[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 02 กันยายน 2560 12:38:53



หัวข้อ: สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส) วัดสุปัฏนารามฯ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 02 กันยายน 2560 12:38:53
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/49733113249142_1_215_696x369_1_.jpg)

สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส)
วัดสุปัฏนารามฯ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

“สมเด็จพระมหาวีรวงศ์” (อ้วน ติสโส) วัดสุปัฏนารามฯ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี พระนักปฏิบัติวิปัสสนา และพระเกจิอาจารย์ที่มีลูกศิษย์ลูกหาเลื่อมใสจำนวนมาก

เป็นศิษย์เอกที่ได้รับถ่ายทอดวิชาทั้งทางด้านพระปริยัติธรรมและปฏิบัติธรรมจากพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) วัดบรมนิวาส

นามเดิม อ้วน แสนทวีสุข เกิดเมื่อปี พ.ศ.2410 ที่หมู่บ้านหนองแคน อ.เมือง จ.อุบลราชธานี

อายุ 19 ปี บรรพชาที่วัดบ้านสว่าง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

ย้ายไปจำพรรษาที่วัดศรีทอง มีพระเทวธัมมี (ม้าว) เป็นเจ้าอาวาส เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและอักษรสมัย ท่านได้รับการสนับสนุนให้ศึกษาเล่าเรียน

จนอายุครบบวช เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2449 เข้าพิธีอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดศรีทอง มีพระเทวธัมมี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระโชติปาลเถร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ เป็นอุทเทสาจารย์ ได้รับฉายา “ติสโส”

หลังจากบวชแล้วได้อยู่รับใช้อุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์และศึกษาพระธรรมวินัยที่วัดศรีทองโดยตลอดจนพระอุปัชฌาย์มรณภาพ
 
อายุ 24 ปี ท่านติดตามพระอุบาลีคุณูปมาจารย์มาอยู่กรุงเทพฯ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยต่อ และสามารถสอบเปรียญโทเทียบ 5 ประโยคได้ จากนั้นท่านเดินทางกลับไปจังหวัดอุบลราชธานีเข้าประจำทำหน้าที่ครูสอนบาลีไวยากรณ์ที่โรงเรียนนักธรรม ซึ่งพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ก่อตั้งขึ้น

ในการก่อตั้งโรงเรียนนักธรรมของท่านในครั้งนั้น สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ยังเป็นพระมหาอ้วน ซึ่งเป็นแม่แรงและกำลังสำคัญ การกลับมายังจังหวัดอุบลราชธานี นอกจากจะกลับมาเป็นครูสอนบาลีไวยากรณ์แล้ว ท่านยังได้รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยคณะมณฑลอีกตำแหน่งด้วย

“สมเด็จพระมหาวีรวงศ์” ทุ่มเทการสอนพระภิกษุและสามเณร เมื่อครั้งพระอาจารย์เดินทางไปเปิดตั้งโรงเรียนในมณฑลอีสานได้รับความทุกข์ยากลำบากยิ่ง

การปฏิบัติธรรมสมัยแรกท่านเคยศึกษาอยู่กับพระอาจารย์ และได้รับอุบายธรรมจากพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม พระอาจารย์ทอง อโสโก หลวงปู่ฝั้น อาจาโร และท่านพ่อลี วัดอโศการาม ซึ่งได้รับหลักธรรมอันมั่นคงที่สุด

ช่วงสุดท้ายของชีวิต ท่านได้มาจำพรรษาที่จังหวัดอุบลราชธานี หันจิตเข้าแนวทางปฏิบัติธรรมอย่างแน่วแน่ด้วยอาการอาพาธ จึงมองเห็นคุณอันยิ่งใหญ่ในการภาวนาธรรม ท่านหายเพราะธรรมโอสถโดยแท้

แต่ด้วยสังขารเป็นของไม่เที่ยง สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ละสังขารด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2499 สิริอายุ 89 ปี พรรษา 68

ถึงสังขารจะดับสลาย แต่คุณงามความดีและวัตถุมงคลดังของท่านยังคงอยู่

วัตถุมงคลของท่านหลายรุ่น ปัจจุบันได้รับความนิยมจากนักสะสม อาทิ เหรียญรุ่นแรกปี 2477 เนื้อทองแดงกะไหล่เงิน เป็นต้น


จากคอลัมน์อริยะโลกที่ 6