดมากๆ เอามาควักเนื้อในและเม็ดออกให้หมด แล้วจึงลงอักขระเลขยันต์และปลุกเสกตามสูตรโบราณ การสร้าง "น้ำเต้ากันไฟ" ให้ถูกต้องตามแบบโบราณนั้นสร้างยากมาก นับตั้งแต่หาวัสดุจนถึงขั้นตอนการปลุกเสก ดังนั้น สุดยอดเครื่องราง น้ำเต้ากันไฟ ของท่านเจ้าคุณสังวรา (ชุ่ม) เท่าที่พบเห็นจึงมีจำนวนน้อยมาก และมีขนาดไม่แน่นอน

นอกจากนั้น บางลูกก็มีการถักเชือกและลงรักปิดทองไว้ บางลูกก็ไม่มี ครับผม


พันธุ์แท้พระเครื่อง
 ราม วัชรประดิษฐ์