[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ => วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ => ข้อความที่เริ่มโดย: wondermay ที่ 26 เมษายน 2554 21:28:03



หัวข้อ: มหกรรมโครงการยักษ์พิทักษ์โลก Protect the earth
เริ่มหัวข้อโดย: wondermay ที่ 26 เมษายน 2554 21:28:03
(:PING:)ขอบคุณความรู้ดีๆจากเว็บ sunflowercosmos และอาจารย์ปีเตอร์ที่ใจดีไว้ด้วย ณ ที่นี้ค่ะ
(http://www.sunflowercosmos.org/images_main/sunflowercosmos_1.jpg)



(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/show_protect_earth_small.jpg)

(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/show_protect_earth.jpg)

เป็นแนวคิดที่พิลึกเพื่อพิทักษ์รักษาโลก ด้วยความจริงจังของเหล่า
นักวิทยาศาสตร์ ชั้นหัวกะทิและสถาบันที่มีชื่อเสียงทำให้เกิดข้อถกเถียงกัน
ด้วยเหตุผล และปัญหาในด้านต่างๆที่จะตามมาเช่น แทนที่จะตัดทอนลดการเกิด
Carbon dioxide ที่ต้นทางกลับพยายามถอยหลังเข้าคลองอย่างเลวร้าย

เราอาจมองดูน่าขัน แต่ความคิดเหล่านั้นอาจมีช่องทางพัฒนาไปสู่เงื่อนไข
และวิธีการที่ดีกว่าก็ได้ ในอนาคตของนักวิทยาศาสตร์รุ่นต่อๆไป
แต่บางโครงการ มีความเป็นไปได้ น่าสนใจ นำมาใช้อย่างกว้างขวางแล้ว

อนึ่งภาพประกอบส่วนใหญ่ ได้จัดเขียนและดัดแปลงขึ้นใหม่
เพื่อให้น่าสนใจขึ้นจากเค้าโครงเดิม เนื่องจากขนาดภาพต้นฉบับมีข้อจำกัด


(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/solar_umbrella.jpg)

Solar umbrella : ร่มอวกาศ บังแสงสุริยะ

แนวคิดดังกล่าวเกิดจาก University of Arizona astronomer เรียก Sun shade
หรือ Solar umbrellaโดยประดิษฐ์เหมือนยานอวกาศขนาดเล็ก ลักษณะเป็นแผ่น
แบนราบ ให้ลอยตัวในอวกาศ ที่ตำแหน่งโคจรระหว่างโลก และดวงอาทิตย์ คล้าย
ร่มบังความร้อน ตรงมุมที่ส่องมายังโลก สามารถสกัดกั้นรังสีความร้อนจากดวง
อาทิตย์ได้

การประดิษฐ์ Solar umbrella เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 ฟุต
มีแถบเล็กๆโผล่ออกมา ด้านข้างคล้ายหูจำนวน 3 แถบยาวไม่กี่นิ้วไว้สำหรับบังคับ
จังหวะองศาในระยะไกล ทั้งหมดถูกขนส่งโดยจรวดลำเลียง (Shields stacked
insidecapsule) ไปยังบริเวณที่กำหนด

(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/solar_umbrella_1.jpg)


ปัญหาของโครงการ

แต่ละครั้งขนส่งด้วยจรวดลำเลียง เที่ยวละ 800,000 ชิ้น โดยทั้งหมดจะต้องใช้ใน
โครงการดังกล่าว16 พันล้านชิ้น หรืออาจมากกว่า ต้องใช้การขนส่ง 20 ล้านเที่ยว
มีน้ำหนักวัตถุดิบ 20 ล้านตัน การผลิตใช้งบประมาณอย่างน้อย 4 พันล้านเหรียญ
สหรัฐฯ ใช้ระยะเวลา 30 ปี แต่ทั้งนี้เป็นการลดค่ารังสีจากดวงอาทิตย์ มิใช่เป็นการ
ลด Carbon dioxide โดยตรง


(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/artificial_trees_1.jpg)

Artificial trees  : ต้นไม้เหล็ก และอนุสาวรีย์ ยุคพายุก๊าซคาร์บอน

ประดิษฐกรรมเก็บกัก Carbon dioxide ด้วย Artificial trees เป็นลักษณะต้นไม้
เทียม แนวคิดของ Professor Klaus Lackner นักฟิสิกส์-ธรณีวิทยา Columbia
University

โดยมีองค์ประกอบขึ้นทางเคมี เป็นการเลียนแบบธรรมชาติระบบต้นไม้และใบไม้
เพื่อจะลดปริมาณของ Carbon dioxide จากบรรยากาศ โดยดูดเก็บไว้ในชั้นลึก
ของใต้ดิน ให้มีความปลอดภัยและถาวร

(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/artificial_trees_3.jpg)

(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/artificial_trees_2.jpg)

โครงสร้างของ Artificial trees สูง 200 ฟุต มีระบบคอยดูดกลืน Carbon dioxide
ด้วย Sodium hydroxide ชนิดเหลวผ่านจากท่อที่เชื่อมต่อ แยกเป็นกิ่งก้านสาขา
แต่ละชุด (เหมือนแต่ละใบของต้นไม้) สู่ระบบถังเก็บ โดยมีกรรมวิธีเปลี่ยนแปลง
(Processed) สถานะให้เปียกก่อน จะปลดปล่อยลงสู่ใต้ชั้นดิน ทั้งนี้ระบบทั้งหมด ต้องมีความแน่นหนารัดกุม และยังปล่อยลงสู่แท่นขุดเจาะน้ำมันได้ หลังจากดูด
น้ำมันดิบขึ้นมาแล้ว

เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยมีประสิทธิภาพเก็บกักกรอง Carbon dioxide ได้ 90,000 ตันต่อปี ใน 1 ชิ้นของ Artificial trees มีขีดความ
สามารถจับคาร์บอน 6.6 ปอนด์ ต่อวินาทีจากอากาศ

นอกจากนั้นมีแบบ Carbon scrubbers vision ขนาดสูง 300 ฟุต เหมือนหอคอย
หรือคล้ายอนุสาวรีย์ ติดตั้งในเมือง สามารถดูด มลพิษต่างๆ และ Carbon dioxide
จากปริมาณที่เกิดจากรถยนต์ 15,000 คันต่อปี โดยมีระบบเช่นเดียวกับ Artificial
trees

ปัญหาของโครงการ

มีต้นทุนสูงในเรื่องระบบท่อขนส่ง Carbon dioxide มายังระบบหลัก การลำเลียง
ทิ้งสู่ใต้ดิน และผลกระทบการรั่วซึมสู่มนุษย์ได้


(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/balloons.jpg)

Sulfates Balloons  : กากเพชรอวกาศ

Professor Paul Crutzen แห่ง Max Planck Institute for Chemistry Germany
เจ้าของรางวัล Nobel Prize in 1995 ผู้ที่ได้ศึกษาเรื่องช่องรอยรั่วของชั้นโอโซน
แสดงความเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างทันที ต่อการแก้ไขสถานการณ์โลกร้อนโดย
เชื่อว่า นโยบายและความพยายามของมนุษย์ มีข้อจำกัด ต่อการแก้ไขปฎิกิริยา เรือนกระจก

วิธีการใช้เทคนิคให้โลกมีอุณหภูมิเย็นลง โดยปลดเปลื้องสภาพ ในบรรยากาศชั้น
Stratosphere (สูงกว่า 11 กิโลเมตรขึ้นไป) ให้สะท้อนความร้อนออกไปสู่อวกาศ
โดยส่ง Balloons ขึ้นไปในระดับสูงพ่น Sulfates โดยให้กระจายตัวเป็นจำนวนมาก
ผลกระทบจะเกิดขึ้นของอนุภาคดังกล่าว ทำให้เกิดอัตรา ระหว่างการสะท้อนกลับ
และการรับแสงของโลก (Albedo) โดยภาพรวมโลกจะเย็นลงในเวลาไม่กี่ปี

เป็นการเลียนแบบเช่น การระเบิดของ ภูเขาไฟขนาดใหญ่ ปล่อยเถ้าถ่านผงออก
ไปขวางกั้น ในกรณีภูเขาไฟ Pinatubo ระเบิดเมื่อ ค.ศ.1991 Sulphur มีปริมาณ
นับพันตันพุ่งขึ้นสูงอวกาศ ทำให้อุณหภูมิทั่วโลกเย็นลง 0.5 องศา C ตลอดปี

(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/balloons_2.jpg)

อนุภาค Sulfates มีขนาดเล็กคุณสมบัติ เป็นเกล็ดสะท้อนแสง เหมือนกระจกวาว
ต้องตรวจคำนวณความสัมพันธ์กัน ระหว่างจำนวนและความสูงเพียงพอ จึงมีผลดี

ในระยะ 10 ปีมีความเป็นไปได้ ที่จะผลิตองค์ประกอบของ Sulfates ใหม่ให้ปราศ
จากพิษ มีคุณสมบัติละลายน้ำไม่ได้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบใดๆต่ออวกาศ และ
มนุษย์

ปัญหาของโครงการ

มีค่าใช้จ่ายแพงมาก จะต้องใช้ปริมาตรที่มากมหาศาลนับล้านๆตัน ในแต่ละเดือน
สามารถผลิตได้ระดับหมื่นตัน มีปัญหาแห้งแล้งในแถบ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและ
แถบตะวันออกกลาง โดยมิใช่เป็นการลด Carbon dioxide โดยตรง


 



หัวข้อ: Re: มหกรรมโครงการยักษ์พิทักษ์โลก Protect the earth
เริ่มหัวข้อโดย: wondermay ที่ 26 เมษายน 2554 21:40:12
(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/ships.jpg)

Cloudmaking ships : เรือเหนือเมฆ

แสงและความร้อนที่ส่องลงบนพื้นผิวโลกบางส่วน ปะทะกับปุยเมฆได้สะท้อนออก
ไปในอวกาศ เป็นผลให้ิบริเวณนั้น ที่อยู่ใต้ปุยเมฆมีสภาพอากาศเย็นลง เพราะแสง
ส่องลงมาน้อยกว่าปกติ เหมือนถูกกรอง

ดังนั้น เพื่อลดปริมาตรความร้อน National Center for Atmospheric Research
และ Edinburgh University จึงมีแนวคิดสร้างเมฆจากบนเรือ ที่ไม่มีคนบังคับขณะ
ขับเคลื่อนไปในมหาสุมทรทั่วโลก เพื่อสร้างเมฆจากน้ำทะเลขึ้นไปสู่อากาศชั้นสูง
ลดอุณหภูมิโลก

ปัญหาของโครงการ

ต้องสร้างเรือเป็นจำนวนมากกว่า 1,000 ลำ เพื่อให้เพียงพอต่อการสร้างเมฆและ
ปัญหาที่ตามมา คือ อาจเกิดฝนตกหนักในบางพื้นที่จากเมฆที่สร้างขึ้นเกิดน้ำท่วม
ในที่ๆไม่ต้องการเนื่องจาก ไม่สามารถควบคุมลมได้


(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/geritol_solution.jpg)

Geritol Solution : อาหารเสริมมหาสุมทร

ด้วยแนวคิดนำ Iron ore (ธาตุเหล็ก) ในปริมาตรมากๆ ทิ้งลงสู่ทะเลและมหาสุมทร
เนื่องจากเป็นสารอาหาร สำคัญของสาหร่าย (Algae) และสิ่งมีชีวิตเล็กๆ (Natural
plankton) ที่อาศัยอยู่บริเวณผิวน้ำ

สาหร่ายดังกล่าวมีคุณสมบัติพิเศษ สามารถดูดกลืน Carbon dioxide ปลดปล่อย
Oxygen จากการสังเคราะห์แสง ท้ายที่สุดสาหร่ายเหล่านั้นหมดอายุขัยจมลงก้น
ทะเลพร้อมๆกับ Carbon dioxide ลงไปด้วย สะสมเป็น ตะกอนดิน หินต่อไป

ได้ทำการทดลองโดย Planktos Inc. of Foster City, Calif. จากแนวคิดดังกล่าว
โดยใช้ ผงฝุ่น Iron ore จำนวน 50 ตันทิ้งลงในมหาสุมทร Pacific มีทั้งสำเร็จและ
ล้มเหลวของผลที่ตามมา

ต่อมา ค.ศ.2001 Intergovernmental Panel on Climate Change ได้ในความ
สนใจ โดยประเมินว่า Algae และ Plankton ที่ใช้ Iron ore ทุกๆ 1 ตัน สามารถลด
Carbon dioxide ได้ 100,000 ตัน ถ้ากระทำในพื้นที่ขนาดใหญ่ ของมหาสุมทรจะ
ลด Carbon dioxide ได้ถึง 3 พันล้านตัน

(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/geritol_solution1.jpg)

ปัญหาของโครงการ

อาจสามารถเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของน้ำทะเลเป็นวงกว้าง กระทบต่อระบบนิเวศ
ท้องถิ่นของสัตว์น้ำบา ตระกูลได้ และปัญานโยบายเรื่องน่านน้ำสากล


(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/green_roof.jpg)

(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/green_roof4.jpg)

Greenhouses & Green roof : หลังคาสีเขียวทั้งโลก
 

ข้อเท็จจริง Greenhouses ประเภท Zero energy ต้องปราศจากการใช้วัตถุที่ได้
จาก พลังงานจากไฟฟ้า น้ำมัน ถ่านหิน ในการก่อสร้างจึงถือว่าสมบูรณ์แบบ หนึ่ง
ในโครงการได้ ออกแบบโดย Scott Specht studio เป็นยุคแรกของบ้านอนาคต
เน้นความมิตรเป็นต่อสิ่งแวดล้อม 100%

หลังคาแบบ Solar panels รับพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เก็บไว้
ในระบบแบตเตอรี่ สำหรับใช้กลางคืนตลอด 1 สัปดาห์ส่วนกลางวันใช้แสงจากภาย
นอก สิ่งปฎิกูล ขยะ มีระบบย่อยสลายเป็นปุ๋ยต่อไป

แนวคิด Greenhouses นี้มีความเก่าแก่มานับหลายพันปี ตั้งแต่ยุค Babylon ปลูก
สวนไม้ดอกและพืชผักไว้ บนสวนลอยฟ้า ตลอด 30-40 ปีที่ผ่านมา ที่อยู่อาศัยใน
ยุโรปอังกฤษ เยอรมัน อเมริกา และญี่ปุ่น ให้ความสำคัญต่อการปลูกพืชบนหลังคา
อาคาร (Green roof) ที่ถูกทิ้งไว้มิได้ใช้ประโยชน์

ส่วนใหญ่เป็นพืชคลุมดิน ที่ดูแลรักษางาน ทนต่อสภาพแห้งแล้ง อากาศหนาวเย็น
เพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิ ลดพลังงานการใช้ ระบบไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศและ
เป็นดูดซับมลพิษในบริเวณนั้นอย่างได้ผล พร้อมทั้งเปลี่ยน แปลงสภาพอากาศให้
สะอาดขึ้น

ข้อสำคัญน้อยคนนัก จะมองเห็นถึงความสำคัญ ของค่ารังสีของดวงอาทิตย์ ที่เพิ่ม
อัตราสูงจนน่ากลัว จากปฎิกิริยาเรือนกระจก ส่งผลกระทบต่อมนุษย์ ทำให้เกิดโรค
มะเร็งผิวหนังโดยไม่รู้ตัวโดยเฉพาะประชากรในแถบเส้น ศูนย์สูตรซึ่ง Green roof
มีส่วนช่วยปกป้องได้เป็นอย่างดีสำหรับผู้อยู่อาศัย

ปัญหาของโครงการ

ความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลง ที่อยู่อาศัยทั้งระบบเป็นแบบ Greenhouses
มี ภาระต่อการลงทุนใหม่สูง อาจไม่เป็นที่นิยม ยกเว้นโครงการก่อสร้างใหม่มีแนว
คิดชัดเจน

การจัดทำ สำหรับประเทศเขตร้อนแถบเส้นศูนย์สูตร ต้องใช้ Green roof ระบบ
Tropical Zone โดยเฉพาะ จึงเหมาะสมกับชนิดของพืช เนื่องจากฝนตกมากกว่า
และแสงแดดจัดกว่า

อย่างไรก็ตามหากเจาะจงปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัยขนาดเล็ก สำนักงานขนาดใหญ่
จัดทำเฉพาะเรื่อง Green roof ยังมีความเป็นไปได ้ซึ่งลงทุนน้อยกว่ามากพิสูจน์
แล้วคุ้มค่า ขณะนี้มีปรากฎแล้ว 738 โครงการ เป็นพื้นที่ ทั้งสิ้นบนอาคารทั่วโลก
16,915,216 ตร.ฟุต


(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/ice_cover.jpg)

Canvas cover to protect : ผ้าห่มธารน้ำแข็ง

เพื่อปกป้องธารน้ำแข็ง บริเวณ Mountain Zugspitze ระดับความสูงมากในประเทศ
Germany จึงได้ใช้ผ้าใบ (Canvas) ห่มปิดเหนือพื้นหิมะน้ำแข็ง ในช่วงฤดูร้อนป้อง
กันการละลาย

ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ ได้ทดลองติดตั้งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่บริเวณขั้วโลก มีความ
เป็นไปได้ สามารถลดความร้อน เพื่อรักษาอุณหภูมิผิวพื้นที่ถูกปิดบังด้วย Canvas
ชนิดพิเศษ โดยแต่ละผืนจะตอกยึดด้วยลงพื้น ด้วยเสาไม้ไผ่ขนาดเล็ก แทนการใช้
เสาเหล็กหรืออลูมิเนียมได้ เนื่องจากเป็นตัวนำความร้อน

(http://www.sunflowercosmos.org/protect_earth/protect_earth_images/ice_cover1.jpg)

ข้อมูลการวิเคราะห์พบว่า แสงแดดในฤดูร้อนส่องลงบริเวณขั้วโลก พื้นผิวน้ำแข็ง
รับความร้อน 32 องศา F ส่วนผิวน้ำ รับความร้อน 90 องศา F เพราะฉะนั้นหากพื้น
ผิวที่เต็มไปด้วยน้ำ ก็จะยิ่งเร่งการละลายตัวน้ำแข็งทวีคูณ หากสามารถใช้แผ่น
Canvas ปิดบังไว้ จะช่วยสะท้อนความร้อนออกไป น้ำแข็งยังคงสภาพอยู่ได้

ปัญหาของโครงการ

จำเป็นต้องใช้แรงงานการติดตั้งมาก และเมื่อเข้าฤดูหนาวของขั้วโลกต้องเปิดออก
จึงใช้แรงงานอีกเช่นกัน มิใช่เป็นการลด Carbon dioxide โดยตรง

(:LOVE:) (:LOVE:) (:LOVE:) (:LOVE:) (:LOVE:) (:LOVE:) (:LOVE:) (:LOVE:) (:LOVE:)
ขอบคุณค่า






หัวข้อ: Re: มหกรรมโครงการยักษ์พิทักษ์โลก Protect the earth
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 26 เมษายน 2554 21:55:48
สุดยอดทุกอัน แต่ก็เป็นอภิมหาโครงการยักษ์ทุกอันเช่นกัน

เพราะทำได้ยาก ไอ้ยากไม่เท่าไหร่ จะทำยังไงให้มีกันทั่วโลกนี่สิ


หัวข้อ: Re: มหกรรมโครงการยักษ์พิทักษ์โลก Protect the earth
เริ่มหัวข้อโดย: wondermay ที่ 27 เมษายน 2554 19:23:08
สุดยอดทุกอัน แต่ก็เป็นอภิมหาโครงการยักษ์ทุกอันเช่นกัน

เพราะทำได้ยาก ไอ้ยากไม่เท่าไหร่ จะทำยังไงให้มีกันทั่วโลกนี่สิ


ไม่ทันชัวร์ โลกเละก่อนแน่นอนนน!


หัวข้อ: Re: มหกรรมโครงการยักษ์พิทักษ์โลก Protect the earth
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 27 เมษายน 2554 20:51:05
สุดยอดทุกอัน แต่ก็เป็นอภิมหาโครงการยักษ์ทุกอันเช่นกัน

เพราะทำได้ยาก ไอ้ยากไม่เท่าไหร่ จะทำยังไงให้มีกันทั่วโลกนี่สิ


ไม่ทันชัวร์ โลกเละก่อนแน่นอนนน!

ใช่ ๆ เราอาจต้องพึ่งความช่วยเหลือจากมานุดต่างดาว ของเขากะหล่วย

กลุ่มคนที่มากอบกู้โลก (หรือพาเอเลี่ยนมาทำลายโลกวะ)


ปล. ถ้าเค้ามีปัญญาติดต่อได้จริงนะ เพราะหลัง ๆ เห็นแหลกันแต่เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ



หัวข้อ: Re: มหกรรมโครงการยักษ์พิทักษ์โลก Protect the earth
เริ่มหัวข้อโดย: sati ที่ 27 เมษายน 2554 23:53:32
 ;D ;D ;D
พยายามกันคนละไม้ละมือ  ไม่ต้องรอพึ่งใครหรอกค่ะน้าแม็ก พึ่่งตัวเองนั่นแหละดีที่สุด
ร่วมด้วยช่วยกัน รักษ์เรารักษ์โลกจ้า  ^-^ ขอให้ทุกคนเข้มแข็ง มีสติตั้งมั่นนะคะ
เชื่ออย่างมีเหตุผลค่ะ  รับฟังและใตร่ตรองให้ดีในทุก ๆ เรื่องนะคะ (:HIT:)