หัวข้อ: พระโฮอิชิ กับปีศาจขุนศึก ( แต่งจาก ประวัติศาสตร์ความแค้น 2 ตระกูลใหญ่ ) เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊ก ที่ 12 มกราคม 2561 15:44:45 (https://scontent.fbkk1-5.fna.fbcdn.net/v/t31.0-8/fr/cp0/e15/q65/26840950_1807762592589000_4113337050227347805_o.jpg?efg=eyJpIjoibCJ9&_nc_eui2=v1%3AAeEe_3dKx2ci_QwWzXZbLAwh-cr0g6BGAqVBIRAvzJkV_LZ6Yo8X2AA_BaW866t2loDrtSH-tjfmFCBAMpvXnqlnNU08LdTsfcxW9d2kt40ACu8tvGh4af050EXrK5lsYu4&oh=eb3c53a76e54187f66444f67a55ca3b1&oe=5AE81C0B)
พระโฮอิชิ กับปีศาจขุนศึก ตอน ๑ เรื่องราวที่เล่าต่อไปนี้่เป็นเรื่องของเหล่าดวงวิญญาณแค้นที่ไม่ยอมไปสู่สุคติ คือ ดวงวิญญาณของตระกูลเฮเคะ มีเรื่องอยู่ว่าในอดีตมีสองตระกูลใหญ่ที่ไม่ถูกกันมานานแต่บรรพบุรุษจนมาถึงลูกหลานจึงจงเกลียดจงชังกันมาตลอดและมักจะก่อสงครามกันระหว่างสองตระกูลนี้บ่อยครั้ง คือ เก็นจิ และ เฮเคะ (มินาโมโตะกับไทระ) ด้วยความบาดหมางที่เก็บมานาน เลยเกิดสงครามของสองตระกูลนี้อีกครั้ง หรือ สงคราม ปีเก็นเปย์ ทำให้ผู้คนล้มตายและฝ่ายตระกูลเฮเคะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้จึงพบจุดจบฆ่าล้างผลาญตระกูลแม้เจ้านายตัวน้อยของตระกูลที่เป็นทายาทก็ถูกสังหาร(พระจักรพรรดิน้อยเชื่อสายเฮเคะ ชื่อ อันโตกุ) วิญญาณของตระกูลรวมถึงญาติพี่น้องและข้าทาสบริวารจึงกลายเป็นวิญญาณแค้น เรื่องเล่านี้เป็นเรื่องเล่าที่นิยมเล่าขานโดยมีพระตาบอดเป็นผู้ที่เข้าไปใกล้กับโลกแห่งวิญญาณและถูกเหล่าวิญญาณนั้นตามล่าและรอดมาได้...จึงเป็นตำนานเล่ามาจนถึงปัจจุบัน เรื่องนี้มีอยู่ว่า สองตระกูลที่ยิ่งใหญ่คือ ตระกูลเฮเคะกับตระกูลเกนจิ เป็นสองตระกูลที่มีความแค้นต่อกันเกลียดชังกันมาแต่อดีตของบรรพบุรุษและมีรุ่นลูกหลานที่ต้องรับหน้าที่ในการบาดหมางครั้งนี้ จนถึงกลับมีสงครามฆ่าล้างตระกูลให้มันหมดจบลง โดยทำสงครามที่ทะเลช่องแคบชิโมะโนะเซกิ(หรือดันโนอุระ) เกิดฝ่ายตระกูลเฮเคะพ่ายแพ้ถูกสังหารทั้งตระกูลสิ้น เจ้านายตัวน้อยผู้เป็นทายาทคนรุ่นสุดท้ายของตระกูลก็จบชีวิตลง เหล่าวิญญาณของตระกูลเฮเคะยังคงวนเวียนอยู่และร้องด้วยเสียงที่น่าสยดสยองและกล่าวแต่คำว่า "ต้องล้างแค้น" มีผู้คนพบดวงไฟวิญญาณลอยไปมาในทะเลและชายหาดที่เป็นสมรภูมิ เหล่าวิญญาณตายโหงของตระกูลเฮเคะก็คอยหลอกหลอนชาวประมงที่แล่นเรือผ่านบริเวณนั้น บางทีจะพยายามจมเรือก็มี สร้างความเตือนร้อนชวนขนลุกแก่ชาวบ้านเป็นอันมาก เหล่าชาวบ้านจึงรวมตัวกันอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้พาดวงวิญญาณไปพบกับความสงบ และช่วยกันสร้างวัดชื่อว่า"อะมิดะจิ" ขึ้นในที่ของตระกูลเฮเคะเพื่อการสร้างกุศลครั้้งยิ่งใหญ่ให้แก่ตระกูลเฮเคะ จากนั้นก็ไม่มีดวงวิญญาณใดของตระกูลเฮเคะปรากฏตัวมาอีกเลย ดูเหมื่อนเรื่องจะจบแค่นี้ใช่ไหม ปรากฏว่ามันไม่ใช่ !! จนกระทั่งมีพระนิกายโจโด(สุึขาวดี)ตาบอดนามว่า "โฮอิชิ" มีความสามารถในการเล่นบิวะ(พิณญี่ปุน) และมีฝีมือเป็นที่ล่ำลือในความไพเราะ เขาสามารถขับกลอนเป็นบทเพลงอันไพเราะและน่าเศร้าชวนน้ำตาไหลในบทขับกล่อมกล่าวถึงตระกูลเฮเคะผู้น่าสงสาร เหล่าชาวบ้านล่ำลือจนมีผู้คนมาขอฟังกันมากมาย พระโฮอิชิมักจะร้องเพลงขับกล่อมให้เจ้าอาวาสฟังเสมอเพราะเจ้าอาวาสชื่นชอบในบทกวี แต่ต่อมาเจ้าอาวาสและพระภิกษุบางรูปถูกนิมนต์ไปสวดในพิธีศพ จึงมีพระโฮอิชิกับเด็กวัดไม่กี่คน ในตอนกลางคืนอากาศร้อนพระโฮอิชิจึงออกมานั่งเล่นพิณอยู่นอกที่กุฎิ ท่านบรรเลงบทกวีอยู่อย่างเพลินเพลิด จนกระทั่งไปสกิดต่อมเผือกของผีเข้า จนท่านสัมผัสได้ถึงว่าคนอยู่ใกล้ๆ ท่านกลัวตัวสั่นด้วยที่ตาบอดจึงกลัวและพยายามจะหนี "ท่านเป็นใคร...ท่านเป็นใคร..." หญิงสาววัยกลางคนแต่งกายแบบผู้มีอันจะกินด้วยเครื่องประดับและกิโมโนที่สวยงาม (จะด้วยฤทธีของผีทำให้พระเห็นในจิตได้ว่ารูปลักษณ์แบบนั้น) "ข้าน้อยขอนมัสการท่านพระโฮอิชิ" "โยมมีอันใดกับอาตมาหรือ" "ข้าน้อยได้ยินคำล่ำลือว่าที่วัดแห่งนี้มีพระตาบอดที่บรรเลงพิณได้ไพเราะและร้องบทเพลงกล่อมได้เป็นเลิศ" "โยมพูดเช่นนี้...." "คือว่าเจ้านายของข้าน้อยเป็นผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่มาประทับที่เมืองนี้ และได้ยินกิตติศักดิ์ของท่าน และเจ้านายของข้าจึงต้องการเป็นอันมากที่จะฟังเพลงพิณและบทขับกล่อมของท่าน จึงให้ข้าน้อยมารับท่านไปขับกล่อมให้ฟังเจ้าค่ะ" "ถ้าเป็นเช่นนั้น อาตมาก็ยินดี" จากนั้นหญิงสาวผู้เป็นสาวใช้ของผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ก็นิมนต์พระโฮอิชิขึ้นรถม้าและตนเองก็ขึ้นนั่งข้างคนขับรถ รถม้าวิ่งผ่านควันมากหลังวัดมาไม่นานก็ปรากฏคฤหาสน์อันใหญ่โตและโอ่อ่า สาวใช้พาพระโฮอิชิเข้าไปยังห้องโถงที่ใหญ่และสว่างด้วยแสงเทียน เหล่าผู้คนจำนวนมากนั่งตามที่นั่งของตนเองมากมาย แต่งกายด้วยเสื้อผ้าไหมอย่างดีทั้งชายและหญิง ที่นั่งตรงกลางห้องที่วางด้วยเบาะนุ่มๆ สาวใช้นิมนต์ให้พระโฮอิชินั่งบนเบาะนั้น ผ้าม่านที่ฝั่งหนึ่งขอห้องตรงหน้าพระโฮอิชิก็เปิดออก เด็กชายน่ารักวัย 8 ขวบ นั่งพร้อมกับเหล่าสาวใช้และแม่นมที่ดูแก่มีอาวุโส "นมัสการพระคุณเจ้า ข้านิมนต์ท่านมาในครั้งนี้ด้วยใคร่อยากจะฟังบทกล่อมและเสียงบิวะของท่านที่ล่ำลือ ท่านจะช่วยสนองแก่ข้าน้อยช่วยบรรเลงขับลำนำประวัติของตระกูลเฮเคะ พร้อมกับประสานเสียงบิวะได้หรือไม่" "ไ้ด้...อาตมายินดี..แต่ว่าบทขับลำนำของประวัติตระกูลนี้ ยาวมากคงเล่นไม่ได้พร้อมในช่วงค่ำคืนนี้ โยมช่วยบอกอาตมาว่าต้องการฟังตอนไหนของบทขับนี้" "เช่นนั้นข้าน้อยขอฟังตอนทำสงครามที่ดันโนอุระเลยล่ะกัน เป็นตอนที่น่าโศกสลดที่สุด" จากนั้นโฮอิชิก็เริ่มจับบิวะและดีดบรรเลง มือบรรเลงสัมผัสบนเส้นดีดดังสัมผัสกันจนเกิดเสียงที่เศร้าสร้อย...และค่อยๆรุนแรงขึ้นคล้ายเสียงคลื่นลมในทะเล และเสียงของดาบและกระบี่ เสียงธนู ผู้คนชมเชยกันถูกฝีมือของพระโฮอิชิที่บรรเลงได้เสมือนจริง แต่พอพระโฮอิิชิขับกล่อมมาถึงตอนที่ว่าเป็นจุดสำคัญของตอน "นักรบตระกูลเกนจิผู้ชนะในสงครามเข้าบุกคฤหาส์น... ธนูไฟยิงใส่ต้นไม้หลังคาและผู้คนล้มตายน่าสังเวชสยดสยอง ดิ้นทุรนทุรายไฟผลาญเผาไหม้ตายน่าเวทนา.... แม่นมนิืิอิโนะอะมะด้วยความภักดีจะรักษาเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลเฮเคะ...เธอเข้าอุ้มกอดเด็กน้อยไว้ในอ้อมกอดและพยายามหาทางออกจากคฤหาส์นที่เต็มไปด้วยไฟดั่งทะเลเพลิง " เด็กน้อยผู้นั่งเป็นประธานน้ำตาไหลริน ภาพแห่งอดีตปรากฏขึ้น หญิงสาวแก่วัยอาวุโสกั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวจึงไหลหลั่นเป็นสายธาร และเธอเข้ากอดเด็กน้อย...เหล่าสาวใช้เอาแขนเสื้อเช็ดน้ำตาและร้องไห้ด้วยความสังเวช ผู้คนให้ห้องโถงร้องไห้สะอึกสะอื้น พอบทขับกล่อมจบลง เด็กน้อยตบมือ "สมกับคำล่ำลือเสียจริง บทกล่อมและเพลงของท่านช่างหาฟังได้ยากยิ่ง เป็นบุญและที่ข้าน้อยได้ฟัง" "อย่าชมอาตมาเลยโยม แค่อาตมาต้องการใช้เป็นคติสอนใจมนุษย์เท่านั้่น" "ข้าน้อยชอบมากเลยพระคุณเจ้า ท่านช่วยมาบรรเลงกล่อมข้าน้อยเช่นนี้บ่อยๆได้หรือไม่" "อาตมายินดีหากโยมชอบ อาตมาก็จะมาให้" "เดี๋ยวสาวใช้ข้าคนเดิมจะเป็นผู้รับหน้าที่ไปรับท่านที่วัด แต่หลวงพี่โปรดอย่าบอกใครว่าท่านมาบรรเลงขับกล่อมเพลงพิณแก่ข้าน้อยนะ ข้ากลัวว่าชาวบ้านจะหาว่าข้าบังคับพระผู้ทรงศีลมาทำอะไรตามใจตน" "ได้โยม อาตมาชอบเสียอีกที่มีคนชอบบทกล่อมของอาตมา" จากนั้นพระโฮอิชิก็ขึ้นรถม้ามาส่งยังวัด ในขณะที่เจ้าอาวาสกลับก็เข้าถามพระโฮอิชิว่า "เจ้าไปไหนมา" "ข้าไปทำธุระมาท่านเจ้าอาวาส" "ไม่เป็นไรหากเจ้ากลับมาได้อย่างปลอดภัยก็ดีแล้วไปนอนเถิด" "ขอรับท่านเจ้าอาวาส" เจ้าอาวาสหันออกไปยังประตูวัดก็พบกับไฟวิญญาณ 2 ดวง ที่ทำท่าแอบอยู่ข้างประตู เจ้าอาวาสจึงเริ่มสงสัยว่าจะมีวิญญาณมายุ่งกับพระโฮอิชิซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ที่คนธรรมดาไปยุ่งเกี่ยวกับวิญญาณ #tobecontinued #つづく จาก https://m.facebook.com/photo.php?fbid=1807762592589000&id=100000658301396&set=a.228569830508292.61674.100000658301396&source=48 หัวข้อ: Re: พระโฮอิชิ กับปีศาจขุนศึก ( แต่งจาก ประวัติศาสตร์ความแค้น 2 ตระกูลใหญ่ ) เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊ก ที่ 15 มกราคม 2561 22:37:33 (https://scontent.fbkk1-5.fna.fbcdn.net/v/t31.0-8/fr/cp0/e15/q65/26850070_1808701245828468_3000889587969755532_o.jpg?efg=eyJpIjoibCJ9&_nc_eui2=v1%3AAeEpfmhpjkOdf0qc5AqNH-nlHYCyIq47xxDG94d5BDukEGbANwe6aPhGjeOratcj4m5_BNMeAUanPiyExTzNLdkFXGYUtsRiddl1Jer-TU96dT4aBsxPxxJim2WeDQXATfI&oh=213816b1cbe61f1436f683f4926edf75&oe=5AF6C5BF#_=_)
พระโฮอิชิ กับปีศาจขุนศึก ตอน ๒ ต่อมาพระโฮอิชิก็ไปเล่นขับกล่อมให้เจ้านายน้อยเป็นประจำ จนเจ้าอาวาสเริ่มสงสัยในธุระส่วนตัวของพระโฮอิชิ ท่านจึงสั่งให้เด็กวัดตามพระโฮอิชิไป และแล้วก็ปรากฏว่า พระโฮอิชิเดิมตามดวงไฟวิญญาณ 2 ดวง ไปทางป่าช้าหลังวัด เด็กวัดก็สะกดรอยตามอย่างเงียบๆจนมาพบพระโฮอิชิบรรเลงพิณและขับเพลงกล่อมอยู่ท่ามกลางดวงไฟวิญญาณจำนวนมากท่ามกลางสุสานของตระกูลเฮเคะ เด็กวัดจึงเ้ข้าไปจับตัวพระโฮอิชิออกและพากลับวัดไปหาเจ้าอาวาส พระโฮอิชิกำลังโมโหที่ถูกลักพาตัวมาในขณะีที่กำลังบรรเลงเพลงพิณบิวะต่อหน้าเจ้านายผู้ส่งศักดิ์ตัวน้อย เจ้าอาวาสจึงกล่าวถามพระโฮอิชิว่า "โฮอิชิเอย...เจ้าจงเล่ามานะว่าเจ้าไปทำอะไรในตอนกลางคืน" "กระผมแค่ถูกเชิญไปบรรเลงเพลงพิณให้เจ้านายผู้สูงศักดิ์" "เจ้าแน่ใจนะ...ว่าเจ้าไปบรรเลงเพลงใ้ห้คนฟัง" "โธ่หลวงพ่อ...ก็มีคนมารับกระผมขึ้นรถม้าไปยังที่ประทับของเจ้านายน้อยผู้สูงศักดิ์" "ที่เจ้าเด็กวัดว่าข้าว่า...เจ้าไปบรรเลงเพลงอยู่ที่สุสานของตระกูลเฮเคะ" "อะไรนะหลวงพ่อ" "เจ้าไม่เชื่อก็ตามเจ้าเด็กวัดดูล่ะกัน" "จริงครับ หลวงพี่ ผมเห็นกับตาว่ามีดวงไฟวิญญาณมากมายอยู่ท่ามกลางหลวงพี่และที่นั้นเป็นสุสานพวกขุนศึกครับหลวงพี่" พระโฮอิชิถูกกับอึ้งไปเลย "เจ้านะตาบอด ผีมันก็เลยหลอกเจ้าไป ถ้าข้าปล่อยเจ้าให้ไปบรรเลงอยู่กับวิญญาณ เจ้าคงอายุสั้นแน่ๆ" "หลวงพ่อครับ...กระผมมันเป็นคนตาบอด...ผมจึงมิอาจจะรู้ได้เลยว่าใครผีใครคน" "โฮอิชิ...ข้าว่าถ้าเจ้ายังอยู่ เหล่าวิญญาณต้องตามเอาตัวเจ้าแน่ๆ" "เช่นนั้นผมควรทำอย่างไรขอรับ หลวงพ่อช่วยกระผมด้วย" "หากเป็นเช่นนั้น...." เจ้าอาวาสให้พระโฮอิชิถอดผ้าออกและท่านก็หยิบขวดน้ำหมึกกับพู่กันอันเล็กมาและจุ่มเขียนลงบนตัวของพระโฮอิชิ เจ้าอาวาสเขียนตัวอักษรศักดิ์สิทธิ์เป็นยันวัชรปรัชญาปารมิตา และลงอาคมคาถาป้องกันให้พ้นจากวิญญาณร้าย เจ้าอาวาสถูกนิมนต์ไปพร้อมกับพระภิกษุรูปอื่นไปสวดพิธีศพอีกที่หนึ่ง จึงต้องปล่อยพระโฮอิชิไว้อีก แต่่ท่านวางใจเพราะท่านได้ลงยันต์ป้องกันไว้ให้กับพระโฮอิชิ พอตกกลางคืน พระโฮอิชิมานั่งที่ระเบียงรอเจ้าอาวาสกลับวัดอยู่นั้น "พระคุณเจ้าโฮอิชิเจ้าคะ......ข้าน้อยมารับท่านแล้วค่ะ" พระโฮอิชินั่งนิ่งแข็งตัว เสียงนั้นอยู่ไม่ไกลตัวท่านเลย "พระคุณเจ้าคะ นายน้อยรออยู่นะค่ะท่าน ท่านอยู่ไหนเนี้ย..." สาวใช้อันเป็นวิญญาณเดินขึ้นบันไดมาถึงระเบียงที่พระโฮอิชินั่งอยู่พร้อมกับซามูไรและชายขับรถม้า "นี้พิณบิวะของหลวงพี่โฮอิชินี้แต่ตัวท่านไปไหนนะ" "เจ้าดูนั้นซิ...หู...." "อะไรกันนี้หู...แล้วตัวไปไหน" "เราจะทำให้ภารกิจครั้งนี้เสียไปไม่ได้...ถึงจะไม่มีตัวแต่เราจะเอาหูไป เราจะทำงานที่นายมอบมาให้เสียไม่ได้ ทำได้เท่าไหนก็ทำเท่านั้น" ผีซามูไร ก็ดึงกระชากหูทั้งสองข้างและกำไว้ พระโฮอิชิถูกกระชากหูไป ถึุงจะเจ็บปวดทรมานจนอยากจะ้ร้องออกมาสุดเสียงก็ตาม แต่ก็กลัวว่าผีจะจับได้จึงอดทนเงียบไว้ "จะดีหรือได้เพียงแค่หูไป..." "เอ้าน่า...กลับไปหานายน้อยกัน" ดวงวิญญาณ ก็ลอยออกไปจากวัด พระโฮอิชิผู้น่าสงสารหูของเขาขาดทั้ง 2 ข้าง ท่านกลัวจึงไม่กล้าไปไหนจึงนั่งอยู่ที่ระเบียงนั้น เจ้าอาวาสกลับมาถึงวัด ก็เข้าไปหาพระโฮอิชิและพบภาพที่พระโฮอิชิร้องไห้สะอึกสะอื้นและไร้หูไปแล้ว "โธ่ โฮอิชิผู้น่าสงสาร ข้าช่างแย่จริงๆเลย ข้าไม่ไ้ด้เขียนยันต์บริเวณหูของเจ้า.... นโมแด่พระพุทธองค์อมิตาพุทธภะจะรักษ์พิทักษ์เจ้า...ตอนนี้เจ้าจะรอดพ้นจากวิญญาณเหล่านั้นเลย..." จากนั้นพระโฮอิชิกลายเป็นพระตาบอดและพระไม่มีหู เจ้าอาวาสให้หมอมารักษาแผลที่บริเวณหูจนหาย จากพระตาบาดมาถูกเรียกว่า โฮอิชิไร้หู (เป็นเวรเป็นกรรมอะไรของท่านจริงๆ) แต่เรื่องราวของพระโฮอิชิก็กลายเป็นที่ล่ำลือ จนขนาดขุนนางและเศรษฐีจากเกียวโต ก็เดินทางมาฟังเพลงพิณบิวะของพระโฮอิชิ และได้ถวายปัจจัยและของมีค่าต่อวัด จนวัดอมิดาจิ เป็นวัดที่มีทรัพย์สามารถอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาได้ และได้มีการศาลอนุสรณ์เป็นรูปพระโฮอิชินั่งเล่นพิณบิวะที่ ศาลเจ้าอาคามะจิงกุ ณ ตรงที่เป็นสุสาน ของขุนศึกเฮเคะ และยังคงตั้งมาจนถึงทุกวันนี้ |