[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 14 มิถุนายน 2560 10:08:36



หัวข้อ: หลวงปู่คำพอง ติสโส วัดถ้ำกกดู่ จ.อุดรธานี
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 14 มิถุนายน 2560 10:08:36
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/88563762149877__3627_3621_3623_3591_3611_3641.jpg)

หลวงปู่คำพอง ติสโส วัดถ้ำกกดู่ จ.อุดรธานี

“พระครูสุวัณโณปมคุณ” หรือที่รู้จักกัน ในนาม “หลวงปู่คำพอง ติสโส” พระวิปัสสนาจารย์เลื่องชื่อแห่งภาคอีสาน ประธานสงฆ์วัดถ้ำกกดู่ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี และอดีตเจ้าอาวาสวัดราษฎร์โยธี อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา

เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 3 มิ.ย.2465 ที่บ้านกุดตะกร้า ต.สงเปือย อ.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี อาชีพทำนา

อายุ 9 ขวบ บิดาอพยพครอบครัวไปอยู่ บ้านกุดฉิม อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี อยู่ได้ 5 ปี ก็ย้ายมาอยู่บ้านกุดเต่า

จนอายุ 18 ปี มารดาถึงแก่กรรม ต้องช่วยครอบครัวทำมาหากินจนไม่มีโอกาสศึกษาเล่าเรียน จึงหันเหชีวิตไปฝึกซ้อมมวยไทยกับครูสมพงศ์ เวชสิทธิ์ ขึ้นชกตามเวทีต่างๆ รวมทั้งเวทีราชดำเนิน สมัยยังล้อมรั้วด้วยสังกะสี

อายุ 21 ปี อุปสมบทที่วัดมหาชัย อ.หนองบัว ลำภู จ.อุดรธานี มีพระครูพิศาลคณานุกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์

พรรษาแรก อยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ขัน ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้า พอพรรษาที่ 2 ออกเดินทางไปไหว้พระธาตุพนม จ.นครพนม ทราบข่าวว่าหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต จำพรรษาที่บ้านนามน จ.สกลนคร จึงเดินทางไปกราบพร้อมกับพระอาจารย์วัน อุตตโม

หลวงปู่มั่นแนะนำให้ไปพำนักกับหลวงปู่กงมา จิรปุญโญ วัดดอยธรรมเจดีย์ ซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน และค่ำลงให้เดินทางมารับการอบรมธรรม

อยู่ฟังเทศน์หลวงปู่มั่นได้ 3 เดือน ก็กราบลาไปคัดเลือกทหาร เมื่อไม่ถูกเกณฑ์ก็ตั้งใจกลับไปหาหลวงปู่มั่นอีกครั้ง แต่หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ ศิษย์รุ่นใหญ่ของพระอาจารย์มั่น ชักชวนให้ไปอยู่ที่วัดบ้านกลางใหญ่

พบหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี อยู่ปรนนิบัติและรับการอบรมธรรมประมาณ 2 ปี จึงกลับมาอยู่รับใช้ และรับการอบรมแนะนำการปฏิบัติทางด้านจิตตภาวนาอย่างยิ่งยวดกับหลวงปู่มั่น ร่วมกับพระเถระพระผู้ใหญ่มากมายหลายรูป

รวมระยะเวลาถึง 4 ปีเต็ม คือในปี พ.ศ.2489-2492

หลังจากหลวงปู่มั่น มรณภาพ ท่านเดินทางสู่ภาคใต้ แถบจ.ภูเก็ต, สตูล, พังงา ไปกับขบวนของหลวงปู่เทสก์ มีพระเณรรวมทั้งสิ้น 8-10 รูป หนึ่งในนั้นคือหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต

ท่านไปอยู่ที่ที่พักสงฆ์ อ.โคกกลอย จ.พังงา หรือวัดราษฎร์โยธี จนกระทั่งได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาส และเจ้าคณะตำบล โดยจำพรรษาอยู่ 23 ปี และที่ภูเก็ต 2 ปี

อุปนิสัยของท่าน เป็นคนตรง พูดจาโผงผางจริงจังและจริงใจ ไม่ยึดติด มานะอดทนเป็นเลิศ

ทั้งนี้ การไปเผยแผ่ธรรมที่ภาคใต้ กว่าจะได้รับการยอมรับไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยถูกต่อต้านจากคนบางกลุ่มที่กลัวเสียผลประโยชน์ ไม่เว้นแม้กระทั่งพระสงฆ์ในพื้นที่

ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังมีความเห็นผิดเกี่ยวกับ “พระบ้าน” และ “พระป่า”

แต่หลวงปู่คำพอง ยืนหยัดสู้ปัญหา สร้างความเข้าใจและความสามัคคีให้เกิดขึ้น จนพระท้องถิ่นมหานิกาย กับพระกัมมัฏฐาน (ธรรมยุต) ฉันภัตตาหารและสวดร่วมกันได้

พ.ศ.2518 หลวงปู่คำพอง สละตำแหน่งทางคณะสงฆ์ภาคใต้ทั้งหมด เดินทางกลับ จ.อุดรธานี คณะศรัทธาที่ทราบข่าวได้นิมนต์ให้มาจำพรรษาที่วัดป่าพัฒนาธรรม อ.หนองวัวซอ

อยู่ประมาณ 10 ปี เห็นว่าความเจริญเข้าสู่วัดมากแล้ว ท่านจึงได้มาสร้างวัดขึ้นบนภูเขาชื่อ “ภูพังคี” ตั้งชื่อว่า “วัดถ้ำกกดู่” และอยู่จำพรรษานับตั้งแต่ปี พ.ศ.2533 เรื่อยมา

นับแต่สร้างวัดถ้ำกกดู่ขึ้น ท่านคงสภาพให้เป็นสถานที่สัปปายะเหมาะสมต่อการปฏิบัติธรรมไว้มากที่สุด ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อสงวนที่ดินไว้สำหรับการอนุรักษ์ป่าและต้นน้ำ ก่อนที่จะถูกรุกล้ำทำลาย

นอกจากนี้ ยังขออนุญาตกรมป่าไม้ จัดตั้งป่ารอบบริเวณวัดให้เป็นพุทธอุทยาน เพื่อรักษาสภาพป่าและใช้เป็นสถานที่บำเพ็ญเพียรภาวนาของพระสงฆ์สามเณร

งานพัฒนาท้องถิ่น สร้างทางข้ามเขาติดต่อระหว่าง อ.หนองวัวซอกับ อ.โนนสัง จ.อุดรธานี ทำให้ประชาชนทั้งสองอำเภอติดต่อกันได้สะดวก

หลวงปู่คำพอง เป็นโรคหัวใจโตมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 มีอาการเหนื่อยหอบ หายใจไม่เต็มปอด เมื่อต้องบิณฑบาตไกลๆ หรือเดินขึ้นเขา

กระทั่งคืนวันที่ 2 ธ.ค.2544 หลวงปู่คำพอง มรณภาพอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ กรุงเทพฯ

สิริอายุ 80 ปี พรรษา 59


อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์