[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 21 พฤศจิกายน 2561 15:14:30



หัวข้อ: พระราชสิทธิวราจารย์ (อุดม สุทธสีโล) วัดประสิทธิเวช อ.องครักษ์ จ.นครนายก
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 21 พฤศจิกายน 2561 15:14:30
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/44248934545450_1_1024x768_.jpg)

พระราชสิทธิวราจารย์ (อุดม สุทธสีโล)
 วัดประสิทธิเวช อ.องครักษ์ จ.นครนายก

พระราชสิทธิวราจารย์ (อุดม สุทธสีโล) เจ้าอาวาสวัดประสิทธิเวช อ.องครักษ์ จ.นครนายก และเจ้าคณะอำเภอองครักษ์ เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ชาวองครักษ์ ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ปัจจุบัน สิริอายุ 76 ปี พรรษา 55

นามเดิมชื่อ อุดม ยิ้มย่อง เกิดเมื่อ วันศุกร์ที่ 19 มิ.ย.2485 ที่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 10 ต.บางปลากด อ.องครักษ์ จ.นครนายก

ช่วงวัยเยาว์ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดประสิทธิเวช ต.บางปลากด

อายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2506 ที่พัทธสีมาวัดประสิทธิเวช โดยมี พระครูวิจิตรธรรมประภาต เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูอรุณธรรมประโชติ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระ ครูปล้อง อุตตโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับฉายาว่า "สุทธสีโล" แปลว่าผู้มีศีลบริสุทธิ์

มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2514 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก

ช่วยแบ่งเบาภาระงานคณะสงฆ์หลวงพ่อปล้อง เจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบลบางปลากดในขณะนั้น ทั้งการปกครองเผยแผ่ สาธารณสงเคราะห์ สาธารณูปการ

อีกทั้งเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรพระสังฆาธิการที่โรงเรียนพระสังฆาธิการ ส่วนภูมิภาค ณ วัดอุดมธานี และยังทำหน้าที่ถ่ายทอดธรรมความรู้แก่ศิษย์ภายในสำนักเรียนวัดประสิทธิเวชอย่างขันแข็ง

ราวปี พ.ศ.2535 หลวงพ่อปล้องลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบลบางปลากดและตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดประสิทธิเวช เนื่องด้วยชราภาพ และต่อมาวันที่ 11 มิ.ย.2536 ขณะอายุ 85 ปี 15 วัน ก็ละสังขารด้วยอาการสงบ

จึงได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบแทน

ในระยะแรก วัดประสิทธิเวชไม่แตกต่างจากวัดในชนบท ที่มีแต่กุฏิและศาลาบำเพ็ญบุญไม่กี่หลัง อาณาบริเวณวัดยังขาดการทำนุบำรุงส่งเสริมและบูรณปฏิสังขรณ์ ท่านก็เร่งปรับปรุง ให้สวยงามเป็นระเบียบ ด้วยระยะเวลาเพียง 10 ปีเท่านั้น วัดประสิทธิเวชที่รกร้างว่างเปล่า กลับแลดูงดงามร่มเย็น ท่ามกลางพื้นนาอันกว้างใหญ่

วัดประสิทธิเวช กลายเป็นศูนย์กลางการศึกษาของชุมชน และมีสิ่งอำนวยประโยชน์แก่ชาวบ้านรอบวัด ด้วย อ.องครักษ์ แม้จะอยู่ใกล้เมืองหลวง แต่ยังห่างไกลความเจริญ ขาดสาธารณูปโภค

จนปี พ.ศ.2536 ได้รับยกย่องเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง จากกรมการศาสนา และปีถัดมาได้รับยกย่องเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น

แม้จะได้รับยกย่องแล้วก็ตาม หลวงพ่ออุดม ยังพัฒนาวัดต่อไปอีก ตามเป้าหมายของการเป็นศูนย์กลางการศึกษาธรรมของชุมชน จนพระผู้ใหญ่เห็นผลงานว่าท่านทำจริง จึงนำเสนอมส.ให้มีมติจัดตั้งเป็นอุทยานการศึกษา และได้รับคัดเลือกเข้าโครงการ "ลานวัด ลานใจ ลานกีฬา ต้านยาเสพติด" ประจำปี 2540

ผลงานด้านการศึกษา พ.ศ.2518 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม สำนักเรียนวัดประสิทธิเวช พ.ศ.2528 เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวงแผนกธรรม

พ.ศ.2530 เป็นกรรมการศึกษาและผู้อุปถัมภ์โรงเรียนวัดประสิทธิเวช

ลำดับงานเผยแผ่ พ.ศ.2524 เป็นพระธรรมทูตฝ่ายปฏิบัติการสายที่ 7

เกียรติคุณที่ได้รับ อาทิ พ.ศ.2542 ได้รับรางวัลเสมาธรรมจักร บุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคม สาขาส่งเสริมผู้ปฏิบัติธรรม จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พ.ศ.2543 ได้รับปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสังคมสงเคราะห์ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ.2551 ได้รับปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสังคมสงเคราะห์ จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

พ.ศ.2554 ได้รับรางวัลพุทธคุณูปการ ระดับกาญจนเกียรติคุณ (ระดับทอง) จากมหาจุฬาฯ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2515 เป็น พระกรรมวาจาจารย์ พ.ศ.2536 เป็นเจ้าอาวาสวัด ประสิทธิเวช พ.ศ.2541 เป็นเจ้าคณะตำบลบางปลากด พ.ศ.2542 เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.2543 เป็นเจ้าคณะอำเภอองครักษ์

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2516 เป็นพระปลัด ฐานานุกรมใน พระศรีวิสุทธิดิลก วัดประยุรวงศาวาส กรุงเทพฯ พ.ศ.2538 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท ที่พระครูสุทธิศีลคุณ พ.ศ.2543 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นโท ในราชทินนามเดิม

พ.ศ.2546 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

วันที่ 12 ส.ค.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระพิมลศีลาจาร

วันที่ 5 ธ.ค.2554 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสิทธิวราจารย์ 


อริยะโลกที่ 6