[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 21 เมษายน 2560 05:29:01



หัวข้อ: พระพุทธวรญาณ" (ทองย้อย กิตติ ทินโน)
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 21 เมษายน 2560 05:29:01

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/98107079333729__3614_3619_3632_3614_3640_3607.jpg)

พระพุทธวรญาณ" (ทองย้อย กิตติ ทินโน)

"พระพุทธวรญาณ" (ทองย้อย กิตติ ทินโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดกวิศรารามราชวรวิหาร อ.เมือง จ.ลพบุรี และอดีตเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ผู้ก่อตั้งโรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

เป็นชาวลพบุรี นามเดิมว่า "ทองย้อย" และเปลี่ยนเมื่อรัฐบาลกวดขันเรื่องชื่อให้เหมาะสมกับเพศ เป็น "กิตติ" สกุล "บัวอ่อน" เดิมอยู่ ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี เกิดวันจันทร์เดือนยี่ ขึ้น 7 ค่ำ ปีมะเส็ง สัปตศก จ.ศ.1267 ตรงกับวันที่ 1 ม.ค.2448 บิดา-มารดา ชื่อ นายทิพย์และนางขาว บัวอ่อน

อายุ 8 ขวบ เริ่มเรียนหนังสือไทยกับบิดา ซึ่งเป็นนักจารหนังสือและนักเขียนหนังสือพระมาลัย เรียนอยู่ 1 ปี อ่านออกเขียนได้คล่อง จึงเรียนหนังสือขอมกับโยมบิดาต่ออีกประมาณ 1 ปี จนอ่านออกเขียนได้ แล้วจึงเขียนเรียนภาษาบาลีอันเป็นแนวทางการศึกษาของลูกผู้ชายไทยในสมัยนั้น

เมื่อเรียนภาษาบาลีได้ พอสมควรแล้ว และท่องหนังสือค่ำคือบทสวดมนต์ต่างๆ เกือบจบเจ็ดตำนาน เริ่มเรียนคัมภีร์มูลกัจจายน์ ประมาณ 1 ปี จบคัมภีร์นามผูก 1 นับว่าเรียนดี

อายุ 11 ขวบ ภายหลังโกนจุกแล้วบิดาได้นำไปฝากไว้ที่วัดมหาธาตุยุวราช รังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งแผนกและบาลี และบรรพชาเมื่ออายุได้ 16 ปี สอบได้เป็นสามเณรเปรียญ (ป.ธ.3) เมื่ออายุ 18 ปี และปีต่อมาสอบได้นักธรรมโท

เมื่ออายุครบ 20 ปี อุปสมบทที่พัทธสีมาวัดมหาธาตุฯ มีพระธรรมไตรโลกาจารย์ (เฮง เขมจารี) อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุฯ ขณะนั้น เป็นพระอุปัชฌาย์, พระญาณสมโพธิ (สวัสดิ์ กิตติสาโร) วัดมหาธาตุฯ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระศรีสมโพธิ (ช้อย ฐานทัตโต) วัดมหาธาตุฯ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ภายหลังอุปสมบท ยังคงศึกษาเล่าเรียนและปฏิบัติหน้าที่เป็นครูสอนนักธรรมบาลีไปพร้อมกันและสอบได้เปรียญธรรม 8 ประโยค เมื่อพ.ศ.2473 อายุ 26 ปี ต่อจากนั้นป่วยไม่ได้เข้าสอบประโยค 9 ทั้งที่มุ่งมั่นเต็มที่

พ.ศ.2476 สมเด็จพระวันรัต(เฮง เขมจารี) ได้จัดส่งกลับจังหวัดลพบุรี เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ ในยุคที่คณะสงฆ์ได้พัฒนาการพระศาสนาเป็นการใหญ่ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพรหมมาสตร์ ต่อมาเป็นเจ้าคณะหมวดหรือเจ้าคณะตำบลพรหมมาสตร์ ผู้ช่วยเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นเจ้าอาวาสวัด กวิศรารามราชวรวิหาร พระอารามหลวง และเจ้าอาวาสวัดเชิงท่า ปฏิบัติงานทางด้านการศึกษาของคณะสงฆ์ การบริหารและการเผยแผ่ในจังหวัดลพบุรีและจังหวัดใกล้เคียง และยังเป็นครูสอนหนังสือตามโรงเรียนต่างๆ นับตั้งแต่โรงเรียนประจำจังหวัด

งานด้านการปกครองคณะสงฆ์ที่สำคัญ คือ ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตรวจการผู้ช่วยภาค 2 รูปที่ 3 ตั้งแต่ปี พ.ศ.2491 ต่อจากนั้น เป็นเจ้าคณะตรวจการผู้ช่วยภาค 1 รูปที่ 1 เป็นกรรมการ เจ้าคณะตรวจการภาค เป็นกรรมการบริหารคณะสงฆ์ไทย เป็นเจ้าคณะตรวจการภาค 6 เป็นสมาชิกสังฆสภา และตำแหน่งท้ายสุดเป็นเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี และประธานกรรมการบริหารคณะสงฆ์ จังหวัดลพบุรี

ท่านเป็นครูสอนวิชาการด้านศาสนา ศีลธรรม ภาษาไทย ในโรงเรียนการศึกษาผู้ใหญ่ โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย โรงเรียนฝึกหัดครูประถม วิทยาลัย และโรงเรียนหลายแห่งในจังหวัดลพบุรี เป็นหัวหน้าพระธรรมทูตสาย 2 อำนวยการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและอบรมศีลธรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สระบุรี ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี และอุทัยธานี เป็นวิทยากรในการอบรมและประชุมต่างๆ ของหลายหน่วยงานในจังหวัดลพบุรีและใกล้เคียง

บรรยายธรรมแก่ข้าราชการทหาร และสถาบันการศึกษาทุกแห่งในจังหวัดลพบุรี เป็นประจำที่ปรึกษาด้านการศึกษาของจังหวัด สถาบัน และโรงเรียนหลายแห่ง เป็นกรรมการที่ปรึกษาของสภานายกมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย

มรณภาพเมื่อเวลา 20.31 น. วันพฤหัสบดีที่ 17 ธ.ค.2535 สิริอายุ 87 ปี 11 เดือน 17 วัน