หัวข้อ: หลวงปู่เอก สิรินธโร วัดปากเหมือง อ.นาโยง จ.ตรัง เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 12 พฤศจิกายน 2560 11:48:57 (http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/71954629611637_view_resizing_images_1_.jpg) หลวงปู่เอก สิรินธโร - "พระครูสุทธิโสภณ" วัดปากเหมือง อ.นาโยง จ.ตรัง "พระครูสุทธิโสภณ" หรือ "หลวงปู่เอก สิรินธโร" อดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนาภิมุข (วัดปากเหมือง) และอดีตเจ้าคณะ อ.นาโยง จ.ตรัง พระเถระชื่อดัง มีนามเดิมว่า เอก ทองหนัน เกิดเมื่อวันที่ 27 พ.ย.2459 บ้านเดิมอยู่ที่หมู่ 6 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง อุปสมบทที่วัดพระพุทธ สิหิงค์ อ.นาโยง เมื่อปี 2479 มีพระครูสถิตสารคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนาภิมุข เป็นพระอุปัชฌาย์ พระหนู ธัมมสโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระหล้อม ธัมมโชโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่านมีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะพัฒนาวัดและชุมชนให้มีความเจริญก้าวหน้า งานสำคัญในขั้นต้นคือ การริเริ่มจัดตั้ง "มูลนิธิสุทธิโสภณ" มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษาแก่เยาวชน บำรุงการศึกษาปริยัติธรรม และช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ด้านการศึกษา จัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก พร้อมกับริเริ่มจัดตั้งโรงเรียนมัธยมประจำตำบล คือโรงเรียนสวัสดิ์รัตนาภิมุข (สรม.) และยังจัดหาทุนเพื่อการศึกษาแก่นักเรียนที่ขาดแคลน ริเริ่มจัดตั้งและอำนวยการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ วัดรัตนาภิมุข สำหรับผลงานด้านสาธารณสุข คือ การจัดทำโครงการน้ำประปาหมู่บ้าน โดยใช้น้ำดิบจากคลองนางน้อยด้านหลังวัด และใช้พื้นที่วัดเป็นสถานที่ผลิต น้ำประปา แล้วแจกจ่ายน้ำให้ชาวบ้านโดยไม่คิดค่าตอบแทน ภายหลังเมื่อมีการใช้น้ำมากขึ้นจึงต้องจัดเก็บค่าน้ำ แล้วขุดบ่อบาดาลขยายการผลิตน้ำประปาหมู่บ้านในเขตหมู่ที่ 3 อีกทั้งยังเป็นนักอนุรักษ์ที่มีสายตากว้างไกล มองเห็นคุณค่าของต้นไม้เก่าแก่ จึงร่วมมือกับชาวบ้านช่วยกันดูแลสวนป่าไม้ยาง 2 แห่ง คือ ที่วัดรัตนาภิมุข และที่ริมถนนสายนาโยง-ย่านตาขาว ในขณะที่ด้านการฟื้นฟูอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ท่านได้จัดกิจกรรมในวันสำคัญต่างๆ และส่งเสริมเผยแพร่การละเล่นตามประเพณีพื้นบ้าน เช่น หนังตะลุง มโนราห์ เป็นต้น นอกจากนี้ ท่านยังเป็นผู้มีส่วนผลักดันให้มีการจัดตั้งอำเภอนาโยงได้สำเร็จในเวลาไม่นานนัก เพื่อช่วยให้ชาวบ้านสามารถติดต่อกับทางการได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ท่านมีผลงานนานัปการ ที่สร้างสรรค์ประโยชน์แก่ ส่วนรวม รวมทั้งสร้างความเจริญก้าวหน้าให้วัดและชุมชน ที่สำคัญคือช่วยชาวบ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จนได้รับการยกย่องเป็นเกียรติประวัติแห่งการอุทิศตนเพื่อชุมชนต่างๆ มากมาย อย่างไรก็ตาม หลวงปู่เอกแม้จะมีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงและมีอาพาธด้วยโรคเบาหวานเพียงเล็กน้อย แต่ด้วยความชราภาพทำให้ท่านต้องเข้ารับการรักษาอาการอาพาธในปี 2553 ถึง 2 ครั้ง ทั้งนี้ ก่อนที่หลวงปู่เอกจะมรณภาพท่านได้สั่งเสียให้ผู้ใกล้ชิดสืบสานต่อไป มีอยู่ 4 เรื่องหลักด้วยกัน ได้แก่ ปรับปรุงกุฏิของท่าน ซึ่งใช้เมรุเผาศพเก่ามาดัดแปลงเพื่อจัดทำเป็นหอพระไตรปิฎก ใช้เป็นแหล่งรวบรวมหนังสือและเอกสารสำคัญต่างๆ ทางพระพุทธศาสนา ก่อสร้างศาลาอเนกประสงค์ที่ยังไม่แล้วเสร็จ จัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นประจำอำเภอนาโยง และสานต่องานของมูลนิธิสุทธิโสภณ ที่ท่านได้ก่อตั้งขึ้นมานับตั้งแต่สมัยสงคราม โลกครั้งที่สอง และการดูแลการศึกษาของโรงเรียนสวัสดิ์รัตนา ภิมุข (สรม.) ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาประจำอำเภอนาโยง ในช่วงบั้นปลายชีวิต หลวงปู่เอกเข้ารับการรักษาอาการอาพาธด้วยโรคชราที่โรงพยาบาลตรัง เป็นระยะเวลา 1 เดือนเศษ กระทั่งเมื่อเย็นวันที่ 23 พ.ย.2553 มรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 94 ปี พรรษา 74 อริยะโลกที่6 ข่าวสดออนไลน์ |