หัวข้อ: เสร็จงานกลับบ้านได้ ( ค้นธรรมใต้ร่มไผ่ม่วง) เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊ก ที่ 31 สิงหาคม 2561 22:20:23 (https://scontent.fbkk1-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/fr/cp0/e15/q65/40221155_1846670205409110_7457450818120187904_n.jpg?_nc_fx=fbkk1-3&_nc_cat=0&efg=eyJpIjoibCJ9&_nc_eui2=AeFCnNvBTGvs92AhC5tQU34VupMnonC23QL0Unl-CJCBijDwIhRNAIV75tRVm3hNRY0HKlLJyrJybmOiAsVdU0-Mu1BONY9CuOgZpAkrDa81rcA9pAPB3hqzMcC3IzDyZwQ&oh=a63238742e6098f4a514732885717807&oe=5BFC5439)
เสร็จงานก็กลับบ้านได้ สมัยราชวงศ์หมิง มีบุตรสาวคหบดีผู้หนึ่งนามว่า หลันอี้ บุตรสาวคหบดีผู้นี้ เมื่อแรกตอนมารดาของนางตั้งครรภ์ได้มีฝูงวิหก บินมาทักษิณาวัตรรอบบ้านเป็นประจำ เป็นที่สังเกตุของบุคคลในครอบครัวทุกคนต่างคิดว่าน่าจะเป็นบุตรที่มีบุญวาสนามาเกิดเป็นแน่ เมื่อหลันอี้เกิดและได้เติบโตขึ้น เธอเป็นผู้มีความสามารถในทางบทกวี วรรณกรรม และการสังคีตเป็นอย่างมาก หลันอี้เป็นผู้ที่ชอบเล่นผีผาเป็นอย่างมาก นางสามารถนำบทวรรณกรรมมาดัดแปลงเป็นบทร้อง จนแม้กระทั่งพระสูตรในพุทธศาสนานางก็นำมาขับเป็นลำนำร้องสรรเสริญพระรัตนตรัยเป็นกิจวัตร วันหนึ่งนางจึงได้สมรสกับบุตรของขุนนางใหญ่ อยู่กินกับสามีมาปีเศษ ก็ยังใช้ผีผาบรรเลงขับลำนำสรรเสริญพระรัตนตรัยอยู่ ในวันนั้นนางได้ขับบทแห่งอานิสงส์ของการออกบวชเป็นภิกษุณี ระหว่างขับก็พิจารณาธรรมไปด้วย จนทำให้คิดว่าครอบครัวนี้น่าเบื่อ คู่ครองก็เป็นคู่ทุกข์มากกว่าสุข นางจึงตัดสินใจหย่ากับสามีแล้วออกแสวงหาธรรม ได้ไปปรึกษากับพระเถระในหัวเมืองเรื่องการออกบวช พระเถระท่านก็เตือนหลันอี้ว่า การออกบวชเป็นภิกษุณีสามารถกระทำได้ แต่การศึกลาสิกขาบทนั้นไม่มี ศีลก็ต้องรักษามากกว่าพระภิกษุ นางจะสามารถทำได้หรือ ? หลันอี้จึงตัดสินใจออกบวช แล้วบำเพ็ญอยู่อย่างสงบ เธอพร่ำภาวนาถึงพระอมิตาพุทธเจ้าเป็นประจำ แต่ด้วยความที่เธอมีความสามารถมากจึงค่อยๆสร้างวัดภิกษุณีขึ้น เพื่อสอนธรรมและบอกการปฏิบัติภาวนา ทำให้ผู้หญิงหันมาบวชเพื่อศึกษาธรรม ชี้แนะแนวทางการหลุดพ้นให้หมู่สตรี ในบั้นปลายชีวิตคืนหนึ่ง ฝ่าเจิ้งฝ่าซือ หรือหลันอี้ในอดีต ได้เข้าสมาธิ เธอเกิดภาพนิมิตถึงพระอมิตาพุทธเจ้า ในนิมิตพระอมิตาพุทธเจ้า ตรัสกับเธอว่า "นกยูงแห่งธรรม บัดนี้เธอได้เสร็จสิ้นกิจแล้ว" " อีกห้าราตรี เธอจะคืนสู่สุขาวดี " "เราและคณะจะมารับเธอกลับบ้าน" ฝ่าเจิ้งธรรมจารย์ตื่นขึ้นจากนิมิต ด้วยความปิติยินดี จากนั้นท่านได้เรียกประชุมเหล่าศิษย์ มาร่วมสลับสับเปลี่ยนกันสวดมนต์ถวายพุทธบูชา จนราตรีสุดท้ายที่ห้า ระหว่างสวดมนต์ในยามสามของราตรีนั้น ปรากฏฝูงนกบินมาในยามราตรี บินรอบอารามภิกษุณี ฝ่าเจิ้งภิกษุณีเฒ่า นั่งสมาธิในแท่นธรรม พนมมือขึ้นแล้วกล่าวว่า บัดนี้พระพุทธองค์และคณะโพธิสัตว์ ได้เสด็จมาถึงแล้ว เมื่อพูดขึ้นดังนั้น มือก็ลดลงเข้าสมาธิ ทั่วบริเวณอาราม ปรากฏมีกลิ่นหอมที่ไม่มีในโลกเรา กระจายไปทั่วอารามภิกษุณี มีแสงสีรุ้งปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ในขณะยามสามแห่งราตรีนั้น ภิกษุณีฝ่าเจิ้งก็ละสังขารในท่าสมาธิกลับสู่บ้านสุขาวดี #ใช้ประโยชน์ของตนยังประโยชน์ของผู้อื่นไม่ใช่ผู้อวดรู้ #ใช้ประโยชน์ของตนยังประโยชน์ของผู้อื่นคือผู้รับใช้สรรพสัตว์ #โพธิสัตว์ไม่เหมือนผู้รู้ต่างกันที่ม่านแห่งอัตตา #ผู้รู้ก่อกิจด้วยอัตตาแต่โพธิสัตว์คือคนใช้ของสรรพสัตว์ถึงจะคล้ายกันแต่ก็ไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง จาก https://www.facebook.com/purplebamboo48/ (https://www.facebook.com/purplebamboo48/) |