[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => เกร็ดศาสนา => ข้อความที่เริ่มโดย: Kimleng ที่ 08 ธันวาคม 2559 16:46:41



หัวข้อ: มหาปุริสลักษณะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 08 ธันวาคม 2559 16:46:41

(http://f.ptcdn.info/295/022/000/1407928814-2013032307-o.jpg)

มหาปุริสลักษณะ

วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า "ผู้ที่มีมหาบุรุษลักษณะ" เป็นคำที่ใช้เรียกพระพุทธเจ้าเมื่อก่อนตรัสรู้ ทั้งนี้มีอธิบายจากวิกิพีเดีย ว่า มหาปุริสลักขณะ (บาลี : mahapurisalakkhana) หรือมหาปุริส ลักษณะ (สันสกฤต : mahapurisalaksana) เป็นลักษณะที่บ่งบอกให้รู้ว่า ผู้ที่เกิดมาแล้วมีลักษณะพิเศษ ๓๒ อย่างนี้จะได้เป็นบุคคลสำคัญอย่างยิ่ง หรือที่เรียกว่า พระโพธิสัตว์ คือสัตว์ที่อาจตรัสรู้ ลักษณะดังกล่าวได้แก่
๑.มีพระบาทเรียบเสมอกัน ฝ่าพระบาทเสมอดังพื้นฉลองพระบาททองแห่งพระราชามหากษัตริย์ ไม่แหว่งเว้าสูงปลายเท้า หนักส้น กระโหย่งกลางเท้าดังสามัญมนุษย์

๒.พื้นภายใต้ฝ่าพระบาททั้งสองข้างของพระโพธิสัตว์ทุกองค์มีลายรูปจักรเกิดขึ้น มีซี่กำไดละพัน มีกง มีดุม บริบูรณ์ด้วยอาการทั้งปวง

๓.มีส้นพระบาทยาว

๔.มีพระองคุลียาว มีพระองคุลีนิ้วพระหัตถ์ นิ้วพระบาทยาวงาม นิ้วพระหัตถ์ทั้ง 4 และนิ้วพระบาททั้ง 5 มีประมาณเสมอกัน ไม่เหลื่อมยาวไม่เหลื่อมสั้นดังสามัญมนุษย์

๕.มีฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทอ่อนนุ่ม ฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทอ่อนเสมออยู่เป็นนิตย์

๖.มีฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทอันมีลายดุจตาข่าย พระหัตถ์และพระบาทมีลายประหนึ่งร่างข่าย

๗.มีพระบาทรูปเหมือนสังข์คว่ำ พระบาทมีสังขะ คือข้อพระบาทลอยอยู่ ณ เบื้องบน ข้อพระบาทไม่เนื่องพัวพันกับหลังพระบาทดังของสามัญชน

๘.มีพระชงฆ์รีเรียวดุจแข้งเนื้อทราย

๙.เมื่อประทับยืนอยู่ แม้มิได้ก้มลง ก็สามารถเอาฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองลูบคลำได้ถึงพระชานุทั้งสอง

๑๐.มีพระคุยหะเร้นอยู่ในฝัก มีอังคาพยพซึ่งจะพึงซ่อนให้ลับด้วยผ้าตั้งลงแล้วในฝัก

๑๑.มีพระฉวีวรรณดุจวรรณะแห่งทองคำ มีพระตจะประดุจหุ้มด้วยทองคำ

๑๒.มีพระฉวีละเอียด และเพราะเหตุที่พระฉวีละเอียด ธุลีละอองจึงไม่ติดอยู่ในพระกายได้

๑๓.มีพระโลมชาติอันมีปลายงอนขึ้นข้างบน มีสีเขียวเหมือนดอกอัญชัน และขดเป็นกุณฑลทักษิณาวัฏ

๑๔.มีพระโลมชาติเส้นหนึ่งในขุมหนึ่งขุม

๑๕.มีพระกายตรงเหมือนพรหม

๑๖.มีพระมังสะเต็มในที่เจ็ดแห่ง พระมังสะในที่ 7 สถาน คือหลังพระหัตถ์ทั้ง 2 หลังพระบาททั้ง 2 จะงอยพระอังสาทั้ง 2 และพระศอบริบูรณ์เต็มด้วยดี

๑๗.มีพระกายท่อนบนเหมือนกึ่งกายท่อนข้างหน้าของราชสีห์

๑๘.มีระหว่างพระอังสะเต็ม ระหว่างแห่งพระปฤษฎางค์อันเต็ม ไม่เป็นร่องดังทางไถดังมีในกายสามัญชน

๑๙.มีปริมณฑลดุจไม้นิโครธ วาของพระองค์เท่ากับพระกายของพระองค์ กายของพระองค์ก็เท่ากับวาของพระองค์

๒๐.มีลำพระศอกลม

๒๑.มีเส้นปลายประสาทนำรสอาหารดี กล่าวคือ เอ็น 700 ที่สำหรับนำไปซึ่งรสอาหารมาสวมรวมประชุม ณ พระศอ

๒๒.มีพระหนุดุจคางราชสีห์ พระหนุดั่งคางราชสีห์บริบูรณ์ดีประหนึ่งวงพระจันทร์ในวัน 12 ค่ำ

๒๓.มีพระทนต์สี่สิบองค์

๒๔.มีพระทนต์เรียบเสมอกัน พระทนต์เสมอ ไม่ลักลั่น ยาวสั้นดังสามัญมนุษย์

๒๕.มีพระทนต์เรียบสนิทมิได้ห่างกันเลย

๒๖.มีพระทาฐะขาวงาม พระทาฐะคือพระเขี้ยวอันขาวงาม

๒๗.มีพระชิวหาใหญ่ พระชิวหาอันพอ คืออ่อนและกว้างใหญ่ อาจแผ่ปกพระนลาฏมิดและห่อให้เล็กสอดในช่องพระนาสิกและช่องพระโสตได้

๒๘.มีพระสุรเสียงดุจเสียงพรหม สำเนียงดุจนกการเวก

๒๙.มีพระเนตรดำสนิท บ้างว่าพระเนตรเขียวสนิทในที่ควรจะเขียว

๓๐.มีดวงพระเนตรดุจตาโค

๓๑.มีพระอุณาโลมาบังเกิด ณ ระหว่างพระขนง มีสีขาวอ่อนเปรียบด้วยนุ่น

๓๒.มีพระเศียรงามบริบูรณ์ดุจประดับด้วยกรอบพระพักตร์ พระมหาบุรุษบรมโพธิสัตว์เจ้ามีพระเศียรได้รูปทรงงดงามดุจประดับด้วยกรอบพระพักตร์

มหาปุริสลักษณะทั้งสามสิบสองอย่างนี้ มีอยู่ในพระโพธิสัตว์ทุกองค์ในชาติสุดท้าย คือชาติที่ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ลักษณะเหล่านี้เป็นลักษณะที่บ่งบอกให้รู้ถึงความยิ่งใหญ่ ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสรับรองไว้ว่า...

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการนี้ เมื่อมหาบุรุษมีพร้อมแล้วย่อมเป็นเหตุให้มีคติเป็น ๒ เท่านั้นไม่เป็นอย่างอื่น คือ ถ้าอยู่ครองเรือนจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ อนึ่ง ถ้ามหาบุรุษนั้นออกจากเรือนผนวชเป็นบรรพชิต จะตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า มีเครื่องมุงบังเกิดคือกิเลสอันเปิดแล้วในโลก"


ที่มา : คอลัมน์ #รู้ไปโม้ด /ข่าวสดออนไลน์