[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ => ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: มดเอ๊ก ที่ 09 กันยายน 2559 05:53:03



หัวข้อ: รู้จัก พญาศรีสัตตนาคราช ที่มาของแลนด์มาร์กแห่งใหม่ นครพนม หลวงปู่คำพันธ์เล่าไว้
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊ก ที่ 09 กันยายน 2559 05:53:03
(http://img.tnews.co.th/large/tnews_1472561090_3135.jpg)

รู้จักกับพญาศรีสัตตนาคราช ที่มาของแลนด์มาร์กแห่งใหม่ นครพนม หลวงปู่คำพันธ์เล่าไว้ สนุกมาก

ถือเป็นนิมิตหมายอันดี เมื่อมีการสร้างสัญลักษณ์เมืองขึ้น ภายใต้ความเชื่อเกี่ยวกับ “องค์พญาศรีสัตตนาคราช”” เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.นครพนม อย่างที่ทราบกันว่าพี่น้องชาวไทย-ลาว ล้วนมีความเชื่อผูกพันอยู่กับองค์พญานาค พอๆกับความผูกพันในลำน้ำโขง รุ่นปู่ย่าล้วนศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของพญานาคในฐานะที่เป็นผู้ดูแลปักปักษ์รักษาแถบลุ่มน้ำโขง รักษาพุทธศาสนา รวมถึงองค์พระธาตุพนม

สำหรับการก่อสร้าง “องค์พญาศรีสัตตนาคราช” นี้ มีการวางแผนออกแบบก่อสร้างมานานเกือบ 5 ปี โดยจังหวัดเตรียมพิธีสมโภชใหญ่ พุทธาภิเษก รวม 9 วัน 9 คืน ระหว่างวันที่ 9 – 18 กันยายน 2559 ถือเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ จะมีสาวงามจาก 7 ชนเผ่าของแต่ละอำเภอกว่า 400 คนมารำบวงสรวงตลอด 9 วัน9 คืนอีกด้วย

(http://www2.tnews.co.th/userfiles/image/01-85.jpg)
(พญาศรีสัตตนาคราช ส่วนเศียร)

แต่ทำไมจึงต้องเป็น “พญาศรีสัตตนาคราช” พญานาคตนนี้มีความเป็นมา และสำคัยอย่างไร...จึงได้ถูกนำมาสร้างเป็นแลนด์มาร์คอันมโหฬารเช่นนี้ ไปฟังเรื่องราวจากปากคำของครูอาจารยารุ่นเก่ากัน แล้วจะรู้ว่าไม่ธรรมดา

(http://www2.tnews.co.th/userfiles/image/218_n.jpg)
(ภาพมุมสูง)

พญาศรีสัตตนาคราช พญานาค

ตามคำบอกเล่าของ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย จังหวัดนครพนม กล่าวว่า ทางฝั่งไทยและฝั่งลาวต่างมี กษัตริย์แห่งนาคราช หรือ นาคาธิบดี แยกปกครองดูแล

ฝั่งลาว คือ พญาศรีสัตตนาคราช (นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล) ซึ่งเชื่อว่าเป็นกษัตริย์แห่งพญานาคฝั่งลาว เป็นพญานาคเจ็ดเศียร

ฝั่งไทย คือ พญาศรีสุทโธนาคราช (นาคาธิบดีสีสุทโธ) เป็นกษัตริย์พญานาคฝั่งไทย เป็นพญานาคหนึ่งเศียร

(http://www2.tnews.co.th/userfiles/image/_10_384.jpg)
(หลวงปู่คำพันธ์)

พญาศรีสุทโธ  ท่านชอบจำศีลบำเพ็ญเพียร และปฏิบัติธรรม มีนิสัยอ่อนโยนมีเมตตา ไม่ชอบการต่อสู้ ชอบมาปฏิบัติธรรมที่พระธาตุพนม โดยมอบหมายให้เหล่าพญานาค 6 อำมาตย์ดูแลแทน ในระหว่างที่หลบมาจำศีลภาวนา

 หลวงปู่เอ่ยชื่อ 6 อำมาตย์แห่งพญานาคไว้เพียง 3 คือ

1. พญาจิตรนาคราช เป็นพญานาคที่รักสวยรักงาม มีเขตแดนปกครองของตน  ตั้งแต่ตาลีฟู ถึงจังหวัดหนองคาย ตามแนวแม่น้ำโขง โดยมีที่สุดแดนอยู่วัดหินหมากเป้ง
2. พญาโสมนาคราช มีเขตแดนปกครอง ตั้งแต่วัดหินหมากเป้ง มาจนถึงวัดพระธาตุพนม สุดเขตแดนที่แก่งกะเบา พญาโสมนาคราช มีอุปนิสัยคล้ายพญาศรีสุทโธนาคราช คือชอบปฏิบัติธรรม จึงเป็นที่ไว้วางใจ และโปรดปรานแก่พญาศรีสุทโธนาคราชมากกว่าพญานาคอื่น ๆ
3. พญาชัยยะนาคราช มีเขตแดนจากแก่งกะเบา เรื่อยไปจนสุดแดนที่ปากแม่น้ำโขงลงทะเลในเขมร พญานาคตนนี้มีฤทธิ์เดชมาก ชอบการรณรงค์ทำสงคราม คือชอบการต่อสู้เป็นนิสัย

(http://www2.tnews.co.th/userfiles/image/2015-04-04_130115.jpg)
(หลวงปู่คำพันธ์)

พญาศรีสัตตนาคราช เป็นใหญ่เหนือพญานาคทั้งปวงในฝั่งลาว เป็นพญานาคที่ทรงฤทธิ์ ท่านเป็นพญานาคที่ชอบจำศีลและประพฤติปฏิบัติธรรมเหมือนพญาศรีสุทโธนาคราช โดยชอบมาที่วัดพระธาตุพนมเหมือนกัน

หลวงปู่คำพันธ์ยังได้กล่าวอีกว่า ส่วนใดที่อยู่ใกล้ต้นน้ำลำธาร หรือหากมี

พิธีกรรมอันใดเกิดขึ้น ให้อัญเชิญบอกกล่าวแก่เหล่าพญานาค พิธีกรรมนั้นจะศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง

เกี่ยวกับพญานาคที่วัดธาตุพนม มีเรื่องราวบันทึกไว้ว่า ในคืนขึ้น 15 ค่ำ

เดือน 11 ปี 2500 (วันออกพรรษา) คืนนั้นมีฝนตกหนัก นายไกฮวดและภรรยา ได้ลุกขึ้นมารองน้ำฝนไว้ดื่มกินตอนกลางดึก บังเอิญเห็นลำแสงแปลกประหลาดสว่างเป็นลำโต ขนาดต้นตาล  7 ลำแสง และมีสีสันแตกต่างกัน 7 สี สวยงามมาก โดยที่ลำแสงทั้ง 7  พุ่งมาจากฟากฟ้าทิศเหนือ ด้วยลักษณะแข่งกัน คือแซงกันไปแซงกันมา จนพุ่งเข้าซุ้มประตูวัดธาตุพนมแล้วก็หายไป

มีสามเณรรูปหนึ่งในขณะนั้นประทับทรงบอกนายไกฮวดและภรรยาว่าลำแสงทั้ง 7 คือ พญานาค มาจากเทือกเขาหิมาลัย มาเพื่อปกปักรักษาพระธาตุพนม และช่วยเหลือประชาชนผู้ตกทุกข์ได้ยาก

แต่หลวงปู่คำพันธ์บอกว่า นั่นเป็นพญาศรีสุทโธนาคราช และอำมาตย์ทั้ง 6  แสดงฤทธิ์ ในโอกาสที่ท่านได้บอกกล่าวเรื่องพญานาคนี้ ท่านจึงได้กล่าวพยากรณ์ว่า

พญานาคจะช่วยผู้ที่บูชา ศรัทธาในพญานาคให้ผ่านพ้นอันตรายจากภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นหลังจาก ท่านมรณภาพไปแล้ว 3 ปี … หลังหลวงปู่ตาย 3 ปี บ้านเมืองจะเริ่มวุ่นวายเดือดร้อนให้พวกเจ้าศรัทธา และบูชาพญานาค ก็จะพ้นวิกฤตินั้นได้”


จาก http://panyayan.tnews.co.th/contents/202490/ (http://panyayan.tnews.co.th/contents/202490/)

http://www.banloktip.com/ (http://www.banloktip.com/) พญาศรีสัตตนาคราช-พญานาค/

http://www.mediastudio.co.th/2016/08/23/41092/ (http://www.mediastudio.co.th/2016/08/23/41092/)


(http://www.mediastudio.co.th/wp-content/uploads/2016/08/01-85.jpg)

(http://www.mediastudio.co.th/wp-content/uploads/2016/08/02-84.jpg)

(http://www.mediastudio.co.th/wp-content/uploads/2016/08/03-87.jpg)

นายสมชาย วิทย์ดำรงค์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบการเตรียมพร้อมเกี่ยวกับการอัญเชิญองค์พญานาคขนาดใหญ่ หรือองค์พญาศรีสัตตนาคราช ที่จะมีการนำขึ้นประดิษฐานบนแท่น บริเวณลานบริเวณลานองค์พญาศรีสัตตนาคราช หรือสถานที่ก่อสร้างแลนด์มาร์ค ริมฝั่งแม่น้ำโขง หน้าสำนักงานป่าไม้นครพนม ถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เพื่อเตรียมพร้อมประกอบพิธีสมโภชใหญ่ รวมถึงพิธีพุทธาภิเษก รวม 9 วัน 9 คืน ระหว่างวันที่  9 – 18 กันยายน 2559

(http://www.mediastudio.co.th/wp-content/uploads/2016/08/04-88.jpg)

(http://www.mediastudio.co.th/wp-content/uploads/2016/08/05-80.jpg)

(http://www.mediastudio.co.th/wp-content/uploads/2016/08/06-76.jpg)

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า สำหรับองค์พญานาคขนาดใหญ่ หรือองค์พญาศรีสัตตนาคราช  ถือเป็นสัญลักษณ์ของ จังหวัดนครพนม ที่ก่อสร้างขึ้นตามความเชื่อ ความศรัทธา เนื่องจากมีภูมิประเทศที่ตั้งติดกับริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่มีประวัติความเป็นมาในเรื่องของความเชื่อ ความเคารพศรัทธาในเรื่องของพญานาค ที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาแต่อดีต  ซึ่งในการก่อสร้างลำตัวพญานาคก่อสร้างขึ้นด้วยโลหะทองเหลือง  เป็นองค์พญานาคขดตัวชูเศียร พ้นน้ำ จำนวน 7 เศียร มีความสูงตั้งแต่ฐานลำตัว ประมาณ 9 เมตร ฐานกว้าง ประมาณ 6 เมตร  และตั้งบนแท่นประดิษฐานสูง ประมาณ 5 เมตร โดยจะประดิษฐานหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ พ่นน้ำทั้ง 7 เศียรลงสู่แม่น้ำโขง ใช้งบประมาณก่อสร้างประมาณ 9 ล้านบาท  ถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ ของ จังหวัดนครพนม ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้าการท่องเที่ยว ดึงดูดประชาชน นักท่องเที่ยว สนใจมาเที่ยวชม เป็นการเตรียมพร้อมสู่การเป็นเมืองการค้าชายแดน

(http://www.mediastudio.co.th/wp-content/uploads/2016/08/07-72.jpg)

(http://www.mediastudio.co.th/wp-content/uploads/2016/08/08-58.jpg)

(http://www.mediastudio.co.th/wp-content/uploads/2016/08/09-54.jpg)

(http://www.mediastudio.co.th/wp-content/uploads/2016/08/10-107.jpg)

https://www.youtube.com/v/qhvx-rpHt40

https://www.youtube.com/v/3gfkrMiaksM

https://www.youtube.com/v/ikvTs7g2uW4


หัวข้อ: Re: รู้จัก พญาศรีสัตตนาคราช ที่มาของแลนด์มาร์กแห่งใหม่ นครพนม หลวงปู่คำพันธ์เล่าไว้
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊ก ที่ 07 ตุลาคม 2559 23:47:52
(http://www.thairath.co.th/media/EyWwB5WU57MYnKOuq7ZZxJUIrjQOyfcEHfy9P2RfCBiIt6y6c4Udfe.jpg)

ไทย-ลาวแห่สักการะองค์พระธาตุพนม ร่วมพิธีสัตตนาคารำลึก เชื่อเสริมบารมี

ชาวไทยและลาวจำนวนมาก แห่สักการะองค์พระธาตุพนมอายุกว่า 2,000 ปี พร้อมร่วมพิธีสัตตนาคารำลึก บูชาพญานาคปีที่ 59 เชื่อ หากได้มาสักครั้งเหมือนได้เสริมบารมี และมีความสุขความเจริญ

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย ชาวลาว ประชาชน และนักท่องเที่ยว ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ “สัตตนาคารำลึก” หรือพิธีบวงสรวงบูชาพญานาค ที่ดูแลปกปักษ์รักษาองค์พระธาตุพนมสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ถือเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญ จัดสืบทอดมานานกว่า 59 ปี ตามความเชื่อและศรัทธา เพื่อเป็นการรำลึกถึงองค์พญานาคทั้ง 7 ตน เนื่องจากเคยเกิดปาฏิหาริย์เหตุการณ์ประหลาดที่องค์พญานาคเสด็จมาดูแลในองค์พระธาตุพนมในคืนวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 11 จึงได้มีการถือปฏิบัติสืบทอดกันมา แสดงออกถึงความเคารพศรัทธาต่อองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี ที่สำคัญยังเป็นที่บรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ทั้งยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนทั้งชาวไทยและลาว


(http://www.thairath.co.th/media/NjpUs24nCQKx5e1EzT6Gr92kvlv0RbDtNP7qkZBWLV3.jpg)
ผู้ที่เคารพศรัทธาเชื่อว่าได้สักการะสักครั้งจะเสริมบารมี ร่ำรวยเงินทอง

ในการประกอบพิธี ประชาชนที่มีความเคารพศรัทธาจะมีการนำเอาเครื่องสักการะบูชา ดอกไม้ ธูปเทียน พานบายศรี รูปพญานาค ไปจนถึงเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ มาถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุพนม รวมถึงหลวงพ่อพญานาค จากนั้นร่วมกันสวดมนต์เจริญภาวนา และการรับฟังพระธรรมเทศนาขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ กระทั่งถึงเวลา 02.00 น. จะถือเป็นเวลาเสด็จของหลวงพ่อพญานาค ตามความเชื่อ จะมีการลงมาประทับร่างทรงเพื่อแสดงพระธรรมเทศนา ทำนายทายทัก จนบางปีเกิดเหตุการณ์ประหลาด อาทิ การเกิดเงาพระธาตุพนมบนท้องฟ้า การเกิดปรากฏการณ์แสงประหลาดบนท้องฟ้า แต่ในปีนี้ไม่เกิดปาฏิหาริย์ใด มีเพียงบรรดาเหล่าร่างทรงพญานาค และผู้มีจิตศรัทธาจากทั่วสารทิศเดินทางไปร่วมพิธีจำนวนมาก เพราะเชื่อกันว่าเพื่อเป็นการเสริมบารมี จะส่งผลให้มีความสุขความเจริญ และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง

ด้าน พระเทพวรมุนี กล่าวว่า พิธีศักดิ์สิทธิ์สัตตนาคารำลึก เป็นพิธีสำคัญอย่างหนึ่งของ จ.นครพนมในช่วงก่อนวันออกพรรษา หากใครที่ได้มาร่วมพิธีถือว่าเป็นบุญกุศล จะทำให้มีความสุข และเจริญรุ่งเรืองตลอดไป ส่วนในเรื่องตำนานพญานาคนั้น แล้วแต่จิตของแต่ละคน หรือบุญวาสนาของใครที่จะได้พบเห็น และที่สำคัญ ถือเป็นงานประเพณีสำคัญที่แสดงออกถึงความเคารพศรัทธาในพระพุทธศาสนาซึ่งมีองค์พระธาตุพนมเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นการสร้างจิตสำนึกให้พุทธศาสนิกชนหันมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา.


จาก http://www.thairath.co.th/content/745186 (http://www.thairath.co.th/content/745186)