[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ ไปเที่ยว => ข้อความที่เริ่มโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 21 เมษายน 2554 12:09:07



หัวข้อ: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 21 เมษายน 2554 12:09:07

น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่

ภาค ๒ ดอยสุเทพ


(http://www.sookjai.com/external/me_pix.jpg)

http://www.sookjai.com/external/peemai.mp3



ซีรี่ย์ท่องเที่ยวเมืองเจียงใหม่ โดยน้าแม๊ค ก็มาถึงภาคสองแล้ว
สำหรับภาคสองนี้เป็นส่วนต่อจากการเดินทางขึ้นเหนือจากภาคแรก
ซึ่งถ้าใครยังไม่ได้อ่านภาคแรกสามารถตดตามอ่านได้ที่

http://www.sookjai.com/index.php?topic=18783.0 <<< Click !!!



หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 21 เมษายน 2554 12:28:29
หลังจากเดินทาถึงเมืองเจียงใหม่เมื่อวาน ก็ออกไปกิน
ออกตระเวณขับรถเที่ยวชมบรรยากาศเมืองเจียงใหม่กลางคืน
แล้วกลับที่พัก (หอพัก ๗๐๐ ปี) มาด้วยอาการเหน็ดเหนื่อยอย่างถึงขีดสุด
ก็อาบน้ำอุ่น ๆ สบายตัว เปิดแอร์เย็น ๆ แล้วหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่อง

z z Z Z ... z z Z Z ...

ตุ๊บ ๆ ๆ ๆ เสียงตบที่นอนดังขึ้นตอนไหนก็ไม่รู้ พร้อมเสียงแว่ว ๆ "ตื่น ๆ ๆ ๆ"
ผมทำหูทวนลมนอนต่อ สักพักได้มีมือลึกลับจากเงามืด ดึงผ้าห่มผมออกจากตัว
พรืดดด !!! ทันทีที่ผ้าห่มถูกดึงออก ความง่วงก็แทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง
เมื่อลมจากแอร์หนาว ๆ ที่กำลังหนาวได้ที่ มันเป่าลงบนตัวผมพอดี...

ตื่นนอนมาตอนเช้าอย่างหัวเสียเล็ก ๆ กำหนดล้อหมุนแปดโมงตรง
มองนาฬิกาก็เพิ่งหกโมงกว่า ๆ เลยไปเปิดม่านดูวิวข้างนอก โอ้สวยแฮะ !
จึงคว้างกล้องมาถ่ายภาพ...

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02373.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02378.JPG)

มองออกไปจากระเบียง จะเห็นทิวเทือกเขาทางด้านขวามือ หมอกยังลงอยู่เลย
นี่มันกลางเดือนเมษาแล้วนะเฟ้ย !!

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02374.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02375.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02376.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02377.JPG)

อากาศตอนเช้าที่เชียงใหม่นี่มันดูสะอาดบริสุทธิ์จริง ๆ หายใจเข้าเต็มปอด
รู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก อีกทั้งอากาศก็ยังเย็น ๆ อยู่ เลยยิ่งสบายไปใหญ่
ภาพด้านบนเป็นวิวสนามกีฬากลางของจังหวัดเชียงใหม่ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ
สนามกีฬา ๗๐๐ ปี สถานที่ที่เคยจัดแข่งซีเกมส์มาก่อน
ภาพเหล่านี้ถ่ายจากระเบียงชั้นสี่ของหอพัก ๗๐๐ ปี ครับ



หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 21 เมษายน 2554 12:37:19

และเนื่องด้วยเราจะพักในตัวเมืองเชียงใหม่แค่คืนเดียว
คืนนี้เราจะพักกันนอกเมืองครับ หลังจากวันนี้เราทัวร์กันทั่วเมืองเชียงใหม่แล้ว
ตกเย็นก็จะดิ่งเข้าสู่อำเภอสันกำแพง นอนแช่น้ำพุร้อน ให้สบายตัว ซึ่งจะลงไว้ในภาคต่อ ๆ ไป
555555+

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02379.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02380.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02381.JPG)

ภาพบรรยากาศด้านหลัง หอพัก ๗๐๐ ปี ครับ เมื่อวานนี้ (ในภาคแรก) ผมก็ถ่ายมุมเดียวกัน
แต่มันดูน่ากลัว วังเวง พอตื่นมาถ่ายตอนเช้า คนละอารมณ์กับเมื่อคืนเลยครับ
กลางคืนดูมืดน่ากลัวมาก พอมาดูตอนเช้า แหมมันเขียวร่มรื่น



หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 21 เมษายน 2554 12:47:24

แล้วเราก็เดินทางออกจากที่พักตอนประมาณ 8 โมงเช้า ครับ
โดยมีเป้าหมายแรกที่ ร้านโบ๊ต เบเกอรี่ ร้านดังหลังมอชอ
ที่น้อยคนแถวนั้นที่จะไม่รู้จักครับ

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02383.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02385.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02386.JPG)

เริ่มออกเดินทาง หาอะไรยัดปากที่ร้านโบ๊ต เพิ่มพลังงาน เพื่อออกเดินทางขึ้นสู่...
ดอยสุเทพพพ เทพ เทพ เทพ... (ทำแบบเสียงแอ๊คโค่)  ;D ;D ;D



หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 21 เมษายน 2554 20:42:20
มาแล้วครับ ร้านโบ๊ต เบเกอรี่ อาหารเช้ามื้อแรกที่เมืองเจียงใหม่ จะประทับใจ
เหมือนอาหารค่ำมื้อแรกที่กินไปเมื่อวานหรือไม่ มาลองชมกันครับ

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02388.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02389.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02391.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02392.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02393.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02394.JPG)

ภาพบรรยากาศร้านครับ เข้าจากด้านหลัง (ด้านที่ไม่ติดถนนใหญ่) เพราะต้องมาจอดรถ
ที่ด้านหลังร้านครับ จะมีลานจอดรถจอดได้ประมาณสิบกว่าคัน
ทีแรกผมเดินเข้าร้านโบ๊ต จากทางด้านนี้ก็เออนะ ถ้ามีกวาง มีเสือกระโดดผ่านหน้า
กูจะไม่แปลกใจเลย ...  ไม่ใช่ไม่ชอบนะครับ ชอบมาก น่ารักดี ผมชอบบรรยากาศร้านแบบนี้


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02395.JPG)

ไอ้หัวอันนี้อยากแกะกลับบ้านจริง ๆ หน้าตามันตลกดี ชอบ ๆ ๆ (ชอบอีกแล้วนะมึง)
อีกอย่างถ้าใครรู้จัก "อาเบะ ยาราไนก้า" ไอ้ตัวนี้หน้าเหมือนอาเบะเลย ฮ่า ๆ ๆ

 ;D ;D ;D ;D ;D



หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: wondermay ที่ 21 เมษายน 2554 21:36:37
อ่ะจัดไปไหนๆๆก็ไหนๆๆ เด๋วก็มีคนงงหรอกค่ะ อาเบะอะไร หน้ายังไงนะ (:???:) (:???:) (:???:)

(http://statics.atcloud.com/files/comments/122/1221618/images/1_original.jpg)

ไอ้รูปปั้นนี่ก็หน้าตาพอไปได้ ฮ่าๆ
 (:PING:) (:PING:) (:PING:)

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02395.JPG)







หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 22 เมษายน 2554 12:14:27

หลังจากผ่านบรรยากาศสบายตา เราก็หาที่นั่งติดมันกับตรงนั้นแหละครับ
ดูร่มรื่นเย็นตาดี อีกอย่างวันนั้นช่วงเช้าฟ้ามันครึ้ม ๆ ครับ อากาศยังเย็นสบาย

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02397.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02390.JPG)

เริ่มสั่งอาหารกันเล๊ยยย...


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02396.JPG)

จานนี้น้องผมสั่งครับ ข้าวไก่ย่างราดซอสเทริยากิ จานนี้ออกหวานครับ เอาซอสไปปรุงอีกที
คล้าย ๆ ของเชสเตอร์กริล ไก่ชิ้นใหญ่เต็มคำ น้องบอกอร่อยมากครับ กินแล้วปานจะเหาะได้ !!


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02398.JPG)

จานนี้ของแม่ครับ ข้าวผัดพริกอะไรซักอย่าง ภาพก็เบลอ ๆ เลยยิ่งดูไม่รู้เรื่องไปใหญ่ 555+
แต่แม่บอกเค้าทำอร่อยครับ


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02399.JPG)

จานนี้ของพ่อครับ ข้าวคลุกกะปิ หน้าตาน่าอร่อย แต่ไม่รู้อร่อยรึเปล่า เพราะพ่อไม่ได้บอก
เห็นพ่อเอาแต่กินเอา กินเอา เลยไม่ทันได้ถาม 
;D ;D ;D


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02400.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02402.JPG)

อันนี้ของน้องผมครับ มันไม่อิ่มง่าย ๆ เลยสั่งเบอเกอร์ตามมากระแทกปากปิดท้ายอีกรายการ
หน้าตาน่ากินครับ เบอเกอร์หมูชีสเบค่อน ของโปรดผมเลยเหมือนกัน เห็นมันกินแล้วก็นึก
แหม.. อยากกินมั่งจัง... ไม่ให้อยากได้ไงครับ จนมันกินเบอเกอร์จะหมดแล้ว จานของผมกับแฟน
ยังไม่มาเสริฟเลย ขนาดน้องผมมันกินข้าวจานมันหมดแล้วเพิ่งจะสั่งเบอเกอร์เพิ่ม มันยังมาก่อน
เจริญละ หิวก็หิวต้องมานั่งดูคนอื่นกินอย่างเอร็ดอร่อย


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02407.JPG)

สปาร์เก็ตตี้ซอสหมูครับ จานนี้ของแฟนผม ทำออกมาน่าทานดีครับ ไม่รู้อร่อยหรือเปล่า
เพราะเห็นแฟนผมกินซะเกลี้ยงจาน ไม่เหลือแม้แต่ผักรองจาน
แต่ที่แน่ ๆ มีประโยคนึงเล็ดลอดออกมาระหว่างกินครับ เธอพูดคนเดียวออกมาลอย ๆ
"ที่หนูทำอร่อยกว่านี้อีก" !!!  ;D ;D ;D ;D


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02408.JPG)

ในที่สุดมันก็มา !! อาหารที่ผมสั่งเอาไว้ตั้งแต่กรุงศรีอยุธยายังไม่เสียเมือง...
ปิติดีใจน้ำตาไหลพราก ในที่สุดหลังจากเค้าอิ่มกันหมดโต๊ะแล้ว "กูก็ได้กินสักที"
พออาหารมันมาทีหลังรู้ไหมครับว่าอะไรจะเกิดขึ้น ! ... ท่ามกลางคนที่อิ่มกันหมด
เราจะกลายสภาพจากคนในครอบครัวมาเป็นตัวถ่วงทำให้การเดินทางล่าช้าทันทีโดยอัตโนมัติ
ทุกสายตาจะจับจ้องมาที่เรา เหมือนจะบอกเป็นนัย ๆ "แดกเร็ว ๆ สิ" ... "กูรอมึงอยู่คนเดียว"
"ไอ้ห่านี่ชักช้า" ... "คนอื่นเค้าเสร็จหมดแล้วต้องมารอมันคนเดียว" ... ฯลฯ
ผมสั่งสเต็กส่วนที่ผมชอบที่สุด นั่นคือพอร์คชอป แบบมีเดียม-เวลดัน กับไวท์ซอส
ปกติผมไม่ค่อยกินไวท์ซอส ผมว่ามันเลี่ยน
แต่จากเหตุการณ์ที่สายตาทุกคู่จับจ้อง ลองนึกภาพสิ ไวท์ซอสที่ว่าเลี่ยนยังสู้ไม่ได้
ร้านนี้ทำออกมาพอใช้ได้ครับ สำหรับเสต็กผมให้แค่พอใช้ ผมสั่งมีเดียม-เวลดัน
(กลาง ๆ ถึงสุก) เพราะผมไม่ชอบเนื้อดิน แต่พี่แกเล่นเวลดันจ๋า (สุกจัด) มันในเนื้อ
เลยละลายออกหมด เหลือเป็นเนื้อฝืด ๆ ไวท์ซอส พอใช้ได้ ไม่ได้ถึงกับกินเข้าไป
แล้วมีแสงพุ่งออกจากปากเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่น
ผักเคียงอร่อยครับ แต่ติดตรงมีถั่วลันเตาซึ่งผมไม่ชอบมันซะเลย อย่างอื่นผ่านสุกกำลังดี
เฟรนช์ฟรายด์เลือกแบบอ้วน มาถูกทางแล้วครับ แบบผอมไม่อร่อยถ้ากินกับเสต็ก
แก้เลี่ยนไวท์ซอสได้ดี เป็นเหมือนน้ำซุปเอามาล้างลิ้น
หนมปังแข็งไปหน่อย ทาเนยน้อยด้วย เลยยังไม่ค่อยหอม
เมนูนี้สำหรับผมแล้ว ผมให้ผ่าน แต่ไม่ได้ถึงกับดีมาก แต่เมนูอื่นผมว่าอร่อย
เพราะเห็นกินกันเกลี้ยงจานกันทุกคน




หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 22 เมษายน 2554 12:30:00

บรรยากาศบนโต๊ะอาหาร
ทุกคนมีความสุขขณะกิน ส่วนผม อาหารมาช้ากว่าพวก
เลยหยิบกล้องถ่ายไปเรื่อย...

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02403.JPG)

พ่อกับแม่ข้าวเพิ่งมา น้องผมมันต่อเบอเกอร์เรียบร้อยไปแล้ว


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02404.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02405.JPG)

พ่อกับแม่กินข้าว แหม... เห็นกินกันอร่อยก็ชักหิว


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02406.JPG)

อ้ามมมม.. !! ตลก เบอเกอร์มันชิ้นโต เต็มปาก 555+


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02409.JPG)

อันนี้แฟนน้าแม๊คครับ กินไปบ่นไป... "หนูทำอร่อยกว่านี้อีก" ประโยคเด็ดของมื้อนั้น


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02410.JPG)

น้องผมมันถอดใจครับ งับไม่เข้า เพราะเบเกอร์ชิ้นใหญ่ มันเลยวางใส่จาน
แล้วเอาช้อนตักกิน 5555+
 ;D ;D ;D



หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 22 เมษายน 2554 12:52:03

หลังจากทุกคนง่วนกับการกินจนแทบจะสิ้นเสียงสรรพสำเนียงบนโต๊ะอาหาร
สุดท้ายก็จบลงที่คำว่า "ท้องอิ่ม..."

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02411.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02412.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02413.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02414.JPG)

เกลี้ยงทุกจานครับ การันตีความอร่อย ...

ทันใดนั้น ผมนึกเอะใจ เอ๊ะ ! ทำไมร้านนี้ชื่อร้าน โบ๊ตเบเกอรี่ แต่ขายอาหารแบบนี้นะ
แล้วเบเกอรี่มันมีขายรึเปล่าวะ
อาห์... และแล้วผมก็องเห็นคนถือถุงอะไรอยู่ลิบ ๆ ผมเชื่อแน่ว่ามันอาจมีเบเกอรี่
ผมเลยเดินไปทางหน้าร้าน โอ้... มันมีจริง ๆ ด้วย (ผมกินสเต็กยังไม่อิ่ม) รอดแล้วกู !!
แทบจะร้องเพลง ฮัล เล ลู ย่าาา...

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02416.JPG)

ระหว่างเดินไปหน้าร้านครับ นี่แค่มุมนึงของร้านครับ มีโต๊ะเรียงรายอยู่เยอะ คนเข้าตลอด


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02417.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02418.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02419.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02420.JPG)

ส่วนของร้านที่ขายเบเกอรี่ครับ หน้าตาน่าทานทั้งนั้นเลย ด้วยความไม่เคยมาแต่อยากรู้
ว่าอันไหนอร่อย ทำได้ไม่ยากครับ ผมเข้าไปเดินวน ๆ แล้วดูว่าคนเค้าหยิบอะไรกันมากที่สุด
สุดท้ายผมซื้อ พายสับปะรด (สับปะรดที่นี่กวนเอง อร่อยมากครับ) เค้กเนยสด (หอมใช้ได้)
เค้กโรลรวมรส (แม่บอกอร่อยมาก) ขนมปังชินนาม่อน (อร่อยดีครับ)
จากภาพด้านบนภาพสุดท้ายจะเห็นว่ามีข้าวต้มมัดขายด้วย เข้ากันสุด ๆ ครับ กับร้านเบเกอรี่

 ;D ;D ;D ;D ;D



หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 23 เมษายน 2554 16:11:13

อิ่มท้องมีแรง ตาสว่าง เหมาะสุดแล้วกับการออกเที่ยว...
หลังจากโอ้เอ้กันมานาน เราก็จะขึ้นดอยกันสักที...

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02426.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02427.JPG)

ขึ้นดอยกันครับ ทางผ่านขึ้นดอยก็ต้องผ่านสองที่หลัก ๆ ครับ มอชอ หรือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อันเลื่องชื่อลือชามาแต่รุ่นเก๋ารุ่นเก่า หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ผมเคยฝันไว้ว่าอยากมาเรียน
ไม่ต้องถามครับว่าทำไมไม่ได้เรียน... แม่งเกเร !!
อีกจุดที่ต้องผ่านครับ อยู่ปาก ๆ ทางขึ้นดอยเลยก็คือ สวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งในวันนั้นคนก็มาเที่ยว
กันเนืองแน่นเช่นกันครับ


ที่ปากทางขึ้นดอยมีรถจอดกันแน่นครับ หลายคนไม่เคยมาอาจสงสัยว่ามีอะไร
ที่บริเวณทางขึ้นเชิงดอยสุเทพ จะมีลานครูบาศรีวิชัยครับ ที่นั่นจะมีอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย
นักบุญแห่งล้านนาอันเป็นที่สักการะบูชาของคนทั่วประเทศ
ว่าแล้วพ่อก็ขับรถเข้าไปจอดเทียบบริเวณหน้าอนุสาวรีย์ท่ามกลางคนมากมาย
ที่หลั่งไหลเข้ามาสรงน้ำอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02431.JPG)

น้าแม๊คกับครอบครับครับ ไล่จากซ้าย แม่ พ่อ น้าแม๊ค น้องชาย


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02433.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02434.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02435.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02436.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02437.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02438.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02444.JPG)

คนหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดเลยครับ คนเยอะมากวันนั้น ใครก็อยากมาสรงน้ำครูบาเจ้า
เพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเองและครอบครัว ทางขึ้นดอยจึงคราคร่ำไปด้วยรถครับ




หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: varaporn ที่ 23 เมษายน 2554 21:25:46
อีกบ่อกี่วัน..ก้อจะปิ๊กเจียงใหม่เจ้า...ปิ๊กไปไหว้..ป้อ+แม่..ปี้ใหม่เมืองบ่อได้ไป..


หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 23 เมษายน 2554 23:59:41

อีกบ่อกี่วัน..ก้อจะปิ๊กเจียงใหม่เจ้า...ปิ๊กไปไหว้..ป้อ+แม่..ปี้ใหม่เมืองบ่อได้ไป..


น่าอิจฉาจังครับ

อยากมีบ้านสักหลังที่เชียงใหม่เหมือนกันครับ

ชอบบรรยากาศที่นั่นสุด ๆ เลยผม

ประทับใจไม่ลืมเลย

 ;D ;D ;D ;D



หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 24 เมษายน 2554 18:33:30

หลังจากได้แวะกราบไว้อนุสาวรีย์ครูบาเจ้าเสร็จแล้ว
สรงน้ำครูบาเจ้ากันเสร็จแล้ว
ผมก็กระโดดขึ้นกระบะหลังกับแฟน เพื่อที่จะได้ถ่ายภาพบรรยากาศระหว่างทาง
นรกมากครับ รถออกจากอนุสาวรีย์ได้ไม่ถึงสองร้อยเมตร
ผมโดนสาดน้ำเข้าจมูก ปวดไปถึงสมอง
ใครจะคาดคิด ถนนขึ้นดอย มีไอ้พวกบ้ามาตั้งถังน้ำ

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02446.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02447.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02448.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02450.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02451.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02452.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02460.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02461.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02462.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02463.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02464.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02465.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02466.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02467.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02468.JPG)

รวมรวมภาพบรรยากาศสองข้างทางมาให้ชมครับ
ถ้าสังเกตนะครับ จากภาพบน ๆ จะพบว่าหนทางยังราบรื่น ทัศนวิสัยชัดเจน
จากนั้นหมอกก็ค่อย ๆ เพิ่มขั้น ๆ เมื่อรถวิ่งไปสูงขึ้น
พ่อผมบอก ไม่ได้หาดูได้ง่าย ๆ นะที่ดอยสุเทพจะมีหมอกลงช่วงสงกรานต์
ถามบอกมันสวยยังไง ? เดี๋ยวจะได้ดูต่อไปครับเมื่อถึงยอดดอย
คนจำนวนมากเวียนเทียนรอบพระธาตุดอยสุเทพ ท่ามกลางสายหมอก
เคยดูหนังฟรั่งไม๊ครับ สวรรค์ของฟรั่งจะเป็นปุยเมฆ ปุยหมอกสุดลูกหูลูกตา
ขึ้นไปนี่สวยหยั่งกะสวรรค์บนดินเลยทีเดียว...




หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 24 เมษายน 2554 21:15:09
หลังผ่านเส้นทางอันเลี้ยวลดคดเคี้ยวชวนอ้วก ไม่ได้โอเวอร์ครับ ชวนอ้วกจริง ๆ
ผมเกือบอ้วกแตกตอนขากลับ เพราะไอ้เส้นทางที่บิดไปบิดมานี่แหละ
อาจเป็นเพราะนั่งที่กระบะด้วย แต่เอาเป็นว่า ในที่สุดก็ถึงยอดดอยได้สักที
เท่าที่ผมสังเกตุ คนเชียงใหม่ (ทะเบียนรถเชียงใหม่) ขับในเมืองส่วนมาก
ก็ขับกันปกติดีอยู่หรอก แต่ถ้าเจอทะเบียนรถเชียงใหม่ ขับขึ้นดอยสุเทพ
รวมถึงพ่อผมขับด้วย จะขับกันเร็วมาก เหมือนโดนผีดริฟท์คิงส์ (Drift Kings)
มาเข้าสิง ส่วนทะเบียนรถจากต่างจังหวัดก็จะขับกันเรื่อย ๆ นิ่ม ๆ กับทางขึ้น
หรืออาจเป็นเพราะคนเชียงใหม่ชินสถานที่ จนหลงคิดว่าดอยสุเทพ
เป็นเขาอะกินะ ที่พวกชอบดริฟท์เค้าไปวิ่งกัน...
แต่บ่นไปก็เท่านั้น สุดท้ายเราก็มาถึงที่จอดรถบนยอดเขาครับ
ซึ่งถ้าใครเคยขึ้นมาจะพบว่าบนยอดดอยนี่จะมีลานให้จอดรถ มีของขาย
ทั้งของกิน ของที่ระทึก (เค้าเรียกของที่ระลึกเฟ้ย !) มีเด็กชาวเขาม้งแม้ว
ซึ่งก็น่าจะมาจากหลายเผ่า มานั่งร้องแหกปากแข่งกัน กำไลไม๊คะ อันละบาท
โดยถ้าหากเอารถมาเองเราต้องจอดรถไว้ที่ลาน แล้วค่อยเดินขึ้นยอดดอย
เพื่อไหว้พระธาตุอีกที ซึ่งหากใครไม่อยากเดินก็มีรถรางให้บริการครับ

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02469.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02470.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02471.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02472.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02473.JPG)

จากรูปหมอกลงจัดพอสมควรครับ แต่บางจุดก็เบาบาง เพราะมีลมพัดอยู่ตลอด
ที่เห็นนี่เป็นบรรยากาศบริเวณลานจอดรถครับ ตอนนี้กำลังเดินออกจากลาน
เพื่อไปนั่งรถรางไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดดอย ไหว้พระธาตุดอยสุเทพกัน



(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02474.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02475.JPG)

รูปปั้นช้างอยู่กลางถนนทางขึ้นดอยสุเทพ อยู่ด้านหน้าเยื้อง ๆ กับรถรางไฟฟ้าครับ
ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าใช่รูปปั้น "พญาช้างเผือกคชวรมงคล" หรือเปล่า
ซึ่งจะลงตำนานไว้ให้ได้ศึกษาเป็นความรู้ในตอนต่อจากนี้ครับ



หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 24 เมษายน 2554 21:21:51
จะขึ้นยอดดอยสุเทพกันแล้ว
เรามาทำความรู้จักกับประวัติ - ตำนาน ของดอยสุเทพกันดีกว่า ว่าเป็นมาอย่างไร


วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร

วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ไปได้โดยเดินทางตามถนนห้วยแก้ว
ซึ่งระหว่างทางขึ้นจะผ่านอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ดังที่ผมกล่าวเอาไว้ข้างต้น
ไปตามทางคดเคี้ยวขึ้นเขา ระหว่างทางจะมองเห็นตัวเมืองเชียงใหม่อยู่เบื้องล่าง
ระยะทางจากเชิงดอยถึงวัดประมาณ 11 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
วัดพระธาตุดอยสุเทพนี้เป็นปูชนียสถานคู่เมืองเชียงใหม่นับตั้งแต่โบราณกาล
นักท่องเที่ยวซึ่งเดินทางมาที่จังหวัดนี้จะต้องขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุกันทุกคน
ถ้าหากใครไม่ได้ขึ้นไปนมัสการแล้ว ถือเสมือนว่ายังมาไม่ถึงเชียงใหม่


ประวัติ

ตามประวัติแห่งดอยสุเทพนั้นเชื่อกันว่า เดิมภูเขาแห่งนี้เป็นที่อยู่ของฤาษีนามว่า "สุเทวะ"
ซึ่งตรงกับคำว่าสุเทพอันเป็นที่มาของชื่อดอยสูงแห่งนี้ โดยวัดพระธาตุดอยสุเทพนี้สร้างขึ้น
เมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 19 ในสมัย พระเจ้ากือนาธรรมิกราช เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์ที่ 6
เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่ได้ทรงอัญเชิญมาจาก เมืองศรีสัชนาลัย

ตามตำนานเล่าว่า พระเจ้ากือนาธรรมิกราชทรงแยกพระบรมสารีริกธาตุไว้เป็นสองส่วน
โดยอัญเชิญองค์หนึ่งบรรจุไว้ที่พระธาตุวัดสวนดอก ส่วนอีกองค์หนึ่งได้อัญเชิญขึ้น
บนหลัง ช้างมงคล พระเจ้ากือนาธรรมิกราชทรงตั้งจิตอธิษฐานเสี่ยงทายว่าหากช้างเชือกนั้น
หยุดลงตรงที่ใดก็จะให้สร้างพระธาตุขึ้น ณ ที่แห่งนั้น ซึ่งช้างเชือกดังกล่าวได้มาหยุดลง
ตรงยอดดอยสุเทพแห่งนี้ โดยทำทักษิณาวรรตสามรอบก่อนที่จะล้มลง (ตาย) 
ดังนั้นพระเจ้ากือนาธรรมิกราชจึงทรงรับสั่งให้สร้างพระบรมธาตุอันเป็นที่ประดิษฐาน
องค์พระบรมสารีริกธาตุ ณ ยอดดอยสุเทพ อยู่คู่ฟ้าคู่ดินเชียงใหม่มานับแต่นั้น


การเดินทางขึ้นสักการะ

วัดพระธาตุดอยสุเทพตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองเชียงใหม่ ผู้ที่เดินทางมาสักการะ
ที่วัดแห่งนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวสามารถ
เดินขึ้นบันไดนาคไป 300 ขั้น เพื่อไปยังวัด หรือใช้บริการรถกระเช้าขึ้น-ลงดอยสุเทพได้
ระหว่างเวลา 05.30-19.30 น.
ส่วนการเดินทางขึ้นสู่ยอดดอย หากนำรถมาเองสามารถขึ้นไปจอดได้ที่บริเวณลานจอดรถ
ดังที่ผมได้ลงไว้ให้ดูตามด้านบนครับ หรือไม่หากมาเองก็นั่งรถสองแถวได้จากตีนดอยครับ
บริเวณหน้าสวนสัตว์เชียงใหม่ หรือบริเวณอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยก็ได้


ประเพณีที่ดอยสุเทพ

งานประเพณีเตียวขึ้นดอยเพื่อสักการะพระธาตุดอยสุเทพจัดเป็นประจำทุกปี โดยมีขึ้น
ก่อนหน้าวันวิสาขบูชา 1 คืน ในงานจะมีขบวนแห่น้ำสำหรับสรงพระธาตุโดยมีพระสงฆ์
สามเณร และพุทธศาสนิกชนจากชุมชนต่าง ๆ มาร่วมขบวนแห่ขึ้นดอยเป็นจำนวนมาก


วิธีบูชา อธิษฐานขอพร

ความเชื่อและวิธีการบูชา เชื่อกันว่าหากมาสักการะและอธิษฐานขอพรพระธาตุดอยสุเทพ
จะมีแต่ความสำเร็จสมหวังดังปรารถนา แคล้วคลาด ผ่านอุปสรรคนานาไปได้
ในการสักการะพระธาตุนั้น ควรเตรียมข้าวตอก ดอกไม้ ธูปเทียนแล้วเดินเวียนขวา 3 รอบ
พร้อมกล่าวคำนมัสการพระธาตุ โดยตั้งจิตอธิษฐานขอให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา
และควรไหว้พระธาตุให้ครบทั้ง 4 ทิศ ซึ่งให้อานิสงส์ที่ต่างกัน คือ ทิศเหนือขอให้มีปัญญา
ดุจพระจัทร์เพ็ญ ทิศใต้ ขอให้ได้เป็นพระภิกษุสงฆ์ได้บวชในบวรพุทธศาสนา
ทิศตะวันออกขอให้ได้ขึ้นสวรรค์ ทิศตะวันตกเป็นการเคารพบูชาสูงสุดต่อพระธาตุ


ว่าด้วยเรื่องพญาช้างเผือกคชวรมงคล

แล้วก็จากโพสท์ก่อนหน้าของผมที่ผมบอกว่าเจอรูปปั้นช้างตั้งอยู่กลางถนน
แล้วผมบอกว่าไม่แน่ใจว่าใช่ "พญาช้างเผือกคชวรมงคล" หรือเปล่า
แล้วผมบอกว่าจะลงประวัติของพญาช้างเชือกนั้นให้ได้รู้ ก็นี่เลยครับ
พญาช้างเชือกนั้นคือพญาช้างตามตำนานที่ผมได้กล่าวไว้ด้านบนนั่นเอง


ประวัติการเริ่มสร้าง จนถึงยุคครูบาศรีวิชัย

วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1929 ในสมัยพญากือนา
กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งอาณาจักรล้านนา ราชวงศ์เม็งราย พระองค์ทรงได้อัญเชิญ
พระบรมสารีริกธาตุองค์ใหญ่ ที่ได้ทรงเก็บไว้สักการะบูชาส่วนพระองค์ถึง 13 ปี
มาบรรจุไว้ที่นี่ ด้วยการทรงอธิษฐานเสี่ยงช้างมงคลเพื่อเสี่ยงทายสถานที่ประดิษฐาน
พอช้างมงคลเดินมาถึงยอดดอยสุเทพ ก็ได้ร้องสามครั้ง ทำทักษิณาวัติสามรอบ
แล้วล้มลง (ตาย) พระองค์จึงโปรดเกล้าฯให้ ขุดดินลึก 8 ศอก กว้าง 6 วา 3 ศอก
หาแท่นหินใหญ่ 6 แท่น มาวางเป็นรูปหีบใหญ่ในหลุม แล้วอัญเชิญ
พระบรมสารีริกธาตุลงประดิษฐานไว้ จากนั้นถมด้วยหิน แล้วก่อพระเจดีย์สูง 5 วา
ครอบบนนั้น ด้วยเหตุนี้จึงห้ามพุทธศาสนิกชนที่ไปนมัสการสวมรองเท้า
ในบริเวณพระธาตุ และมิให้สตรีเข้าไปบริเวณนั้น

ในปี พ.ศ. 2081 สมัยพระเมืองเกษเกล้า กษัตริย์องค์ที่ 12  ได้ทรงโปรดฯให้เสริม
พระเจดีย์ให้สูงกว่าเดิม เป็นกว้าง 6 วา สูง 11 ศอก พร้อมทั้งให้ช่างนำทองคำทำ
เป็นรูปดอกบัวทองใส่บนยอดเจดีย์ และต่อมาเจ้าท้าวทรายคำ ราชโอรสได้ทรง
ให้ตีทองคำเป็นแผ่นติดที่พระบรมธาตุ

ในปี พ.ศ. 2100 พระมหาญาณมงคลโพธิ์ วัดอโศการาม เมืองลำพูนได้สร้าง
บันไดนาคหลวงทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้ประชาชนขึ้นไปสักการะได้สะดวกขึ้น

สมัยครูบาศรีวิชัย ท่านได้สร้างถนนขึ้นไป ถนนนี้มีความยาวถึง 11.53 กิโลเมตร



ขอขอบคุณที่มาข้อมูลบางส่วนจาก
http://forum.narandd.com/index.php?topic=481.0
http://touronthai.com/gallery/placeview.php?place_id=3001002 (http://touronthai.com/gallery/placeview.php?place_id=3001002)





หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 24 เมษายน 2554 22:47:07

เอาละได้รู้ประวัติ ตำนานของดอยสุเทพกันแล้ว เดี๋ยวพาไปขึ้นรถรางกันครับ

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02477.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02478.JPG)

ด้านหน้าทางเข้าอาคารเพื่อขึ้นรถรางครับ
โดยถ้าเข้าไปในอาคารแล้ว สามารถซื้อบัตร และรอขึ้นรถรางได้ทางด้านขวามือครับ
ส่วนทางซ้ายมือจะมีทางเดินออกไปให้ได้ไปไหว้ครูบาศรีวิชัยองค์ใหญ่ครับ
แล้วข้าง ๆ กันก็จะมีฆ้องยักฆ์ เอาไว้เผื่อใครอยากเอาหัวไปโหม่งเล่นครับ


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02479.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02480.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02484.JPG)

ครูบาศรีวิชัยองค์ใหญ่ครับ จุดเด่นที่ผมว่าต่างจากองค์อื่นน่าจะเป็นที่ใบหูครับ
เพราะจะมีใบหูที่ยานออกมา ซึ่งตามโหงวเฮ้งก็แสดงถึงความมีอำนาจวาสนา
รวมถึงอายุยืน อีกอย่างนึงไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่ผมเห็นรูปจำลอง
ของครูบาเจ้าส่วนมากจะเป็นท่ายืนครับ


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02481.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02482.JPG)

ฆ้องยักฆ์ครับ ใบใหญ่มาก ใครอยากลองโหม่งเล่นก็เชิญตามอัธยาศัย
โดยมองจากภาพแรกอาจไม่รู้ว่าใบใหญ่แค่ไหน
เราได้นางแบบกิติมศักดิ์ (แฟนน้าแม๊ค) มายืนเทียบสเกลให้ครับ
แหมน่ารักจริงนะตัวเธอวว์...

 ;D ;D ;D



หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 24 เมษายน 2554 23:03:52

หลังจากถ่ายรูปฆ้องยักษ์ กับไหว้ครูบาศรีวิชัยเสร็จ ก็เดินย้อนกลับมาขึ้นรถรางครับ
คนแน่นมาก อาจเพราะเป็นวันสำคัญด้วยเลยยิ่งคนเยอะ

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02487.JPG)

คนมารอขึ้นรถรางไฟฟ้า่ครับ แน่นมาก ประตูที่เห็นด้านหน้านั่นคือประตูทางเข้าครับ


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02486.JPG)

ซื้อตั๋วรถรางราคายี่สิบบาทครับ แล้วไปยืนต่อแถวรอขึ้นรถ รถรางที่นี่ไม่รู้มีกี่ราง
แต่ที่แน่ ๆ รางที่ผมขึ้นเป็นรางที่สี่ครับ


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02489.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02492.JPG)

ทีแรกนึกภาพรถรางไม่ออก ผมนึกถึงรถไฟ (ความคิดโง่ ๆ รถไฟมันจะมาวิ่งขึ้นวิ่งลงได้ไงวะ)
แต่คิดไปคิดมาไม่น่าใช่ เลยจินตนาการใหม่ว่าเหมือนกระเช้าที่คนเค้านั่งเวลาขึ้นเขาไปเล่นสกี
สุดท้ายพอเจอของจริงถึงบางอ้อเลยครับ...
มันคือลิฟท์นี่เอง แต่เป็นลิฟท์แนวเฉียง ฮ่า ๆ ๆ ข้างในก็บรรยากาศแบบลิฟท์เลยครับ
เพียงแต่รอบตัวก็ทำเป็นกระจกให้มองลอดออกไปได้ ให้เห็นสลิงเสียว ๆ เล่นครับ


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02488.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02490.JPG)

สายสลิงที่ดึงลิฟท์ขึ้นไปครับ ให้ความรู้สึกเสียวนิด ๆ คิด ๆ แล้วขำดี
เมื่อชีวิตทุกคนขึ้นกับไอ้เส้นลวดหกเส้นนี้


ปล. พอจะถึงสถานีออก (ประตูออกด้านบน) จะพบป้ายเขียนว่า Made in Thailand
เพื่อเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยครับ ไม่ได้ประชดนะครับ อย่างน้อยทำในไทย
มีปัญหาอะไรเราก็ Maintenance (ซ่อมบำรุง) เองได้ง่ายกว่าครับ นอกซะจากมันไม่ทำ

 ;D ;D ;D ;D ;D



หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 25 เมษายน 2554 00:03:39

มาถึงแล้วครับเดี๋ยวผมพาชมบรรยากาศรอบ ๆ เลยละกัน

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02493.JPG)

พอขึ้นมาถึง พ่อ-แม่-น้อง ก็พากันเดินนำดุ่ยเลย อยากบอกว่าอากาศดี ร่มรื่นมากครับข้างบนนี้


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02494.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02495.JPG)

บรรยากาศรอบตัวขาเข้าครับ จริง ๆ แล้วคนเยอะกว่าที่เห็นมากครับ เพราะนี่เป็นด้านนอก
ยิ่งเข้าไปลึกคนก็ยิ่งแน่นครับ


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02496.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02497.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02498.JPG)

และแล้วผมก็เจอคนล้อมวงกันขนาดใหญ่ ไม่รู้เค้าทำอะไรกัน เลยไปแทรก ๆ ดู
ผมไม่รู้ว่าน้องเค้าทำอะไรกัน ผมเคยหาข้อมูลดู บ้างก็ว่าแก้บน บ้างก็ว่าโชว์
บ้างก็ว่าน้องเหล่านี้มาเรียน แล้วก็แสดงหาเงิน การแสดงมีหลายชุดครับ ด้านบนที่เห็นนี่เป็นรำ
มีจังหวะแบบเหนือ ๆ มีตีฆ้อง ดูเพลิน ๆ ดีครับ


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02536.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02537.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02538.JPG)

อันนี้เป็นการแสดงอีกชุดครับ เป็นน้อง ๆ ตัวน้อย ๆ มาแต่งตัวแบบเด็กดอย ชาวเขา
มาเต้นกันดุ๊กดิ๊ก ๆ ดูแล้วก็น่ารักดีครับ แต่ของชุดนี้ น้อง ๆ เค้าจะไม่เต้นเพลงเหนือ
เหมือนอย่างน้อง ๆ ชุดที่รำไทยครับ ชุดน้องชาวเขานี่แกล่อเปิดเพลง "เด็กดอยใจดี"

 ;D ;D ;D ;D ;D


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02539.JPG)

ระหว่างรอเปลี่ยนกะ นางรำ กับนักดนตรีก็นั่งพักผ่อนกันตามอัธยาศัย น่าสงสารครับ
ดูแล้วไม่ได้พักกันเลย แต่ก็ขอชื่นชมน้อง ๆ ทุกคนครับ เพราะปกติถ้าไม่ไปนั่งพวกคุ้มขันโตก
ภาพแบบนี้ก็หาดูได้ยากครับ




หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 25 เมษายน 2554 00:14:36

หลังดูโชว์จากน้อง ๆ กันเสร็จก็ได้เวลาเข้าไปสักการะพระธาตุดอยสุเทพครับ โอ้เอ้กันมานาน

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02499.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02500.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02503.JPG)

บรรยากาศบริเวณรอบรั้วชั้นนอกของดอยสุเทพครับ คนเนืองแน่นมากจริง ๆ


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02502.JPG)

และนี่คือทางเข้าที่เราจะเข้าไปด้านในครับ ตรงนี้จะมีเจ้าหน้าที่ยืนตรวจตลอด เข้มงวดมาก
เพราะด้านในห้ามสวมรองเท้าเข้าไปครับ ให้หาที่ถอดรองเท้ากองกันเอาไว้ด้านนอก
ส่วนเหตุผลที่ห้ามสวมรองเท้าก็ตามที่ผมได้อธิบายไว้แล้วในโพสท์ที่ลงประวัติดอยสุเทพครับ
ถ้าอ่านข้ามมาก็ย้อนกลับไปอ่านได้
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ประจำประตูแต่ละประตู แกยังจะคอยตะโกนบอกห้ามคนที่แต่งตัวไม่สุภาพ
แล้วก็ห้ามคนใส่กระโปรงสั้นเข้าไปครับ รู้สึกสวมหมวกก็ไม่ให้เข้า
ถ้ามองจากในภาพจะเห็นผู้ชายสวมหมวกยืนตรงเสาด้านขวา นั่นหละครับ พี่เจ้าหน้าที่




หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 25 เมษายน 2554 00:32:32
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02506.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02512.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02521.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02527.JPG)

มุมต่าง ๆ ขององค์พระธาตุครับ สวย งดงาม ประทับใจมากครับ เห็นครั้งแรกกับตาตัวเอง
ผมถึงกับหลุดปากอุทาน "โอ้โห" ไม่รู้จะบรรยายยังไง แต่ประทับใจจริง ๆ ครับที่ได้มา



สิ่งสำคัญรอบพระธาตุ

นอกเหนือจากองค์พระธาตุแล้ว น้อยคนที่จะรู้ว่า รอบองค์พระบรมธาตุ ที่ดอยสุเทพนี้
ยังประกอบด้วยสิ่งสำคัญ ๕ ประการ ได้แก่

(http://www.doisuthep.com/old/mambots/editors/tinymce/loi12/pholoi08.jpg) (http://www.doisuthep.com/old/mambots/editors/tinymce/loi12/pholoi09.jpg) (http://www.doisuthep.com/old/mambots/editors/tinymce/loi12/pholoi10.jpg) (http://www.doisuthep.com/old/mambots/editors/tinymce/loi12/pholoi11.jpg) (http://www.doisuthep.com/old/mambots/editors/tinymce/loi12/pholoi12.jpg)


     ๑. ฉัตร ๔ มุม ทำด้วยทองเหลือง สร้างโดยพระเจ้ากาวิละ กษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่
เมื่อ พ.ศ. ๒๓๔๘ มีความหมายว่า ฉัตรเป็นสัญลักษณ์ของความร่มเย็น ซึ่งแสดงให้ถึงความสงบ
ร่มเย็นที่ได้รับอิทธิพลมาจากพระพุทธศาสนาที่แผ่ไปในทั้ง ๔ ทิศ
     ๒. สัตติบัญชร หรือ รั้วหอก ที่อยู่รอบพระธาตุ ซึ่งมีที่มาจากเหตุการณ์แบ่งพระบรมสารีริกธาตุ
ของโทณพราหมณ์ เมื่อภายหลังการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์แย่ง
พระบรมสารีริกธาตุของเมืองต่างๆ เพื่อนำไปไว้บูชาประจำเมือง โทณพราหมณ์จึงทำหน้าที่แบ่ง
โดยให้ทหารถือหอกรอบล้อมพระบรมสารีริกธาตุไว้ เพื่อป้องกันการแย่งชิง จึงเป็นที่มาของรั้วหอก
รอบพระบรมธาตุ
     ๓. หอยอ ลักษณะเหมือนวิหารขนาดเล็ก ประจำอยู่ ๔ ด้าน ของพระบรมธาตุ ที่ภายใน
มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ มีความหมายถึงการบูชาหรือสรรเสริญคุณของพระพุทธเจ้า (ยอคุณ)
     ๔. หอท้าวโลกบาล ซึ่งเป็นหอยอดแหลมขนาดเล็ก ประจำอยู่ ๔ มุมของพระบรมธาตุ หมายถึง
ที่ประดิษฐานของท้าวโลกบาลทั้ง ๔ ซึ่งเป็นเทพที่ปกปักรักษาสิ่งสำคัญต่างๆ ๔ ทิศ ทำหน้าที่
รักษาพระบรมธาตุ ได้แก่

      ๑. ท้าวกุเวร หรือท้าวเวสสุวรรณ มียักษ์เป็นบริวาร ทำหน้าที่เฝ้ารักษาทิศเหนือ
      ๒. ท้าวธตรัฐ มีพวกคนธรรพ์เป็นบริวาร ทำหน้าที่รักษาทิศตะวันออก
      ๓. ท้าววิรูฬปักข์ มีฝูงนาคเป็นบริวาร ทำหน้าที่รักษาด้านทิศตะวันตก
      ๔. ท้าววิรุฬหก มีอสูรเป็นบริวาร ทำหน้าที่รักษาด้านทิศใต้

     ๕. ไหดอกบัว หรือ ปูรณะฆะฏะ (ปูรณะ แปลว่า เต็ม,สมบูรณ์, ฆฏะ แปลว่า หม้อ) แปลว่า
หม้อที่แสดงถึงความสมบูรณ์ ซึ่งหมายถึงความเจริญรุ่งเรื่องของพระพุทธศาสนาในล้านนาไทย




ขอบคุณที่มาสิ่งสำคัญรอบพระธาตุ และภาพจาก
http://www.doisuthep.com/old/mambots/editors/tinymce/loi12/loi2.html



อ่านต่อที่หน้า 2 >>>
หรือคลิกที่นี่เพื่อไปหน้า ถัดไป (http://www.sookjai.com/index.php?topic=18910.20)








หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 25 เมษายน 2554 00:41:53
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02509.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02514.JPG)

http://www.sookjai.com/external/chaingmai.mp3

เปิดเพลงให้เข้ากับบรรยากาศ : เพลงสาวเชียงใหม่

น้าแม๊คกับแฟน ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกการมาดอยสุเทพครั้งนี้
ประทับใจ หมอกลงวันสงกรานต์ แทนที่เที่ยงแล้วแดดจะเปรี้ยง ๆ แต่นี่กลับอากาศดีมาก

แฟนผมน่ารักไหมครับ  ;D ;D ;D



หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 25 เมษายน 2554 00:48:32

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02508.JPG)

องค์พระธาตุดอยสุเทพอีกมุมหนึ่งครับ

ต่อไปนี้ก็จะเป็นภาพบรรยากาศรอบพระธาตุดอยสุเทพครับ
สวยงาม ตระการตา และเนืองแน่นไปด้วยผู้คน

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02505.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02507.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02513.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02515.JPG)

ที่นี่คนเยอะมากครับ คนเรียงรายต่อคิวเข้าไปวนรอบพระธาตุครับ
ซึ่งในการสักการะพระธาตุนั้น ผู้คนต่างก็เตรียมข้าวตอก ดอกไม้ ธูปเทียนมาต่อคิวเดินเวียนขวา 3 รอบ
พร้อมกล่าวคำบูชาพระธาตุดอยสุเทพ

สุวัณณะเจติยัง เกสะวะระมัค ถะลงคะอะรัญญะธาตุ
สุเทวาทิหินะ ระเห เวหิสัพพะ ปูชิตัง
อะหังวันทามี สัพพะทา ฯ

ส่วนบางคนที่ไม่ได้ต่อคิวไปเวียนชั้นใน ก็เดินกันเอารอบนอกนี่แหละ ผู้คนจึงเบียดเสียดกันพอสมควร




หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 25 เมษายน 2554 16:47:00

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02511.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02516.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02517.JPG)

บรรยากาศรอบ ๆ ด้านนอก (เขตกำแพงรอบนอก)


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02520.JPG)

ระฆังใบน้อย ๆ ครับ มีคนเอามาแขวนกันเต็มเลย ผมเห็นมีขายตรงทางเข้า กับด้านล่าง
เพิ่งรู้ว่าเค้าเอามาแขวนกันที่นี่ น่าจะเป็นความเชื่อครับ เหมือนทำบุญร่วมกัน
เพราะผมเห็นที่ระฆังทุกใบจะมีชื่อหนุ่มสาวมาเขียนแล้วร้อยคล้องกันไว้ก่อนนำไปแขวน




หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 25 เมษายน 2554 17:17:31

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02522.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02523.JPG)

สำหรับใครที่เวียนรอบพระธาตุองค์จริงมาแล้ว แล้วอยากสรงน้ำพระธาตุ
ข้าง ๆ กันก็มีพระธาตุองค์เล็กให้ได้สรงน้ำกันครับ มีน้ำเตรียมไว้ให้
ตรงนี้คนก็ต่อคิวกันเยอะครับ พอสรงกันเสร็จ ก็เอามือจุ่มน้ำที่ไปขัง ๆ บริเวณฐาน
เอามาประพรมหัวเป็นศิริมงคลครับ ผมก็ทำกะเค้าเหมือนกัน


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02524.JPG)

ภาพนี้ผมถ่ายกลีบดอกบัวที่ติดอยู่ที่ฐานของพระธาตุจำลองครับ ท่ามกลางสายตาหลาย ๆ คน
ที่ยืนรอด้านหลัง เค้าอาจจะคิดนะครับ "เมื่อไหร่มึงจะถ่ายเสร็จ กูจะสรงน้ำ !!"
คือเค้าสรงน้ำกันไม่ได้ครับ เพราะผมเอากล้องไปจ่อไว้ สรงมากล้องเปียกแน่

และที่จุดนี้ก็เกิดอีกหนึ่งความประทับใจครับ ที่นี่คนมีระเบียบมาก เห็นพระธาตุจำลองไหมครับ
เค้าต่อแถวเรียงหนึ่งแล้วมาสรงกันนะครับ ทั้ง ๆ ที่มีที่ให้ยืนสรงได้รอบ แต่เค้าเลือกที่จะรอครับ
นึกภาพถ้าเป็นหลาย ๆ ที่ในเมืองไทย แน่ละรวมถึงแถวบ้านผมด้วย คนจะแห่กันมาจากรอบด้าน
แล้วรุมกันตรงกลาง คนนอกก็ดันเข้า คนในก็ออกไม่ได้ แต่กับที่นี่ระเบียบสุดยอด ประทับใจครับ



หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 25 เมษายน 2554 17:25:10

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02525.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02526.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02529.JPG)

เก็บตกบรรยากาศรอบ ๆ ให้ได้ชมครับ

 (:88:) (:88:) (:88:)




หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 25 เมษายน 2554 18:03:29
ก่อนออกจากจุดนี้ มาชมศิลปะแบบล้านนากันครับ

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02530.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02531.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02532.JPG)

ลวดลายแบบนี้พบได้แค่เฉพาะศิลปะทางเหนือครับ (มีผู้รู้ท่านบอกมาแบบนี้)


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02535.JPG)

ภาพวาดข้างบานประตูขาออกครับ มีรอยร้าว ไม่รู้เกี่ยวกับที่แผ่นดินไหวที่เชียงใหม่
เมื่อเร็ว ๆ นี้หรือเปล่า


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02504.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02533.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02534.JPG)

บานประตูครับ ลวดลายงาม ๆ ของทวารบาล ไหน ๆ ก็กล่าวถึงทวารบาลแล้ว
มาดูกันครับว่า "ทวารบาล" คือใคร มีที่มาอย่างไรแน่

“ทวารบาล” ผู้พิทักษ์รักษาประตู

หนังสือทวารบาลผู้รักษาศาสนสถาน ที่จัดทำเผยแพร่ขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กรมศิลปากร
กระทรวงวัฒนธรรม เขียนไว้ว่า “ทวารบาล” มาจากคำว่า “ทวาร” ที่แปลว่า “ประตู” และ “บาล”
ซึ่งแปลว่า “รักษา, ปกครอง”

“ทวารบาล” จึงมีความหมายว่า “ผู้รักษาประตู” ซึ่งจากคำแปลก่อให้เกิดการตีความต่อประติมากรรม
ประเภททวารบาล ว่าคือ รูปของสัตว์ อสูร เทพ เทวดา และมนุษย์ หรือสิ่งมีชีวิตใดๆ ก็ตาม
ที่ตั้งอยู่บริเวณบานประตู ช่องทางผ่านเข้าออก ช่องหน้าต่าง หรือราวบันได แต่หากประติมากรรม
ชนิดเดียวกันนี้ไปตั้งอยู่บริเวณอื่นที่มิใช่ประตู หรือช่องหน้าต่าง หรือทางเข้าออก ก็ไม่สามารถจะกล่าว
ว่าเป็นทวารบาลได้

สำหรับกำเนิดของการสร้างทวารบาลนั้น น่าจะเกิดจากความเชื่อว่า “ผี” เป็นผู้กระทำให้เกิดสิ่งต่างๆ
เหนือธรรมชาติ และได้รับการพัฒนามาเป็นความเชื่อในเรื่องของเทวดาโดยได้รับอิทธิพลจากอินเดีย
ทั้งศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ โดยทางศาสนาฮินดูนั้นได้ก่อเกิดเทพเจ้าต่างๆ ขึ้น

โดยกำหนดให้เขาไกรลาส หรือเขาพระสุเมรุเป็นศูนย์กลางของจักรวาล อันจะรายรอบไปด้วยป่าหิมพานต์
มีพระอิศวรเป็นใหญ่ และมีเทพชั้นรองทำหน้าที่พิทักษ์ผู้รักษาประตู หรือทางเข้าสู่เขาไกรลาสทั้งแปดทิศ
ซึ่งเทพเจ้าในศาสนาฮินดูไม่จำกัดรูปร่าง จะเป็นมนุษย์ สัตว์ หรือครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์ ตามแต่ความเชื่อ
ซึ่งสัตว์ที่ไม่มีในโลกมนุษย์เรียกว่า “สัตว์หิมพานต์” ที่อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ เชิงเขาไกรลาส
ที่ถือเป็นดินแดนแห่งเทพเจ้า

จากคติความเชื่อเทพผู้พิทักษ์รักษาประตูนี้ ได้นำมาใช้กับงานประติมากรรม สถาปัตยกรรม และจิตรกรรม
ด้วยเหตุที่ชาวฮินดูต้องการให้มีเทพปกปักรักษาสถานที่สำคัญทางศาสนา เนื่องจากมนุษย์ทั่วไป
ไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะป้องกันภัยจากสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา ทั้งนี้ เนื่องจากศาสนสถานเหล่านั้น
สร้างขึ้นตามคติว่าเป็นสถานที่อันเทพเจ้าสูงสุดประทับอยู่ จึงได้จำลองเขาไกรลาสมาไว้ยังโลกมนุษย์
แล้วเกิดคติการสร้างทวารบาลขึ้นมา

จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา ประธานชมรมสยามทัศน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ กล่าวถึงทวารบาล
ตำนานของอินเดีย ว่า “ในยุคบรรพกาล พวกอสูรกับเทวดามักจะรบกันอยู่เสมอๆ แต่ว่าพวกอสูร
จะเกรงกลัวพระอินทร์มาก เนื่องจากพระอินทร์ถือสายฟ้า (วชิราวุธ) และพระอินทร์ท่านก็เห็นว่า
พวกเทวดาที่เป็นบริวารหวาดกลัวพวกอสูร จึงให้วาดรูปพระอินทร์ไว้ตามประตูสวรรค์”

“ส่วนตามคติความเชื่อของไทยเองก็ถือว่าพระอินทร์เป็นผู้รักษาพระศาสนาด้วยเช่นกัน ด้วยความคิดนี้
จึงเกิดมีการผสมผสานขึ้นมา เพราะคนไทยเป็นชาติที่ไม่ลอกเขา แต่เราชอบเลียนเขา
คือเราไม่ได้ลอกเขามาทั้งหมด แต่เราจะดูว่าแบบของเขาเป็นอย่างไร ส่วนของเราคิดอย่างไร
แล้วค่อยมาผสมกัน ก็เลยเกิดเป็นทวารบาลหลายรูปแบบขึ้นมา มีทั้งเทวดาถือพระขรรค์
เทวดาไทยผสมจีน (เซี่ยวกาง) หรือถือพวกอาวุธต่างๆ ขี่กิเลนบ้าง ขี่สิงห์บ้าง แบบแผนตรงนี้
ตามศาสนสถานหลายแห่งต่างก็มีแนวทางที่แตกต่างกันออกไป”

นอกจากจะรับอิทธิพลมาจากอินเดียแล้ว ไทยเรายังรับเอาอิทธิพลของทวารบาลมาจากจีนด้วยเช่นกัน
สำหรับตำนานทวารบาลของจีนนั้น สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัย “พระเจ้าถังไท้จงฮ่องเต้”
ซึ่งตามตำนานเล่าว่า ในยุคของพระเจ้าถังไท้จงฮ่องเต้ “พญาเล่อ๋อง” เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ให้ฝนแก่ชาวโลก
แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งเกิดเพลินให้ฝนมากเกินไป ส่งผลทำให้น้ำท่วม ราษฎรได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
เมื่อ “เง็กเซียนฮ่องเต้” รู้เข้าก็โกรธพร้อมกับสั่งให้ “งุยเต็ง” จัดการประหารพญาเล่อ๋องเสีย
ทางฝ่ายพญาเล่อ๋องก็หาทางที่จะรักษาชีวิตของตนเองไว้ โดยได้สืบทราบมาว่า งุยเต็งนั้น
มีชีวิตอยู่สองภาค คือ ภาคมนุษย์ รับราชการอยู่กับพระเจ้าถังไท้จงฮ่องเต้ ส่วนภาคสวรรค์
ทำหน้าที่เป็นเพชฌฆาต จึงได้ไปเข้าฝันพระเจ้าถังไท้จงฮ่องเต้ ให้ช่วยบอกกล่าวกับงุยเต็ง
ขออย่าให้ประหารชีวิตตน ซึ่งพระเจ้าถังไท้จงฮ่องเต้ก็รับปาก โดยในคืนประหารก่อนบรรทม
จึงให้งุยเต็งเข้าเฝ้า แล้วออกอุบายชวนเล่นหมากรุกกันหลายกระดานเพื่อไม่ให้งุยเต็งหลับ
แต่ว่างุยเต็งก็เผลองีบหลับไป โดยช่วงที่งีบนั้นงุยเต็งได้ละเมอคำว่า “ซัว” ที่หมายถึง ฆ่า
ขึ้นมาก่อนสะดุ้งตื่นมาเล่นหมากรุกต่อ
พระเจ้าถังไท้จงฮ่องเต้ เมื่อเห็นงุยเต็งตื่น ก็สอบถามว่าช่วงที่งีบไปละเมอเห็นอะไรบ้าง งุยเต็งก็เล่า
ความฝันเรื่องไปประหารพญาเล่อ๋องบนสวรรค์ให้ฟัง เมื่อพระเจ้าถังไท้จงฯ รู้เรื่องดังนั้น ก็ทรงเสียพระทัย
ที่ไม่สามารถทำตามที่รับปากกับพญาเล่อ๋องไว้ได้
ทางฝ่ายพญาเล่อ๋องเมื่อตายไป วิญญาณก็โกรธแค้นพระเจ้าถังไท้จงฯ อย่างมาก ในทุกๆ คืน
จึงมาคอยรังควานพระเจ้าถังไท้จงฯ ในวังหลวง ทำให้พระองค์พักผ่อนได้ไม่เพียงพอ แล้วเกิดประชวร
บรรดาแพทย์พยายามรักษาจนสุดความสามารถก็ไม่หาย ในเวลานั้นทหารเอก 2 คนคือ “อวยซีจง”
และ “ซินซกโป้” ซึ่งมีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าถังไท้จงฯ เป็นอย่างมาก ได้รับอาสา
เฝ้าพระทวารห้องบรรทมมิให้พญาเล่อ๋องมารบกวนได้ แต่นานวันเข้าทหารทั้ง 2 ก็เจ็บป่วยเสียเอง
เนื่องจากตอนกลางคืนต้องยืนยาม ส่วนกลางวันก็ต้องทำงาน
พระเจ้าถังไท้จงฮ่องเต้ จึงออกอุบายเรียกช่างฝีมือดี มาเขียนภาพทหารทั้งสองขึ้นที่บานประตู
ห้องพระบรรทมบานละคน โดยให้มีขนาดใหญ่เท่าตัวจริง มือถืออาวุธ หน้าตาถมึงทึง ทำให้เหมือนกับว่า
ทหารทั้งสองยืนยามเฝ้าประตูอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็ประสบความสำเร็จ เพราะหลังจากนั้นวิญญาณ
พญาเล่อ๋องก็ไม่มารบกวนพระเจ้าถังไท้จงฮ่องเต้อีกเลย

นับตั้งแต่นั้นมาคติความเชื่อการเขียนทวารบาลก็ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในเมืองจีน ก่อนจะแผ่อิทธิพล
มาถึงเมืองไทยจนกลายเป็นงานศิลปะไทยที่เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งสันนิฐานกันว่า
มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยแล้ว โดยตอนแรกๆ ยังคงมีอิทธิพลของจีนอยู่ สำหรับทวารบาลแบบจีน
ที่ไทยนำมาและนิยมกันก็คือ “เซี่ยวกาง” มีลักษณะเป็นนักรบจีนหนวดยาวหน้าตาขึงขัง
คำว่าเซี่ยวกาง สันนิษฐานว่ามาจากคำว่า “เซ่ากัง” ที่แปลว่า ยืนยาม นั่นเอง

จุลภัสสร อธิบายเพิ่มเติมว่า คติของการมีเทพผู้พิทักษ์ประตูหรือการตั้งสิ่งที่ดูน่าเกรงขามน่ากลัว
ในการป้องกันศาสนสถานมีมาตั้งแต่โบราณแล้ว ไม่ได้มีแต่เฉพาะที่จีนหรืออินเดียเท่านั้น ทางกรีซ
โรมัน ก็มีความเชื่อในเรื่องผู้พิทักษ์เช่นกัน เพราะพวกเขาต่างก็เชื่อว่าสถานที่ต่างๆ บางครั้ง
จะมีสิ่งที่ชั่วร้ายหรือสิ่งอัปมงคลต่างๆ มารบกวน ด้วยเหตุนี้จึงนิยมสร้างผู้พิทักษ์เป็นรูปปั้นบ้าง
ใช้เป็นรูปสลักบ้าง หรือเป็นรูปวาดบ้าง เพื่อใช้ในการป้องกันศาสนสถานนั้นๆ





ขอบคุณที่มาความรู้เรื่องทวารบาลจาก
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=19804&f=24


หัวข้อ: Re: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๒ ดอยสุเทพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 25 เมษายน 2554 23:12:30

หลังพาชมโดยรอบแล้วก็ลงมากันดีกว่า

(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02541.JPG)

นายแบบกิติมศักดิ์ หล่อไหม ? สังเกตดูตามแมกกาซีน พวกนายแบบนา่งแบบไม่ค่อยมองกล้อง
หรือมองก็มองแบบไม่จงใจ 555+ เป็นอันว่าผ่านครับ (แซวพ่อจะตกนรกไหม ? 555+)


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02540.JPG)

มองย้อนกลับไปที่ทางเข้า ... มีผู้คนรอเข้าไปอีกมากมายคนแน่นเอี้ยด
นึกแล้วก็ สมน้ำหน้า เอ๊ย นึกแล้วก็ว่าเออ ดีนะเรามาไว ไม่ต้องวุ่นวายขนาดนี้


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02542.JPG)

รูปปั้นพญาช้างเผือกคชวรมงคล ที่บริเวณรอบกำแพงด้านนอกของพระธาตุดอยสุเทพครับ
ช้างตามตำนานที่ผมกล่าวไว้แล้วข้างต้นนั่นหละครับ


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02543.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02546.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02547.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02548.JPG)
(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02550.JPG)

ขาขึ้น ขึ้นรถราง ขาลง ลงบันได บันไดนี้เค้าว่ามีประมาณสามร้อยขั้น ผมเองก็ไม่ได้นับครับ


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02545.JPG)

อันนี้เป็นคุณป้าที่เจอมาระหว่างทางขึ้นดอย ป้าแกเดินเคี้ยวหมาก ถือไม้เท้าอันนึง เดินตามถนน
เพื่อขึ้นมาไหว้พระธาตุที่ยอดดอย พอดีเจอเข้าเลยแวะรับป้าแกมา อ่ะเจ๊ย ไม่ใช่ครับ
อันนี้แฟนน้าแม๊คครับ ให้ถ่ายตรงบันไดไว้เป็นที่ระลึก ครั้งหนึ่งเคยขึ้นดอยสุเทพ และได้มาที่
บันไดนาคที่ใช้ขึ้นไหว้พระธาตุมาแต่อดีต


(http://www.sookjai.com/external/chiangmai/DSC02549.JPG)

"พี่ค๊า น้าค๊า ช่วยถ่ายรูปกับหนูหน่อย... เท่าไหร่ก็ได้ค่า" เสียงเจื้อยแจ้วแหลมเล็กกระทบหูผม
หันไปมองต้นเสียง เจอเด็กตัวน้อยกะป๋อยนึง น่าเอามาชุบแป้งทอดแล้วกินน่าจะอร่อยดี (ไม่ใช่แล้ว)
เอาเป็นว่าผมยืนดูน้องเค้าพักนึง ทีแรกว่าจะให้ตังน้องเค้าไปเปล่า ๆ แต่น้องเค้าวิ่งไปไหนไม่รู้
จริง ๆ แล้ว น้องเค้าอาจหาเงินวัน ๆ นึงได้มากกว่าที่ผมคิด แต่เพราะน้องเค้าน่ารักมั้ง ประกอบกับที่ว่า
เห็นน้องเค้าแหกปากอยู่นาน ไม่มีใครมาถ่ายรูปด้วยซักที เลยใจอ่อนจะควักตังให้
แต่เจ้ากรรมหันมาอีกทีน้องแกวิ่งไปไกลแล้ว เลยไม่ได้ตาม ...
เอ... หรือว่าน้องเค้าเห็นว่าผมมายืนอยู่นาน หน้าตาไม่น่าไว้วางใจ เค้าเลยวิ่งหนี
ฮ่า ๆ ๆ ๆ


มาถึงตอนนี้หลายคนอาจสงสัยนะครับ ว่าเอ๊ะ พอขึ้นมาข้างบนแล้วแม่ผมหายไปไหน
นั่นสิครับ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าแม่หายไปไหน ทีแรกผมยังกลัวแม่จะหลงทาง
หาทางออกไม่เจอด้วยซ้ำ แต่พอลงมาเจอพ่อ พ่อบอกแม่แกอยู่ในร้านหนังสือก็โล่งใจ
นึกว่าต้องประกาศตามหาแม่ซะแล้ว...
แม่ผมโลกส่วนตัวสูงครับ ชอบไปเที่ยววัด แต่พอเข้าวัดปุ๊บ ถ้าเจอร้านหนังสือ หรือขายซีดี
แม่จะแวะแล้วตัดตัวเองออกจากโลกภายนอกทันที เป็นสาเหตุให้ผมไม่ได้ถ่ายรูปแม่ครับ

 ;D ;D ;D ;D ;D


เบื่อกันหรือยังครับ กับซีรี่ย์ท่องเที่ยวตอนยาว น้าแม๊คพาเที่ยวเชียงใหม่
ผมเล็ง ๆ ไว้มีประมาณ 6 ตอน ถ้าไม่เบื่อก็ติดตามกันต่อได้ครับ
ท่องเที่ยวทั่วไทย ได้ความรู้คู่สุขใจ โดย น้าแม๊ค





จบ !!

น้าแม๊คพาเที่ยว
ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่

ภาค ๒ ดอยสุเทพ


...



โปรดติดตามตอนต่อไปกับ: น้าแม๊คพาเที่ยว ขึ้นเหนือแอ่วเมืองเจียงใหม่ ภาค ๓ วัดอุโมงค์



บุญรักษา สวัสดี (:Y:) (:Y:) (:Y:)