[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 15 ตุลาคม 2560 11:43:06



หัวข้อ: หลวงปู่ทองรัตน์ กันตสีโล วัดป่าบ้านคุ้ม ต.โคกสว่าง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 15 ตุลาคม 2560 11:43:06
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/20084688357180_view_resizing_images_5_.jpg)
หลวงปู่ทองรัตน์ กันตสีโล
วัดป่าบ้านคุ้ม ต.โคกสว่าง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี

"มีวินัยเป็นวัตร วินัยจะทำให้เกิดศีลบริสุทธิ์ ทำศีลให้บริสุทธิ์ ศีลจะนำไปสู่การเป็นสมาธิ เกิดสมาธิจะนำไปสู่การเกิดปัญญา ปัญญาจะเกิดขึ้นเอง รักษาวินัยให้แน่วแน่ ตั้งจิตให้เป็นหนึ่ง"

คำปรารภของ "หลวงปู่ทองรัตน์ กันตสีโล" แห่งวัดป่าบ้านคุ้ม ต.โคกสว่าง อ.สำโรง จ.อุบลราชธานี พระวิปัสสนาจารย์สายอีสานที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนเป็นอย่างมาก

มีนามว่า ทองรัตน์ ต้นตระกูล เป็นชาวบ้านชี้ทวน อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ก่อนอพยพย้ายถิ่นไปสู่บ้านสามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม

ในวัยเด็กท่านเป็นคนค่อนข้างจะ หัวดื้อ ย่างเข้าสู่วัยหนุ่มชอบไปทางนักเลงสุรา จากชีวิตคฤหัสถ์ที่สนุกสนานคึกคะนอง แต่ก็ช่วยครอบครัวทำมาหากินอย่างขยันขันแข็ง จนล่วงเลยวัยเบญจเพสชีวิตของท่านจึงเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์

เมื่ออายุประมาณ 26 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดบ้านสามผง โดยมีเจ้าอาวาสวัดบ้านสามผงเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า กันตสีโล

สนใจและตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรม ด้วยความมุ่งมั่นเอาใจใส่ แตกฉานในการสวดปาติโมกข์

ในพรรษาที่ 6 ได้ยินเรื่องราวของ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล ครูบาอาจารย์ในสายวิปัสสนากัมมัฏฐานที่ จ.สกลนคร ซึ่งพำนักอยู่ที่วัดป่าสุทธาวาส และวัดป่าในละแวกเขต อ.เมือง จ.สกลนคร เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านเป็นอย่างมาก

จึงเข้านมัสการและถามปัญหาในข้อวัตรปฏิบัติ ปกิณกธรรมและวิสุทธิมรรค ก่อนฝากตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์อวน ปคุโณ แห่งวัดจันทิยาวาส จ.นครพนม

ท่านฝึกการเจริญภาวนา โดยหลวงปู่มั่นได้แนะนำว่า "รู้ไม่รู้ไม่สำคัญ ขอให้ทำจิตใจให้รู้จักจิตว่าสงบหรือไม่สงบ"

นอกจากนี้ ท่านออกธุดงค์ไปตามหุบห้วยภูผาป่าช้าต่างๆ ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระบูรพาจารย์ เช่น ห้ามเทศน์เด็ดขาด ให้ระวังสำรวม ให้อยู่ตามต้นไม้

เป็นผู้เคร่งครัดในข้อวัตรปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง ท่านเป็นผู้มักน้อย สันโดษ และปฏิบัติมาก พยายามพากเพียรภาวนาอยู่อย่างสม่ำเสมอ เป็นพระที่ไม่ยึดติดในเสนาสนะ จำพรรษาแต่ละแห่งไม่นานมักจะย้ายวัดหรือออกธุดงค์ตามป่าเขาเป็นส่วนใหญ่ ในพรรษาต่อๆ มาท่านได้ธุดงค์ไปประเทศพม่ากับพระอาจารย์มี อีกทั้งยังธุดงค์ไปทั่วภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคกลาง

ในปีหนึ่งท่านธุดงค์ไปถึงบ้านคุ้ม ต.หนองไฮ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี (ปัจจุบันบ้านคุ้มขึ้นอยู่กับ ต.โคกสว่าง อ.สำโรง) ซึ่งเป็นหมู่บ้านชนบท

คืนแรกที่มาถึงท่านไปบำเพ็ญภาวนาและปักกลดที่กลางป่าท้ายหมู่บ้าน ซึ่งกลางป่าแห่งนี้มีเนินดินกว้างประมาณ 6 ไร่ เนินแห่งนี้รกทึบ หลวงปู่ทองรัตน์ไปอาศัยโคนไม้ในดงนี้เป็นที่บำเพ็ญภาวนา

ต่อมาตัดสินใจสร้างเป็นวัดในพื้นที่แห่งนี้ แต่ระยะแรกก็เพียงถากป่าให้โล่งพอได้อาศัย นานวันเข้าก็มีผู้เลื่อมใสมาเป็นศิษย์มากขึ้น

ส่วนการสอนพระภิกษุ-สามเณร หลวงพ่อเน้นข้อวัตรปฏิบัติธรรมวินัย ให้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย ให้สำรวมระวังรวมทั้งธุดงควัตร การปฏิบัติภาวนา การมีสติ เป็นคนมักน้อย สันโดษ

ก่อนหน้าที่หลวงปู่จะมรณภาพ ศิษย์คนสำคัญ คือ พระอาจารย์บุญมาก แห่งภูมะโรง แขวงนครจำปาสัก ประเทศลาว ได้เดินทางจากประเทศลาวมานมัสการหลวงปู่กลางพรรษา

เหตุที่ได้เดินทางมาทันงานศพเนื่อง จากเกิดนิมิตภูมะโรงสั่นสะเทือน 3 ครั้ง จึงคิดถึงอาจารย์ทองรัตน์มาก และคิดว่าน่าจะมีเหตุร้าย จึงเดินทางมารีบด่วน โดยไม่มีใครแจ้งข่าว

หลวงปู่ทองรัตน์ละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2499 สิริอายุ 68 พรรษา 42

อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์