หัวข้อ: เยือนวัดบรรพตคี (วัดภูจ้อก้อ) กราบอัฐธาตุหลวงปู่หล้่า เขมปัตโต จ.มุกดาหาร เริ่มหัวข้อโดย: Kimleng ที่ 17 มีนาคม 2560 20:00:54 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/62045288830995_1.jpg) หุ่นขี้ผึ้ง หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ประดิษฐานในเขมปัตตเจดีย์ วัดภูจ้อก้อ จ.มุกดาหาร (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/87450007680389_11.jpg) เยือนวัดบรรพตคี (วัดภูจ้อก้อ) Wat Banpot Khiri (phu jo kho) ตำบลหนองสูงใต้ อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร วัดบรรพตคีรี (วัดภูจ้อก้อ) เป็นวัดวิปัสสนากรรมฐาน และสถานที่ปฏิบัติธรรมที่เงียบสงบ ตั้งอยู่บนเขาโดด ต้องขึ้นบันได ๒๐๐ ขั้น วัดนี้เคยเป็นที่พำนักของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต พระเถราจารย์สายวิปัสสนากรรมฐาน ภายหลังท่านละสังขารแล้ว ได้มีการจัดสร้างเขมปัตตเจดีย์ บรรจุอัฐ สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ.๒๕๔๒ เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ ถวายเป็นอนุสรณ์แด่หลวงปู่หล้า เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้สานุศิษย์ทั้งหลายได้รำลึกถึงบารมีธรรม คำสั่งสอน และเป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไป ชั้นบนเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติ ผลงาน และเครื่องอัฐบริขารส่วนตัว รวมทั้งประดิษฐานหุ่นขี้ผึ้งจำลองหลวงปู่ วัดบรรพตคีรีถือได้ว่าเป็นศาสนสถานที่สำคัญของชาวพุทธและชาวมุกดาหาร ที่ยังคงความยิ่งยงสง่างาม เป็นที่พึ่งทางใจแก่พุทศาสนิกชนให้สว่างแจ่มใสแห่งพระธรรมอย่างยั่นยืน • ประวัติสังเขป หลวงปู่หล้า เขมปัตโต หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดบรรพตคีรี (ภูก้อจ้อ) ตำบลหนองสูงใต้ อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร ถือกำเนิดในสกุล เสวตร์วงษ์ เมื่อวันจันทร์ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๔ ปีกุน ตรงกับวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๕๔ เวลาเช้า ณ บ้านกุดสระ หมู่ที่๒ ตำบลกุดสระ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โยมบิดาชื่อ นายคูณ โยมมารดาชื่อ นางแพง ท่านมีพี่น้องรวม ๘ คน โดยท่านเป็นบุตรคนสุดท้อง ครอบครัวมีอาชีพทำนา ในวัยเด็กได้เข้ารับการศึกษา ณ โรงเรียนประชาบาล ตำบลกุดสระ อำเภอหมากแข้ง จังหวัดอุดรธานี ได้เรียนหนังสือสูตรสวดมนต์ หนังสือธรรมใบลาน และเรียนนักธรรม พ.ศ.๒๔๗๑ อายุ ๑๘ ปี บรรพชาเป็นครั้งแรก ณ วัดบัวบาน บ้านกุดสระ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ได้เรียนหนังสือสูตรสวดมนต์ หนังสือธรรมใบลาน และเรียนนักธรรม พ.ศ.๒๔๗๒ สอบได้นักธรรมชั้นตรี บรรพชาเป็นสามเณรอยู่ ๓ พรรษา จึงลาสิกขาเพื่อไปคัดเลือกทหาร แต่ไม่ได้รับการคัดเลือก ครั้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๔๗๔ อายุ ๒๐ ปี จึงได้อุปสมบทตามประเพณี ณ วัดบัวบาน เป็นเวลา ๑ พรรษา สอบได้นักธรรมชั้นตรีอีกครั้งหนึ่งแล้วลาสิกขาไป หลังจากลาสิกขาได้ ๖ เดือนก็แต่งงาน มีบุตรหญิงด้วยกันคนหนึ่งก็เลิกกัน อีกปีหนึ่งต่อมาก็แต่งงานเป็นครั้งที่ ๒ การแต่งงานครั้งนี้ได้ครองชีวิตคู่อยู่ด้วยกัน ๙ ปี มีบุตรด้วยกัน ๓ คน เป็นชาย ๒ คน หญิง ๑ คน ซึ่งบุตรหญิงนั้นได้ถึงแก่กรรมแต่ครั้งเยาว์วัย ต่อมาภรรยาป่วยถึงแก่กรรม จึงเป็นเหตุให้เห็นห้วงทุกข์ในชีวิตฆราวาส และตระหนักถึงภัยในวัฏสงสาร จึงได้บรรพชาอุปสมบทอีกครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๖ อายุ ๓๒ ปี ด้วยกุศลจิตคิดถวายชีวิตแด่พระศาสนา ณ วัดบัวบาน บ้านกุดสระ และได้เรียนนักธรรมต่อสอบได้นักธรรมชั้นโท แล้วเรียนและสอบนักธรรมชั้นเอก แต่หาได้อาลัยในผลสอบไม่ เพราะใจหนักในทางปฏิบัติแต่แรกที่ออกบวช พ.ศ.๒๔๘๘ อายุ ๓๔ ปี ได้ขอญัตติคืออุปสมบทซ้ำ ณ วัดโพธิสมภรณ์ จังหวัดอุดรธานี โดยท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) ขณะดำรงสมณศักดิ์ที่พระเทพกวี เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๘๘ เวลา ๑๓.๑๕ น.แล้วได้จำพรรษาแรกกับหลวงปู่บุญมี ชลิโต วัดป่าโพธิ์ชัย บ้านหนองน้ำเค็ม ตำบลเชียงยืน อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ครั้นออกพรรษาแล้วได้ออกธุดงค์ไปตามเส้นทางอุดรธานี-นครพนม-สกลนคร เพื่อไปศึกษาปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตตเถร และได้มอบกายถวายตัวกับพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตตเถร ณ วัดป่าบ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.๒๔๘๙ พ.ศ.๒๔๘๙-๒๔๙๒ อยู่จำพรรษากับพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตตเถร ณ วัดป่าบ้านหนองผือ จังหวัดสกลนคร จนพระอาจารย์ใหญ่มั่นละสังขาร เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๙๒ ณ วัดป่าสุทธาวาส อำเภอเมือง จังหวัดสกุลนคร พ.ศ.๒๔๙๓ อยู่จำพรรษากับหลวงปู่เทศก์ เทสรังสี ณ วัดโคกกลอย อำเภอโคกกลอย จังหวัดพังงา พ.ศ.๒๔๙๔-๒๔๙๕ อยู่จำพรรษากับหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ณ วัดป่าตะโหนด สวนพริก อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา เมื่อภายหลังออกพรรษา ปี พ.ศ.๒๔๙๕ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๔๙๖ จึงเดินทางกลับอีสาน พ.ศ.๒๔๙๖-๒๔๙๙ อยู่จำพรรษากับหลวงปู่มหาบัว ญาณสัมปันโน ณ วัดป่าบ้านห้วยทราย กิ่งอำเภอคำชะอี อำเภอมุกดาหาร จังหวัดนครพนม (ในขณะนั้น) พ.ศ.๒๕๐๐ จำพรรษา ณ ภูเก้า กิ่งอำเภอคำชะอี อำเภอมุกดาหาร จังหวัดนครพนม (ในขณะนั้น) เป็นเวลา ๑ พรรษา ครั้นออกพรรษาแล้ว ได้มีญาติโยมอาราธนาให้มาจำพรรษา ณ ภูก้อจ้อ กิ่งอำเภอคำชะอี อำเภอมุกดาหาร จังหวัดนครพนม ซึ่งปัจจุบันคือ วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร และได้จำพรรษา ณ วัดบรรพตคีรีนี้ต่อเนื่องมาจนกระทั่งมรณภาพด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตกรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อน โดยมีการติดเชื้อที่ปอด ภาวะความดันโลหิตสูง ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ เป็นต้น เมื่อวันศุกร์ แรม๑๕ ค่ำ เดือน ๒ ปีกุน ตรงกับวันที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ.๒๕๓๙ เวลา ๑๓.๕๙ น. สิริอายุ ๘๔ ปี ๑๑ เดือน พรรษา ๕๑ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/22195752378966_3.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/84692208303345_4.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/69631947121686_5.jpg) อัฐบริขารและเครื่องใช้ประจำตัวของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต • อัฐบริขารและเครื่องใช้ประจำตัวของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต อัฐบริขาร คือ ของใช้ประจำตัวของพระภิกษุที่มีพระพุทธานุญาตให้พระภิกุมีไว้ใช้ได้อย่างละหนึ่งคือ ๑.บาตร สำหรับใช้รับภิกษา หรือภัตตาหาร ๒.จีวร หรืออุตราสงค์ สำหรับห่ม ๓.สบง หรือ อันตรวาสก สำหรับนุ่ง ๔.สังฆาฏิ คือ ผ้าจีวรสองชั้น สำหรับห่มกันหนาว ๕.ประคดเอว สำหรับรัดผ้านุ่งให้กระชับกาย ๖.กระบอกกรองน้ำ หรือ ธมกรก สำหรับกรองน้ำดื่มน้ำใช้ ๗.กล่องเข็ม สำหรับใส่เข็ม ๘.มีดน้อย หรือ มีดโกน สำหรับปลงผม ส่วนบริขารอื่นๆ นอกเหนือจากบริขาร ๘ อย่างนี้ เช่น กลด รองเท้า กาน้ำ แส้ และของจำเป็นอื่นๆ ที่ไม่ขัดต่อสมณสารูป มีพระพุทธานุญาตให้พระภิกษุมีไว้ใช้ได้ตามความจำเป็น สำหรับกลดต้นนี้ หลวงปู่ได้ใช้ในคราวออกวิเวก ภายหลังพระอาจารย์ใหญ่มั่นละสังขารแล้ว หัวกลดหลวงปู่มหาบัวเป็นผู้กลึง ส่วนตัวกลดหลวงปู่หล้าทำด้วยตัวของท่านเอง บริขารเหล่านี้ สิ่งใดสามารถจัดทำเองได้ เช่น กลด สบง จีวร เป็นต้น หลวงปู่จะจัดทำขึ้นด้วยตนเอง บางครั้งก็จัดทำถวายพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ ด้วย บริขารเหล่านี้ หลวงปู่จะใช้จนกว่าจะชำรุดใช้ไม่ได้แล้ว หลวงปู่จึงจะเปลี่ยนใหม่ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/96500692516565_1.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/93740333244204_4.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/37630479989780_5.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/64982194784614_2.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/16477062387598_3.jpg) หลวงปู่หล้า เขมปัตโต นอกจากจะเมตตาเทศนาสั่งสอนพุทธศาสนิกชนในโอกาสต่างๆ อยู่เสมอแล้ว หลวงปู่ยังเมตตาเขียนธรรมะ เขียนคำตอบปัญหาธรรมะที่ศิษยานุศิษย์เขียนถามมา เขียนอัตตชีวประวัติของหลวงปู่เองให้ศิษยานุศิษย์อ่านตามที่ได้รับการร้องขอ ข้อเขียนของหลวงปู่จึงมีจำนวนมาก และงานเขียนของหลวงปู่แต่ละชิ้น หลวงปู่บรรจงเขียนด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดงดงาม ในบั้นปลายของชนม์ชีพ หลวงปู่เขียนหนังสือทุกวัน ส่วนมากเป็นการเขียนตอบปัญหาธรรมปฏิบัติที่ศิษยานุศิษย์และผู้สนใจในการปฏิบัติธรรมเขียนถาม หลวงปู่ขยันเขียนหนังสือ เพราะหลวงปู่เห็นคุณค่าของหนังสือ ดังที่หลวงปู่เขียนอธิบายไว้ ดังนี้
นอกจากนี้ หลวงปู่ยังได้เมตตาเทศน์อบรมสั่งสอนพระภิกษุสามเณร และฆราวาสญาติโยมที่มาเกี่ยวข้องในโอกาสต่างๆ จึงได้บันทึกลงไว้ในแถบบันทึกเสียง (cassette) นับเป็นพันม้วน ตั้งแต่ปลายปี ๒๕๔๑ เป็นต้นมา ทางวัดภูจ้อก้อได้แปลงแถบบันทึกเสียงดังกล่าวลงในแผ่นดิสก์ (disc) เพื่อคงคุณภาพของต้นฉบับไว้ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/35570751254757_2.jpg) หุ่นขี้ผึ้ง หลวงปู่หล้า เขมปัตโต ประดิษฐานในเขมปัตตเจดีย์ วัดภูจ้อก้อ จ.มุกดาหาร (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/29185625000132_12.jpg) อัฐธาตุของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ประดิษฐานในเขมปัตตเจดีย์ วัดภูจ้อก้อ จ.มุกดาหาร (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/36043206643727_13.jpg) (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/96851970213982_10.jpg) เขมปัตตเจดีย์ หลวงปู่หล้า เขมปัตโต (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/63126991523636_7.jpg) กุฏิสงฆ์ ของวัดภูจ้อก้อ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/79429737395710_1.jpg) ศาลาวัดภูจ้อก้อ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/60351523674196_2.jpg) ศาสนสถานวัดภูจ้อก้อ สร้างอย่างเรียบง่ายด้วยวัสดุไม้ที่มีตามธรรมชาติเป็นสำคัญ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/54203948171602_4.jpg) ทางจงกรมของหลวงปู่หล้า บนยอดภูจ้อก้อ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/57502765167090_8.jpg) ธรรมชาติอันร่มรื่น เหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรของสงฆ์วัดป่าภูก้อจ้อ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/33773774736457_9.jpg) บันได ๒๐๐ ขั้น ทางขึ้นสู่กุฏิที่พำนักปฏิบัติธรรมของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ซึ่งองค์หลวงปู่ต้องหาบน้ำจากข้างล่างขึ้นไปบนยอดเขาไว้ใช้สอยและบริโภค และสมัยเมื่อหลวงปู่เข้าไปอาศัยเมื่อแรกเริ่มคงไม่มีบันไดสำหรับเดินขึ้นลงเขา สะดวกสบายดังเช่นที่เห็นในภาพ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/76550486311316_7.jpg) ปีบน้ำและคานหาม ที่หลวงปู่หาบจากพื้นราบข้างล่างขึ้นไปใช้สอยบนยอดภูจ้อก้อ (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/25771452320946_5.jpg) |