[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม => ข้อความที่เริ่มโดย: มดเอ๊ก ที่ 18 เมษายน 2553 17:24:45



หัวข้อ: เรื่องจากต่างแดน : เปิดตำหนัก 'ทะไล ลามะ' ที่อินเดีย
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊ก ที่ 18 เมษายน 2553 17:24:45
(http://pics.manager.co.th/Images/553000004877601.JPEG)
 
(http://pics.manager.co.th/Images/553000004877602.JPEG)
 
(http://pics.manager.co.th/Images/553000004877603.JPEG)
(http://pics.manager.co.th/Images/553000004877604.JPEG)
 
(http://pics.manager.co.th/Images/553000004877605.JPEG)
 
 
(http://pics.manager.co.th/Images/553000004877608.JPEG)
 


หัวข้อ: Re: เรื่องจากต่างแดน : เปิดตำหนัก 'ทะไล ลามะ' ที่อินเดีย
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊ก ที่ 18 เมษายน 2553 17:26:37
ครบ 51 ปีเต็ม ที่ “ทะไล ลามะ” องค์ที่ 14 ในฐานะผู้ปกครองทั้งอาณาจักรและศาสนจักรของทิเบต ได้อพยพลี้ภัยจากการคุกคามของจีน ไปตั้งรัฐบาล พลัดถิ่นของทิเบต ที่เมืองธรรมศาลา เชิงเขาหิมาลัย ในรัฐหิมาจัลประเทศ ของอินเดีย โดยมีชาวทิเบตร่วมแสนคนติดตามไปด้วยเมื่อเดือนมีนาคม ค.ศ.1959 ซึ่งต่อมาที่ธรรมศาลาแห่งนี้ก็กลายเป็นศูนย์รวมใจชาวทิเบตในต่างแดน
       
       สถานที่พำนักหรือตำหนักขององค์ทะไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณของชาวทิเบต ณ ธรรมศาลา มิได้ใหญ่โตหรูหรา แต่ทว่าเรียบง่าย เฉกเช่นจริยาวัตรของพระองค์
       
       โดยทุกวันพระองค์จะทรงตื่นบรรทมเวลา ตี 3 ครึ่ง หลังจากสรงน้ำแล้ว จะทรงใช้เวลาราวชั่วโมงครึ่ง ในการสวดมนต์เจริญภาวนาไหว้พระ ซึ่งการกราบไหว้องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าในแบบของทิเบตนั้น เรียกว่าอัษฎางคประดิษฐ์ โดยให้ส่วนสำคัญของร่างกายแปดส่วน ได้แก่ มือทั้งสอง เข่าทั้งสอง เท้าทั้งสอง ลำตัว และหน้าผาก สัมผัสพื้นดิน ในระหว่างกราบ อันเป็นการแสดงความเคารพสูงสุดต่อพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
       
       หลังตี 5 จะะทรงเดินออกกำลังกายรอบบริเวณตำหนักประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วจึงทรงฉันอาหารเช้าเช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวต้ม ขนมปัง ผลไม้ และชา ระหว่างนี้ก็จะทรงรับฟังข่าวสารจากสถานีวิทยุบีบีซี จนถึง 8 โมงครึ่ง แล้วก็ทรงสวดมนต์เจริญภาวนาอีกครั้ง
       
       จากนั้นจะทรงศึกษาข้อธรรมต่างๆ ในช่วง 9 โมงเช้า ถึง 11 โมงครึ่ง แล้วทรงฉันอาหารกลางวัน เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเสด็จไปทรงงานทั้งการปรึกษาข้อราชการการให้สัมภาษณ์ การสอนธรรมะแก่พระสงฆ์ การพบปะและสนทนาธรรมกับผู้มาเยือน ณ สำนักงานภายในวัด Tsuglagkhang อันเป็นวัดหลักของทิเบตและเป็นวัดประจำของพระองค์ ณ ธรรมศาลา ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่พำนัก ตั้งแต่เวลา 12.30-16.30 น.
       
       หลังทรงเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว จะทรงกลับสู่ตำหนัก เพื่อทรงพักผ่อนและฉันชา แต่ไม่ทรงฉันอาหารเย็น กระทั่งเวลา 18.30-20.30 น.จะทรงสวดมนต์เย็นไหว้พระ แล้วจึงเข้าบรรทม
       
       องค์ทะไล ลามะ ตรัสไว้ว่า “อาตมาเป็นพระธรรมดา อาตมารู้สึกอย่างนี้จริงๆ ทะไล ลามะ คือตำแหน่งทางโลก ประชาชนยอมรับทะไล ลามะ มาอย่างยาวนาน แต่การเป็นพระเป็นเรื่องของอาตมา ไม่มีใครสามารถมาเปลี่ยนได้ อาตมาใช้เวลา 80% ในแต่ละวันของชีวิตไปกับ กิจกรรมทางจิตวิญญาณ และ 20% ไปกับเรื่องของทิเบต”[/I]
       
       ตั้งแต่ปี 1959 ทรงได้รับการทูลเกล้าฯถวายรางวัลระดับนานาชาติกว่า 84 รางวัล หนึ่งในนั้นคือ รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งได้รับในปี 1989 และพระองค์ได้ทรงเดินทางไปเผยแผ่ธรรมทั่วโลกแล้วกว่า 62 ประเทศ ใน 6 ทวีป
       
       (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 113 เมษายน 2553 โดย บัวน้อย)

http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9530000046032 (http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9530000046032)