หัวข้อ: ถาม - ตอบ ปัญหาธรรมเรื่องเกิดและตาย เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 28 พฤษภาคม 2554 11:58:10 (http://www.seesod.com/storage17/j0qBKEuN6e1254969156/l.jpg) (:LOVE:)ชื่อภาพ ร่มเย็น - เป็นสุข ถ่ายภาพโดย Sometime สงวนลิขสิทธิ์ตามกฏหมาย (:LOVE:) (:LOVE:)ทดลองฟังพระอาจารย์ไฮ่เต๊าฝ่าซือบรรยายธรรมน่ะจ๊ะ (:LOVE:) http://www.youtube.com/v/zXIuPeutbBE?version=3 ถาม ๑.ตามที่คนตายไปแล้วร่างหมดอายุไขไปแล้ว และจิตไปเกิดใหม่ในร่างใหม่ก็ไม่ใช่เราคนเดิมแล้วอย่างนี้เวลาเราไปชี้แจงบอกคนอื่นเพื่อให้เข้าใจ เค้าเลยบอกว่าไปสนใจทำดีเพื่อ การเกิดใหม่ในชาติหน้าทำไมเพราะชาติหน้าไม่ใช่ตัวเค้าแล้ว ๒.ถ้ามันเป็นจริงไปตามข้อ ๒ คนทั่วไปก็จะไม่สนใจในการเกิดภพชาติแน่นอนมันจะยุ่งกันมากขึ้นอีกน่ะซิครับจึง อยากถามผู้รู้ หรือท่าน อาจารย์สุจินต์ ช่วยกรุณาให้วิทยาทานด้วยครับขอบคุณอย่างยิ่ง ......................ตอบรวมในข้อ 1 และข้อ 2..................... ขณะที่ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นหลังจากปฏิสนธิจิตเกิดแล้วก็มีจิตอื่น ๆ เกิดต่อจนมี จิตเห็นบ้างได้ยินบ้างจิตคิดนึกบ้างอันมีในชีวิประจำวันจนเมื่อถึงเวลาที่สิ้นชีวิต ก็เป็นจุติจิตเกิดและเมื่อยังไม่สิ้นกิเลสก็ต้องมีการเกิดคือปฏิสนธิจิตเกิดต่อ จากจุติดังนั้นเพราะอาศัยจิตก่อน ๆ คือ{จุติจิต}เป็นปัจจัยให้เกิดปฏิสนธิจิตคือ การเกิดเกิดต่อดังนั้นจิตเกิดใหม่ที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยจิตดวงเก่า ๆ ที่เกิดดับไป นั่นเองสืบเนื่องกันไปดังนั้นกรรมที่เคยทำไว้กรรมนั้นย่อมจะให้ผลได้โดยเป็นจิต เกิดขึ้นสืบต่อจากจิตดวงก่อน ๆ เพราะฉะนั้นไม่ว่าชาตินี้จะเกิดเป็นใครเมื่อกรรมให้ผล ชาติหน้าจะเกิดในนรกก็เพราะอาศัยการสืบเนื่องของจิตของบุคคลนั้นนั่นแหละ ไม่ใช่จิตของบุคคลอื่น ๆ แม้จะเป็นจิตดวงใหม่เป็นร่างใหม่แต่ก็เป็นจิตที่อาศัยความ สืบเนื่องที่เกิดดับสืบต่อกันมาจากจิตดวงก่อน ๆ ของบุคคลนั้นเองดังนั้นเมื่อเกิด ในนรกเป็นโอปปาติกะคือเกิดเป็นตัวโตทันทีก็ยังจำได้ว่าเมื่อก่อนเราเป็นใครและทำ กรรมใดไว้จึงทำให้ต้องได้รับกรรมนี้ต้องตกนรกมีตัวอย่างในพระไตรปิฎกเช่น{นาง เรว}ดีเมื่อเป็นมนุษย์ด่าว่าพระเมื่อตายไปก็ไปเกิดในอเวจีมหานรกและนางก็จำได้ว่า เคยทำกรรมนี้ไว้และก็ได้รับความทุกข์ทรมานและก็บ่นเพ้อว่าหากเรากลับไปเป็น มนุษย์จะไม่ทำกรรมนี้อีก จะเห็นว่าสัญญาความจำไมได้หายไปไหนเพียงแต่จิตเกิดดับสืบเนื่องกันไป เท่านั้นจากจุติ(ตาย)เป็นปฏิสนธิ(เกิด)เพียงชั่วขณะเดียวเท่านั้นและที่สำคัญก็ ไม่ใช่จิตใครก็จิตของบุคคลนั้นนั่นแหละที่สืบต่อแม้จะเป็นจิตดวงใหม่ร่างใหม่ แต่ก็เป็นบุคคลนั้นนั่นแหละที่สมมุติจากจิตที่เกิดดับสืบต่อได้รับผลของกรรมดังนั้น จะกล่าวทีเดียวไมได้ว่าจะไม่ใช่บุคคลนั้นรับผลของกรรมในอนาคตเปรียบเหมือน แสงเทียนในยามต้นกับแสงเทียนในยามปลายแสงเทียนในยามต้นไม่ใช่แสงเทียน ในยามปลายก็จริงแต่เพราะอาศัยแสงเทียนในยามต้นจึงมีแสงเทียนในยามปลาย และในชาตินี้ตอนเป็นวัยรุ่นกับตอนที่อายุมากจะบอกว่าเหมือนกันก็ไมได้แต่ เพราะอาศัยเมื่อคราวเป็นวัยรุ่นจึงมีตอนอายุมากดังนั้นจึงเกี่ยวข้องกันหมดเพราะ ความสืบเนื่องของจิตสรุปคือแม้จะเป็นจิตดวงใหม่เกิดขึ้นร่างใหม่แต่ก็คือบุคคล นั้นนั่นแหละโดยสมมุติเพราะอาศัยการสืบเนื่องของจิตทีเกิดดับสืบต่อกันไปที่ได้รับผล ของกรรมและที่สำคัญถ้าเกิดในนรกก็จำได้ว่าเป็นใครมาดังเช่นเรื่อง(นางเรวดี)เป็นต้น ดังนั้นการเกิดใหม่ไม่ใชเราและไม่ใช่สัตว์บุคคลด้วยแต่เป็นจิตเกิดดับสืบต่อกัน อันเป็นการสมมุติว่าเป้นบุคคลนั้นนั่นเอง............................................... (:LOVE:)บทเสริมเพิ่มเติม (:LOVE:) จงเริ่มพยายามขวนขวายในพระพุทธศาสนา จงกำจัดเสนาของมัจจุมาร เหมือนกุญชรช้างประเสริฐย่ำยีเรือนไม้อ้อฉะนั้น ผู้ใดไม่ประมาทเห็นแจ้งในพระธรรมวินัยนี้ ผู้นั้นจักละชาติสงสารจักทำที่สุดทุกข์ได้ ข้อมูลนี้มาจาก มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนาบ้านธัมมะ 136 หมู่ 5 ต.หนองควาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ 50230 My Blog.............http://2555.wordpress.com/2011/05/28/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%A2/ (http://2555.wordpress.com/2011/05/28/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%A2/) http://www.youtube.com/v/4zB2jBVe6jg?version=3 |