[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 16 พฤษภาคม 2560 19:26:49



หัวข้อ: หลวงปู่ภู ธัมมโชติ พระเกจิวัดท่าฬ่อ-พิจิตร
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 16 พฤษภาคม 2560 19:26:49

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/89292588002151_view_resizing_images_1_.jpg)

หลวงปู่ภู ธัมมโชติ พระเกจิวัดท่าฬ่อ-พิจิตร

วัดท่าฬ่อ จ.พิจิตร

"หลวงปู่ภู ธัมมโชติ" พระเกจิชื่อดังแห่งวัดท่าฬ่อ จ.พิจิตร ที่ชาวเมืองให้ความเลื่อมใสศรัทธา และรู้จักชื่อเสียงของท่านเป็นอย่างดี

ท่านเป็นชาวพระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อเดือน 6 ปีเถาะ ตรงกับปี พ.ศ.2398 ที่บ้านผักไห่ อายุ 8 ขวบ บิดาได้ย้ายภูมิลำเนามาหากินที่บ้านหาดมูลกระบือ(หาดขี้ควาย) ต.ไผ่ขวาง อ.เมือง จ.พิจิตร

เมื่อท่านอายุ 11 ขวบ บิดา-มารดานำไปฝากให้เรียนหนังสือขอมและไทยกับพระอาจารย์แช่ม ในสำนักของพระอุปัชฌาย์อิน เรียนหนังสือกับพระอาจารย์นิ่ม อายุ 16 ปี บรรพชาเป็นเณร ศึกษาพระปริยัติธรรม 1 ปีก็สึกออกมาช่วยบิดาประกอบอาชีพ

กระทั่งอายุ 23 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดเขื่อน อ.เมือง จ.พิจิตร เมื่อปี 2422 โดยมีพระครูศิลธรารักษ์(จัน) ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการนิ่ม จากวัดหาดมูลกระบือ กับพระอาจารย์เรือน วัดท่าฬ่อ เป็นคู่สวด ได้รับฉายาว่า ธัมมโชติ แปลว่า ผู้สว่างในทางธรรม

ครั้นปี พ.ศ.2437 ชาวบ้านท่าฬ่อได้นิมนต์มาอยู่วัดท่าฬ่อ ด้วยวัดท่าฬ่อสมัยก่อนชำรุดทรุดโทรมขาดการเหลียวแล เมื่อท่านมาอยู่แล้วก็ได้ก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ จนครบครัน โดยได้รับความร่วมมือช่วยเหลือจากชาวบ้านเป็นอย่างดี

เดิมท่านตั้งใจจะบวชระยะสั้น แต่แล้วก็ไม่คิดสึก กลับมุ่งศึกษาธรรมและออกรุกขมูลธุดงค์ เคยติดตามหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ ฝึกจิตจนกล้าแข็ง ได้รับการถ่ายทอดวิทยาคมจากหลวงพ่อเงิน รวมทั้งพระอาจารย์อื่นๆ

นอกจากนี้ ยังมีความรู้เรื่องสมุนไพรและแพทย์แผนโบราณ ตามแบบอย่างหลวงพ่อเงิน ซึ่งเป็น พระอาจารย์ของท่าน

ด้านวัตถุมงคล หลวงปู่ภูจัดสร้างไว้มีมากมาย อาทิ พระเนื้อผงดำ พิมพ์สมาธิ, ตะกรุดมหาอุด แหวนพิรอด ตะกรุดสร้อยสังวาล ตะกรุดโทนยันต์ค้าขาย ผ้าประเจียด เหรียญใบมะยม เหรียญแปดเหลี่ยม ฯลฯ แต่ที่ได้รับความนิยมคือ เหรียญหางแมลงป่องตะกั่วชินเงิน

พ.ศ.2455 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จตรวจราชการ คณะสงฆ์ในมณฑลภาคเหนือ ทรงมาประทับแรมที่วัดท่าฬ่อ 1 ราตรี และรับสั่งชมเชยชัยภูมิวัดท่าฬ่อยิ่งนัก ท่านก็ได้ปฏิสันถาร คารวะต้อนรับ และทูลปราศรัยโดยถูกต้องตามระเบียบราชการทุกประการ สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ จึงพระราชทานที่ฐานันดรสมณศักดิ์ให้รับพระราชทานสัญญาบัตรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เป็น พระครูธุระศักดิ์เกียรติคุณ เจ้าอาวาสวัดท่าฬ่อ เป็นพระครูพิเศษ และได้รับพระราชทานตราเสมาธรรมจักรให้นั่งที่พระอุปัชฌาย์อุปสมบทกุลบุตรในแขวงอำเภอท่าหลวงและทั่วจังหวัดพิจิตร ยังความปลาบปลื้มแก่คณะศิษย์ของท่านเป็นอย่างยิ่ง

หลวงปู่ภูเป็นผู้มีสติปัญญารอบคอบรู้เท่าทันการณ์และโอบอ้อมอารี ชอบก่อสร้างเพื่อเป็นประโยชน์ในพระพุทธศาสนา และมีวิชาความรู้ทางด้านวิปัสสนา ธรรมวินัย การช่างไม้ ช่างทอง การแสดง พระสัทธรรมเทศนาเทศมหาชาติชาดก 13 กัณฑ์ กับทั้งความรู้ทางเวชศาสตร์ และวิทยาคม จึงทำให้บรรดาสานุศิษย์นับถือท่าน

ในบริเวณวัดท่าฬ่อ ท่านยังได้เลี้ยงสัตว์ไว้มาก อาทิ กวาง, ไก่ป่า, แพะ ท่านใช้ข้าวสุกหรือหญ้าเลี้ยงสัตว์

หลวงปู่ภูสร้างคุณความดีต่อพระศาสนามาก จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะหมวด และพระอุปัชฌาย์ ตามลำดับ นอกจากจะเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแล้ว ท่านยังเป็นพระนักพัฒนาที่สร้างคุณูปการแก่ชุมชนสังคมและสร้างความเจริญให้กับวัดและชุมชนมากมาย ซึ่งท่านได้สร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสถานต่างๆ ภายในวัดมากมาย จนเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ

ต่อมาประมาณปี พ.ศ.2467 หลวงปู่ภูมีอาการอาพาธตามสังขารที่ร่วงโรยตามวัย โดยมีคณะศิษย์รับใช้ดูแลคอยปรนนิบัติอย่างใกล้ชิด

หลวงปู่ภูเริ่มมีอาการอาพาธหนัก มีอาการทรงๆ ทรุดๆ แม้อาการจะดีขึ้น แต่ไม่หายขาด อย่างไรก็ดี ท่านยังคงสามารถปฏิบัติศาสนกิจได้บ้าง ก่อนที่หลวงปู่ภูจะละสังขารไปอย่างสงบ วันที่ 4 ต.ค.2467 สิริอายุ 69 ปี

ตลอดชีวิตท่านประกอบคุณงามความดีด้วยจิตใจที่ผ่องแผ้ว แม้ว่าจะละสังขารไปแล้วก็ตาม แต่คุณงามความดีที่ได้ประกอบศาสนกิจมาตลอดชีวิต ยังคงปรากฏอยู่ในใจของพุทธศาสนิกชนชาวเมืองพิจิตรอย่างมิลืมเลือน ในฐานะปูชนียบุคคล


ข่าวสดออนไลน์