[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 09 พฤษภาคม 2554 19:23:13



หัวข้อ: นันทสูตร
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 09 พฤษภาคม 2554 19:23:13
(http://www.seesod.com/storage36/VICc5fTtPp1304430989/l.jpg)

http://www.fungdham.com/download/song/allhits/21.wma



(http://uyfz9q.bay.livefilestore.com/y1puwwLyY1hQGevKbPEFyCjgBoQn3NSNeo-y8gjotl_lxJ--glH5i3PgMx-t56j5hxrXEdhp0j_jvxReSFv7ti_moNX3z_jaCAr/hyooneunhye.gif?psid=1)



นันทสูตร ว่าด้วยเรื่องบอกคืนสิกขาลาเพศ (๑)
ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล ท่านพระนันทะพระภาดาของพระผู้มีพระภาคเจ้าโอรสของพระมาตุจฉาได้
บอกแก่ภิกษุเป็นอันมากอย่างนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ไม่สามารถจะทรงพรหมจรรย์อยู่ได้ผมจะบอกคืนสิกขาลา

เพศ ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับถวายบังคมแล้วนั่งอยู่ ณ. ที่ควรส่วนข้างหนึ่งครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญท่านพระนันทะพระภาดาของพระผู้มีพระภาคเจ้าโอรสของพระมาตุจฉาได้บอกแก่ภิกษุเป็นอันมากอย่างนี้ว่าดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ผมไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ไม่สามารถจะทรงพรหมจรรย์ ผมจะบอกคืนสิกขาลาเพศลำดับนั้นแลพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุรูปหนึ่งว่า มาเถิดภิกษุเธอจงเรียกนันทภิกษุมาตามคำของเราว่า ดูก่อนท่านนันทะ พระศาสดารับสั่งให้หา
ท่านภิกษุนั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วเข้าไปหาท่านพระนันทะถึงทีอยู่ครั้นแล้ว ได้กล่าวกะท่านพระนันทะว่า ดูก่อนท่านนันทะพระศาสดารับสั่งให้

หาท่านท่านพระนันทะรับคำภิกษุนั้นแล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว  นั่งอยู่ ณ .ที่ควรส่วนข้างหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสถามท่านพระนันทะว่าดูก่อนนันทะได้ยินว่าเธอได้บอกแก่ภิกษุเป็นอันมากอย่างนี้ว่าดูก่อนท่านผู้มีอายุทั้งหลายผมไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ฯ ลฯ ผมจักบอกคืนสิกขาลาเพศ ดังนี้จริงหรือท่านพระนันทะกราบทูลว่าจริงพระเจ้าข้านันทสูตรว่าด้วยเรื่องบอกคืนสิกขาลาเพศ (๒)ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงจับท่านพระนันทะที่แขนแล้วทรงหายจากพระวิหารเชตวันไปปรากฏในเหล่าเทวดาชั้นดาวดึงส์เหมือนบุรุษมีกำลังพึงเหยียดแขนที่คู้  หรือพึงคู้แขนที่เหยียดฉะนั้นก็สมัยนั้นแล นางอัปสรประมาณ ๕๐๐ มีเท้าดุจนกพิราบมาสู่ที่บำรุงของท้าวสักกะจอมเทพครั้งนั้นแลพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะท่านพระนันทะว่า ดูก่อนนันทะ เธอเห็นนางอัปสร ๕๐๐ เหล่านี้ผู้มีเท้าดุจนกพิราบหรือไม่ท่านพระนันทะทูลรับว่า...........เห็นพระเจ้าข้า

พ. ดูก่อนนันทะ  เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉนนางสากิยานีผู้ชนบทกัลยาณีหรือนางอัปสรประมาณ ๕๐๐ เหล่านี้ซึ่งมีเท้าดุจ
นกพิราบไหนหนอมีรูปงามกว่า น่าดูกว่า หรือน่าเลื่อมใสกว่า
น.ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นางลิง ตัวมีอวัยวะใหญ่น้อยถูกไฟไหม้หูและจมูกขาด ฉันใด นางสากิยานีผู้ชนบทกัลยาณีก็ฉันนั้นแลเมื่อ
เทียบกับนางอัปสรประมาณ  ๕๐๐ เหล่านี้ย่อมไม่เข้าถึงเพียงหนึ่งเสี้ยวไม่เข้าถึงเพียงส่วนหนึ่งของเสี้ยวไม่เข้าถึงเพียงการเอาเข้าไปเปรียบว่าหญิงนี้

เป็นเช่นนั้น ที่แท้นางอัปสรประมาณ ๕๐๐ เหล่านี้มีรูปงามกว่า น่าดูกว่าและน่าเลื่อมใสกว่าพระเจ้าข้า
พ. ยินดีเถิดนันทะ อภิรมย์เถิดนันทะ เราเป็นผู้รับรองเธอ
เพื่อให้ได้นางอัปสรประมาณ ๕๐๐ ซึ่งมีเท้าดุจนกพิราบ
น. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญถ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับรอง
ข้าพระองค์เพื่อให้ได้นางอัปสรประมาร ๕๐๐ ซึ่งมีเท้าดุจนกพิราบไซร้ข้าพระองค์จักยินดีประพฤติพรหมจรรย์พระเจ้าข้า

ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงจับท่านพระนันทะที่แขน
แล้วทรงหายจากเทวดาชั้นดาวดึงส์ไปปรากฏที่พระวิหารเชตวันเหมือนบุรุษมีกำลังพึงเหยียดแขนที่คู้ หรือ คู้แขนเหยียด ฉะนั้น ภิกษุทั้งหลายได้สดับข่าวว่าท่านพระนันทะพระภาดาของพระผู้มีพระภาคเจ้าโอรสของพระมาตุจฉาประพฤติพรหมจรรย์ เพราะเหตุแห่งนางอัปสรได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้รับรองท่านเพื่อให้ได้นางอัปสรประมาณ๕๐๐ ซึ่งมีเท้าดุจนกพิราบครั้งนั้นแล ภิกษุทั้งหลายผู้เป็นสหายของท่านพระนันทะ

ย่อมร้องเรียกท่านพระนันทะด้วยวาทะว่าเป็นลูกจ้าง และด้วยวาทะว่าผู้อันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงไถ่มาว่าได้ยินว่าท่านพระนันทะเป็นลูกจ้างได้ยินว่าท่านพระนันทะเป็นผู้ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงไถ่มาท่านประพฤติพรหมจรรย์เพราะเหตุนางอัปสร ได้ยิว่า  พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเป็นผู้รับรองท่าน เพื่อให้ได้นางอัปสร ๕๐๐ ซึ่งมีเท้าดุจนกพิราบครั้งนั้นแล ท่านพระนันทะอึดอัด ระอา เกลียดชังด้วยวาทะว่าเป็นลูกจ้างและด้วยวาทะว่าเป็นผู้อันพระผู้

มีพระภาคเจ้าทรงไถ่มาของพวกภิกษุผู้เป็นสหาย จึงหลีกออกจากหมู่อยู่ผู้เดียวไม่ประมาทมีความเพียรมีใจเด็ดเดี่ยวอยู่ ไม่นานนักก็กระทำให้แจ้งซึ่งที่สุดแห่งพรหมจรรย์อันยอดเยี่ยมที่กุลบุตรทั้งหลายออกบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการนั้นด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่  รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว
พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำสำเร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มีก็ท่านพระนันทะได้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่งในจำนวนพระอรหันต์ทั้งหลายด้วยเหตุนั้นพระศาสดาจึง สถาปนาท่านพระนันทะนั้นไว้ในเอตทัคคะว่าดูก่อนภิกษุทั้งหลายบรรดาภิกษุผู้สาวกของเรา ผู้คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลายท่านนันทเป็นเลิศพระภาดา คือ โอรสร่วมบิดาเดียวกันกับพระผู้มีพระภาคเจ้าพระมาตุจฉา คือ พระน้านางนามว่า มหาปชาบดีโคตมี



วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554



http://www.facebook.com/itsariyathanakorn (http://www.facebook.com/itsariyathanakorn)

http://twitter.com/soka45 (http://twitter.com/soka45)

(:LOVE:)ขอเชิญดาวน์โหลดไฟล์ Doc ไปเผยแพร่ (:LOVE:)