[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: sometime ที่ 27 เมษายน 2553 15:44:06



หัวข้อ: เรื่องควรคำนึงเกี่ยวกับ ภพ - ชาติ
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 27 เมษายน 2553 15:44:06
(http://www.seesod.com/storage17/K3ZFs3DcJ51254910597/o.jpg)

http://www.fungdham.com/download/song/allhits/17.wma


(:LOVE:)ถ่ายภาพประกอบเนื้อหาโดย.....ข้าพเจ้า(บางครั้ง)เจ้าค่ะ (:LOVE:)



อวย เกตุสิงห์ ผู้รวบรวม๑๖ ซอย พระราชครู ถนนพหลโยธิน ก. ท. ๔เมษายน ๒๕๑๒



คพฺเมเก อุปปชฺชนฺติ นิรยํ ปาปกมฺมิโน สคคํ สุคติโน ยนฺติ ปรินิพฺพนฺติ อนาสวา



.....................................คำแปล..................................



บางจำพวกย่อมเกิดในครรภ์ ผู้มีกรรมเป็นบาป ย่อมไปนรก ผู้มีกรรมเป็นเหตุแห่งสุคติ ย่อมไปสวรรค์ ผู้ไม่มีอาสวะ ย่อมปรินิพพาน
(ปาป วรรค ธรรมบท)



ปัญหาข้อหนึ่งซึ่งจะต้องเกิดขึ้นในความคิดของคนทุกคนที่รู้จักคิดอย่างน้อยก็ในตอนใดตอนหนึ่งของชีวิต คือ ความตายเป็นอย่างไรหรือ เมื่อตายแล้วเราไปไหนโดยลำพังคนธรรมดาย่อมไม่อาจตอบคำถามนี้ได้เพราะ ยังไม่เคยตาย หรือจำไม่ได้ว่าเคยตายมาแล้วและคนที่พอจะติดต่อกันได้และตายไปแล้ว ก็ยังไม่ปรากฏอย่างน่าเชื่อโดยสมบูรณ์ว่ามีใครกลับมาบอกเล่าให้ทราบราย ละเอียด มีผู้ที่ ตายไปชั่วระยะ แล้วฟื้นขึ้นมาเล่าเหตุการณ์แปลก ๆ แต่ก็ไม่ล่วงพ้นข้อสงสัยว่า ที่เล่านั้นเป็นเรื่องที่ ปรากฏ ขึ้นเองเนื่องจากสมองขาดออกชิเจนระหว่างที่ ตายไปชั่วขณะ
ที่มาอีก แห่งหนึ่งเกี่ยวกับความรู้เรื่องความตายคือ คนที่ระลึกชาติได้และ จำ เหตุการณ์ระหว่างการตายกับการเกิดใหม่มาเล่าให้ฟัง แต่ก็มีข้อสงสัยอยู่เสมอว่า ผู้นั้นพูดเอาเองหรือพูดตามที่ผู้อื่นสอน หรือพูดตามที่เข้าใจว่าเป็นความจริง
เรื่องระลึกชาติที่ปรากฏบ่อย ๆ ในหน้าหนังสือพิมพ์ บางเรื่องก็เหลือเชื่อ สถาบันวิทยาศาสตร์บางแห่งในประเทศฝ่ายตะวันตก มีความสนใจในเรื่องการกลับชาติมาก จนถึงกับลงทุนอย่างไม่จำกัดเพื่อสืบเสาะและสอบสวน แต่ก็ยังไม่อาจให้ข้อยุติประการใด เพราะเหตุที่ยังไม่สิ้นความสงสัยในถ้อยคำของผู้ให้การนั่นเอง.................................



หัวข้อ: Re: เรื่องควรคำนึงเกี่ยวกับ ภพ - ชาติ
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 27 เมษายน 2553 15:46:04
(http://www.seesod.com/storage17/K3ZFs3DcJ51254910597/o.jpg)


เมื่อคนธรรมดาไม่อาจจะตอบปัญหาได้ คนส่วนมากก็ต้องหันไปหาความรู้จากท่านต่าง ๆ ที่เป็นศาสดา ชาวพุทธก็ต้องอาศัยพระพุทธเจ้า พระพุทธศาสนาสอนว่า คนเรามีกรรมเป็นของ ๆ ตนเป็นผู้รับผลของกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัยหากทำกรรมใดไว้ จะดีหรือชั่วก็ตาม ย่อมต้องรับผลของกรรมนั้น กรรมเป็นปัจจัยจำแนกสัตว์ต่าง ๆ ตราบใดที่เรายังไม่หมดกิเลส ตราบนั้นกรรมก็จะส่งให้ไปเกิด ในที่ดีหรือชั่วแล้วแต่กรรมที่ทำไว้ ต่อเมื่อหมดสิ้นกิเลสอาสวะแล้ว จึงไม่ต้องเกิดอีกต่อไป คือ เข้าสู่ปรินิพพาน
ถ้าใครเชื่อตามนี้โดยสนิทใจ ก็เป็นอันหมดห่วงได้ ไม่ต้องสงสัยว่าตายแล้วเป็นอย่างไร เพราะพระบรมศาสดาทรงบอกไว้อย่างแจ้งชัดแล้วว่าต้องไปเกิดตามกรรม กรรมของใครผู้นั้นย่อมรู้ดีกว่าผู้อื่นเพราะฉะนั้น ก็รู้ดีด้วยว่าตายแล้วจะไปไหน อย่างน้อยก็รู้ว่าไปดีหรือไปชั่ว
ในสมัยก่อนคนทั่วไปเชื่อมั่นในข้อนี้ ไม่กล้าทำบาปเพราะกลัวไปตกนรก และเพียรทำบุญเพื่อจะได้ไปสวรรค์ อาชญากรรมร้ายแรงจึงมีน้อย มาถึงสมัยนี้คนหันมาถือคติวัตถุนิยมตามวิทยาศาสตร์ ยอมรับแต่สิ่งที่เห็นได้ พิสูจน์ได้ เลยชักสงสัยในความเชื่อถือแต่คติเดิม กลับไปนิยมในทางที่ว่าตายแล้ว
อะไร ๆ ก็สลายแยกแยะไปตามร่างกายที่เน่าเปื่อย แม้พระภิกษุบางรูปก็ปรับตนเข้ากับสมัยนิยม สอนไปในเชิงว่านรกสวรรค์มีอยู่แต่ในปัจจุบัน เป็นเรื่องรู้อยู่แก่ใจบ้าง เป็นเรื่องความทุกข์หรือความสุขตามคติโลกบ้าง เรื่องปรโลกไม่มีกล่าวถึง
ผล ของการผันแปรเช่นนี้คือ คนไม่กลัวบาป เกรงแต่กฎหมาย เมื่อใดเห็นว่ามือของกฎหมายจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ก็กระทำการที่ต้องห้ามตามแต่คนจะได้ประโยชน์หรือได้ความพอใจ บ้านเมืองจึงมากไปด้วยเรื่องประทุษร้าย แม้ฆ่ากันด้วยเหตุเพียงเล็กน้อย หรือเรื่องทุจริตคดโกงฉ้อราษฎร์บังหลวงโดยไม่กลัวตกนรก สังคมก็ปั่นป่วน เพราะคนไม่เห็นผู้ทำชั่วต้องรับผลร้าย และไม่เชื่อเหมือนแต่ก่อนว่าผู้ทำบาปนั้นแม้ไม่ได้รับผลในชาตินี้ที่อาจเห็นได้
ก็จะต้องได้รับในชาติต่อ ๆ ไป เรื่องทำความดีก็หมดความเชื่อถือโดยทำนองเดียวกัน


หัวข้อ: Re: เรื่องควรคำนึงเกี่ยวกับ ภพ - ชาติ
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 27 เมษายน 2553 15:47:34
(http://www.seesod.com/storage17/K3ZFs3DcJ51254910597/o.jpg)


หากคิดดูเพียงเล็กน้อยก็จะเห็นได้ว่า วิธีหนึ่งที่จะแก้ภาวะการเสึ่อมโทรมเช่นนี้คือการชักนำให้คนกลับไปเชื่อใน เรื่องตายแล้วเกิด
จะได้กลัวบาปกลัวนรกซึ่งหนีไม่พ้น ไม่เหมือนกับการลงโทษทางโลกซึ่งมีทางหลบเลี่ยงได้มากมาย
ผู้เขียนซึ่งเป็นผู้รวบรวมเรื่องทั้งหลายในหนังสือนี้ ได้รับการศึกษามาในทางแพทย์และทางวิทยาศาสตร์ในสมัยหนุ่ม ๆ ก็มีความเข้าใจคล้ายคนหนุ่มสาว และคนแก่บางคน ในปัจจุบันนี้ว่า เมื่อเราตายแล้วก็จบเรื่องของเราไปตอนหนึ่ง ตอนต่อไปเป็นเรื่องของลูก ซึ่งรับทอดร่างกายและจิตใจไปจากเราและคู่ของเรา ถ้าไม่มีลูก เรื่องก็จบถึงที่สุดเคยคิดว่าพระพุทธศาสนานั้นก็คล้ายศาสนาอื่น ๆ คือเป็นระบบปฏิบัติเพื่อให้เป็นคนดีมีประโยชน์แก่สังคม นรกสวรรค์นั้นเป็นเรื่องสมมุติเพื่อขู่หรือจูงใจคนที่มีการศึกษาน้อย หรือไม่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะการเรียนวิชาภูมิศาสตร์เกี่ยวกับประวัติของโลก ชีววิทยาเกี่ยวกับวิวัฒนาการของต้นไม้และสัตว์ และอินทรีย์เคมีเกี่ยวกับการหมุนเวียนของสารประกอบสิ่งมีชีวิต ส่งเสริมความเข้าใจดังกล่าวนี้ผู้เขียนเชื่อว่าผู้ที่รู้วิทยาศาสตร์ทั่ว ๆ ไปก็คงเข้าใจอย่างเดียวกัน
ต่อมาเมื่อผู้เขียนเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ได้รู้เรื่องส่วนตัวของนักวิทยาศาสตร์ชั้นสูง ๆ หลายคนทั้งโดยส่วนตัวและโดยทางเอกสารได้ทราบว่าท่านเหล่านั้นยกย่องว่าพระพุทธศาสนาเป็นคำสอนที่ดีที่สุด และถูกหลักเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มากที่สุด ก็เกิดความสนใจหันมาศึกษาหาเหตุผลแห่งความ
เห็นนั้น ๆโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้บวชเรียนในสำนักที่มีการอบรมสั่งสอนอย่างดีทั้งในทางปริยัติและ ปฏิบัติ ประกอบกับได้ศึกษากับพระอาจารย์กัมมัฏฐานชั้นสูง ๆ อีกหลายท่าน ก็ได้เปลี่ยนความเห็นไปในทางที่ถูกต้อง กล่าวคือเห็นว่าคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นเป็นสัจจะเที่ยงแท้ และลึกล้ำเหนือวิทยาศาสตร์ วิธีของวิทยาศาสตร์นั้นอาศัยสัมผัสทั้งห้า
แม้จะใช้เครื่องช่วยเหลืออย่างดีวิเศษเพียงไร ก็ยังต้องแปลผลด้วยสัมผัสทั้งห้านั่นเอง......................................


หัวข้อ: Re: เรื่องควรคำนึงเกี่ยวกับ ภพ - ชาติ
เริ่มหัวข้อโดย: sometime ที่ 27 เมษายน 2553 15:50:44
(http://www.seesod.com/storage17/K3ZFs3DcJ51254910597/o.jpg)


อะไรที่ทำให้ตาเห็นไม่ได้ หูฟังไม่ได้ยิน จมูกดมไม่ได้กลิ่น ลิ้นชิมไม่รู้รส ผิวหนังแตะต้องไม่รู้สึก วิทยาศาสตร์ก็รับรู้
ไม่ได้เพราะไม่มีวัตถุพยานหรือทำซ้ำพิสูจน์กันไม่ได้
แต่วิธีของพระพุทธศาสนานั้น ใช้สัมผัสทั้งหก มีการใช้การงานของจิตด้วย ซึ่งใช้ได้ในเมื่อสัมผัสอื่น ๆ ไม่สามารถรับรู้
จริงอยู่ผลการศึกษาด้วยจิตนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัว ใครทำได้คนนั้นรู้ แต่วิธีนั้นสอนกันได้และใครที่ปฏิบัติตามอย่างจริงจังก็จะได้ผลเหมือน ๆ กับ
อาจารย์ผู้สอน นับว่ามีการถ่ายทอดและมีการพิสูจน์โดยทำช้ำได้เหมือนกัน
ผู้เขียนยังปฏิบัติไม่ได้ถึงขั้นที่จะรู้เห็นเองไปหมดทุก ๆ อย่าง แต่เท่าที่ทำได้ แม้เพียงเล็กน้อย ก็รู้สึกว่าผลเป็นที่น่าอัศจรรย์ และถูกต้องตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนไว้ ทั้งในด้านความรู้และด้านประยุกต์ ดังนั้นแม้ว่าจะยังไม่สามารถพิสูจน์ด้วยตนเองได้หมดทุก ๆ ข้อ โดยเหตุผลก็เห็น
สมควรรับว่าหลักสำคัญ ๆ ของพระพุทธศาสนานั้นคงจะไม่ผิดไปจากความจริง
หลักสำคัญประการหนึ่งคือการที่คนธรรมดา ที่ยังไม่สิ้นอาสวะ จะต้องเกิดอีกเมื่อตายไปแล้ว แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องพิสูจน์ยากดังที่กล่าวแล้วข้างต้นตามธรรมดาก็ต้องอาศัยความศรัทธาในพระสัมโพธิญาณเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดี ผู้เขียนมีความเห็นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่บุคคลบางคนซึ่งได้เผชิญกับ อมนุษย์ ผู้สิงสู่อยู่ในภพอื่น ๆ ก็ดี หรือผู้ที่เคยผ่านเข้าไปในภพดังกล่าวแล้วกลับมาได้ก็ดี อาจจะช่วยส่งเสริมความเชื่อถือในเรื่องเหตุการณ์ภายหลังตายได้ โดยเฉพาะถ้าการเล่าเรื่องนั้น ๆ มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือ
ผู้เขียนจึงได้ ใช้ความพยายามรวบรวมเรื่องเช่นว่านี้ ติดต่อมาเป็นเวลาร่วมยี่สิบปี โดยตั้งข้อจำกัดไว้อย่างหนักแน่นว่า บุคคลผู้เป็นต้นตอของเรื่องทั้งหลายจะต้องมีตัวมีตน เป็นผู้เชื่อถือได้ มีสติปัญญาในเกณฑ์ปกติ และเรื่องที่เล่าจะต้องมีข้ออ้างอิงพอสมควร ไม่ใช่กล่าวขึ้นมาลอย ๆ ในชั้นต้นนี้มีเรื่องเสนอได้รวม ๑๕ หัวข้อ จากผู้เล่า ๑๒ คน รวมทั้งผู้เขียนเองด้วย ผู้เขียนรู้จักผู้เล่าอย่างดีทุกคน นอกจากคนเดียว คือ
คุณสุวรรณา แจ้งมงคล ซึ่งรู้จักหลังจากที่ได้รับเรื่องแล้ว แต่ท่านผู้นี้ก็เป็นผู้คุ้นเคยอย่างสนิทกับท่านเจ้าคุณพระธรรมจินดาภรณ์ ซึ่งผู้เขียนเคารพนับถืออย่างยิ่ง ผู้เขียนได้แจ้งตำบลที่อยู่ของผู้เล่าทุกคนไว้ด้วย เพื่อว่าท่านผู้ใดประสงค์จะติดต่อก็จะกระทำได้ มียกเว้นอยู่แต่ท่านเจ้าของ
เรื่องที่สอง ญ. บ.ผู้เดียว ซึ่งไม่ประสงค์จะให้เปิดเผยตัวท่านด้วยเหตุผลเฉพาะ.
ในการเสนอเรื่องต่าง ๆ นี้ ทั้งผู้เล่าและผู้รวบรวมมีความตั้งใจที่จะเสนอข้อความจริงโดยไม่พยายามแสดง ความเห็นอะไรนอกเหนือไปจากเหตุผลธรรมดา ให้ท่านผู้อ่านพิจารณาเอาเองผู้รวบรวม คือผู้เขียนบทนำนี้ได้เพิ่มเติมหมายเหตุ ลงในตอนท้ายของเรื่องทุกเรื่อง เพื่อชี้ข้อที่ควรเอาใจใส่
หรือจุดที่มีน้ำหนักมากหรือน้ำหนักน้อยให้เห็นง่ายขึ้น ไม่ได้มีความประสงค์จะกล่อมเกลาจิตใจของท่านผู้ใดต้องการเพียงเพิ่มความกระจ่าง
ขึ้นเท่านั้น การเรียงลำดับเรื่อง ถือความสะดวกเป็นใหญ่........................................................


หัวข้อ: Re: เรื่องควรคำนึงเกี่ยวกับ ภพ - ชาติ
เริ่มหัวข้อโดย: เงาฝัน ที่ 27 เมษายน 2553 20:27:11


Buddhist Chant - Heart Sutra (Sanskrit) by Imee Ooi (http://www.youtube.com/watch?v=-c9-XaA2f00&feature=fvw#)
 (:LOVE:)   (:LOVE:)   (:LOVE:)