[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 16 มีนาคม 2562 09:55:31



หัวข้อ: หลวงปู่เขียน ฐิตสีโล วัดสุทธจินดา อ.เมือง จ.นครราชสีมา
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 16 มีนาคม 2562 09:55:31
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/53456482084260_view_resizing_images_2_Copy_.jpg)

หลวงปู่เขียน ฐิตสีโล 
วัดสุทธจินดา อ.เมือง จ.นครราชสีมา

พระอริยเวที หรือ หลวงปู่เขียน ฐิตสีโล เป็นพระเถระผู้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นที่ประจักษ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา อดีตเจ้าอาวาสวัดรังสีปาลิวัน และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา

หลวงปู่เขียน เป็นพระเถราจารย์ ผู้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นที่น่าเคารพสักการบูชาของบรรดาศิษยานุศิษย์

อีกทั้ง เป็นสหธรรมิกกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวัฑฒโน) และ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ตั้งแต่ครั้งสมัยที่ท่านทั้งสามยังมีอายุพรรษาไม่มากนัก

มีนามเดิมว่า เขียน ภูสาหัส เกิดเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2456 ที่บ้านโพน ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์

เข้าพิธีบรรพชา เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2470 ที่วัดสุทธจินดา อ.เมือง จ.นครราชสีมา

ครั้นเมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2477 มีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระโพธิวงศาจารย์ (สังข์ทอง นาควโร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระญาณดิลก (พิมพ์ ธัมมธโร) เป็นพระอนุสาวนาจารย์

พ.ศ.2485 สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค ในสังกัดสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ

ลำดับงานคณะสงฆ์ พ.ศ.2478-2481 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมสำนักเรียนวัดสุทธจินดา และวัดศาลาทอง จังหวัดนครราชสีมา

พ.ศ.2482 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมสำนักเรียนวัดบวรนิเวศวิหาร และสำนักเรียนวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์

พ.ศ.2485 ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสังฆสภา

พ.ศ.2490 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา

พ.ศ.2494 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2490 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ "พระอริยเวที"

เข้ากราบฟังธรรม ปฏิบัติธรรมในสำนักของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลังจากที่จบเปรียญธรรม 9 ประโยคใหม่ โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสโส อ้วน) นำไปฝาก

ทั้งนี้ เพื่อประสงค์ให้ท่านได้เป็นศาสนทายาทที่มีความหนักแน่นมั่นคง ทั้งด้านปริยัติและด้านปฏิบัติ เป็นแบบอย่างที่ดีแก่พระภิกษุสามเณรในภายภาคหน้าเมื่อได้ฟังธรรม และรับคำแนะนำในการปฏิบัติเป็นอย่างดีแล้ว จึงได้ออกเดินธุดงค์กรรมฐานไปตามป่าเขาลำเนาไพรในจังหวัดต่างๆ จนออกไปถึงประเทศลาว และแวะเวียนมากราบฟังธรรมเป็นระยะๆ

ด้วยผลานิสงส์แห่งการปฏิบัติธรรมจากสำนักของท่านพระอาจารย์มั่น ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ทางด้านวิปัสสนาธุระของประเทศไทย โดยเมื่อครั้งได้ฟังพระธรรมเทศนาของพระอาจารย์มั่น กัณฑ์แรกเรื่อง "โทษของการเกิด" และกัณฑ์ที่สองเรื่อง "มุตโตทัย" (ธรรมะเป็นเครื่องพ้น) หลวงปู่เขียน ถึงกับลุกจากที่นั่งไปกราบพระอาจารย์มั่น พร้อมกล่าวคำปฏิญาณตนอย่างเด็ดเดี่ยวต่อหน้าพระอาจารย์มั่นเป็นภาษาบาลีว่า

"สาสเน อุรํ ทตฺวา ขอมอบกายถวายชีวิตทั้งหมดนี้แก่พระพุทธศาสนา ชีวิตทั้งชีวิตนี้ขอมอบไว้ในพระศาสนา ขอให้ท่านพระอาจารย์โปรดเป็นสักขีพยานด้วยเถิด"

จากนั้นตราบจนสิ้นอายุขัย หลวงปู่เขียนได้กระทำสัจวาจานั้นให้เป็นที่ปรากฏแก่ชนทั้งหลาย ถึงความเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส ผู้บริสุทธิ์หมดจดงดงามในธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว

ทั้งอุทิศตน ทั้งบำเพ็ญปฏิบัติทางด้านประโยชน์ให้แก่ทางด้านพระพุทธศาสนาไม่น้อย ทั้งด้านการศึกษา ทางด้านการปกครอง ท่านปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

ต่อมาได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสรูปที่ 3 ของวัดสุทธจินดา ท่านได้บริหารวัด ช่วยสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับวัด ทั้งตั้งเป้าหมายสูง มีระเบียบกับสามเณรและภิกษุสงฆ์อย่างเคร่งครัด รวมทั้งมีการคัดเลือกหมู่คณะ ให้ไปรับการอบรมเป็นนักเรียนครู และนักเรียนการปกครอง ที่วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ เพื่อให้กลับมาเป็นบุคลากรบริหารวัดช่วยเจ้าอาวาส

อนุสรณ์สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ท่านได้ริเริ่มก่อตั้งมูลนิธิ "สุทธจินดาราชสีมามูลนิธิ"

ต่อมา ได้ลาออกจากตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดสุทธจินดา และตำแหน่ง เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา แล้วออกธุดงค์กัมมัฏฐานอย่างจริงจังอยู่ในป่าในถ้ำ จนเป็นที่พอแก่กาลแล้ว จึงกลับมาสู่มาตุภูมิและสร้างวัดรังสีปาลิวันในปัจจุบัน เพื่อนำพระภิกษุสามเณร ประชาชนศึกษาธรรมและประพฤติธรรมจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

ละสังขาร เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2547 สิริอายุ 90 ปี พรรษา 68


อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์