[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน => ข้อความที่เริ่มโดย: ใบบุญ ที่ 22 พฤษภาคม 2562 16:18:58



หัวข้อ: พระครูพิพัฒน์ศีลคุณ (พรหม บุษบง) วัดกลางกุดรัง อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม
เริ่มหัวข้อโดย: ใบบุญ ที่ 22 พฤษภาคม 2562 16:18:58
(http://www.sookjaipic.com/images_upload_2/28645085336433_view_resizing_images_2_320x200.jpg)

พระครูพิพัฒน์ศีลคุณ 
วัดกลางกุดรัง อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม

พระครูพิพัฒน์ศีลคุณ อดีตเจ้าคณะตำบลกุดรัง และอดีตเจ้าอาวาสวัดกลางกุดรัง อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม เป็นพระนักปฏิบัติที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีเมตตาธรรมสูงปฏิปทางดงาม

ได้รับการยกย่องว่าเป็นบุคลากรทางพระพุทธศาสนาอันทรงคุณค่า

มีนามเดิมว่า พรหม บุษบง เกิดในปี พ.ศ.2440 ที่บ้านกุดรัง อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม ครอบครัวของท่านประกอบอาชีพทำไร่ทำนา

ภายหลังจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ลาออกจากการเรียน ช่วยงานครอบครัวหาเลี้ยงชีพ

เมื่ออายุได้ 14 ปี บรรพชาที่วัดกลาง กุดรัง ต่อมาท่านต้องลาสิกขาเนื่องจากถูกเกณฑ์ทหาร และสอบเป็นนายสิบรับราชการรวม 7 ปี จนเกิดความเบื่อหน่ายจึงขอลาออกจากราชการ

ก่อนเดินทางกลับภูมิลำเนาในปี พ.ศ.2465 ตัดสินใจหันหน้าเข้าหาร่มเงา ผ้ากาสาวพัสตร์ เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดกลางกุดรัง โดยมีหลวงปู่ต้น ปุญญวัณโณ วัดบ้านดงเค็ง ต.ท่าสองคอน อ.เมือง จ.มหาสารคาม เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังอุปสมบทแล้ว เดินทางไปจำพรรษาศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย กับสำนักเรียนในภาคอีสานหลายแห่ง อาทิ วัดหนองแสง ต.กุดรัง วัดบ้านดงบัง อ.พล จ.ขอนแก่น ก่อนตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ จำพรรษาที่สำนักเรียนวัด อนงคาราม ศึกษาเล่าเรียนด้วยความขยันขันแข็งมุมานะ สามารถสอบได้นักธรรม ชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ และเรียนบาลีสอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค

ชมชอบการศึกษาหาความรู้มาก เดิมตั้งใจสอบให้ได้เปรียญธรรมที่สูงมากกว่านี้ แต่สุขภาพของท่านไม่ค่อยดี อาพาธบ่อยครั้ง เจ้าอาวาสวัดอนงคาราม ได้แนะนำให้ท่านเดินทางกลับภูมิลำเนา เมื่อยามเจ็บป่วยจะได้มีญาติพี่น้องคอยดูแล

พ.ศ.2478 ตัดสินใจเดินทางกลับอีสานบ้านเกิด จำพรรษาอยู่วัดหนองแสง ต.กุดรัง รวม 4 พรรษา จากนั้นไปจำพรรษาอยู่ที่บ้านนาโพธิ์อีก 8 พรรษา

จนถึงปี พ.ศ.2491 ชาวบ้านกุดรังได้นิมนต์ให้มาจำพรรษาอยู่วัดกลางกุดรัง และอยู่จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต

หลังจากที่หลวงปู่กลับมาอยู่จำพรรษาวัดกลางกุดรัง ได้ตั้งสำนักเรียนขึ้นเนื่องจากเห็นว่าพระเณรที่บวชเรียนล้วนมาจากครอบครัวที่ยากจน อีกทั้งสมัยนั้นสำนักเรียนมีน้อยต้องเดินทางไปเรียนไกล ได้รับความยากลำบาก

ช่วงหลังการสอบนักธรรม หากมีเวลาว่างหลวงปู่มักจะออกเดินธุดงควัตรไปตามป่าเขาหลายแห่งในภาคอีสาน ทำให้หลวงปู่มีความรู้แตกฉานทั้งพระธรรมวินัยและวิปัสสนากัมมัฏฐาน เริ่มเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนอย่างรวดเร็ว

ในแต่ละวันจะมีญาติโยมในพื้นที่ใกล้เคียง เดินทางมากราบนมัสการรับฟังธรรมอย่างล้นหลาม ท่านชักชวนให้ญาติโยมเข้าวัดปฏิบัติธรรมช่วงฤดูเข้าพรรษาต่อเนื่องทุกปี

สำหรับหลักธรรมที่ท่านพร่ำสอนญาติโยม คือ ให้ยึดคำสอนของพระตถาคต ประกอบแต่กรรมดีถือศีล 5

นอกจากนี้ ท่านยังปลูกต้นไม้ภายในบริเวณวัด ทำให้วัดมีแต่ความร่มรื่น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมยิ่งนัก

ลำดับงานปกครองและลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2478 เป็นเจ้าอาวาสวัดกลางกุดรัง และเป็นเจ้าคณะตำบลกุดรัง พ.ศ.2480 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2489 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูพิพัฒน์ศีลคุณ

พ.ศ.2518 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

ช่วงปัจฉิมวัย อาพาธบ่อยครั้ง สุดท้ายมรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2519

สิริอายุ 79 ปี พรรษา 52 


อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์