[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ในครัว => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 06 ธันวาคม 2559 14:35:48



หัวข้อ: นมถั่วเหลือง และน้ำนมถั่วเหลืองสูตรข้าวบาร์เลย์ สูตร/วิธีทำ
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 06 ธันวาคม 2559 14:35:48

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/34105456827415_2.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/81520630419254_1.jpg)

น้ำเต้าหู้ (นมถั่วเหลือง)

เครื่องดื่ม "เพื่อสุขภาพ" สำหรับคนรักสุขภาพ

• ส่วนผสม
- ถั่วเหลือง     3 ถ้วยตวง
- น้ำสะอาด     14 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย1 ถ้วยตวง
- โซดาไบคาร์บอเนต (สำหรับทำขนมอบหรือเบเกอรี่)½ ช้อนโต๊ะ
- ใบเตย3 ใบ


• วิธีทำ
1.แช่ถั่วเหลืองทิ้งไว้ข้ามคืน (ควรแช่ตอนช่วงเย็น)
2. เทน้ำแช่ถั่วทิ้ง แล้วใส่น้ำสะอาดให้ท่วมถั่ว ใส่โซดาไบคาร์บอเนต คนให้ละลายทั่วกัน แช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
    (โซดาไบคาร์บอเนต ช่วยลด หรือกำจัดกลิ่นของถั่วเหลืองได้ดี)
3. ล้างถั่วให้สะอาดอีกครั้งหนึ่ง เทใส่ตะแกรงโปร่งให้สะเด็ดน้ำ
4. น้ำถั่วไปปั่นกับน้ำสะอาด (14 ถ้วยตวง) และใบเตยหั่นท่อนสั้น จนละเอียด
    แล้วกรองเอาแต่น้ำถั่วเหลือง ด้วยผ้าขาวบาง
5. นำน้ำเต้าหู้ไปต้มจนเดือด ใส่น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง คนให้เข้ากัน แล้วยกลง
6. กรองด้วยกระชอนตาถี่อีกครั้งหนึ่ง จึงใส่ภาชนะจัดเสิร์ฟขณะร้อนๆ
    หรือพักไว้จนเย็น แล้วใส่ขวดแช่ตู้เย็นไว้ดื่มแก้กระหาย



(http://www.sookjaipic.com/images_upload/93257020869188_4.JPG)
แช่ถั่วเหลืองทิ้งไว้ค้างคืน

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/32384713532196_5.JPG)
ล้างถั่วให้สะอาดอีกครั้งหนึ่ง เทใส่ตะแกรงโปร่งให้สะเด็ดน้ำ
ใส่น้ำให้ท่วมถั่วอีกครั้งหนึ่ง  ใส่โซดาไบคาร์บอเนต ½ ช้อนโต๊ะ คนให้ละลายเข้ากัน
แล้วแช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมง
โซดาไบคาร์บอเนต จะช่วยลดหรือกำจัดกลิ่นฉุนของถั่วเหลืองได้ดี
ช่วยให้ผู้ไม่นิยมดื่มน้ำเต้าหู้ เพราะไม่ชอบกลิ่นของถั่ว สามารถดื่มได้
และยังกรุ่นกริ่นหอม "ใบเตย" จากธรรมชาติ ที่นำมาปรุงแต่งให้ชวนลิ้มลองอีกด้วย

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/18338893685075_6.JPG)
นำไปต้มให้เดือด พอจะยกลงจากเตาจึงใส่น้ำตาลทราย 1 ถ้วย คนให้ละลายเข้ากัน
ยกลงจากเตา แล้วกรองด้วยกระชอนตาถี่อีกครั้งหนึ่ง
(ขณะต้มต้องหมั่นคนก้นหม้อไปเรื่อยๆ มิฉะนั้นก้นหม้อจะไหม้)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload/78812747903996_3.jpg)


หัวข้อ: Re: นมถั่วเหลือง สูตรข้าวบาร์เลย์
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 25 สิงหาคม 2561 14:43:40
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/21668922073311_12_Copy_.jpg)

น้ำนมถั่วเหลือสูตรข้าวบาร์เลย์

เครื่องดื่ม "เพื่อสุขภาพ" สำหรับคนที่รักสุขภาพ

• ส่วนผสม
- ถั่วเหลือง     2 ถ้วยตวง
- ข้าวบาร์เลย์     1 ถ้วยตวง
- น้ำสะอาด     15 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย½ - 1 ถ้วยตวง
- โซดาไบคาร์บอเนต (สำหรับทำขนมอบหรือเบเกอรี่)½ ช้อนโต๊ะ
- ใบเตย3 ใบ


• วิธีทำ
1.แช่ถั่วเหลืองและข้าวบาร์เลย์ ทิ้งไว้ข้ามคืน (ควรแช่ตอนช่วงเย็น และแยกภาชนะสำหรับใส่ถั่วและข้าวบาร์เลย์)
2. เทน้ำแช่ถั่วทิ้ง ใส่น้ำสะอาดให้ท่วมถั่ว ใส่โซดาไบคาร์บอเนต คนให้ละลายทั่วกัน แช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
    (โซดาไบคาร์บอเนต ช่วยลด หรือกำจัดกลิ่นของถั่วเหลืองได้ดี)
3. ล้างถั่วให้สะอาดอีกครั้งหนึ่ง เทใส่ตะแกรงโปร่งให้สะเด็ดน้ำ
4. เทน้ำแช่ข้าวบาร์เลย์ทิ้ง ใส่ตะแกรงโปรงพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
5. ผสมถั่วเหลืองและข้าวบาร์เลย์เข้าด้วยกัน หั่นใบเตยใส่ผสมลงไป
6. น้ำถั่ว ข้าวบาร์เลย์ และใบเตย ไปปั่นกับน้ำสะอาด (15 ถ้วยตวง) จนละเอียด
    กรองเอาแต่น้ำด้วยผ้าขาวบาง และกรองอีกครั้งด้วยกระชอนตาถี่
7. นำน้ำนมถั่วเหลืองและข้าวบาร์เลย์ไปต้มจนเดือด ใส่น้ำตาลทราย ½ ถ้วย หรือ 1 ถ้วยตวง (ตามความชอบ) คนให้เข้ากัน  
8. กรองด้วยกระชอนตาถี่อีกครั้งหนึ่ง จึงใส่ภาชนะจัดเสิร์ฟขณะร้อนๆ
   ยกลง พักไว้ให้เย็น ใส่ขวดแช่ตู้เย็นไว้ดื่มบำรุงสุขภาพได้ดีนักแล



(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/29332085409098_11_Copy_.jpg)

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/34657349064946_12_Copy_.jpg)
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/21710131565729_P_20180825_113100_Copy_.jpg)



(https://ua.all.biz/img/ua/catalog/2163815.jpeg)

(http://www.sookjai.com/Themes/default/images/post/xx.gif) ข้าวบาร์เลย์ (Barley) จัดเป็นพันธุ์ข้าวเมืองหนาวที่นิยมปลูก และนำมาใช้ประโยชน์มากในแถบประเทศเมืองหนาว จัดเป็นธัญพืชสำคัญสำหรับใช้ทำขนมปัง ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเบียร์ เป็นต้น
• วงศ์ : Hordeae
• ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hordeum spp.หรือ Hordeum yulgar Linn.
• ชื่อสามัญ : Barley

(http://www.sookjai.com/Themes/default/images/post/xx.gif) ถิ่นกำเนิด ข้าวบาร์เลย์ เป็นพืชเมืองหนาวที่มีถิ่นกำเนิดในหลายประเทศ ทั้งในแอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลาง อาทิ อิสราเอล ตุรกี เอธิโอเปีย ลิเบีย และโมรอคโค เป็นต้น

ปัจจุบัน พบการปลูกข้าวบาร์เลย์มากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ประเทศที่มีพื้นที่ปลูกมาก และส่งออกในอันดับต้นๆ ได้แก่ รัสเซีย เยอรมัน แคนาดา ฝรั่งเศส และสเปน ส่วนประเทศไทยมีการเพาะปลูกข้าวบาร์เลย์เพียงบางพื้นที่ และมีพื้นที่เพาะปลูกน้อย ได้แก่ เชียงราย ลำพูนลำปาง พะเยา น่าน และเชียงใหม่ ซึ่งจะพบการปลูกเพียงจังหวัดในตอนบน เนื่องจากมีอุณหภูมิต่ำ ทำให้เหมาะแก่การเพาะปลูก

(http://www.sookjai.com/Themes/default/images/post/xx.gif) ประโยชน์ข้าวบาร์เลย์
1. เมล็ดข้าวบาร์เลย์ใช้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวเมล็ดกลม เล็กๆ เรียกว่า peal barley ที่นิยมนำมาหุงหรือต้มรับประทานแทนข้าวสวยได้ รวมถึงใช้เป็นส่วนผสมของขนมหวานหรือใช้ใส่ในน้ำเต้าหู้
2. ข้าวบาร์เลย์แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์แป้งสำหรับใช้ทำขนมปัง และเค้ก เป็นต้น
3. ข้าวบาร์เลย์ใช้เป็นวัตถุดิบในการทำข้าวมอลต์ (barley malt) ที่เป็นวัตถุดิบที่ใช้ในโรงงานผลิตเบียร์ และวิสกี้ โดยพบว่า ข้าวบาร์เลย์ชนิดหกแถวจะมีองค์ประกอบของเอนไซม์ และโปรตีนสูง แต่มีปริมาณแป้งน้อย และขนาดเปลือกหนา ซึ่งการมีปริมาณเอนไซม์สูงนี้จะช่วยเพิ่มการเปลี่ยนแปลงระหว่างกระบวนการ mashing ได้ดี ส่วนข้าวบาร์เลย์ชนิดสองแถว จะมีข้อดีที่ว่ามีองค์ประกอบโปรตีนที่ต่ำกว่า ทำให้ช่วยลดความขุ่น (haze) ของกระบวนการหมักเบียร์ได้ดีกว่า ทั้งนี้ ข้าวบาร์เลย์ 300 กิโลกรัม สามารถทำเป็นข้าวมอลต์ได้ประมาณ 225 กิโลกรัม และข้าวมอลต์ 225 กิโลกรัม จะผลิตเบียร์ได้ประมาณ 1800 ลิตร
4. ข้าวบาร์เลย์ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเครื่องดื่มเสริมสุขภาพชนิดต่างๆ อาทิ โอวัลติน ขนมอบกรอบ และอาหารเช้า

(http://www.sookjai.com/Themes/default/images/post/xx.gif) สรรพคุณข้าวบาร์เลย์

- ต้านโรคมะเร็ง     - ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่
- กระตุ้นภูมคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง           - ช่วยกระตุ้นการหลั่ง และรักษาระดับฮอร์โมนให้เป็นปกติ
- ช่วยต้านอาการอักเสบ- กระตุ้นการทำงานของระบบสืบพันธุ์ และการเจริญพันธุ์
- ช่วยรักษาโรคไขข้ออักเสบ     - ช่วยลดอาการบวมน้ำ
- ช่วยบรรเทา และป้องกันโรคเกาต์     - ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน- ช่วยป้องกันอาการวัยทอง
- ป้องกันโรคกระดูกพรุน     - ช่วยป้องกันโรคไต และบำรุงไต
- ป้องกันโรคโลหิตจาง     - ช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง
- ช่วยป้องกันโรคหัวใจ- ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
- ป้องกัน และรักษาโรคธาลัสซีเมีย- ช่วยรักษาโรคอ้วน

ขอขอบคุณที่มาเรื่อง "ข้าวบาร์เลย์" จากเว็บไซต์ พืชเกษตร ดอทคอม (puechkaset.com)