[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ => ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 27 ตุลาคม 2561 15:34:00



หัวข้อ: ดูวิธีแก้ถูกทาสีทับ กรณี “หลวงพ่อดำ” วัดโกโรโกโส อยุธยา ถูกทาสีน้ำมันทั้งองค์!
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 27 ตุลาคม 2561 15:34:00

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/73903466885288_1_Copy_.jpg)
"หลวงพ่อดำ" ก่อนและหลังดำเนินการอนุรักษ์

ดูวิธีแก้ถูกทาสีทับ กรณี “หลวงพ่อดำ
วัดโกโรโกโส อยุธยา ถูกทาสีน้ำมันทั้งองค์!

ที่มา - www.silpa-mag.com
เผยแพร่ - วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2561

จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพในโลกออนไลน์ประเด็นการทาสีทองบนสถาปัตยกรรมในวัด จนเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้ ประเด็นการทาสีทับงานช่างโบราณดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2560 แต่เป็นกรณีทาสีทับ “หลวงพ่อดำ” พระพุทธรูปปางมารวิชัย ปูนปั้นลงรักปิดทอง ณ วัดโกโรโกโส จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โดยเพจ กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร ได้เผยแพร่ภาพและข้อมูล เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2560 ว่า นายสรรินทร์ จรัลนภา นักวิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ และนางสาวสุดาพร ศรทัตต์ ช่างซ่อมเอกสารและศิลปวัตถุ กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ ได้ดำเนินการอนุรักษ์ “หลวงพ่อดำ” พระพุทธรูปปางมารวิชัย ปูนปั้นลงรักปิดทอง ณ วัดโกโรโกโส จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากเดิมที่องค์พระถูกทาสีทับพื้นผิวรักดั้งเดิมไว้ทั้งองค์ ให้กลับคืนสภาพพื้นผิวดั้งเดิม เป็นการปฏิบัติงานในระหว่างวันที่ 6-11 เมษายน 2560


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/99847961796654_2_Copy_.jpg)
ก่อนดำเนินการอนุรักษ์ – องค์พระถูกทาสีน้ำมันทับไว้สองชั้น ชั้นในเป็นสีแดงและทาสีเหลือง (Flex)
เพื่อเตรียมปิดทองด้านนอก พื้นผิวบางส่วนถูกปิดทองไว้แล้ว เช่น พระ

และก่อนหน้า วันที่ 3 เมษายน 2560 นายเสน่ห์ มหาผล หัวหน้ากลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ และนักวิทยาศาสตร์ของกลุ่มฯ ได้เข้าตรวจสอบ “หลวงพ่อดำ” ที่ถูกทาสีทับ และทดสอบการใช้สารเคมีในการกำจัดคราบสีออก ก่อนที่จะมีการปฏิบัติงานจริง

ภาพทั้งหมดนี้แสดงขั้นตอนปฏิบัติงานอนุรักษ์ “หลวงพ่อดำ” ของกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ [ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจากเพจ กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร]


(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/95014330496390_3_Copy_.jpg)
ก่อนดำเนินการอนุรักษ์ ด้านหลังองค์พระ

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/14621841824716_4_Copy_.jpg)
ตรวจสอบองค์พระด้วยเครื่องตรวจโลหะ เนื่องจากมีข้อสันนิษฐานว่าด้านในอาจเป็นเนื้อโลหะ จากการตรวจ
ไม่พบเนื้อโลหะภายใน และเป็นข้อมูลที่ช่วยในการเลือกใช้สารเคมีที่เหมาะสมในการดำเนินการ

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/36244705691933_5_Copy_.jpg)
ดำเนินการอนุรักษ์ – โดยใช้ตัวทำละลายอินทรีย์มีชื่อทางเคมีว่า Acetone
ช่วยในการละลายชั้นสีให้หลุดออก

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/27366323562131_6_Copy_.jpg)
ดำเนินการอนุรักษ์ – โดยใช้เทคนิคการพอกสารเคมี (poultice) เพื่อเพิ่มระยะเวลาในการ
ทำละลายชั้นสี โดยไม่ให้ส่งผลกระทบกับชั้นรักด้าน

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/67659440471066_7_Copy_.jpg)
ดำเนินการอนุรักษ์ – ใช้ไม้ปลายแหลมพันสำลี แตะสารละลายแล้วค่อยๆ กลิ้งเช็ดคราบสีออก

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/12689800519082_8_Copy_.jpg)
ดำเนินการอนุรักษ์ – ความยากของงานมีผลสืบเนื่องจากสีที่ถูกทาไว้เริ่มเซทตัวจนแห้งสนิท
บางจุดจนยากต่อการทำละลาย พื้นผิวขององค์พระมีสภาพไม่เรียบ และการนำสีใหม่ออก
โดยให้มีผลกระทบกับชั้นพื้นผิวเดิมให้น้อยที่สุด

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/47835112735629_9_Copy_.jpg)
ดำเนินการอนุรักษ์ส่วนเศียร – บริเวณที่เป็นอุปสรรคคือเม็ดพระศกที่มีรายละอียดมาก
และร่องลายที่ลึก การขจัดคราบสีจะต้องใช้ระยะเวลามาก

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/41037736253605_10_Copy_.jpg)
ดำเนินการอนุรักษ์ – เก็บรายละเอียดของสีที่ยังหลงเหลือบริเวณพื้นผิวที่ขรุขระ

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/68789324950840_11_Copy_.jpg)
ภาพเปรียบเทียบพระพักตร์บริเวณที่ขจัดสีออกไปแล้วบางส่วน กับพื้นที่ยังคงมีสี

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/74190928538640_12_Copy_.jpg)
หลังดำเนินการอนุรักษ์ – ด้านหน้าองค์พระ

(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/89885801490810_13_Copy_.jpg)
หลังดำเนินการอนุรักษ์ – ด้านหลังองค์พระ พื้นผิวรักและร่องรอยการปิดทองเดิมยังคงปรากฎให้เห็น