[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

นั่งเล่นหลังสวน => สุขใจ อนามัย => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 08 มีนาคม 2561 16:17:23



หัวข้อ: โรคเกาต์ (ข้ออักเสบ) ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 08 มีนาคม 2561 16:17:23
(https://beautybillion.com/wp-content/uploads/2015/08/gout.jpg)

“เกาต์”-โรคข้ออักเสบ ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม

เนื่องจากปัจจุบันพบผู้ป่วย โรคเกาต์ (Gout) ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง มีผู้ป่วยจำนวนมากเกิดภาวะแทรกซ้อนซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานและเป็นอันตรายต่อชีวิต

ผศ.พญ.กนกรัตน์ นันทิรุจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และนายกสมาคม รูมาติสซั่มแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โรคเกาต์เป็นโรคข้ออักเสบที่ปวดเรื้อรังชนิดหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นโรคที่เก่าแก่ที่สุดโรคหนึ่งในประวัติศาสตร์

ปัจจุบันอุบัติการณ์ของโรคเกาต์ที่สูงขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากมาตรฐานความเป็นอยู่ อาหาร สภาวะทางโภชนาการที่ดีเกินความพอดีในยุคปัจจุบัน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเกาต์มากขึ้น

เช่น การรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนมาก หรือพืชผัก ผลไม้ หรือ น้ำผลไม้บางชนิด หรือ แอลกอฮอล์ ก็มีส่วนกระตุ้นการสร้างกรดยูริกในร่างกาย ซึ่งหากรับประทานเข้าไปมากๆ ก็ทำให้กรดยูริกในร่างกายสูงได้เช่นกัน

“สาเหตุโรคเกาต์ เกิดจากภาวะกรดยูริก (Uric acid) ในเลือดสูงติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน โดยภาวะกรดยูริกสูงหมายถึงระดับกรดยูริกมากกว่า 7 ม.ก./ด.ล. ในเพศชาย และ 6 ม.ก./ด.ล. ในเพศหญิง โรคเกาต์พบบ่อยในชายวัยกลางคนขึ้นไป หรือหญิงในวัยหมดประจำเดือน”

การสะสมของกรดยูริกในร่างกายเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดโรคเกาต์ขึ้นได้ โดยเกิดโรคได้ในหลายอวัยวะ ได้แก่ ข้อ ผิวหนัง และไต อาการที่พบบ่อยที่สุดคืออาการทางข้อ ได้แก่ ข้ออักเสบเฉียบพลัน

โดยผู้ป่วยจะมีอาการปวดอย่างรุนแรงและฉับพลันทันทีทันใด ข้อที่เป็นจะบวมขึ้น มีสีแดงรอบๆ ข้อ

หากคลำดูจะพบว่าอุ่นกว่าข้อเดียวกันในข้างตรงข้าม ข้อที่อักเสบในช่วงแรก มักเป็นที่ข้อโคนนิ้วหัวแม่เท้า หรือข้อเท้า หากทิ้งไว้นานโดยไม่ได้รับการรักษาอาจมีการอักเสบที่ข้ออื่นได้ด้วย เช่น ข้อเข่า ข้อศอก ข้อมือ เป็นต้น

พล.ต.(หญิง) รศ.พญ.ไพจิตต์ อัศวธนบดี ที่ปรึกษาอาวุโส อายุรแพทย์โรคข้อและรูมาติซั่ม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า สิ่งที่น่ากลัวของโรคเกาต์คือ ภาวะแทรกซ้อน ผู้ป่วยเกาต์ที่ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องในระยะแรกจะเข้าสู่ระยะข้ออักเสบเรื้อรังหลายข้อ มีการทำลายข้อเกิดความผิดรูปและพิการ นอกจากนี้ยังพบก้อนโทฟายที่ผิวหนังซึ่งเกิดจากการรวมตัวของผลึกเกลือยูเรต อาจเกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะและท้ายที่สุดคือ โรคไตวายเรื้อรัง

ดังนั้นการรักษาโรคเกาต์ ในระยะข้ออักเสบเฉียบพลันคือการใช้ยาต้านการอักเสบ จนเมื่อข้ออักเสบหายสนิทแล้วก็จะพิจารณาให้การรักษาระยะยาวได้แก่ การลดหรือแก้ไขปัจจัยเสี่ยงต่อโรคเกาต์และการใช้ยาลดกรดยูริกในเลือด

ผู้ป่วยโรคเกาต์มักมีโรคร่วม เช่น ภาวะอ้วนลงพุง ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และโรคเบาหวาน

ดังนั้นจึงควรได้รับการตรวจหาเพื่อจะได้แก้ไขและให้การรักษาไปพร้อมๆ กันผู้ป่วยเกาต์ควรมีความรู้ถึงวิธีการปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง รู้จักหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงรวมทั้งชนิดของอาหารที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการกำเริบของโรคเกาต์

สิ่งที่น่าห่วงใยอีกประการหนึ่ง คือ การที่ผู้ป่วยซื้อยารักษาตนเอง อาจแพ้ยาหรือเกิดผลข้างเคียงซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต เช่นมี เลือดออกจากแผลในกระเพาะอาหาร ตับอักเสบ หรือเกิดภาวะไตวายเฉียบพลัน เป็นต้น