[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 30 มีนาคม 2559 20:19:05



หัวข้อ: หลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก อ.เมือง จ.สุรินทร์
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 30 มีนาคม 2559 20:19:05

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/93601214761535__75_155_1_.jpg)
หลวงปู่สาม อกิญจโน พระผู้เคร่งครัดธุดงควัตร
วัดป่าไตรวิเวก อ.เมือง จ.สุรินทร์

กองทัพธรรม หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายพระป่า อุดมด้วยศิษย์ผู้ปฏิบัติดีหลายรูปของเมืองสุรินทร์ นามของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม และหลวงปู่สาม อกิญจโน วัดป่าไตรวิเวก อ.เมือง จ.สุรินทร์ ล้วนเป็นที่เคารพศรัทธายิ่ง

ทั้งสองเป็นศิษย์อาวุโสของหลวงปู่มั่น

โดยเฉพาะหลวงปู่สามได้คำชื่นชมจากท่านอาจารย์ใหญ่ว่า "เป็นผู้เจริญด้วยธุดงควัตร จำพรรษาได้มากแห่งและเป็นผู้เคร่งครัดในธุดงควัตร"

หลวงปู่สาม เกิดเมื่อวันที่ 12 ก.ย.2443 ที่บ้านนาสาม ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์

ในช่วงวัยเยาว์ ต้องทำงานทุกอย่างทั้งนอกบ้านและในบ้าน ย่างสู่วัยหนุ่มกลับสนใจใฝ่ทำบุญบริจาคทาน ฟังเทศน์ฟังธรรม มีอัธยาศัยชอบความสงบ

อายุ 19 ปี บรรพชาที่วัดนาสาม ศึกษาพระธรรมวินัย จนอายุ 21 ปี อุปสมบทในปี พ.ศ.2462 มีพระครูวิมลศีลพรต เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเอี่ยม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สาม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

จำพรรษาที่วัดนาสาม 3 พรรษาก็เดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม โดยขอพำนักอยู่ที่วัดสัมพันธวงศ์ (วัดเกาะ) แต่ที่วัดนี้ไม่มีกุฏิให้พำนักจึงไปจำพรรษา ณ วัดใน จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่หนึ่งพรรษา

หลังออกพรรษา ท่านเห็นว่าไม่มีโอกาสได้เรียนพระปริยัติธรรมจึงกลับมาที่วัดนาสามตามเดิม และเปลี่ยนความคิดจากการศึกษาพระปริยัติธรรมมาเป็นการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน

เริ่มต้นด้วยการถวายตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล รับการแนะนำสั่งสอนเรื่องการนั่งสมาธิภาวนา บำเพ็ญเพียรด้วยความตั้งใจจริง เพียงไม่นานก็สามารถอบรมจิตให้มั่นคงอยู่ในสมถะ มีสมาธิ

ท่านพิจารณาตนเองเห็นว่ายังไม่เข้าใจในธรรมละเอียดถี่ถ้วน จึงเริ่มทดลองออกเที่ยวธุดงค์ไปในบริเวณใกล้ จ.สุรินทร์ โดยปักกลดครั้งแรกอยู่ที่เขาสวาย ต้องผจญกับความยากลำบากเรื่องอาหารการกินเพราะชาวบ้านเห็นพระธุดงค์เป็นของแปลกไม่มีใครใส่บาตร

แต่ด้วยเป็นผู้มีจิตใจอ่อนโยน และมีเมตตากรุณา ในไม่ช้าบรรดาชาวบ้านต่างคุ้นเคย จนมีผู้มาขอปฏิบัติกับท่านหลายคน

ก่อนเดินทางไปปฏิบัติกัมมัฏฐานกับหลวงปู่มั่น ที่เสนาสนะป่าบ้านสามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม

หลวงปู่สามอยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่มั่นอย่างใกล้ชิด จนเป็นศิษย์ที่ท่านวางใจองค์หนึ่ง โดยอนุญาตให้เป็นผู้จัดวางเครื่องอัฐบริขาร

ต่อมา ท่านเดินทางไปกราบนมัสการพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม และร่วมธุดงค์ออกแนะนำสั่งสอนญาติโยม จากนั้นเข้าอุปสมบทแปรญัตติใหม่เป็นพระภิกษุฝ่ายธรรมยุต ที่วัดสร้างโศก อ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี โดยมีพระครูจิตตวิโสธนาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์สิงห์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์มหาปิ่น ปัญญาพโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์

จากนั้นออกธุดงค์ในหลายจังหวัด ทั้งอุบลราชธานี, บุรีรัมย์, หนองคาย, ขอนแก่น, นครราชสีมา เรื่อยมาจนถึงภาคกลางและชายฝั่งทะเลตะวันออก ก่อนล่องสู่ภาคใต้และขึ้นเหนือ ชนิดไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

เกือบทุกแห่งที่ท่านหยุดปักกลด จะมีญาติโยมเลื่อมใสในปฏิปทา ขอให้ท่านสอนการนั่งสมาธิเพื่อขัดเกลากิเลส

ต่อมา ท่านเดินทางกลับมาตุภูมิ ด้วยจะได้มีโอกาสใกล้ชิดครูบาอาจารย์ซึ่งชราภาพ คือหลวงปู่ดูลย์ อตุโล รวมทั้งมีโอกาสแนะนำสั่งสอนธรรมปฏิบัติแก่ญาติโยม พุทธศาสนิกชนในจังหวัดบ้านเกิด

พ.ศ.2510 หลวงปู่สาม ยุติการธุดงค์เดินทางกลับบ้านเกิด มีญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา ซื้อที่ดินสร้างเป็นวัดเล็กๆ ถวาย และเมื่อมีคนเคารพเลื่อมใสเพิ่มมากขึ้น ต่างพากันสละทุนทรัพย์ขยายวัดจนสมบูรณ์แบบ ตั้งชื่อว่า "วัดป่าไตรวิเวก"

หลวงปู่สาม ครองวัดอยู่นาน 22 ปี ก่อนมรณภาพในปี พ.ศ.2534 สิริอายุ 91 ปี พรรษา 71

วันนี้ สังขารสรีระของท่านล่วงไปแล้ว แต่สิ่งที่ทิ้งไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ประจักษ์ถึงความเป็นพระแท้พระจริง และเป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำ

ท่านยังเป็นพระเถระที่พุทธศาสนิก ชนชาวเมืองสุรินทร์ ให้ความเลื่อมใสจนถึงทุกวันนี้

อริยะโลกที่6