[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 05 ตุลาคม 2561 13:03:05



หัวข้อ: หลวงปู่หล้า จันโทภาโส วัดป่าตึง ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 05 ตุลาคม 2561 13:03:05
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/99068630238374_view_resizing_images_1_.jpg)

หลวงปู่หล้า จันโทภาโส
 วัดป่าตึง ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

"พระครูจันทสมานคุณ" หรือ "หลวงปู่หล้า จันโทภาโส" วัดป่าตึง ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ พระเกจิดังแห่งล้านนา ที่สาธุชนให้ความเลื่อมใสศรัทธายิ่ง

เป็นหนึ่งในศิษย์สายครูบาศรีวิชัย ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ด้วยเป็นพระที่ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในหลักศีลธรรม ได้รับสมญานามจากศรัทธาญาติโยมว่ามีญาณวิเศษที่สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ข้างหน้าได้

จนชาวบ้านทั่วไปเรียกท่านว่า "หลวงปู่หล้าตาทิพย์"


อย่างไรก็ตาม แม้ใครจะเรียกขานเช่นนั้น แต่หลวงปู่หล้าไม่ประสงค์จะให้ใครยึดติดในชื่อนั้น และมักจะห้ามปรามไม่ให้เรียกอีกด้วย

เป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 2 ของวัดป่าตึง ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งแต่เดิมเป็นวัดร้าง และได้รับการก่อตั้งขึ้นใหม่โดยครูบาปินตา

ย้อนไปในสมัยรัชกาลที่ 5 หลวงปู่หล้า ถือกำเนิดขึ้นที่หมู่บ้านปง อ.ออนใต้ เมื่อวันที่ 22 ก.ย.2441 มีนามเดิมว่า หล้า บุญมาคำ ซึ่งในภาษาเหนือหมายถึง "สุดท้าย" เพราะท่านเป็นคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 4 คน บุตรนายเงิน นางแก้ว บุญมาคำ ประกอบอาชีพทำนา

อายุ 1 ขวบ บิดาถึงแก่กรรม โยมแม่จึงนำไปฝากเป็นเด็กวัดกับครูบาปินตา บรรพชา เข้ากรรมอยู่ในป่า เรียนหนังสือพื้นเมือง หนังสือไทย อีกทั้งอักขระวิธีและธรรมปฏิบัติ

อายุ 18 ปี เข้าไปอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อเรียนนักธรรมที่วัดพระเชตุพนฯ แต่เรียนได้ปีเดียวต้องกลับวัดป่าตึง เพื่อปรนนิบัติครูบาปินตา ซึ่งชราภาพมาก

พออายุ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดป่าตึง ในอุโบสถน้ำ (นทีสีมา หรืออุทกุกเขปสีมา ซึ่งเป็นประเพณีนิยมของลังกา) ครูบาปินตา เป็นพระอุปัชฌาย์ ครูบาอิ่น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระญาณวิชัย เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ครูบาปินตา เป็นอาจารย์สอนวิปัสสนากัมมัฏฐานรูปแรก นอกจากนี้ ยังได้เรียนรู้มาจากครูบาสุริยะ วัดจอมแจ้ง ศิษย์เอกซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชาจากครูบาศรีวิชัย

ขณะอายุ 23 ปี ท่านมีโอกาสไปกราบครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ที่วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน โดยเดินเท้าเปล่าไปเป็นเวลาถึง 3 วัน

เมื่อครูบาศรีวิชัยจำพรรษาที่วัดพระสิงห์ เชียงใหม่ ท่านก็ไปกราบอีกหลายครั้ง

หลังสิ้นครูบาปินตา หลวงปู่หล้าต้องรับภาระเป็นเจ้าอาวาส เมื่อมีอายุเพียง 27 ปี

เมื่ออายุ 35 ปี ได้รับความไว้วางใจจากพระผู้ใหญ่แต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลออนใต้

พัฒนาวัดป่าตึง จนมีความเจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน ด้วยอุปนิสัยของท่านชมชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ชอบเห็นความชำรุดทรุดโทรมของศาสนสถาน ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ปรากฏภายในวิหารวัดป่าตึง ล้วนเป็นฝีมือของท่านทั้งสิ้น

ขณะที่ว่างเว้นจากการพัฒนาอาราม ท่านจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาจิตใจผู้คนไปด้วย โดยสงเคราะห์อนุเคราะห์ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านตลอดมา

แม้ชาวเขาเผ่าต่างๆ ทั้งใกล้วัดไกลวัดป่าตึง ท่านหยิบยื่นเมตตาให้เป็นประจำ ทั้งอาหารการกิน เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม

นอกจากนี้ ยังเมตตาอนุเคราะห์แก่เด็กนักเรียนยากจน ด้วยการแจกอุปกรณ์และทุนการศึกษา รวมทั้งสนับสนุนโรงเรียนในท้องถิ่น การสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ยากไร้ หลวงปู่หล้า ถือปฏิบัติมาจนถึงบั้นปลายชีวิต

พ.ศ.2504 หลวงปู่หล้า ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูจันทสมานคุณ ซึ่งขณะนั้น อายุ 63 ปี

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมเป็นการส่วนพระองค์หลายครั้ง

มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2536 อายุ 97 ปี

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และทรงรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 7 วันแรกของพิธีสวดพระอภิธรรม


อริยะโลกที่ 6